ตอนที่แล้วตอนที่ 50 เสียงคำรามของคอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 52 สัตว์ใหญ่ปรากฏตัว

ตอนที่ 51 โรงพยาบาลกลาง


ตอนที่ 51 โรงพยาบาลกลาง

  

เสียงคำรามอันรุนแรงที่ดังออกมาอย่างฉับพลัน  ส่งผลให้ ผู้พันหูและพรรคพวก หยุดความคิดที่จะตามหาผู้รอดชีวิตในป่าไปเลย

ท้ายที่สุดพวกเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่า  ถ้าหากยังทำแบบนี้ต่อไปแล้วล่ะก็  ต่อให้พวกเขาโชคดีแบบฝืนชะตาฟ้า ถึงแม้ว่าจะไม่พบกับคอง สัตว์เลื้อยคลานโครงกระดูก และไดโนเสาร์ ที่เป็นบอสใหญ่ในที่นี้ได้  แต่สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวประเภทอื่นในหนังก็ยังสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดายเช่นกัน  ฆ่าจนพวกเขาไม่เหลือแม้กระดูกสักชิ้นเดียว

ผู้รู้สถานการณ์ คือผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ในฐานะนานหทารมืออาชีพ พวกเขาย่อมไม่กลัวการเสียสละอยู่แล้ว  แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ทะนุถนอมชีวิต  แล้วส่งตัวเองไปตายอย่างไร้ค่า

และในเวลาเดียวกัน  เนื่องจากเป็นกังวลว่าการเคลื่อนไหวในที่แห่งนี้ จะกลายเป็นการดึงดูดนักล่าที่มากขึ้น  ดังนั้นทุกคนจึงไม่กล้าอยู่ที่นี่นานนัก ทำได้เพียงเก็บของเล็กน้อย ส่วนหลิวซิน ก็เก็บซากศพที่เหลืออยู่เพียงครึ่งหนึ่งของแม่เดินทางไปด้วย  ภายใต้การนำของผู้พันหู  พวกเขาก็ตรงไปยังทิศทางของโรงพยาบาล

เป็นอย่างที่ผู้พันหูพูดไว้จริงๆ ว่า ตลอดเส้นทาง  พวกเขาไม่เจอร่องร่อยของพวกซอมบี้แม้แต่นิดเดียวจริงๆ   ราวกับว่าซอมบี้ทั้งเมืองเหลียนนั้น  ระเหยกลายเป็นไออย่างฉับพลันอย่างไรอย่างนั้น!

"ซอมบี้เหล่านั้นไปไหนกันนะ?"

เมื่อค้นพบเรื่องนี้  หัวคิ้วของฮวางซางก็ขมวดเข้าหากันทันที

ถ้าเขาจำไม่ผิด  ประชากรของเมืองเหลียน  มีจำนวนถึงสามล้านคนในหลายปีมานี้  หลังจากการกลายพันธุ์เป็นซอมบี้  ท่ามกลางฝนตกห่าใหญ่นี้  ซอมบี้ทั้งหมดในเมืองเหลียน  จะต้องมีจำนวนเกินกว่า2ล้านตัวแน่ๆ!

สองล้านเป็นจำนวนตัวเลขที่น่าตกใจมาก  ซอมบี้สองล้านตัวยิ่งไม่ต้องพูดถึง  ถึงแม้ว่ามดสองล้านตัวมารวมกันยังกลายเป็นฝูงมดขนาดใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้  แต่ซอมบี้สองล้านตัวกลับมลายหายไปในตอนนี้  พวกมันไปที่ไหนกันแน่?

ตายหมดแล้ว? หรือว่า.....

เรื่องชักไม่ชอบมาพากลซะแล้วสิ  ที่นี่ต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นนอน!

"โฮสต์  ไม่มีร่องรอยซอมบี้ในเมืองเหลียนเลย  อาจเป็นไปได้อย่างมาก ที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกลายพันธ์เหล่านั้น"

ในตอนนั้นเอง  เสียงของระบบก็ดังขึ้นมาในหัวของฮวางซาง

" สำหรับซอมบี้  สิ่งที่พวกมันกระหายที่สุดคือ เนื้อและเลือดที่มีพลังอันแข็งแกร่ง  ยิ่งสิ่งมีชีวิตที่มีพลังภายในร่างกายแข็งแกร่งมากเท่าไหร่  ก็ยิ่งดึงดูดซอมบี้มากขึ้นเท่านั้น  นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมตอนที่คนและสุนัขปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน  ซอมบี้จึงเลือกที่จะโจมตีมนุษย์ก่อน....ก็เพราะว่าพละกำลังชีวิตของมนุษย์นั้น แข็งแกร่งมากกว่าสุนัขยังไงละ"

“และสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เหล่านี้ ก็มีความเหมือนกับมนุษย์ที่มีพลังจิต พวกมันได้กระตุ้นศักยภาพในร่างกาย โดยการดูดซับพลังทางจิตวิญญาณ เหนือฟ้าดินและกลายพันธุ์เปลี่ยนรูปร่างเป็นสูงใหญ่ และมีพลังมากกว่ามนุษย์ธรรมดามาก”

"และเมื่อเป็นเช่นนี้  สำหรับซอมบี้ที่มีพลังอันแข็งแกร่ง สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เหล่านี้ จึงน่าจะดึงดูดมากกว่ามนุษย์ก็เป็นได้"

ระบบมีนั้นมีทั้งการสืบทอด และความรู้ ของเทพและปีศาจทั้งหมด  อีกทั้งความสามารถในการคำนวนก็มากกว่าด้วย  ดังนั้นเขาจึงนำการคาดการณ์ของตัวเองกล่าวออกมา

"ดังนั้น  การคาดการณ์ของระบบ  เป็นไปได้ว่าซอมบี้เหล่านี้ จะถูกสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ดึงดูดไปแล้ว"

"งั้นก็ดีนะสิ  ให้พวกมันกัดกันเอง!”

เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของระบบ ในใจของฮวางซางก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที

ถึงแม้ว่า คอง ในหนังจะชื่นชอบมนุษย์  จนกระทั่งปกป้องมนุษย์ก็เถอะ  แต่ถึงอย่างไรมันก็คือหนัง  ใครจะไปรับประกันได้ว่า คอง ในป่าแห่งนี้ จะไม่กลายเป็นปีศาจ ที่มีความกระหายแห่งการฆ่าละ?

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ นอกจากคองแล้ว  ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์อย่างอื่น  ในหนังเรื่องคอง มหาลัยเกาะกะโหลกก็ไม่มีตัวไหนให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด  ดังนั้นการกัดกันเอง ของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์และซอมบี้  จึงเป็นเรื่องดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อมนุษย์แล้ว!

"ระวัง เราเข้าสู่เขตระเบิดแล้ว!"

ในตอนนั้นเอง  ผู้พันหูก็หยุดก้าวเท้าลง แล้วพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า

"เห็นบริเวณที่พ่นสีเหลืองไหม ใต้พื้นดินมีทุ่นระเบิดอยู่  พวกคุณก็ระวังอย่าไปเหยียบเข้าละ!"

"ทุ่นระเบิด?"

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้พันหู  ฮวางซางก็อึ้งงันไป

"กฏหมายนานาชาติในตอนนี้  ยังมีข้อห้ามในการวางทุ่นระเบิดไม่ใช่เหรอ? พวกคุณไปเอาทุ่นระเบิดนี้มาจากไหน?  แล้วไม่กลัวโดนผู้รอดชีวิตเหรอ?"

"ทุ่นระเบิดเหล่านี้แน่นอนว่าผิดกฎหมาย   ซึ่งพวกเราใช้ระเบิดมือและชนวนระเบิดอื่นๆ  มาสร้างเป็นทุ่นระเบิดก็เท่านั้น  อานุภาพก็ไม่ได้มากนัก  มันมีเป้าหมายสำหรับใช้ในการเตือนภัยเท่านั้น

ผู้พันหูส่ายหน้า แล้วพูดขึ้นว่า

" เมื่อสักครู่นายไม่ได้สังเกตเห็นหรือ  ว่าพวกเราได้ทำสัญญาณเตือน ห่างออกไปหลายสิบเมตร เพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่าที่นี่มีทุ่นระเบิด แล้วก็มีพวกเราที่ดักซุ่มอยู่แถวนี้ด้วย เมื่อมีคนหลงเข้ามา จะได้เข้ามาขัดขวางไม่ให้ผู้คนเหยียบระเบิดได้ทันการ"

"เป็นอย่างนี้นี่เอง..."

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้พันหู ฮวางซางก็มีปฏิกิริยาตอบสนองทันที

จริงๆตอนเข้ามา เขาเองก็เห็นป้ายเตือนบางส่วนแล้ว  เพียงแต่กำลังนึกถึงเรื่องอะไรบางอย่างอยู่  ดังนั้นจึงไม่ได้สังเกตุก็เท่านั้น

หลังจากนั้น  ทุกคนก็เดินข้ามพื้นที่มีขนาดไม่ใหญ่แห่งนี้ ด้วยความระมัดระวัง  เพราะมันครอบคลุมเส้นทางเข้าที่สำคัญบางอย่างเอาไว้  ซึ่งเขตวางทุ่นระเบิดเหล่านี้ สามารถป้องกันความปลอดภัย ให้กับโรงพยาบาลได้ในระดับหนึ่ง

เมื่อผ่านเขตระเบิดเข้ามาได้ไม่ไกลนัก  ก็ถึงจุดหมายของทุกคนในครั้งนี้---คือโรงพยาบาลศูนย์กลางของเมืองเหลียน!

เห็นได้ชัดว่าโรงพยาบาลกลางเมืองเหลียนแห่งนี้  ผ่านสงครามที่โหดร้ายมาแล้ว  ทุกหนทุกแห่งนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือด ซากศพ  ปอกกระสุนรวมไปถึงร่องรอยเขม่าควันปืน   แม้กระทั่งมีบางพื้นที่ดูเหมือนจะถูกไฟเผาวอดวาย  ถึงแม้ว่าเปลวไฟจะดับมอดลงแล้ว  แต่ก็ยังมีหมอกควันหลงเหลืออยู่จำนวนไม่น้อยเลย  มันช่างดูอับจนหนทางและน่าเวทนาอย่างยิ่ง

"ผู้พัน  พวกคุณกลับมาแล้ว!"

ในตอนนี้  เมื่อเห็นผู้พันหูพาฮวางซางและพรรคพวกกลับมา  ทหารที่ติดอาวุธครบครันสิบกว่าคนก็รีบวิ่งออกมาทันที  ทหารหนุ่มคนแรกอายุราวๆ 20 กว่าปี แต่กลับมีรูปร่างสูงคนหนึ่งยื่นหน้าออกมาถามว่า

"สถานการณ์ด้านนอกเป็นยังไงบ้างครับ  เพื่อนทหารคนอื่นไปไหนล่ะ? แล้วก็พวกเขาเป็นใครกัน?"

"สถานการณ์ด้านนอกวุ่นวายมาก  ฉันเองก็ยังไม่แน่ชัดในช่วงเวลานี้   แต่ในตอนนี้ พวกเราต้องปิดล้อมและอยู่ในนี้ชั่วคราว"

เมื่อนึกถึงซากศพของแมลงที่เพิ่งเห็นเมื่อสักครู่  รวมถึงเสียงคำรามของคองที่ได้ยินเมื่อกี้  สีหน้าของผู้พันหูก็เปลี่ยนไปในทันที  ก่อนจะส่ายหน้า แล้วพูดขึ้นว่า

"สำหรับหลายคนนี้..."

เมื่อพูดถึงตรงนี้  ใบหน้าของผู้พันหูก็เคร่งขรึมทันที  จากนั้นก็ชี้ไปทางหลิวชิง แล้วพูดว่า

"ท่านนี้คือผู้บัญชาการของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกลาโหมการป้องกันประเทศแห่งชาติ พลโทหลิวชิง!"

"สวัสดีครับ ท่านผู้บัญชาการ!"

"สวัสดีครับ นายพล!"

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้พันหู  ทหารเหล่านั้นก็ตื่นตกใจทันที  จากนั้นก็รีบทำความเคารพหลิวชิง

พวกเขาเป็นเพียงแค่ทหารธรรมดาทั่วไปเท่านั้น  ปกติแล้วไม่มีโอกาสติดต่อกับนายพลระดับสูงเท่าไหร่นัก

"ลำบากทุกท่านแล้วละ!"

จากการทำงานหนักมาหลายวัน  อีกทั้งต้องวิ่งทั้งคืน รวมถึงการตายของภรรยา ทำให้หลิวชิงดูเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ จนทำให้หลิวชิงตอนนี้ดูแก่ลงไปหลายปีทีเดียว

แต่ในเวลานี้เขากลับยังคงมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง  ตะเบ๊ะแสดงการตอบรับการทำความเคารพของทหารเหล่านั้น จากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับผู้พันหูว่า

"ผู้พันหู  คุณบอกว่าได้ช่วยคนกลุ่มหนึ่งออกมาจากโรงพยาบาล  ไม่ทราบว่ามีผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา หรือชีววิทยาบ้างไหมครับ!"

"เรื่องนี้ผมเองก็ไม่ค่อยมั่นใจ....."

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของหลิวชิง  ใบหน้าของผู้พันหูก็ปรากฏความลังเลขึ้นมา จากนั้นก็หันหน้าไปถามทหารหนุ่มยี่สิบต้นๆคนหนึ่งว่า

"จู้จื่อ  หน้าที่ของนายคือการตรวจเช็คจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายและทำสถิติผู้รอดชีวิตนี่ นายรู้ไหมว่าในจำนวนผู้รอดชีวิตนั้นมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ไหม?"

"รายงานผู้การ  มีครับ!"

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้พันหู  ทหารหนุ่มที่ถูกเรียกว่า "จู้จื่อ"ก็รีบล้วงสมุดเล่มหนึ่งออกมา  แล้วตรวจเช็คสักพัก แล้วจึงตอบกลับไปว่า

"ในความเป็นจริงโรงพยาบาลกลางเมืองเหลียนไมได้มีผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องครับ  แต่ครั้งนี้พวกเราได้พาผู้รอดชีวิตทั้งสี่คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยามากจากเมืองหยางด้วย  แยกเป็นศาสตราจารย์ทั้งสี่คนอย่าง จางเซวี่ยปิง  หลี่เหวินเจี้ยน  เติ้งอ้ายกั๋ว  และหวางจวิ้นจวน

แรกเริ่มเดิมทีหลังจากที่มีซอมบี้ขั้นสูงอย่างไทแรนท์ปรากฏขึ้นในเมือง C  ด้านเมืองหยางไม่เพียงแต่จะจัดกองกำลังทหารสนับสนุนมาแล้ว  ยังจัดผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยามาให้ด้วย  เพื่อหวังให้หาจุดสำคัญของเชื้อไวรัสเพื่อใช้ในการทำลายเจ้าไทแรนท์

แต่ถึงแม้ว่าผูัเชี่ยวชาญเหล่านี้จะบาดเจ็บล้มตายอย่างน่าเวทนา  ท่ามกลางซอมบี้ก็ตาม  แต่กลับยังเหลือรอดชีวิตมาสี่คน!

พูดได้ว่าในความโชคร้ายก็ยังถือว่ามีความโชคดีอยู่!

"ดีมาก!"

เมื่อได้ยินข่าวนี้  ใบหน้าของหลิวชิงก็ปรากฏสีหน้าแห่งความปิติยินดีขึ้นมาทันที

ถึงแม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญแค่สี่คน จำนวนคนน้อยมากก็ตาม  แต่ถึงอย่างไรในโรงพยาบาลแห่งนี้ ก็ยังมีพยาบาลและหมออีกจำนวนมากที่สามารถเป็นผู้ช่วยได้ บวกกับในโรงพยาบาลก็มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่เพียบพร้อมไว้บางส่วนด้วย  บางทีพวกเขาอาจจะทำการวิเคราะห์เซรุ่มไวรัสออกมา แล้วสร้างเป็นวัคซีนไวรัสออกมาสำเร็จก็ได้!

เมื่อคิดได้ตรงนี้  สีหน้าของหลิวชิงก็เคร่งขรึมลง

"รีบพาฉันไปหาผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่คนนั้นหน่อย  ฉันมีเรื่องสำคัญอยากให้พวกเขาทำ!"

"ครับ ผู้การ!"

ในขณะที่มองไปยังท่าทางเคร่งขรึมของหลิวชิง  ผู้พันหูก็ตะเบ๊ะรับคำสั่งทันที  จากนั้นก็หันไปพูดกับทหารหนุ่มคนนั้นว่า

"จู้จื่อ นายรีบพาผู้การหลิวไปหาผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นหน่อย แล้วก็ ให้ความร่วมมือกับผู้การหลิว  จะต้องปฏิบัติตามความต้องการของผู้การหลิวทั้งหมด!"

"ครับ ผู้พัน!"

จู้จื่อ รีบตอบรับทันที  แล้วพาทหารอีกสองสามคนและหลิวชิงไปหาผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น

"ทุกท่าน ผมว่าพวกคุณต่อสู้กันมาตลอดทาง  น่าจะเหนื่อยกันมากแล้วใช่ไหม?"

เมื่อหลิวชิงพาเซรุ่มไวรัสจากไป  ผู้พันหูก็หันกลับมา  พูดกับฮวางซางและพรรคพวกว่า

"งั้นผมจะให้คนจัดที่พักผ่อนให้กับทุกท่าน ยังไงที่นี่ก็มีการรักษาการณ์อยู่แล้ว ไม่น่าจะมีเรื่องวุ่นวายอะไร"

"ครับ!"

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้พันหู  ฮวางซางและพรรคพวกก็มองตากัน  จากนั้นก็พยักหน้า

คืนที่ผ่านมาพวกเขาทั้งหนีทั้งต่อสู้มาตลอดทาง  แทบจะไม่ได้พักผ่อนกันเลย  ถึงแม้ว่าร่างกายจะมีตัวช่วยก็ตาม  แต่หลังจากผ่อนคลาย จิตวิญญาณของพวกเขากลับอ่อนล้าลง  บวกกับร่างกายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ผสมปนเปื้อนไปด้วยเลือดและฝุ่นละอองด้วยแล้ว  เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคงต้องพักผ่อนจริงจังๆซะหน่อยแล้ว

หลังจากนั้น  ผู้พันหูก็พาฮวางซางและพรรคพวกไปพักผ่อน และตัวเขาเองก็ได้ให้เพิ่มกำลังทหารเพื่อเสริมการป้องกันไปด้วย

หลังจากได้รู้ว่าในป่าแห่งนี้มีสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวตัวนั้นอยู่ เขาจึงไม่กล้าวางใจได้สักนิดเดียว  กลัวว่าถ้าไม่ระวังตัวอาจจะนำมาซึ่งหายนะแก่กองทหารทั้งหมดก็เป็นได้!

ในขณะที่ฮวางซางได้เดินทางมาถึงโรงพยาบาลกลาง และเตรียมที่จะพักผ่อนอยู่นั้น  สงครามที่ดุเดือดจนถึงขีดสุด  กลับกำลังดำเนินการอย่างร้อนระอุในป่าลึกที่สุดแห่งนี้อยู่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด