ตอนที่แล้วตอนที่ 14 กองกำลังทหาร ข่าว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 ไทแรนท์อันน่ากลัว !

ตอนที่ 15  กองกำลังเสริมเข้าเมืองแล้ว


ตอนที่ 15  กองกำลังเสริมเข้าเมืองแล้ว

  

ความเป็นจริงก่อนหน้า ฮวางซางได้มีความเข้าใจผิด คิดว่าอาวุธที่สืบทอดมาแต่โบราณกาลที่อยู่บนตัวเขามีเพียงหนึ่งเดียวในโลกใบนี้

แต่ความจริงแล้วถ้ายึดตามที่ระบบพูด ภูตผีปีศาจที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลนั้น การดำรงอยู่ของจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมีอยู่เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน  ภัยพิบัติเหล่านั้นได้มาถึงตัวแล้ว  ทำไมถึงไม่นำพลังของจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งเหล่านี้ถ่ายทอดให้กับตัวเองขึ้นมาอีกสักหน่อยละ?

เพียงแค่ไม่รู้ว่า  อาวุธที่ได้รับการสืบทอดมานั้นยังมีเหลืออีกเท่าไหร่ในโลกใบนี้ และยิ่งไม่รู้อีกว่าคือคนที่ได้รับการสืบทอดเหล่านั้นน่ากลัวขนาดไหน ในอนาคตจะเป็นมิตรหรือศัตรูของเขากันแน่......

แต่มันคือเรื่องที่เกิดหลังจากนี้ ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดของฮวางซางก็คือการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการไว้ยามคับขัน เมื่อคิดได้ ฮวางซางจึงรีบเปิดเสิร์ชเอนจินทันที เพื่อทำการค้นหาข้อมูล

(เสิร์ชเอนจิน (search engine) หรือ โปรแกรมค้นหา คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล ... เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป ...)

เนื่องจากระบบตั้งใจแจ้งให้ฮวางซางรับรู้  ยิ่งการดำรงอยู่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่การเปลี่ยนรูปร่างก็ยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น อีกนัยหนึ่งคือสัตว์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นไม่ได้มีพลังที่แข็งแกร่งมากนัก ดังนั้นในตอนนี้ฮวางซางจึงได้ทำการค้นหาปีศาจที่มีพลังแข็งแกร่งเหล่านั้น แทนที่จะค้นหาเพียงแค่ขอบเขตที่ข่าวสารเผยแพร่ประกาศออกมาเท่านั้น  อีกทั้งยังสืบค้นพลังอำนาจของตำนานที่ไม่ถือว่าแข็งแกร่งเหนือธรรมชาติ การ์ตูนรวมถึงหนัง เป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการค้นหาทั้งหมด

ข้อมูลเหล่านี้ไม่ถือว่าหายากนัก ข้อมูลสารานุกรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็มีอยู่ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว แม้กระทั่งยังมีคนทำสถิติการค้นพบไว้โดยเฉพาะอีกด้วย นี่เป็นการทำงานที่สะดวกที่สุดของฮวางซางแล้ว

แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้ก็ตาม นี่เป็นภาระการทำงานที่ยิ่งใหญ่มากงานหนึ่ง ถึงอย่างไรก็ยังมีอีกหลายประเทศมากมายในโลกใบนี้ ที่มีตำนานมากมายเหล่านี้ ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันจะมีตัวบ้าอะไรเกิดขึ้นมาอีก!

ฮวางซางเป็นคนที่มุ่งมั่นทำเรื่องๆนั้นอย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงได้จมเข้าไปในเรื่องเหล่านี้ทำให้ลืมเวลาที่ไหลผ่านไปราวกับกระแสน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อหลิวซินได้มาเรียกฮวางซางไปรับประทานมื้อค่ำ  เขาเพิ่งค้นพบว่าตัวเองนั้นได้ใช้เวลาในการหาข้อมูล2-3 ชั่วโมงเต็มๆอย่างคาดไม่ถึง

แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาต้องการค้นหาข้อมูลเหล่านี้ให้มากขึ้น  ถึงเขาจะยุ่งตลอด 2-3 ชั่วโมงเต็มๆนี้ก็ตาม แต่ข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาก็เหมือนกับน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟเท่านั้น เปรียบเสมือนข้อมูลอันน้อยนิดจะสู้กับสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้ยังไง  เขายังต้องการข้อมูลทั้งหมดเพิ่มเติมต่อไป   ถึงมันจะเป็นเพียงสถิติของสัตว์เหนือธรรมชาติที่มีพลังอำนาจที่ค่อนข้างอ่อนแอเท่านั้น   เกรงว่าเขาต้องสิ้นเปลืองเวลาอีกหลายวันเพื่อค้นหามัน

แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในตอนนี้ของเขาก็คือมีเวลาน้อยเกินไป !เนื่องจากเป็นเช่นนี้ ต่อให้เป็นเวลากินมื้อค่ำฮวางซางก็ไม่สนใจ ในสมองของเขาเต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เหนือธรรมชาติเหล่านั้น  หลิวซินจึงจำเป็นต้องเรียกเขาหลายครั้ง เขาจึงจะมีปฏิกิริยากลับมา

หลังจากนั้น หลิวซินก็บอกข่าวดีเรื่องหนึ่งกับเขา  กองกำลังที่มาจากเมืองหยางจะมาถึงเมือง Cล่วงหน้ากว่าที่คาดไว้ในอีก 1 ชั่วโมง!

“ในที่สุดก็มาถึงจนได้!”

เมื่อได้ยินข่าวดี ฮวางซางก็รู้สึกฮึกเฮิมขึ้นมาทันที

“สถานการณ์ในเมืองเป็นยังไงบ้าง ยังตวบคุมได้อยู่ใช่ไหม?”

“สถานการณ์ต่างๆทั้งหมดยังดีอยู่ การสกัดกั้นยับยั้งของกองทหารยังดีอยู่ บวกกับกองบัญชาการของกำลังตำรวจด้วย สถานการณ์ตอนนี้ในเมืองยังอยู่ในเกณฑ์ดี แล้วถึงแม้ว่าจะมีคนที่ยังกระวนกระวายใจอยู่บางส่วนก็ตาม แต่คนอีกหลายคนก็ยังกลับบ้านอย่างเชื่อฟัง”

ในฐานะที่เป็นลูกหลานของข้าราชการชั้นสูง หลิวซินจึงมีสิทธิพิเศษมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เขาสามารถรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในกองกำลังป้องกันประเทศแห่งนี้ได้

“สิ่งที่ยุ่งยากเพียงอย่างเดียวคือซอมบี้อีกจำนวนไม่น้อยที่ปรากฏขึ้นมาในเมือง ถึงแม้ว่ายังไม่ได้กลายพันธุ์ก็ตาม แต่เมือง C  เป็นเมืองที่ใหญ่มาก  บวกกับยังถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกอีก  ดังนั้นตำรวจและกองกำลังทหารที่เหลือน้อยเต็มทีในตอนนี้  จึงไม่สามารถกวาดล้างซอมบี้ที่แพร่กระจายในเมือง C นี้ได้ทั้งหมด จึงทำได้เพียงรอกองกำลังเสริมเท่านั้น”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลิวซินก็หยุดไปสักพักหลังจากนั้นก็พูดต่อว่า

“นอกเหนือจากนี้ ฝ่ายรัฐบาลในเมืองก็ได้จัดทหารและตำรวจบางส่วนขึ้นมาใหม่ไปล้อมรอบโรงพยาบาลไว้ แต่เนื่องจากขาดแคลนอาวุธเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่เหมาะที่จะทำสงครามในม่านหมอกแบบนี้ด้วย ดังนั้น จึงทำได้เพียงรอกำลังเสริมถึงจะสามารถเก็บกวาดสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้เหมือนกัน”

“สัตว์ประหลาดตัวนั้นมันคือตัวอะไรกันแน่ ถึงจำเป็นต้องใช้เปลวไฟเท่านั้นถึงจะทำลายมันได้?” เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ฮวางซางก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้ ก่อนจะพ่นลมหายใจเย็นๆออกมา

เขารู้ว่าอาวุธที่ทหารใช้นั้นมีพลานุภาพกล้าแกร่งมากกว่าที่เขียนในหนังหรือนิยายบางส่วนอย่างมาก อย่าว่าแต่ปืนยาวและปืนยิงเร็วที่ทหารเลย ซึ่งถือว่าเป็นปืนประเภท 54 ที่ล้าสมัย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าปืนพกโตกาเรฟ  ที่สามารถทะลุเสื้อกันกระสุนทั่วไปได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่รถและกล่องไปรษณีย์ก็ไม่มีเหลือ

ตอนนี้หลิวซินกลับบอกเขาว่า พลานุภาพของอาวุธที่ทหารใช้ไม่สามารถทำอะไรสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้เลย จำเป็นต้องรออาวุธที่มีพลังทำลายล้างราวกับระเบิดนั้นมาถึงก่อนถึงจะยังพอมีหวัง....

สัตว์ประหลาดตัวนั้นทำไมถึงได้แข็งแกร่งมากขนาดนี้!

“ไม่รู้ว่า....”

เมื่อพูดถึงสัตว์ประหลาดตัวนี้ หลิวซินก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “สัตว์ประหลาดตัวนี้ปรากฏตัวขึ้นมากระทันหัน และยังเกิดขึ้นมาในสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้อีกด้วย บวกกับม่านหมอกที่หนาทึบ ไปทั่วทุกพื้นที่ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้  รู้แค่เพียงว่ามันมีความยาวประมาณ 3 เมตร มีกล้ามเนื้อไปทั่วทั้งตัว มีดปืนยิงแทงไม่เข้า อีกทั้งยังมีลักษณะที่เหมือนกับยักษ์ที่มีกรงเล็บแหลมยาวคอยประกบอยู่ทั้งสองข้างอีกด้วย”

“เท่ากับว่าตอนนี้ ...สัตว์ประหลาดตัวนั้นกำลังซุกซ่อนตัวอยู่ในโรงพยาบาล ภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่มีกองกำลังเสริมนี้ จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปฆ่ามันแต่อย่างใด”

แต่ไม่นานหลิวซินก็มีปฏิกิริยาฮึกเหิมกลับมา “แต่ไม่เป็นไร หลังจากที่กองกำลังเสริมของเมืองหยางมาถึงแล้ว  สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็คงจะถูกรถถังและปืนจรวดยิงทำลายจนร่างกายแตกสลายไม่เหลือนั่นแหละ”

“จริงสิ นอกจากสัตว์ประหลาดที่อยู่ในโรงพยาบาลตัวนั้นแล้ว ตอนนี้ยังมีสัตว์ประหลาดที่พิเศษกว่าตัวอื่นปรากฏขึ้นมาในเมืองอีกไหม?”

ทันใดนั้น ฮวางซางก็นึกถึงสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นขึ้นมา

ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะถูกตัดลิ้นขาดไปแล้ว จนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วก็ตาม แต่กำลังก็ยังคงไม่อาจประเมินให้ต่ำไปกว่านี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้สถานการณ์ม่านหมอกที่ปกคลุมไปทั่วอย่างนี้ด้วย  สัตว์ประหลาดที่สร้างความหวาดกลัวนั้นก็อาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากกว่านี้

“มีสัตว์ประหลาดตัวเดียวก็สร้างความปวดหัวมากพออยู่แล้ว นายยังอยากให้มีเพิ่มอีกสักกี่ตัวละ?”หลิวซินหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า หลังจากนั้นก็ยิ้มกว้างๆออกมา

“เอาละ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว พวกเราไปเล่น ROV เพื่อผ่อนคลายกันดีกว่า?”

“ไม่ว่าง ฉันยังต้องหาข้อมูล” ฮวางซางส่ายหน้า ตอนนี้เวลาของเขาก็จะไม่พออยู่แล้ว จะให้ไปเล่นเกมส์กับหลิวซินได้ยังไงละ

“หาข้อมูลอะไร ให้ฉันช่วยไหม?” เมื่อเห็นฮวางซางไม่ยอมเล่นเกมส์ด้วย หลิวซินก็กำจัดความคิดนี้ไปทันที หลังจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า

“ยังไงก็เมื่อถึงเวลาพักผ่อนก็ให้พักผ่อนนะ”

“ได้” ฮวางซางลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะพยักหน้าพร้อมพูดออกไปว่า

“ช่วยเอาคอมพิวเตอณ์มาให้ฉันที่ห้องด้วย”

“ได้ครับ!” หลิวซินศรัทธาในตัวฮวางซางภายในใจเงียบๆมาตลอด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้เห็นฮวางซางฆ่าซอมบี้ 10 กว่าตัวเหล่านั้นมากับตาตัวเอง  การเคารพศรัทธานี้จึงยิ่งเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เนื่องจากเป็นเช่นนี้  เมื่อเขารู้ว่าตัวเองนั้นสามารถช่วยฮวางซางได้  เขาก็วิ่งกลับที่ห้องของตัวด้วยความตื่นเต้น  เพื่อไปหยิบโน้ตบุ๊คของเขาออกไป

“เจ้าหมอนี่....”

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูเร่งรีบแบบนั้นของหลิวซิน ฮวางซางก็อดยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าไม่ได้ หลังจากกลับมาที่ห้องของตัวเองแล้ว ก็เริ่มทำการค้นหาข้อมูลต่อไป

“ว้าว ฮ่องเต้ พี่ได้รับการกระตุ้นมาจากไหน ถึงได้ค้นหาข้อมูลผีปีศาจเหล่านี้อย่างสบายใจแบบนี้อ่ะ?” ไม่นาน หลิวซินก็เข้ามาในห้องพร้อมกับโน้ตบุคของตัวเอง หลังจากที่เห็นเพียงข้อมูลสถิติและการสอบถามที่ฮวางซางทำการค้นหาจากคอมพิวเตอร์เหล่านั้น เขาจึงอดตื่นตกใจขึ้นมาไม่ได้

“ฉันเพิ่งหาได้เรื่องหนึ่ง การปรากฏตัวของซอมบี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของจุดจบโลกนี้เท่านั้น ไม่นานจะมีการปรากฏตัวของสัวต์ประหลาดที่ว่าไว้ในตำนานขึ้นมาอีก แม้กระทั่งสัตว์ที่เหนือธรรมชาติที่อยู่ในเกมส์ก็อาจจะปรากฏขึ้นมาด้วย

ถึงอย่างไรก็ต้องร่วมต่อสู้เคียงข้างกัน พี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตาย ในเวลานี้ฮวางซางไม่อาจปิดบังหลิวซินได้อีกต่อไป ก่อนจะพูดว่า

“นายชอบดูเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ ดีเลยมาช่วยฉันรวบรวมข้อมูลเหล่านี้หน่อย เผื่อๆเอาไว้”

“ฮ่องเต้ พี่พูดจริงใช่ไหม?” เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง หลิวซินก็อึ้งงันไป หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นนะ พี่มีหลักฐานไหม?”

“ไม่มีหลักฐาน แต่มันคือความจริง ถ้านายเชื่อฉันก็มาช่วยฉัน แต่ถ้าไม่เชื่อก็อย่ามารบกวนฉัน”

เวลานี้ยิ่งใกล้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว  คำสัญญาเพียงสามวันของระบบนั้นเป็นเหมือนดาบที่จี้อยู่บนหัวของฮวางซางจนไม่อาจที่จะวางใจได้ ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน เขาจึงพูดขึ้นอย่างร้อนใจ

“ฉันเชื่อพี่!” หลิวซินเชื่อในคำพูดของฮวางซาง ต่อให้คำพูดของฮวางซางจะไม่มีต้นตอที่ชัดเจนก็ตาม สุดท้ายเขาก็ยังเลือกที่จะเชื่อฮวางซาง จากนั้นสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันใด ก่อนจะเปิดโน๊บุคของตัวเอง แล้วเริ่มหาข้อมูลกับฮวางซางทันที

ต้องพูดได้ว่า หลิวซินเข้าใจในสิ่งที่น่าหวาดกลัวเหล่านี้มาก มีเขาช่วย การหาข้อมูลสถิติต่างๆของฮวางซางก็รวดเร็วขึ้น

“เอ๊ะ?” ทันใดนั้น การสังเกตเห็นของฮวางซางก็ดึงดูดให้หลิวซินมองไปที่ภาพภาพหนึ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่มีผิวหนัง  มีแต่มัดกล้ามที่ปูดขึ้นมา และมีเล็บยาวที่แหลมคมตัวหนึ่ง เห็นแล้วน่ากลัวยิ่งนัก

แต่สาเหตุที่ฮวางซางสนใจภาพนี้ กลับเป็นเพราะว่าสัตว์ประหลาดในภาพนี้มีความคล้ายคลึงกับสัตว์ประหลาดสีเลือดที่เขาประสบพบเจอตัวนั้นเกือบ 8 ส่วน  เหมือนแม้กระทั่งลิ้นยาวๆที่แหลมคมอันนั้น  ความแตกต่างอย่างเดียวคือสัตว์ประหลาดในภาพไม่มีดวงตาและกะโหลก มีเพียงส่วนหัวที่เผยออกมาให้เห็นแค่ภายนอกเท่านั้น

“นี่มันสัตว์ประหลาดอะไร?” เมื่อค้นพบเรื่องนี้  ฮวางซางจึงรับยื่นให้หลิวซินดูทันที

“นี่คือ สัตว์ประหลาดลิ้นยาว!”เมื่อเห็นท่าทางที่ดูตื่นเต้นของฮวางซาง ถึงแม้ว่าหลิวซินจะไม่ค่อยเข้าใจก็ตาม แต่ก็ยังอธิบายว่า

“สัตว์ประหลาดลิ้นยาวเป็นสัตว์ประหลาดที่มีชื่อเสียงในเกมส์ซอมบี้อย่างเรซิเดนต์อีวิล  มีชื่อเสียงด้านความเร็ว และการโจมตีที่แข็งแกร่ง มีชื่อเรียกว่า สัตว์ประหลาดลิ้นยาว ภาษาอังกฤษเรียกว่า  LICKER ลิกเกอร์  มันกลายร่างมาจากซอมบี้.... พี่ถามทำไมเหรอ?”

“เห็นโพสไว้แล้วไม่เลวเลย....”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ดวงตาของฮวางซางก็ได้เปล่งประกายแววตาในการคิดไต่ตรองขึ้นมา

“เมื่อ วาน ฉันเห็นสัตว์ประหลาดที่เหมือนกับเจ้าลิกเกอร์ ตัวหนึ่ง!”

“เชี้ยละ เชี้ยละ เชี้ยละ!” คำพูดของฮวางซางสร้างความตกใจให้กับหลิวซินไม่น้อย

“ฮ่องเต้ พี่ไม่ได้พูดจากเหลวไหลกับฉันใช่ไหม พี่บอกว่าพี่เคยเห็นเจ้าสิ่งนี้ ? นี่เป็นอาวุธสังหารมนุษย์อย่างแท้จริงเลยนะ!”

“ฉันมั่นใจว่าฉันเห็นมัน ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันบางส่วน แต่ฉันมั่นใจว่ามันเหมือนมาก”

ฮวางซางไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองได้ต่อกรกับลิกเกอร์มาแล้วแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้จะทำให้เขาถูกคนอื่นนำไปวิจัยการกลายร่างสัตว์ประหลาดเท่านั้น ดังนั้นจึงบอกแค่เรื่องที่ตัวเองเจอเจ้าลิกเกอร์เท่านั้น

“ไม่งั้นนายคิดว่าทำไมฉันถึงเชื่อข่าวนั้นละ อีกทั้งยังเสียเวลามานั่งค้นหาข้อมูลเหล่านี้อีก”

“ไม่ได้การละ ฉันต้องไปบอกพ่อ!”

หลิวซินเข้าใจความน่ากลัวของลิกเกอร์เป็นอย่างดี แล้วยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีความสามารในการฆ่าภายในม่านหมอกแบบนี้อีกด้วย ดังนั้นเขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโทรออกทันที

แต่ทว่าโทรศัพท์กลับสายไม่ว่าง อีกทั้งยังถูกปฏิเสธอีกด้วย  หลังจากนั้น หลิวซินจึงหยิบข้อมูลนี้ ขึ้นมา  หลังจากเห็นข้อมูลนี้แล้ว สีหน้าของหลิวซินก็เปลี่ยนสีทันที

“กองกำลังเสริมของเมืองหยางได้เข้ามาในเมืองแล้ว พ่อของฉันต้องเป็นคนนำกำลังนั้นไป ตอนนี้น่าจะกำลังเตรียมตัวทำลายสัตว์ประหลาดที่อยู่ในโรงพยาบาลนั้นกับพวกเขาอยู่เป็นแน่!”

จากการเฝ้ารอมาเนิ่นนานในที่สุดกำลังเสริมก็มาถึง แต่หลิวซินกลับไม่ได้ยินดีแต่อย่างใด ในใจกลับรู้สึกหนักหน่วงขึ้นมาแทน  เนื่องจากตอนนี้ภายในเมือง C นอกจากสัตว์ประหลาดที่อยู่ในโรงพยาบาลนั้นแล้ว ก็ยังมีลิกเกอร์อันน่ากลัวหนึ่งตัวที่กำลังปะปนอยู่ในนี้ด้วย!

ถ้าพ่อของเขาโชคไม่ดี เจอเจ้าลิกเกอร์เข้า...

“ไม่ได้การละ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง!”

ด้วยความเป็นห่วงความปลอดภัยของพ่อ หลิวซินได้ลังเลอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็กัดฟันกรอด แล้วเปิดระบบหนึ่งในคอมพิวเตอร์ ก่อนจะใส่รหัสผ่านที่ยาวเป็นลูกโซ่เพื่อเข้าระบบอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ภาพวิดีโอหนึ่งก็ได้ปรากฏอยู่บนหน้าจอคอม

ภาพวีดีโอนี้ชัดเจนมาก สามารถมองเห็นในละแวกโรงพยาบาลของเมือง C ได้ อีกทั้งยังมีกองกำลังทหารล้อมรอบไว้อีกด้วย เห็นแม้กระทั่งโครงสร้างของรถถังอีกหลายคันที่ปรากฏขึ้นมาลางๆในม่านหมอกด้วย  นี่เป็นภาพการถ่ายทอดสดของกองทหารจริงๆ!

อีกทั้งเมื่อดูจากภาพแล้ว จุดมุ่งหมาย 8-9 ใน 10 ส่วนยังมุ่งหน้าไปทางโรงพยาบาลอีกด้วย!

พวกเขาต้องการทำลายล้างสัตว์ประหลาดตัวนั้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด