ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0680 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0682 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0681 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 681 : กำราบอสูรร้าย

ในงานประลองยุทธ์ครั้งนี้ ฉินหยุนถือได้ว่ามีระดับการฝึกตนต่ำเตี้ยที่สุด กระนั้นก็ยังมีหลายผู้คนให้ความสนใจ

นั่นก็เพราะก่อนหน้านี้เขาได้สังหารศิษย์ร่างเซียนของตำหนักจารึกเทวะ เพียงแต่เรื่องนี้ ก็เป็นหลักฐานบ่งบอกแล้วว่าเขามีศักยภาพและแข็งแกร่งเพียงใด

กระทั่งว่าเขาไม่อาจเอาชนะศิษย์สำนักอสูร แต่ก็คงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเท่าใดนัก

หลังจากที่ฉินหยุนก้าวเดินขึ้นบนลานประลอง เจี้ยนหนันหู่จึงมายืนรับชมที่เบื้องล่าง

เขาไม่คิดอยากพลาดนัดประลองฉินหยุน เพราะเขาต้องการได้เห็นกับตา ว่าฉินหยุนแข็งแกร่งขึ้นเพียงใดแล้ว

เป็นที่ทราบกันว่า นับตั้งแต่เจี้ยนหนันหู่พ่ายแพ้แก่ฉินหยุน เขาก็เริ่มฝึกฝนหนักตั้งแต่ครั้งนั้น

เวลานี้ พละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล กระนั้น เขาก็ยังไม่ทราบว่าฉินหยุนมีพลังเพิ่มพูนขึ้นถึงระดับใดแล้ว

ฉินหยุนก้าวเดินขึ้นบนลานประลอง เหลิงหวนแห่งสำนักกระหายโลหิตจึงเดินขึ้นมา

แม้เหลิงหวนเป็นศิษย์อสูร ทว่าร่างกายของเขาไม่ได้กำยำ กลับกัน เขาคล้ายตัวเล็กกว่าฉินหยุนด้วยซ้ำ

ทว่า ออร่าอสูรจากกายของเหลิงหวนกลับหนาแน่น ดวงตาเผยแสงสีม่วงทอประกายออกมา ฟันที่เผยออกจากปากยังแหลมคมยิ่ง

นอกจากนี้แล้ว เล็บนิ้วของเหลิงหวนทั้งยาวและแหลมคม ราวกับมันพร้อมที่จะกรีดฉีกกระชากเนื้อหนังผู้คน

“เจ้านี่เป็นอสูรดูดเลือด! ได้ยินว่าผู้ใดที่พ่ายแพ้แก่มันจะถูกสูบเลือดจนตายตก!”

“สงสัยนักว่าฉินหยุนจะจัดการเจ้านี่ได้อย่างไร!”

“ข้าเองก็เคยได้ยินมา ว่าเหลิงหวนจากสำนักกระหายโลหิตมีความเร็วอันเลิศล้ำ”

“ฉินหยุนก็หาได้อ่อนด้อยไม่ เขาไม่มีทางแพ้โดยง่ายเป็นแน่ ก่อนหน้านี้เขาเอาชนะได้ทั้งเจี้ยนหนันหู่ รวมถึงศิษย์ร่างเซียนของตำหนักจารึกเทวะ!”

“นั่นอาจไม่ใช่ ฉินหยุนเพียงแค่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้น ทว่าเหลิงหวนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูง ความแตกต่างมีมากมายเกินไป!”

ฝูงชนเริ่มสนทนากันเผ็ดร้อน กว่าครึ่งรู้สึกว่าฉินหยุนสามารถเอาชนะเหลิงหวนได้

เหลิงหวนมองที่ฉินหยุนพร้อมเลียริมฝีปาก เขาเผยยิ้มชั่วร้าย “ฉินหยุนอย่างนั้นหรือ? เจ้าสมแล้วที่เป็นคนมีชื่อเสียง ข้าย่อมได้กลิ่นเลือดเจ้า เป็นเลือดที่แข็งแกร่งจนทำข้ากระหายตื่นเต้นคิดอยากลิ้มลอง!”

“ตัวชั่วร้ายเช่นเจ้า สูบเลือดผู้คนไปมากมายเพียงใดกันแล้ว?”

ฉินหยุนพอได้เห็นสายตาหิวกระหายโฉดชั่วของเหลิงหวน เขาแทบรู้สึกคิดอยากสำรอกออกมา เป็นเขาปรารถนาสังหารมันตรงหน้าแทบขาดใจ

“ข้าย่อมไม่คิดจดจำ โดยสรุปแล้วหากไม่ใช่หมื่นคน ก็คงราวสักแปดพันกระมัง!” เหลิงหวนหัวเราะออกอย่างกระหยิ่ม “ข้ามั่นใจหนึ่งอย่าง ว่าเลือดเจ้าคงน่าลิ้มลองที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้พบเจอมา!”

ฉินหยุนต่อยหมัดเข้ากับฝ่ามือตนเองพลางแค่นเสียง “เลือดข้าย่อมไม่แย่ ทว่าตัวเลวร้ายเช่นเจ้า ไม่ถือว่าปรามาสต่อข้าเกินไปหรือ?”

“เจ้าอย่างไรก็แค่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้น กับข้าที่เหนือล้ำกว่า ไม่ใช่อะไรที่เจ้าจะสามารถข้ามผ่านเอาชนะไปได้! โดยเฉพาะในการแข่งขันเช่นนี้ เจ้าไม่อาจใช้เล่ห์กลใด!”

เหลิงหวนหัวเราะพร้อมกล่าวต่อ “การฝึกฝนคือหลักฐานความแข็งแกร่ง หากเจ้าแข็งแกร่งจริง เช่นนั้นเจ้าคงเลื่อนระดับพลังไปนานแล้ว!”

“เพราะเจ้าไม่อาจเลื่อนระดับ จึงได้แต่ต้องเพิ่มกำลังในส่วนอื่น นี่หมายถึงเจ้าหาได้มีพรสวรรค์เพียงพอ และยังไม่พยายามที่จะเลื่อนระดับ! ด้วยเหตุนี้ ต่อหน้าข้า เจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวก!”

“เจ้าคล้ายเชื่อมั่นในตนเองน่าดู!” ฉินหยุนหัวเราะ

เหลิงหวนหันมองทางผู้ตัดสินวัยกลางคน เขากล่าว “พวกเราพร้อมแล้ว ประกาศเริ่มศึกได้เลย!”

เขาคิดอยากเร่งรีบสูบโลหิตฉินหยุนจนตายตก เป็นเขายินดีจนเนื้อเต้นไปหมดแล้วด้วยซ้ำ

ฉินหยุนพยักหน้ารับให้แก่ผู้ตัดสินวัยกลางคน

“เริ่ม!” ผู้ตัดสินวัยกลางคนตะโกนดัง

ทันใดนี้เอง หลายคนในลานกว้างจึงพร้อมหันสายตารับชมที่ทางนี้

หลงเฉียวเฟิง เย่ว์ผูเฟิง เจี้ยนรั่วหยาน และอีกหลายคนต่างมาถึงข้างลานประลองที่สิบห้า

เชี่ยวเย่ว์หลานไม่มา เพราะนางทราบดีว่าฉินหยุนแข็งแกร่งเพียงใด นางยังรู้สึกด้วยซ้ำ ว่าหากไม่พบเจอฉินหยุนในการแข่งขันรอบถัดไปเรื่อย ๆ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งนางและเขาจะเจอกันในรอบสุดท้าย

เปาเฉิงโฉ่วและเจี้ยนสือเทียนต่างรับชมอยู่ไม่ไกลออกไป พวกเขาคิดอยากเห็นเช่นกัน ว่าฉินหยุนเวลานี้แกร่งกล้าเพียงใดแล้ว

ความเร็วของเหลิงหวนมากล้ำ ร่างกายที่ค่อนข้างเล็กของเขายิ่งทำให้ปราดเปรียว หลังพุ่งทะยาน เขาจึงแปรสภาพเกิดเป็นภาพมายาแบ่งออกเป็นสอง พร้อมพุ่งเข้าปะทะใส่ฉินหยุนที่อยู่ตรงหน้า

กรงเล็บที่มือได้เสียดแทงโดยมีเป้าหมายคือหัวใจและหน้าท้องของฉินหยุน

เหลิงหวนปกติใช้วิธีการพุ่งโจมตี ฉีกกระชากหัวใจและหน้าท้องของเหยื่อ จากนั้นจึงค่อยกัดกินที่ลำคอเพื่อสูบเลือดอย่างรวดเร็ว

การโจมตีของเหลิงหวนลื่นไหล คล่องแคล่ว และเป็นธรรมชาติ

มีแต่ผู้ที่มีสายตาเลิศล้ำจึงสามารถมองการเคลื่อนไหวได้ทัน ยามเมื่อกรงเล็บคิดสัมผัสเสื้อของฉินหยุน ตัวฉินหยุนพลันหลบเลี่ยงหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

เหลิงหวนคว้าอากาศธาตุ เขาไม่อาจหาใดพบจนต้องเกิดอาการมึนงง

ครืน!

อสนีบาตอัคคีสั่นไหวฉับพลันได้ทะลักออก มันปกคลุมทั้งลานประลองจนเกิดเป็นพลังตึงเครียด

ผู้คนพอได้เห็น พวกเขาพลันรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

ฉินหยุนหายไปได้อย่างไร?

เหลิงหวนยืนที่ตำแหน่งเดิม สายตากวาดมองรอบลานประลอง

ลานประลองมีม่านพลัง ดังนั้นผู้คนภายในย่อมไม่อาจออก

“ฉินหยุนหายไปได้อย่างไร? เขาแปรสภาพตนเองเป็นโปร่งแสงหรือ?”

“แต่นั่นต้องมีวิญญาณยุทธ์โปร่งแสง!”

“ได้ยินมาว่ามีศิษย์ร่างเซียนของตำหนักจารึกเทวะผู้หนึ่ง เป็นเขาที่ครอบครองวิญญาณยุทธ์นั่น!”

“มันไม่ใช่วิญญาณยุทธ์โปร่งแสง เห็นนั่นหรือไม่? เหลิงหวนปลดปล่อยหมอกพลังงานสีดำออกมา หากฉินหยุนยังอยู่บนลานประลอง หมอกพลังงานสีดำย่อมต้องทำให้พบเห็นตัวเขาที่โปร่งแสง!”

ผู้ที่กล่าวนี้คือยอดยุทธ์และราชันยุทธ์ พวกเขาแม้อาวุโสก็ไม่ทราบถึงวิธีการของฉินหยุน

“ฉินหยุน จงไสหัวออกมา!”

เหลิงหวนตะโกนดัง หมอกพลังงานสีดำปลดปล่อยออกหนาแน่นปกคลุมทั้งลานประลอง

เจี้ยนหนันหู่เองยังต้องอึ้ง เขามองทางเจี้ยนรั่วหยานพร้อมเอ่ยถามคำเบา “น้องหยาน เจ้าอยู่ร่วมกับฉินหยุนมาก็นาน เคยเห็นวิธีการนี้หรือไม่?”

“ข้าไม่อาจทราบ” เจี้ยนรั่วหยานส่ายศีรษะเป็นการตอบกลับ

มีแต่เชี่ยวเย่ว์หลานที่ทราบว่าฉินหยุนใช้วิธีการอันใด เพราะนางเองก็สามารถใช้วิธีการเดียวกันนี้ รอยยิ้มพึงใจของนางเผยออก เป็นนางทราบว่าฉินหยุนกำลังคิดโจมตีแล้ว

เหลิงหวนหันมองทางผู้ตัดสินวัยกลางคนและกล่าว “ฉินหยุนหายตัวไปแล้ว ตัดสินให้มันพ่ายแพ้!”

“ฉินหยุนหาได้ออกจากลานประลอง เขายังอยู่ภายในนี้ ดังนั้นจึงไม่อาจแพ้...”

ขณะผู้ตัดสินวัยกลางคนกล่าวคำจบ อะไรบางอย่างพลันปรากฏขึ้นจากพื้น

เมื่อพิจารณาให้ใกล้ จะพบว่ามันเป็นรากไม้สีดำ อย่างกะทันหัน พวกมันผุดขึ้นจากพื้นพร้อมพันธนาการครึ่งร่างของเหลิงหวนเอาไว้

ฉินหยุนปรากฏตัว! ตัวเขาเวลานี้อยู่ที่ด้านหลังของเหลิงหวน!

ทันทีที่ปรากฏตัว เขาใช้สองนิ้วแนบชิด จ้วงแทงดุดันเข้าใส่ที่หลังศีรษะของเหลิงหวน

ตู้ม!

เสียงฟ้าคำรามดังสนั่นสวรรค์ ลานกว้างถึงกับต้องสั่นไหว!

ฉินหยุนใช้งานดัชนีทะลวงสวรรค์แยกปฐพี โจมตีเข้าที่หลังศีรษะของเหลิงหวนจนระเบิดแตกกระจาย

หมอกพลังงานสีดำบนลานประลองค่อยกระจายเพราะแรงระเบิดของพลังดัชนี

ร่างเหลิงหวนที่ไร้หัวล้มลงกับพื้น โลหิตสีดำไหลเจิ่งนองออกจากลำคอพร้อมออร่าชั่วร้าย

เสียงสั่นไหวยังคงดังก้องทั้งลานกว้าง ผู้คนต่างจับจ้องเหลิงหวนที่ไร้ซึ่งศีรษะ ภายในใจพวกเขา เวลานี้อัดแน่นด้วยความหวาดกลัวเข้าเกาะกุม

“ศิษย์สำนักอสูรที่ครอบครองร่างอสูร กระนั้นศีรษะกลับระเบิดง่ายดายเพียงนี้!”

“ฉินหยุน... นี่เจ้า... โหดเหี้ยมได้ใจข้านัก!” เจี้ยนหนันหู่ขมวดคิ้วกล่าวคำอย่างผ่าเผย “เป็นข้าปรามาสเจ้าไป!”

เหลิงหวนสิ้นชีวิต ผู้คนของสำนักกระหายโลหิตต่างมีโทสะ กระนั้นพวกเขาย่อมพบเห็นว่าเจี้ยนสือเทียนและเปาเฉิงโฉ่วอยู่ใกล้เคียง ดังนั้นจึงไม่อาจกล้าลงมืออันใดต่อฉินหยุน!

ใบหน้าผู้คนของตำหนักจารึกเทวะและตำหนักโทเทมต่างตึงเครียด พวกเขาแทบไม่อาจคาดเดากำลังของฉินหยุน หากศิษย์พวกเขาต้องเผชิญหน้าฉินหยุน เช่นนั้นก็มีโอกาสสูงล้ำที่จะถูกสังหาร

ฉินหยุนที่ได้รับชัยชนะจึงค่อยเดินลงจากลานประลองยุทธ์

ก่อนหน้านี้ เขาหายไปโดยใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง หลบซ่อนตนเองอยู่เบื้องล่างลานประลองยุทธ์ จากนั้น เมื่อเหลิงหวนโดนหันเหความสนใจ เขาจึงใช้วิชายุทธ์โทเทมต้นไม้ ปลดปล่อยกรงเล็บพฤกษาออกมาพันธนาการเหลิงหวน พร้อมปรากฏตัวรวดเร็วใช้ดัชนีทะลวงฟ้าสังหารอีกฝ่าย

“ฉินหยุน เจ้าช่างมีเคล็ดวิชาเก็บไว้มากมายนัก! แต่อย่าได้ยินดีไป ข้าย่อมต้องเอาชนะเจ้าได้!” เจี้ยนหนันหู่หัวเราะดัง “ต่อหน้าพลังอันไร้เทียมทานของข้า อุบายของเจ้าก็มีไว้ได้แค่หลอกเด็ก!”

ฉินหยุนยิ้มตอบ ก่อนจะหันมองไปยังลานประลองที่สิบ เชี่ยวเย่ว์หลานอยู่กลุ่มที่สิบ ตอนนี้เป็นคราวที่นางต้องขึ้นประลองแล้ว

เย่ว์ผูเฟิง หลงเฉียวเฟิง และเจี้ยนรั่วหยานล้วนทราบว่านางเป็นภรรยาฉินหยุน พวกเขาต่างทราบว่าเชี่ยวเย่ว์หลานคือผู้สังหารศิษย์ร่างเซียน ทั้งยังแข็งแกร่งมากล้ำ กระนั้นพวกเขาก็หาได้เปิดเผยข้อมูลนี้ออกไปไม่

คู่ต่อสู้ของเชี่ยวเย่ว์หลาน เป็นศิษย์ร่างมาร ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายท่อนบนยังมีโทเทมเผยออกเด่นชัด นับตั้งแต่ใบหน้าจนถึงปลายนิ้ว ทั้งหมดล้วนถูกปกคลุมด้วยอักขระโทเทมหนาแน่น

มองเพียงครั้งเดียว ย่อมกล่าวได้ว่าอีกฝ่ายเป็นศิษย์ของตำหนักโทเทม

“ศิษย์เกาะจันทราปีศาจ แม้ปิดบังเอาไว้ครึ่งใบหน้า กระนั้นพวกเราย่อมพบเห็นว่าเป็นโฉมงามที่เหนือล้ำ”

“ดวงตาของนางงดงามนัก หากเย็นชาน้อยกว่านี้คงเลิศล้ำ!”

“โฉมงามที่แท้จริง แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับเฮ่ยเถิงแห่งตำหนักโทเทม แม้เป็นในตำหนักโทเทม อีกฝ่ายก็ยังเป็นตัวตนชวนสะพรึง”

“เกาะจันทราปีศาจส่งศิษย์เข้าร่วมเพียงหนึ่งงั้นหรือ? ไม่ทราบว่านางแข็งแกร่งเพียงใด กระนั้นร่างกายกลับเลิศล้ำนัก!”

ผู้คนคล้ายสนใจศิษย์ผู้นี้ของเกาะจันทราปีศาจกันอย่างล้นหลาม

เชี่ยวเย่ว์หลานสวมใส่ชุดรัดรูปสีดำ นางเดินเชื่องช้าขึ้นลานประลอง ดวงตาเย็นเยือกของนางที่ปรากฏ ทำให้ผู้ที่รับชมต่างได้ทราบว่านางมีใจสงบนิ่งเพียงใด

ได้เห็นเช่นนี้ ภายในผู้คนต่างต้องอึ้งทึ่ง

เพราะเฮ่ยเถิงจากตำหนักโทเทมเป็นตัวตนเลิศล้ำ ร่างกายแข็งแกร่ง กล้ามเนื้อหนาใหญ่คล้ายปูดบวมออกมา ทั้งยังมีเส้นเลือดที่ดูชั่วร้ายปรากฏเด่นชัด รวมเข้ากับโทเทมเต็มร่าง ยิ่งทำให้เขามีรูปลักษณ์ชวนสะพรึง

ไม่ต้องกล่าวถึงสตรี แม้เป็นบุรุษหากต้องเผชิญหน้ากับเฮ่ยเถิงแห่งตำหนักโทเทม แข้งขาก็คงอ่อนยวบกันหมดสิ้นแล้ว

“ฉินหยุน นางชนะได้หรือไม่?” เจี้ยนรั่วหยานเดินไปพลางถามเสียงเบา

“กระทั่งว่าเป็นเจ้าสิบคน ก็ยังไม่อาจเทียบนางได้!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

“เจ้าปรามาสข้าเกินไปแล้ว!” เจี้ยนรั่วหยานคำรามเบา

นางและเชี่ยวเย่ว์หลานเคยพบเจอกันมาก่อน และได้ทราบว่านางงดงามเลิศล้ำเพียงใด และฉินหยุนยังมีความรู้สึกให้แก่นางอย่างลึกล้ำ

ฉินหยุนกล่าวว่าภรรยาแข็งแกร่งเพียงใด เจี้ยนรั่วหยางถึงไม่คิดตอแยถามอีก เป็นนางรู้สึกไม่พอใจทว่าก็ต้องยอมรับ

เจี้ยนสือเทียนเดินไปยังกลุ่มคนของเกาะจันทราปีศาจกล่าวคำเสียงเบา “แม่เฒ่าหยุนเหยา คู่ต่อสู้ของเด็กสาวเชี่ยวเย่ว์หลานผู้นั้นไม่อ่อนด้อย ไม่กลัวสูญเสียนางไปหรือไร?”

ครึ่งเซียนจากเกาะจันทราปีศาจเป็นแม่เฒ่าที่เข้มงวดผู้หนึ่ง นางสวมใส่ชุดขาวและเสื้อคลุมดำ ในมือของนางคือไม้เท้ากระดูก ร่างนั้นค่อนข้างสูง กระทั่งสูงและกำยำกว่าเจี้ยนสือเทียนด้วยซ้ำ

“ไม่เป็นไร! เจี้ยนสือเทียน ที่นี่คือพื้นที่ของเจ้า เจ้าสมควรสะกดโทสะของตำหนักโทเทมได้กระมัง?” แม่เฒ่าหยุนเหยากล่าวคำ

“นี่เจ้าหมายความถึงเด็กสาวนั่นสามารถสังหารเฮ่ยเถิงหรือ?”

เจี้ยนสือเทียนพลันมองที่เชี่ยวเย่ว์หลานบนลานประลองยุทธ์ คิ้วของเขาต้องขมวดแน่น ก่อนหน้านี้เขาได้พิจารณาเชี่ยวเย่ว์หลานดีแล้ว กระนั้นกลับไม่พบอันใดพิเศษจากนาง

“สังหารศิษย์ร่างเซียนทั้งสี่ของตำหนักเซียนดาบของเจ้ายังไม่ใช่ปัญหา ทว่านางย่อมต้องมีเมตตาแก่ศิษย์ของเจ้า!” แม่เฒ่าหยุนเหยาเผยยิ้มบางกล่าวคำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด