ตอนที่แล้วตอนที่ 6 : คำขอของปู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 : ความมหัศจรรย์ของร้านค้า

ตอนที่ 7 : กลายเป็นคนเหมือง !!


ฟ่านหลินตัดสินใจที่จะขุดเหมืองเพื่อหาแร่มาเตรียมพร้อมในการสร้างโฮมุนครุส ฟ่านหลินขับรถลงจากเขาไปที่ตลาดเพื่อหาซื้ออุปกรณ์ในการขุดเหมืองหลังจากที่ฟ่านหลินได้ลองค้นภายในบ้านเพื่อหาสิ่งของที่ปู่เหลือทิ้งไว้ให้เผื่อจะมีเบาะแสหรือคำแนะนำในการดูแลสวนเขาก็พบเข้ากับสมุดบัญชีของคุณปู่ที่ถูกโอนในชื่อของเขาซึ่งในนั้นมีเงินฝากอยู่จำนวนหนึ่งด้วยนิสัยของคุณปู่ที่เป็นคนติดดินจึงไม่ได้มีเงินในบัญชีมากนักแต่ก็เพียงพอในการซื้อสิ่งต่างๆ และให้ฟ่านหลินใช้ชีวิตอยู่ได้อีกหลายเดือนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน

หลังจากถอนเงินออกมาจำนวนหนึ่งฟ่านหลินก็ขับรถไปที่ร้านค้าอุปกรณ์ช่างเพื่อเสาะหาอุปกรณ์ ในขณะที่กำลังเลือกซื้ออยู่นั้นฟ่านหลินก็ถามกับเจ้าระบบ

''นี่เจ้าระบบฉันควรจะเตรียมตัวอะไรบ้างในการเข้าเหมือง ?''

เจ้าระบบก็ตอบกลับว่า

[ นายท่านควรจะเตรียมอุปกรณ์เบื้องต้นในการทำเหมืองอย่างเช่น อีเตอร์ และอุปกรณ์เดินป่าอย่างกระติกน้ำ อาหารกลางวันและที่สำคัญอย่าลืมอาวุธด้วยนะนายท่าน ]

( ไอ้ Pickaxe แปลไทยๆ บ้านๆ มันคืออีเตอร์หรือพลั่วหว่าคนรู้บอกทีนะครับ )

ฟ่านหลินที่ได้ยินก็พยักหน้าก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่เขาสงสัย

''อย่างอื่นฉันพอเข้าใจนะ แต่ไอ้อาวุธนี่จำเป็นด้วยเหรอ ? แค่ไปขุดแร่เองนะ''

[ จำเป็นสินายท่านภายในเหมืองไม่ได้มีเพียงแค่แร่นะ ยังมีมอนสเตอร์และสัตว์ดุร้ายอย่างอื่นอีกด้วย ]

ฟ่านหลินที่ได้ยินก็คิ้วกระตุกทันทีก่อนจะถาม

''แกแน่ใจนะว่านั่นคือเหมือง ?''

[ แน่นอนที่สุดนายท่าน ]

หลังจากฟังคำตอบที่สุดแสนมั่นใจของเจ้าระบบฟ่านหลินก็กุมขมับก่อนจะเดินเลือกซื้อของและหอบขึ้นรถ โชคดีที่เขานั้นมีฟังชั่นกระเป๋าของระบบทำให้ไม่ต้องคอยแบกของหนักๆ อยู่ตลอดเวลาแต่การที่จะใช้ต่อหน้าคนมากมายก็ดูจะเกินไปเสียหน่อย

ต่อจากร้านอุปกรณ์ช่างฟ่านหลินก็มาถึงร้านขายของเดินป่าเพราะพื้นภูเขาจือหยวนนั้นเป็นสวรรค์ของนักเดินป่าการหาร้านขายของสำหรับเดินป่าจึงไม่ยากนัก ฟ่านหลินซื้อกระติกน้ำขนาดใหญ่และของใช้จำเป็นต่างๆ รวมไปถึงมีดเดินป่าและมีดมาเชเต้อีกด้วย

หลังจากเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วเทียนหลางก็เดินมาทางเหนือของแอ่งจันทรา ไม่นานนักฟ่านหลินก็มาถึงตรงหน้าของเหมืองเขาถอนหายใจออกมาก่อนจะเปิดไฟฉายที่หมวกของเขาพร้อมกับเดินเข้าไปด้านในซึ่งระหว่างทางเขาก็ถามเรื่องเหมืองกับเจ้าระบบ

''นี่เจ้าระบบเหมืองที่นี้มีลักษณะเป็นยังไง ?''

[ เหมืองแห่งนี้มีลักษณะเป็นทางเดินตรงยาวลึก และถูกแบ่งเป็นชั้นๆ ระหว่างทางจะมีแร่อยู่ตามผนังและทางเดิน และนายท่านก็อาจจะพบกับมอนสเตอร์และสัตว์ประหลาดดุร้ายอีกด้วยนะ ยิ่งนายท่านลงไปชั้นที่ลึกเท่าไหร่ก็จะยิ่งพบพวกมันมากขึ้นอีกด้วยแต่นายท่านก็จะพบแร่ล้ำค่าเป็นจำนวนมากเป็นสิ่งตอบแทน ]

เมื่อฟ่านหลินได้ยินเขาก็พยักหน้าก่อนจะถามกับเจ้าระบบ

''แกบอกว่ามีมอนสเตอร์กับสัตว์ประหลาดในเหมืองสินะ แล้วฉันจะสู้กับมันยังไงกันละฉันก็แค่เป็นไอ้หนุ่มที่วันๆ อยู่แต่หน้าคอมฯ เคยออกกำลังกายก็แค่ว่ายน้ำตอน ม.4 เท่านั้นแถมอาวุธก็ยังมีแค่มีด 2เล่มอีก''

เจ้าระบบที่ได้ยินก็ตอบกลับ

[ นายท่านไม่ต้องห่วงเมื่อนายท่านอัพระดับของระบบจนถึงระดับ 2 ฟังชั่นร้านค้าก็จะเปิดให้ใช้งานได้และด้านในร้านค้าก็จะขายสิ่งต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ต่างๆ อุปกรณ์ที่จำเป็น สิ่งก่อสร้าง หรือแม้แต่เม็ดยาเสริมสร้างร่างกายกับทักษะต่างๆ อีกด้วย ]

เมื่อฟ่านหลินได้ยินก็งุนงงเล็กน้อย แต่ก่อนที่เขาจะถามอะไรเขาก็สังเกตุเห็นว่าก้อนหินใหญ่ด้านหน้านั้นมีแสงระยิบระยับปรากฏอยู่ เมื่อฟ่านหลินเข้าไปมองใกล้ๆ ก็พบว่ามันเป็นแร่ทับทิมเขาตกใจไม่น้อยและพบว่าราคาทับทิมในตลาดตอนนี้แพงเป็นอย่างมาก กรัมนึงตกเกือบพันดอลลาร์เลยทีเดียว

( ไม่ต้องงงกับหน่วยเงินนะครับผมจะใช้เพียงแค่ ดอลลาร์ เท่านั้นเพราะขี้เกียจเทียบหน่วยเงินแต่อาจจะคิดใหม่ในภายหลัง )

ฟ่านหลินไม่รอช้าหยิบอีเตอร์จากในกระเป๋าออกมาขุดมันทันที ระหว่างขุดเขาก็เอ่ยถามกับเจ้าระบบ

''นี่เจ้าระบบ ที่นายบอกว่าเม็ดยาเสริมร่างกายกับทักษะนี่ที่มันเหมือนกับในเกมส์หรือนิยายใช่รึเปล่าแบบหมัดตั๊กแตน เพลงกระบี่เดียวดาย อะไรทำนองเนี้ย''

[ ถูกต้องแล้วนายท่าน แต่มันไม่ถึงขั้นเหมือนกับในนิยายนะนายท่านทักษะต่างๆ จะถูกอ้างอิงจากในประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ยกตัวอย่างเช่น เพลงหมัดของเส้าหลินหรือทักษะการใช้กระบี่ และยังมีทักษะพื้นฐานอย่างเช่น การใช้มีด การใช้ปืนอีกด้วย แต่หากนายท่านอยากได้อะไรแบบนั้นจริงๆ นายท่านก็ต้องยกระดับของร้านค้าเสียก่อน ]

''มีอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ ?''

[ ถูกต้องแล้วนายท่าน อืม... จะให้ข้าอธิบายอย่างก็เหมือนกับนายท่านขยายร้านค้านั่นแหละเมื่อนายท่านอัพระดับของร้านค้าสิ่งของที่ขายก็จะมีเพิ่มมากขึ้น แถมนายท่านยังขายของได้แพงมากขึ้นอีกด้วย ]

''งั้นก็แปลว่าสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ก็ยกระดับได้งั้นสิ ?''

[ ปิ๊งป๋อง !!! ถูกต้องแล้วนายท่าน ]

ฟ่านหลินยกอีเตอร์สับก้อนหินอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนจะหอบหายใจพร้อมกับถามกับระบบ

''นี่เจ้าระบบ ฉันจะแยกระหว่างแร่กับหินธรรมดาได้ยัง ?''

[ นายท่านสามารถแยกมันได้ด้วยการสังเกตุด้วยการช่วยเหลือจากระบบเมื่อนายท่านพบแร่บริเวณรอบๆ ของมันจะส่องกระจายเล็กน้อยเพื่อบอกให้นายท่านได้รู้ถึงตำแหน่งของมัน แต่ถึงอย่างงั้นนายท่านก็ต้องมองมันในระยะประมาณ 2-3 เมตร ]

ฟ่านหลินพยักหน้าเข้าใจก่อนจะมุ่งมั่นขุดแร่ต่อไป ไม่นานนักหินก้อนโตก็แตกกระจายเผยให้เห็นก้อนทับทิมขนาด 10 เซนฯ ฟ่านหลินถือมันด้วยมือสั่นเทาจากความเหนื่อยล้าก่อนจะบ่นพึมพำออกมา

''ฉันรู้แล้วละว่าทำไมคนงานขุดเหมืองส่วนใหญ่ถึงกล้ามโตตัวเท่าวัวเท่าควายแบบนั้น''

เจ้าระบบที่ได้ยินเจ้านายของมันบ่นก็พูดออกมา

[ ไม่ต้องห่วงหรอกนะนายท่าน ต่อให้นายท่านขุดเหมืองไปตลอด 30 ปีนายท่านก็ไม่ตัวใหญ่ขนาดนั้นหรอก อย่างมากก็มีกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งเหมือนนักกีฬาเท่านั้นแหละ ]

''ทำไมหล่ะ ?''

[ เพราะเม็ดยาที่นายท่านกินไปก่อนหน้านี้ยังไงละ ! ]

''เม็ดยา ?''

ฟ่านหลินงุนงงเล็กน้อยก่อนจะนึกย้อนกลับไปว่าเขาได้ยินเม็ดยาพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ไม่ว่าเขาจะนึกยังไงก็นึกไม่ออกจนจำได้ว่ามียาชนิดหนึ่งที่มันแนบมากับจดหมายของปู่ของเขาก่อนหน้านี้ที่ทำเอาเขาถึงกับล้มลงไปกองกับพื้นหลังจากที่กินมัน ฟ่านหลินคิดว่าคงเป็นเจ้ายาอันนั้นแน่ๆ

ในขณะที่ฟ่านหลินกำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้นเจ้าระบบก็ร้องเตือนขึ้นมาทันที

[ ระวังด้วยนะนายท่านข้างหน้ามีมอนสเตอร์ ]

''มอนสเตอร์ ?!''

ฟ่านหลินพูดออกมาด้วยความตกใจ แต่เขาก็ยังคงเดินหน้าต่อไปเพราะเขาอยากจะเห็นเจ้ามอนสเตอร์ที่เจ้าระบบว่า ว่ามันจะมีหน้าตาเป็นยังไงฟ่านหลินชักมาเชเต้ออกมาจากกระเป๋าก่อนจะเดินออกไปด้านหน้าด้วยความระมัดระวัง ในที่สุดฟ่านหลินก็พบเจอกับมอนสเตอร์ที่ว่าทันทีที่เขาพบมันเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

เพราะเจ้ามอนสเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้นเป็นสไลม์ตัวสีเขียวที่ดูจากภายนอกนั้นน่ารักนุ่มนิ่มเป็นอย่างมาก ทั้งคู่จ้องมองกันอยู่สักพักจากนั้นฟ่านหลินก็ถามกับเจ้าระบบ

( นึกถึงสไมล์ใน Maple Story เอาแล้วกัน )

''นี่นะเหรอมอนสเตอร์ของนาย ?''

[ ถูกแล้วนายท่าน ]

''มันคือสไลม์ไม่ใช่เหรอ ?''

[ ถูกต้องนายท่าน ]

''มันดุร้ายใช่ไหม ?''

[ ใช่แล้วนายท่าน ]

''ฉันควรจะระวังมันใช่ไหม ?''

[ ถูกต้องที่สุดนายท่าน ]

''แต่ดูยังไงมันก็ไม่น่าจะดุร้ายเลยนะ''

[ อย่าไปโดนรูปร่างภายนอกของมันหลอกลวงสินายท่าน แม้ภายนอกจะดูนุ่มนิ่มแต่การโดนมันชนสักทีอาจทำให้นายท่านซี่โครงแตกได้เลยนะ ]

ฟ่านหลินที่ได้ยินก็ถึงกับกลืนน้ำลายทันที ซี่โครงแตก ? นี่มันเหมือนกับการถูกรถชนเลยนี่หว่า ? ฟ่านหลินเริ่มระวังตัวพร้อมกับจ้องมองมันทั้งคู่จ้องมองกันอยู่สักพักก่อนที่มันจะกระเด้งกลับตัวและกระเด้งดึ๋งๆ กลับเข้าไปในความมืด ทำเอาฟ่านหลินถึงกับใบ้กินไปหลายวิก่อนที่จะถามกับเจ้าระบบ

''นี่มันหมายความว่ายังไง ?''

เจ้าระบบก็ตอบกลับด้วยด้วยไม่แน่นอน

[ ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนายท่าน บางทีมันอาจไม่อยากสู้กับนายท่านก็ได้ ]

''มันมีความคิดด้วย ?''

[ แน่นอนสินายท่าน ถึงมันจะเป็นสไลม์มันก็ไม่ได้โง่นะนายท่าน ]

''นั่นสินะ แล้วในเหมืองมีมอสเตอร์แบบอื่นนอกจากสไลม์ไหม ?''

[ แน่นอนนายท่านมีทั้งค้างคาว หนู งู จระเข้ และอื่นๆ อีกเยอะเลยละ ]

ทันทีที่ได้ยินฟ่านหลินก็อยากจะยกเลิกและกลับไปปลูกผักเหมือนเดิมสะเดียวนี้เลย แต่คำพูดต่อมาของเจ้าระบบก็ทำให้ฟ่านหลินเบาใจขึ้นได้บ้าง

[ แต่นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงพวกมันอยู่ชั้นล่างๆ กันทั้งนั้น ]

ฟ่านหลินถอนหายใจออกมาก่อนหันไปขุดแร่ต่อ ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาฟ่านหลินก็จัดการขุดแร่ไปหลายจุดพร้อมกับก้อนที่อัดแน่นอยู่ในกระเป๋าเขาทิ้งตัวลงกับพื้นก่อนจะหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนพร้อมกับเช็คแร่ในกระเป๋า

เพียงไม่กี่ชั่วโมงฟ่านหลินก็สามารถขุดแร่ได้เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น เหล็ก ทองแดง ทับทิม มรกต ตะกั่ว หยก และยังมีแร่เชื้อเพลิงบางชนิดอีกด้วย แม้ฟ่านหลินจะไม่ได้เรียนเรื่องธรณีวิทยาเขาก็ยังพอรู้ว่าแร่แต่ละชนิดอยู่ในชั้นหินและพื้นที่ๆ แตกต่างกัน แต่ทำไมในเหมืองนี้กับพบแร่ชนิดต่างๆ อยู่รวมกันแบบนี้

ฟ่านหลินอยากจะคิดถามหาเหตุผลแต่พอลองคิดถึงเจ้ามังกรที่นอนอยู่ในภูเขาไฟข้างใต้นี้เขาก็เลิกคิดที่จะหาเหตุผลในทันที และที่เซอร์ไพรส์เขาไม่น้อยก็คือฟ่านหลินพบก้อนทองอีกด้วย จากที่เจ้าระบบบอกมีโอกาสไม่ถึง 10% ที่เขาจะพบทองหรือเพชรในชั้นบนๆ แบบนี้นี่แปลว่าฟ่านหลินโชคดีไม่น้อยเลยทีเดียว

ด้วยการที่เขาพบก้อนทองคำทำให้กำลังใจไม่ในการขุดแร่ของเขาเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่า ตลอดทั้งวันฟ่านหลินหมกตัวอยู่ในเหมืองเพียงอย่างเดียวในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นคนงานเหมืองที่เก่งกาจไปเสียแล้ว

( ลืมบอกว่าเจ้าระบบมันพูดได้นะครับ ไม่ใช่หน้าต่างคำพูดโง่ๆ แล้ว )

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด