ตอนที่แล้วเล่ม1 : บทที่ 12 – รอยยิ้ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม1 : บทที่ 14 – คำโกหก

เล่ม1 : บทที่ 13 – ความสำเร็จเล็กๆ


กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 13 – ความสำเร็จเล็กๆ

ชีวิตอันแสนสงบสุขในคฤหาสน์เขตนอกของตระกูลบัลวัน สิ่งที่ประหลาดเพียงเรื่องเดียวก็คือการที่เด็กตัวน้อยๆ คนหนึ่งเดินทางไปยังตึกผู้พิทักษ์ในทุกๆ สัปดาห์

ในช่วงแรก เขามักจะออกมาจากตึกพร้อมกับรอยฟกช้ำตามเนื้อตัวแต่เมื่อเวลาผ่านไป บาดแผลตามร่างกายของเขาเลือนหายไปและเกิดแรงดันจางๆ ขึ้นรอบตัวเขา

วันนี้เด็กคนเดิมที่จะพบเห็นเขาในทุกๆ เช้าตรู่ เนื่องจากเขากำลังมุ่งหน้าไปยังตึกผู้พิทักษ์

‘ตั้งแต่โดนตีมาครั้งที่แล้ว ก็เหลืออีกแค่สองบทเรียนสินะ เกรงว่าการฝึกฝนของอาจารย์วันนี้จะยกระดับความยากขึ้นไปอีก’

นับตั้งแต่บทเรียนที่สอง วิลเลียมก็คอยฝังรูปแบบศิลปะการต่อสู้ลึกลงไปในจิตใจของโนอาห์ หลังจากปรับปรุงมาตลอดสามเดือน เคล็ดวิชาของโนอาห์ก็ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นวิลเลียมจึงยกระดับการฝึกฝนให้สูงขึ้น พวกเขาเริ่มจากการต่อสู้กันอย่างอิสระ ส่วนวิลเลียมจะรั้งตัวเขาเองเพียงเพื่อยกระดับเมื่อโนอาห์สามารถโจมตีเขากลับได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง ตอนนี้ โนอาห์บรรลุเงื่อนไขถึงสองแล้วก็ตาม แต่อาจารย์ของเขาก็ยังคงเพิ่มระดับการฝึกฝนให้มากขึ้นกว่าเดิมอยู่ดี

เมื่อเข้ามาในห้องเดิม โนอาห์ก็รู้สึกประหลาดใจที่พบอาจารย์ของเขากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นห้องรอเขาอยู่

ไม่มีสภาพของวิลเลียมผู้เซื่องซึมอย่างเดิมให้เห็น เขากำลังจ้องไปที่จุดหนึ่งของห้องด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า อาจจะกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจก็เป็นได้

“ท่านอาจารย์มาเร็วนะขอรับ!”

ดวงตาของวิลเลียมกลับคืนสู่สมาธิ ขณะเขาลุกขึ้นยืนและมองศิษย์ด้วยสีหน้าอารมณ์ที่ซับซ้อน

“เจ้าใช้”ลมหายใจ“กับรูปแบบของเจ้าได้หรือยัง?”

โนอาห์ผงะกับคำถาม

เนื่องจาก “ลมหายใจ” ในร่างกายของเขามอยู่อย่างจำกัด อาจารย์ของเขามักจะไม่ยอมให้เขาปล่อยมันออกมาระหว่างที่พวกเขาสู้กันหรืออยู่ในระหว่างการฝึกฝนส่วนตัวอยู่เสมอ ตารางฝึกของโนอาห์แน่นขนัดจนเขาไม่มีเวลาที่จะเติม ลมหายใจ ให้กลับมาเต็มด้วย เคล็ดการหมุนเวียนน้ำแข็งและไฟ ได้ อาจารย์ของเขาทราบเรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงอนุญาตให้ใช้และมันได้บำรุงรักษาร่างกายของเด็กหนุ่มผู้นี้ เช่นนั้น โนอาห์จึงทำได้เพียงใช้มันระหว่างการฝึกฝน โดยที่ห้ามปล่อยมันออกมา แต่วันนี้กลับต่างออกไปจากเดิม

“ข้าคิดว่าข้าทำได้แล้ว แม้ว่าจะยังไม่เคยใช้กับการต่อสู้จริงๆ ก็ตาม แต่ข้าจะลองพยายามใช้มันสักครั้งสองครั้ง ท่านถามทำไมหรือ?”

วิลเลียมยิ้มจางๆ เผยให้เห็นถึงความอบอุ่นที่แสดงออกมาผ่านทางสีหน้า

ในช่วงระหว่างหลายเดือนที่ผ่านมา เขาเริ่มเข้าใจในตัวศิษย์ได้ดีมากขึ้น เขามักยิ้มและพูดออกมาที่ดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรมากเสมอ แต่เขาก็รู้ดีว่าทุกอย่างเป็นอย่างไร โนอาห์ใจร้าย เขาปฏิบัติต่อร่างกายและจิตใจของเขาเองเหมือนกับแท่งเหล็กที่ถูกโยนเข้าไปในเตาหลอม หากร่างกายของเขาไม่โค้งงอได้รูป เขาก็จะลงค้อนกับร่างกายจนกว่าร่างกายจะได้รูปที่เหมาะสม โดยไม่สนใจว่าร่างกายจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดมากแค่ไหน หากจิตใจเขาอ่อนแอ เขาก็จะเพิ่มความร้อนจนกว่าผลกระทบของมันจะก้องกังวานไปทั่วทั้งร่างกาย เป็นเหตุให้เกิดความรู้สึกคลื่นเหียนซ้ำๆ

เขารู้ดีว่าโนอาห์ฝึกฝนมากแค่ไหน และรู้ดีว่าเขามีความตั้งใจในการแสวงหาพลังมากแค่ไหน เช่นนั้น วิลเลียมจึงไม่สามารถมอบความรักไคร่หรือแม้แต่ความเคารพให้กับเขาได้

‘เจ้าเด็กนี่พูดว่าจะลองดูสองสามครั้ง หรือจริงๆ แล้วเขารู้ว่ามันต้องว่ามันต้องลองกี่ครั้ง? ช่างน่าเวทนา หากเขาไม่ได้อยู่ในฐานะนี้ ทุกอย่างคงเป็นไปด้วยความเรียบง่ายและคงมีอนาคตที่สดใสกว่านี้ ด้วยความสามารถและความเพียรที่เด็กคนนี้มี ตัวแปรก็มีเพียงแค่เวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะเหนือกว่าข้า แต่คนในเขตในจะไม่มีวันยอมให้ผู้ใดก็ตามจากนอกตระกูลแข็งแกร่งเกินหน้าเกินตา โดยเฉพาะผู้ที่อาจมีความคิดที่อยากจะล้างแค้นพวกเขาเช่นเด็กคนนี้’

สีหน้าที่ดูซับซ้อนปรากฏบนใบหน้าของวิลเลียมเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเขาถอนหายใจออกมา

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าผ่านมานานเท่าใดแล้วตั้งแต่ที่เราพบกันครั้งแรก?”

โนอาห์คิดครู่หนึ่งจากนั้นก็เริ่มตระหนักถึงคำถาม

เขาหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนอย่างจริงจังจนไม่ได้คำนึงถึงวันเวลาที่ล่วงเลยไป แต่เมื่ออาจารย์ของเขาตั้งคำถามขึ้นมา ก็ทำให้เขาได้เข้าใจ

“ถูกต้อง เกือบหกเดือนแล้ว และความก้าวหน้าเรื่องพลังงานจิตของเจ้านั้นไปไกลเกินกว่ามาตรฐานที่ข้าตั้งไว้ตอนเริ่มเสียอีก สัปดาห์หน้าเราจะเริ่มการรักษา เช่นนั้น”ลมหายใจ“ในร่างกายของเจ้าจะไม่ถูกนำมาใช้อีกต่อไป มันจะดีกว่าหากเราเริ่มต้นด้วยศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงเพื่อให้เกิดประโยชน์หากเจ้าเอาชีวิตรอดไปจนถึงสัปดาห์หน้าได้”

สีหน้าของโนอาห์เริ่มตึงเครียด

‘ถึงเวลาที่ต้องเจอของจริงแล้วสินะ ชีวิตที่ฉันมีอยู่นั้นสมบูรณ์แบบเกินไปที่จะดำเนินต่อ ฉันเกือบจะลืมไปว่าฝึกฝนทั้งหมดจะไร้ประโยชน์หากฉันผลักดันร่างกายไปสู่อีกระดับหนึ่ง’

เมื่อคิดเช่นนั้น เขาก็เดินไปยังกำแพงเพื่อหยิบดาบสองเล่มพร้อมจ้องไปยังอาจารย์ด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความแน่วแน่

“ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยเวลาให้สูญเปล่า จริงหรือไม่ท่านอาจารย์?”

รอยยิ้มอ่อนเผยให้เห็นบนใบหน้าของโนอาห์ถูกส่งไปยังจิตใจของวิลเลียม

‘เจ้าเด็กนี่ไม่กลัวตายเลยสินะ’

เขาส่ายหน้าและระงับความคิดและหยิบท่อนไม้ท่อนเดิมและชี้ไปยังโนอาห์

“งั้นเจ้าก็จงเข้ามาเฉกเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ พยายามนำ”ลมหายใจ“เข้ามาผสมร่วมกับการโจมตีด้วย เจ้าน่าจะทำได้ราวสามถึงสี่ครั้งก่อนที่”ลมหายใจ“ในแขนของเจ้าจะหมดไป”

เมื่อได้ยินประโยคเหล่านั้น โนอาห์ก็ไม่คอยท่า เขาพุ่งตรงไปหาวิลเลียมอย่างรวดเร็วด้วยท่าที่ก้มต่ำมากจนคล้ายกับว่าเขาจะล้มลงพื้นได้ทุกเมื่อ

เมื่อเขามาอยู่ในจุดที่เป็นระยะโจมตีของอาจารย์ เขาก็ผลักดาบทั้งสองออกไปในแนวทแยงมุมช้อนขึ้นเหนือศีรษะโดยเสริม “ลมหายใจ” เข้าไปร่วมด้วย

แต่จังหวะถูกยับยั้งและผลลัพธ์เป็นเพียงแค่การยกดาบขึ้นเพื่อฟันธรรมดาเท่านั้น ซึ่งวิลเลียมก็ป้องกันได้อย่างง่ายดายโดยใช้ไม้วางแนวนอน

“เกือบดี อีกรอบ”

โนอาห์พุ่งเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้ใช้การฟันแบบกากบาท แต่ผลลัพธ์กลับเป็นเหมือนเดิม

“สมาธิ! เจ้าเกือบทำได้สมบูรณ์แบบแล้ว และถ้ารู้ว่าเจ้าสามารถเคลื่อน”ลมหายใจ“ตามคำแนะนำได้ เจ้าเพียงแค่ต้องเชื่อมประสานมันเข้าด้วยกันก็เท่านั้น!”

วิลเลียมรู้ว่าการะบวนการเชื่อมประสานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เขาว่า เขาเพียงแค่ต้องการเพิ่มแรงกดดันให้กับศิษย์ของเขาก็เท่านั้น ความคิดเดียวในใจจิตใจของเขาก็คือ ทำอย่างไรที่จะเพิ่มโอกาสการอยู่รอดให้กับลูกศษย์ผู้นี้ เขาต้องการเพิ่มความสามารถในการจัดการ “ลมหายใจ” ที่ดีให้โนอาห์เล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะเริ่มการรักษา

ครั้งนี้โนอาห์ไม่ได้รุดรีบพุ่งตรงเข้ามาโจมตี แต่เขากลับหลับมาเพื่อเพิ่มสมาธิ เขาคิดเพียงอย่างเดียวก็คือ การมีจังหวะที่เป็นจังหวะเดียวกับรูปแบบดาบคู่

เมื่อเขาลืมตา เขาก็พร้อมสำหรับการโจมตีครั้งสุดท้าย

เขาถอนหายใจช้าๆ จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าใส่ลิลเลียมในท่าฟันดาบไปตามแนวนอน

วิลเลียมพยักหน้ารับในใจและรับการโจมตีที่กำลังเข้ามา

เศษไม้กระดอนลงสู่พื้น ส่วนอีกครึ่งที่เหลือคาอยู่ในมือของวิลเลียม

วิลเลียมมองดาบคู่ที่จ่ออยู่ที่คอของเขาด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

‘นั่น... นั่นเป็นกระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมมาก! ข้าเล็งเพื่อให้เขากระแทกกับท่อนไม้ แต่ไม่คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะตัดมันขาดเป็นสองท่อนด้วยอาวุธทื่อๆ เช่นนี้ได้!’

โนอาห์ไตร่ตรองถึงสถานณ์ ณ ตอนนี้ และลังเลที่จะถอนดาบออกจากคอของผู้เป็นอาจารย์ เม็ดเหงื่อเย็นๆ ไหลผ่านหน้าและแผ่นหลังของเขา ชัดเจนว่าการต่อสู้ที่เชื่อมประสานกับ “ลมหายใจ” นั้นเหน็ดเหนื่อยกว่าที่คิด

“ขออภัยท่านอาจารย์! ข้าไม่รู้เลยว่าข้าจะตัดท่อไม้นั่นขาดได้ โชคดีที่ข้าห้ามตัวเองในจังหวะสุดท้ายไว้ได้ทัน”

วิลเลียมกระแอมและคลำจุดที่ดาบสองเล่มอยู่เมื่อครู่นี้

“ไม่... ไม่ต้องคิดมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดว่าอาจารย์ของเจ้าอ่อนแอถึงขั้นที่จะให้ลูกศิษย์ตัวเองทำร้ายได้เลยรึ? เชอะ! ข้ามีร่างกายอันดับสามเชียวนะ เจ้าคิดว่าการต่อสู้อันดับสองที่เสริมด้วย”ลมหายใจ“อันน้อยนิดของเจ้าจะทำอะไร...”

เขาหยุดพูดกลางคันเมื่อเห็นโนอาห์ชี้มาที่คอของเขา หยดเลือดค่อยๆ ไหลลงมาจากตรงจุดนั้นอย่างช้าๆ

โนอาห์กลั้นหัวเราะไม่ไหวเมื่อได้เห็นอาจารย์ของเขาทำหน้าผวาเหมือนคนเจอผี แต่จากนั้นวิลเลียมก็สงบสติอารมณ์และมองโนอาห์ด้วยสีหน้าที่จริงจัง

โนอาห์รู้ดีว่าตอนนี้ถึงเวลาสำหรับการสั่งสอนสุดท้ายก่อนถึงสัปดาห์ถัดไป ดังนั้นเขาจึงฟังอย่างตั้งใจ

“สัปดาห์หน้าไม่ต้องปีนบันไดขึ้นมาที่ชั้นนี้แล้ว ให้รออยู่ชั้นล่าง ข้าจะรอพบเจ้าที่นั่น ข้าจะสอนการรักษาที่อื่นหลังจากที่เสียงกรีดร้องของเด็กๆ จะไม่ใช่เสียงที่ได้ยินแล้วมีความสุขอีกต่อไป”

โนอาห์กลืนน้ำลายเมื่อเขาได้ยินคำว่า “กรีดร้อง” จากนั้นก็กลับมาตั้งใจฟังอีกครั้ง เขาเลือกที่จะนำพาชีวิตไปแขวนอยู่บนเส้นด้าย

“หากเจ้ารอดมาได้ เจ้าอาจจะต้องใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์นอนอยู่บนเตียงเพื่อให้ร่างกายของเจ้าคุ้นเคยกับจุดฝังเข็มจุดใหม่ ฉะนั้นอย่าลืมบอกท่านแม่ของเจ้าไว้ล่วงหน้า วันก่อนการรักษาห้ามเจ้าทำการฝึกฝนใดๆ ทั้งสิ้น และข้าไม่ได้พูดเล่น เพียงเดียวที่เจ้าทำได้คือพักผ่อนและอ่านตำรา การหลอมรวมนรกเจ็ดขั้น เงื่อนไขของเจ้าจะอยู่ในขั้นสูงสุดเมื่อเจ้าผ่านกระบวนการนี้ไปได้”

วิลเลียมมองโนอาห์อีกครั้ง ครั้งนี้มาพร้อมกับรอยยิ้ม

“ทีนี้ก็เลิกได้ เกลาจิตใจให้เฉียบแหลมมากขึ้นเท่าที่เจ้าจะทำได้ สัปดาห์หน้าจะมีเพียงแค่ อยู่ หรือ ตาย เท่านั้น”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด