ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0675 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0677 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0676 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 676 : ไข่มุกพลังเต๋า

ฉินหยุนไม่คิดอะไรมากพลางกล่าว “ข้าไม่ทราบแน่ชัดว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน คิดว่าน่าจะต้องรู้แจ้งและเข้าใจก่อนจึงค่อยสามารถเปลี่ยนจิตของข้าสู่จันทราได้!”

“ก็อาจเป็นเช่นนั้น หากเจ้าสามารถหาตัวหยางฉีเย่ว์ นางจะช่วยเจ้าได้เอง” ปิงชิงกล่าว “พลังจิตของเจ้าถึงอาการตีบตัน ข้าไม่อาจช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อีก การฝึกฝนร่วมคงต้องจบลงที่เท่านี้”

หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อย แสงสว่างวูบจึงปรากฏต่อหน้าสายตาฉินหยุน เขากลับคืนสู่สระเซียนที่เขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์แล้ว

ปิงชิงไม่อยู่ที่นี่ เป็นนางออกไปจากเขตแดนจินตภาพก่อน

ฉินหยุนเร่งรีบออกจากเขตแดนจินตภาพ ตื่นขึ้นในห้องตนเอง

“น่าเหลือเชื่อจริง ๆ เราเข้าไปยังห้วงความฝันของผู้อื่นจากเขตแดนจินตภาพ เป็นความรู้สึกที่ชวนให้น่าทึ่งนัก!”

ฉินหยุนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยังคิดว่าเรื่องราวชวนน่าทึ่งอยู่ดี

“ลึกลงไปในใจนาง ปิงชิงยังคงเชื่อใจเจ้า นอกจากนี้ นางยังมีความรู้สึกให้แก่เจ้าอย่างลึกล้ำ!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะ “เจ้าเล่า มีเจตนาคิดอยากผลักนางกดลงกับพื้นบ้างหรือไม่? นางคือภูติดวงดาวตัวจริงเสียงจริงเลยนะ!”

“อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระ!”

ฉินหยุนที่ลุกขึ้นจากที่นอน เขาจึงเร่งรีบไปชำระกาย จากนั้นค่อยเปลี่ยนเป็นชุดสีน้ำเงิน มุ่งหน้าสู่ตำหนักพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์

เขาเร่งรีบเข้าสู่ภายใน ได้เห็นปิงชิงกำลังนั่งอยู่ข้างสระเซียน นางกำลังดูดกลืนพลังงานเซียนเพื่อฝึกฝน

ฉินหยุนก้าวเดินเข้าไปพร้อมยิ้มกล่าว “พี่สาวปิงชิง ท่านต้องการเม็ดยาพลังเซียนเก้าวิวัฒน์เลยหรือไม่?”

“ไม่จำเป็นแล้ว ข้าสามารถฝึกฝนร่วมกับเจ้า วิธีการนี้รวดเร็วกว่า!” ปิงชิงกล่าว “พวกเราจะฝึกฝนร่วมกันในบรรทมเซียนตะวันจันทรา พวกเราจะไม่ใช้บรรทมเซียนตะวันจันทราเพื่อเข้าสู่มิติกาลอวกาศตะวันจันทรา แต่จะเพียงใช้บรรทมนั่นเพื่อทำให้ดูดกลืนพลังงานเซียนได้มากขึ้น”

“วิเศษ!”

ฉินหยุนรับคำยินดี เขาติดตามปิงชิง จมสู่ด้านล่างสระเซียน เข้าสู่ภายในต้นกำเนิดเซียน และนั่งลงด้วยกันที่บรรทมเซียนตะวันจันทรา

“ข้าจะเริ่มแล้ว!” ปิงชิงยื่นมือของนางออกมา

ฉินหยุนคิดอยากฝึกฝนร่วมกับปิงชิงมาโดยตลอด เพื่อที่จะได้ดูดกลืนพลังเซียนเก้าวิวัฒน์มาบำรุงเลี้ยงร่างกายได้มากขึ้น ตอนนี้ ในที่สุดความต้องการของเขาค่อยได้เป็นจริงแล้ว

ปิงชิงเริ่มใช้งานพระสูตรหัวใจตะวันจันทรา เข้าสู่สภาวะการฝึกฝนร่วมกับฉินหยุน

ฉินหยุนนึกย้อนถึงครั้งแรกที่ตนได้ดูดกลืนพลังต้นกำเนิดเซียน เขาไม่คาดคิด ว่าอัตราการดูดกลืนยามฝึกฝนร่วมนั้นจะเร็วได้มากขึ้นไปอีกหลายเท่า

“นี่คือพลังงานเซียนที่พี่สาวปิงชิงชักนำมา พวกเจ้าทั้งสองฝึกฝนร่วม ความเร็วมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “เสี่ยวหยุน เจ้าควรคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ดี เมื่อใดนางฝึกฝนร่วมกับเจ้าสักชั่วระยะเวลาหนึ่ง นางคงไม่คิดต่อต้านเจ้าอีก ถึงตอนนั้นค่อย... หึหึหึ”

“เจ้าเลิกพูดกล่าวเช่นนั้นได้แล้ว!”

ฉินหยุนสบถเบา เขาไม่ทราบเลยว่าตนเองมีวิญญาณเต๋าเช่นนี้ได้อย่างไร นางเป็นภูติน้อยที่งดงาม กระนั้นกลับเอาแต่หยอกเย้าเรื่องเช่นนี้ต่อเขาไม่หยุดหย่อน

ฉินหยุนสัมผัสได้ ว่าพลังงานเซียนปริมาณมหาศาลได้ไหลหลั่งสู่ในกาย จากนั้นด้วยวิญญาณเทวะเก้าตะวัน เขาจะแปรเปลี่ยนพลังงานเซียน ให้กลายเป็นพลังเซียนเก้าวิวัฒน์อย่างรวดเร็ว ถัดจากนั้นพวกมันจึงค่อยไหลไปยังร่างของปิงชิง และโคจรอยู่ภายในร่างกายของนาง

ทุกครั้งที่มีการถ่ายเท พลังเซียนเก้าวิวัฒน์จะเพิ่มพูนมากขึ้น คุณภาพของมันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหลังโคจรภายในร่างกายของปิงชิง มันจะนำพามาซึ่งพลังงานเซียนแข็งแกร่งปริมาณมากเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายฉินหยุน

การฝึกฝนร่วมในโลกแห่งความจริง พวกเขาต้องมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างใกล้ชิด พวกเขาจะรับรู้ถึงหัวใจที่เต้นอยู่ของอีกฝ่าย นับเป็นความงดงามประการหนึ่งของวิชานี้

หลังจากฉินหยุนและปิงชิงได้ฝึกฝนร่วมกันอยู่หลายวัน ทั้งสองต่างได้ตระหนักว่าสิ่งที่ได้รับช่างมากมายนัก

“หากเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่นานเจ้าก็สามารถฝึกฝนร่างเซียนได้!”

ปิงชิงยังสัมผัสได้ ถึงผลประโยชน์ที่นางได้รับจากพลังเซียนเก้าวิวัฒน์ ดังนั้นนี่จึงถือเป็นผลประโยชน์ที่ได้รับต่อกันทั้งสองฝ่าย

“ได้เวลาที่ข้าจะต้องไปเข้าร่วมงานประลองยุทธ์แล้ว!” ฉินหยุนเผยยิ้มยินดีกล่าวคำ

ปิงชิงนำฉินหยุนออกจากต้นกำเนิดเซียนสู่เบื้องบน

“พี่สาวปิงชิง ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็วอย่างแน่นอน ไม่นานจากนั้น ข้าจะไปยังแดนเซียนอ้างว้างเพื่อช่วยเหลือท่านค้นหาดาวดวงนั้น!” ฉินหยุนกล่าวออกด้วยสีหน้าที่เด็ดเดี่ยว

“ไม่จำเป็น เจ้าเพียงดูแลตนเองให้ดีก็พอแล้ว!” ปิงชิงกล่าวเสียงเย็น

ฉินหยุนไม่ตอบกลับใดอีก เขาเพียงหันกายกลับและเดินออกไปยังประตู

ปิงชิงมองที่แผ่นหลังของฉินหยุนด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นนางจึงถอนหายใจเสียงเบาออกมา

ฉินหยุนเมื่อออกจากตำหนักพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์แล้ว เขาจึงเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังหอใหญ่ของหอพิทักษ์กฎ

ศิษย์หลายคนของหอพิทักษ์กฎต่างอยู่ที่นี่ ความแข็งแกร่งของพวกเขา ต่างอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลางและระดับสูง

เมื่อมาถึง เขาจึงได้เห็นเจี้ยนรั่วหยาน เย่ว์ผูเฟิง และหลงเฉียวเฟิง

“พวกเจ้า... เลื่อนระดับพลังแล้ว?” ฉินหยุนมองที่เจี้ยนรั่วหยานและคณะพร้อมเผยอาการตื่นตกใจ

“แต่เจ้ายังไม่!” เจี้ยนรั่วหยานตื่นตะลึง “ไม่ใช่ว่าเจ้ามีเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดและแก่นเต๋าดวงดาวมากมายหรือไร?”

แม่เฒ่าหม่าและเปาเฉิงโฉ่วอยู่ที่นี่เช่นกัน พวกเขาต่างสัมผัสได้ ว่าฉินหยุนยังอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้น เรื่องนี้ทำเอาพวกเขารู้สึกแปลกใจไม่ใช่น้อย

หากเขาก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลาง และฝึกฝนวิญญาณต้นกำเนิดได้ อย่างนั้นออร่าต้องมีร่องรอยของพลังงานจากวิญญาณต้นกำเนิด

“พลังจิตที่ข้าฝึกฝนค่อนข้างพิเศษ!” ฉินหยุนถอนหายใจกล่าวตอบ “ด้วยเหตุนี้ ข้าก็ยังคงเป็นเช่นเดิม! พวกเจ้าบอกข้าว่าอย่าได้แปรเปลี่ยนจิตสู่จันทรา และขณะนี้ข้าพบว่ามันเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะเลื่อนระดับพลังได้!”

เปาเฉิงโฉ่วกล่าว “ฉินหยุน พิจารณาให้ดีอีกครั้ง หากเจ้าทำลายพลังจิตที่ฝึกฝนตอนนี้ ด้วยท่านผู้อาวุโสสูงสุดช่วยเหลือ เจ้าจะสามารถสร้างพลังจิตขึ้นใหม่ได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง!”

“ข้าขอปฏิเสธ!” ฉินหยุนกล่าว

“ฉินหยุน เจ้ามั่นใจหรือว่าสามารถต้านทานการรุกรานของพลังหยินชั่วร้ายได้?” เจี้ยนรั่วหยานเกิดกังวลห่วงหาขึ้นมา

“แน่นอน ข้ามั่นใจ!” ฉินหยุนยิ้มตอบ “จริงด้วย แล้วเรื่องงานประลองยุทธ์เล่า?”

แม่เฒ่าหม่ากล่าว “กฎมีการเปลี่ยนแปลง พวกเขากล่าวว่าศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้นจำนวนมากตกตาย ดังนั้นศิษย์ที่อยู่ระดับกลางและระดับสูงจึงสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้!”

“อย่างนั้นไม่ใช่ทำข้าเสียเปรียบหรือ?” ฉินหยุนคิ้วขมวดกล่าวคำ

“ฉินหยุน อย่าได้ห่วงไป! ข้าจะเอาชนะพี่หู่และคว้าเอาอันดับหนึ่งมาแทนเจ้าเอง!” เจี้ยนรั่วหยานตบไหล่ฉินหยุนพร้อมกล่าว “จากสถานการณ์ตอนนี้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่มีคุณสมบัติพอเป็นตัวแทนแก่นครเซียนยุทธภัณฑ์เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน!”

ฉินหยุนหันมองทางบรรดาศิษย์ที่อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลางและสูงพลางแค่นเสียงกล่าวคำ “ล้อข้าเล่นหรือ? แม้ข้าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้น ข้าก็ยังสามารถสังหารศิษย์ร่างเซียนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงได้ อย่างนั้นข้าจะไม่เหมาะสมเป็นตัวแทนนครเซียนยุทธภัณฑ์ได้อย่างไร?”

“แต่ศิษย์ร่างเซียนเหล่านั้นหาได้แข็งแกร่งไม่! สาเหตุที่ข้าพ่ายแพ้ต่อศิษย์ร่างเซียนก็เพราะขาดความระวัง ไม่อย่างนั้นแล้ว ข้าย่อมต้องเอาชนะศิษย์ร่างเซียนได้เช่นกัน!” เจี้ยนรั่วหยานแค่นเสียงเบา

แม่เฒ่าหม่ากล่าว “ฉินหยุน เจ้าไม่ต้องกังวลไป ตราบเท่าที่ผ่านการทดสอบของพวกเรา เจ้ายังสามารถขึ้นสู้ได้!”

บรรดาศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลางและสูงของหอพิทักษ์กฎ พวกเขาภาคภูมิในตนเองอย่างถึงที่สุด พวกเขารู้สึกว่าแม้เป็นเจี้ยนรั่วหยาน ก็ยังไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้

“ตำแหน่งมีเพียงสี่!” แม่เฒ่าหม่ากล่าว “วิธีการทดสอบง่ายดาย มันเป็นการทดสอบโดยรวม!”

ฉินหยุนค่อนข้างมั่นใจ

“การทดสอบแรกคือพลังเต๋า! เป็นการตรวจหาความแข็งแกร่งพลังเต๋าของเจ้า!” แม่เฒ่าหม่านำไข่มุกออกมา มันดูอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น

“หากเจ้าบีบไข่มุกนี้อย่างแรง เจ้าจะสามารถทำให้มันเปล่งสีออกมาได้สี่สี มีสีน้ำเงิน สีเงิน สีทอง และสีม่วง อย่างน้อยต้องได้แสงสีทองจึงผ่านการทดสอบ!” แม่เฒ่าหม่ากล่าว

ที่แห่งนี้มีศิษย์ห้าสิบคนรอคอยการทดสอบ พวกเขาต่างเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลางและสูง และยังเป็นคนของหอพิทักษ์กฎ

พวกเขาเริ่มตั้งแถวกันเข้าไปบีบไข่มุกกันทีละคน

ฉินหยุนพบว่าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลางเหล่านี้ ไม่ต่างอะไรกับเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม พวกเขาทำได้เพียงแค่ให้แสงสีเงินสว่างออกมา

ศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงที่พยายามบีบอย่างแรง จึงค่อยทำให้ไข่มุกส่องแสงสีทองออกมาได้

ศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลางกว่าสามสิบคนถูกคัดออก!

ในที่สุดจึงค่อยถึงคราวเจี้ยนรั่วหยาน นางคว้าที่ไข่มุก เผยเสียงเบาจากริมฝีปาก จากนั้นจึงปลดปล่อยพลังเต๋าแรกเริ่มสู่ฝ่ามือ พร้อมบีบอย่างรุนแรงที่ไข่มุกดังกล่าว

ไม่ช้า ไข่มุกได้แปรเปลี่ยนเป็นสีเงิน จากนั้นทีละน้อย มันค่อยเผยสีทองออกมา แสงสีทองสุกสว่างในที่สุดค่อยปรากฏโดยไม่อ่อนด้อยไปกว่าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงเหล่านั้น!

“เจี้ยนรั่วหยานผ่านการทดสอบแรก!” แม่เฒ่าหม่ากล่าวด้วยอาการพึงพอใจ

ใบหน้าเจี้ยนรั่วหยานเผยความภาคภูมิ นางไม่ลืมหันกลับมายิ้มให้ฉินหยุนอย่างพึงพอใจ

บรรดาศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลางต่างรู้สึกอับอาย เพราะเจี้ยนรั่วหยานเพิ่งเลื่อนระดับพลังมา กระนั้นพลังเต๋าของนางกลับไม่อ่อนด้อยไปกว่าพวกเขา!

ถัดจากนั้นจึงเป็นคราวของหลงเฉียวเฟิงและเย่ว์ผูเฟิง แม้พวกเขาเพิ่งเลื่อนระดับพลังมาได้ ก็ยังสามารถทำให้ไข่มุกเปล่งแสงสีทองออกมา กระนั้นระดับความสว่างออกจะด้อยกว่าเจี้ยนรั่วหยาน

“ถึงคราวข้าแล้ว!” ฉินหยุนม้วนแขนเสื้อขึ้นพร้อมหัวเราะเบา “ไม่น่าจะยากอะไร!”

“ฉินหยุน จริงจังหน่อย นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ข้ายังเกือบทำกระดูกหักเพราะออกแรงบีบ!” เจี้ยนรั่วหยานแค่นเสียงบอกออกมา

“ไม่ง่ายเลยสักนิด!” ใบหน้าของเย่ว์ผูเฟิงยังคงซีดเซียว เมื่อครู่เขาทุ่มสุดแรงและระเบิดออกไปในคราวเดียว ยังทำได้เพียงแค่ให้มันส่องแสงสีทองอ่อนจางออกมา

ฉินหยุนเบ้ปากกล่าว “จะอย่างไรข้าก็สังหารศิษย์ร่างเซียนไปไม่ใช่หรือ? บางทีอาจทำไข่มุกนี้แตกก็ได้!”

เจี้ยนรั่วหยานเผยสีหน้าไม่คิดเชื่อ “เจ้าเพียงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้น แข็งแกร่งก็ใช่ แต่ไม่แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น อย่างดีก็ได้เท่าข้าที่ทำให้ส่องแสงสว่างสีทอง!”

“หากข้าบีบไข่มุกนี้ให้กลายเป็นสีม่วง เจ้าต้องเรียกข้าพี่หยุนนับแต่นี้ รวมทั้งเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ค่อนขอดข้าอีก!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

“หากเจ้าทำได้จริง ข้าจะยอมทำตามที่ว่า!” เจี้ยนรั่วหยานยังไม่ยอมรับ นางไม่เชื่อว่าฉินหยุนจะบีบไข่มุกจนแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงได้

ฉินหยุนคว้าไข่มุกเอาไว้พร้อมพ่นลมออกจมูก จากนั้นเขาจึงปล่อยพลังภายในกระดูกวิญญาณ ควบแน่นเป็นพลังเต๋าแรกเริ่มเก้าสมบูรณ์อันแกร่งกล้า

ร่างกายของเขาพลันระเบิดซึ่งออร่า พลังกระจายพัดทั่วทั้งภายในห้องโถง

ไข่มุกดังกล่าว ทันทีได้แปรเปลี่ยนเป็นสีทอง จากนั้น มันค่อยแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง เพียงไม่นาน มันจึงส่องแสงสว่างสีม่วงสุกสว่างออกมา

เส้นผมผู้คนต่างต้องยุ่งเหยิงเพราะแรงพัดพาเมื่อครู่ พวกเขาเวลานี้ยังต้องถลึงตาจับต้องไข่มุกสีม่วงอย่างไม่อาจวางตา!

พลังเต๋าของฉินหยุน ถึงขั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าบรรดาขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูง!

บรรดาศิษย์ที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูง ต่างรู้สึกกันว่าพวกตนฝึกฝนไปอย่างไร้ค่าก็ไม่ปาน

“ฉินหยุน พอได้แล้ว!” แม่เฒ่าหม่าเร่งรีบตะโกน “ไข่มุกนั่นแพงล้ำ และไม่ง่ายสร้างมันขึ้นมา!”

ฉินหยุนจึงหยุดที่เพียงเท่านี้

“โชคดีนักที่ยังไม่แตก!” แม่เฒ่าหม่าเร่งรีบเข้ามาตรวจสอบสภาพไข่มุก

ฉินหยุนปาดเช็ดจมูกตนเองพลางหันมองที่เจี้ยนรั่วหยาน เขายิ้มกล่าว “น้องหยาน พี่หยุนของเจ้าแข็งแกร่งหรือไม่?”

“เจ้า... เจ้าคนโรคจิตวิปริต!” เจี้ยนรั่วหยานหน้าแดงก่ำ นางเชื่อว่าตนเองสามารถเอาชนะฉินหยุนได้หลังก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลาง

กระนั้นนางกลับไม่คาดคิด ว่านางจะต้องพ่ายแพ้ก่อนทันได้ประมือกันจริงเสียอีก!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด