ตอนที่แล้วตอนที่ 38 พวกเจ้าอ่อนแอเกินไป!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 40 เจ้าสำนักเล่ยซาน!

ตอนที่ 39 ความสนใจจากสำนัก!


ก่อนที่ป๋ายเสี่ยวเฟยจะทันได้มองเห็นฝูงชน เขาคิดว่าพวกมันมาเพื่อมอบหินชิงหลัวให้แก่เขา แต่เมื่อเขาเห็นพวกมัน เขาพลันเปลี่ยนความคิดทันที

‘พวกมันมาเพื่อเอาชีวิตข้า!’

เสวี่ยอิ่งยิ่งตอบสนองตรงไปตรงมากว่า นางหยิบเสื้อคลุมที่เป็นสัญลักษณ์ของอาจารย์ออกมาจากแหวนมิติก่อนจะสวมใส่โดยไม่กล่าวคำใด นางได้เปลี่ยนชุดเมื่อครู่เพื่อที่นางจะได้เคลื่อนไหวตามที่อยากได้ และครานี้เป็นเพื่อที่นางจะไม่ต้องเคลื่อนไหว...

แต่ถึงจะเป็นฐานะอาจารย์ของเสวี่ยอิ่ง พวกเขาก็ไม่มีความคิดจะปล่อยเรื่องนี้ไป กลุ่มมากกว่าสามสิบของศิษย์ปีสองล้อมรอบห้องเรียน... ทุกคนล้วนอยู่ในระดับสูง!

“อาจารย์ คาบเรียนได้จบลงแล้วพร้อมกับงานของท่าน ท่านไม่คิดว่า...”

ฉู่หมิงหยวนที่เป็นผู้นำกล่าว หัวหน้าศิษย์ปีสองของเทพในหมู่ปุถุชนและยังเป็นตัวตนที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับชื่อเสียง รอบกายเขามีบรรยากาศคล้ายบัณทิตขณะที่คำพูดแฝงหนามทิ่มแทง แต่เขาร้อยไม่คิดพันไม่คิดว่าคำพูดของเขาจะถูกขัด

แถมยังถูกขัดด้วยความหวาดกลัว!

เสวี่ยอิ่งไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา นางเพียงยืนอยู่เบื้องหน้าฉู่หมิงหยวน แต่จิตสังหารที่นางปลดปล่อยออกมาราวกับก่อตัวขึ้นเป็นรูปธรรมและสิ่งนี้เองที่ทำให้ฉู่หมิงหยวนต้องหยุดพูด

“ระวังคำพูดของเจ้าด้วย หากข้าต้องการข้าสามารถร้องเรียนได้ว่าเจ้ายั่วยุข้า และเจ้าควรรู้ว่าอาจารย์ที่ถูกยั่วยุมีอำนาจอันใดบ้าง!?”

พายุหมุนขนาดเล็กพลันปรากฎขึ้นบนฝ่ามือของนาง ฉู่หมิงหยวนรู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบเหลือเพียงพวกเขาสองคนและไม่ว่าเขาจะไปที่ใดก็ไม่มีทางหนีนางได้พ้น

“หัวหน้าศิษย์! หัวหน้าศิษย์!”

แรงเขย่าของลิ่วล้อที่ติดตามข้างฉู่หมิงหยวนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็สามารถดึงสติฉู่หมิงหยวนกลับมาได้ วินาทีที่เขารู้สึกตัว แผ่นหลังของฉู่หมิงหยวนเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบ!

ในใจของฉู่หมิงหยวนเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เมื่อครู่ เสวี่ยอิ่งเพียงใช้จิตสังหารไร้รูปก็ทำให้เขาเกิดภาพหลอนได้แล้ว! ยิ่งกว่านั้นยังเป็นภาพหลอนที่ทำให้เขาถึงกับสูญเสียจิตนึกคิด

ฉู่หมิงหยวนพลันตกอยู่ในสถานการณ์ยุ่งยากในทันที

เขาไม่มีทางต่อกรกับนางได้ เขาเชื่อว่าหากเขากล้าเคลื่อนไหว เสวี่ยอิ่งต้องโต้ตอบเขาในวินาทีแรกแน่นอน ความเชื่อนี้ราวกับฝังรากไปทั่วในใจของเขาโดยสัญชาตญาณ

แต่หากเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง การกระทำของเขาที่รวบรวมคนมากมายในฐานะหัวหน้าศิษย์จะต้องสูญเปล่า และมันจะส่งผลต่อชื่อเสียงของเขาตลอดไป คำว่า ‘กลับมือเปล่า’ เพียงพอที่จะให้เขาไม่อาจโงขึ้นหัวได้อีกนาน

“ศิษย์พี่ นี่เป็นหินชิงหลัวสองร้อยก้อน เพียงพอสำหรับท่านให้เลี้ยงมื้ออาหารทุกคน เรื่องระหว่างข้ากับศิษย์พี่หญิงฉินหลิงหยานเป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น และพวกเราจะจัดการปัญหากันเองในเวลาที่เหมาะสม ข้าขออภัยที่ทำให้ท่านลำบาก”

ในช่วงเวลาสำคัญ ป๋ายเสี่ยวเฟยเดินก้าวยาวๆ ไปหาฉู่หมิงหยวนก่อนจะแย้มยิ้มเบิกทางหนีทีรอดให้เขา

ฉู่หมิงหยวนผ่อนคลายในใจ เขามีเพียงความคิดที่จะกอดป๋ายเสี่ยวเฟยแน่นๆ สักคราเพื่อแสดงความขอบคุณ แต่ปัญญาของเขาก็สะกดข่มไว้ในท้ายที่สุดก่อนจะเผยให้เห็นสีหน้าลำบากใจ

“ถึงแม้จะเป็นความเข้าใจผิดระหว่างพวกเจ้าทั้งสอง พวกเจ้าไม่อาจล้อเล่นกับอันดับค่าหัวได้”

ฉู่หมิงหยวนจ้องมองป๋ายเสี่ยวเฟยอย่างเย็นชาขณะที่เอ่ยคำต่อต้านสุดท้าย เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าป๋ายเสี่ยวเฟยจะฉลาดพอที่จะเข้าใจความหมายของเขาได้

ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง

“ท่านกล่าวผิดแล้วศิษย์พี่ ข้าไม่มีความตั้งใจที่จะล้อเล่นกับอันดับค่าหัว แต่การสั่งสอนข้ามีค่าแค่หินชิงหลัวห้าสิบก้อนเท่านั้น ศิษย์พี่ท่านเรียกคนมามากมาย มันจะไปพอให้แบ่งกันได้อย่างไร?”

“อีกอย่างการปรากฎตัวของท่านทำให้ข้ารับรู้ถึงความผิดพลาด ท่านยิ่งได้ประโยชน์จากการทำตามภารกิจในอันดับค่าหัวด้วยการสั่งสอนบทเรียนให้แก่ข้า วิธีการสั่งสอนไม่ได้จำกัดเพียงทางกาย ใช่หรือไม่?”

หลังจากกล่าวประโยคยาวเหยียด ป๋ายเสี่ยวเฟยชูตราหยกสูงขึ้นอีกครา ครั้งนี้ฉู่หมิงหยวนนิ่งไปพักหนึ่ง เขาไม่ได้ปฏิเสธ

“ข้าหวังว่าความเข้าใจผิดของพวกเจ้าจะแก้ไขได้โดยไวเพราะภารกิจยังอยู่ในอันดับค่าหัวอีกสิบวัน”

ฉู่หมิงหยวนกล่าวเสียงเบา ปฏิบัติท่าทีที่พึงกระทำก่อนจะเดินออกจากห้องโดยมีสามสิบกว่าคนเดินตามไปด้วย สายตาของทุกคนหยุดที่ป๋ายเสี่ยวเฟยและเสวี่ยอิ่งชั่วครู่

หลังจากส่งภัยพิบัติอีกกลุ่มจากไปได้ ป๋ายเสี่ยวเฟยถอนหายใจอย่างโล่งอก กระทั่งเสวี่ยอิ่งยังลูบอกของตนเผยสีหน้าผ่อนคลายขึ้นมา

“ไม่เลว เสี่ยวเฟยเฟย ข้าคิดว่าเรื่องจะบานปลายอยู่แล้วเชียว”

เสวี่ยอิ่งเดินมา ยื่นแขนไปยกคางของป๋ายเสี่ยวเฟยขึ้น สีหน้าหยอกล้อของนางปรากฎให้เห็นอีกคราขณะที่นางเลียริมฝีปาก

อมิตาพุทธ...

หากไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอเกินที่จะเอาชนะเสวี่ยอิ่ง ป๋ายเสี่ยวเฟยคงกระโจนเข้าหานางไปแล้ว แต่ปัญญาของเขาเอาชนะความต้องการไปได้เมื่อเผชิญหน้ากับความจริง....

“พี่หญิงเสวี่ย หลินหลีอยู่ที่ใด?”

หากต้องการให้หญิงสาวที่หยอกล้อเจ้าหมดความสนใจ เช่นนั้นการเอ่ยถึงหญิงสาวงดงามอีกคนเป็นวิธีที่ง่ายและดีที่สุด

ป๋ายเสี่ยวเฟยขอบคุณพ่อสามของเขา ผู้เป็นปรมาจารย์ด้านบุปผา...

“ฮึ่ม! สิ่งที่เจ้าถามมีแต่เสี่ยวหลีหลี น่าเบื่อ”

เสวี่ยอิ่งแค่นเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ทำท่าราวกับภรรยาเอาแต่ใจ

“ข้าให้นางกับสือเฉินไปหาเจ้าสถาบัน ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในที่นี้”

เสวี่ยอิ่งเลิกคิ้วเรียวงามพลางกล่าวราวกับว่าภรรยาเอาแต่ใจเมื่อครู่ไม่เคยมีอยู่

“เจ้าสถาบัน!?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยตกใจสุดขีด ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับคำนี้คือใบหน้าเกรี้ยวกราดของรองเจ้าสถาบันลั่วซี เพราะหากไม่ใช่นาง เขาจะมาอยู่ในห้องเรียนคนเถื่อนได้อย่างไร?

ถึงแม้ป๋ายเสี่ยวเฟยจะพึงพอใจเป็นอย่างมากกับห้องคนเถื่อน เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำว่า ‘เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย’ และ ‘เอาแน่เอานอนไม่ได้’ เมื่อคิดถึงนาง

“เพื่ออันใด!?”

เสวี่ยอิ่งเผยให้เห็นรอยยิ้มอีกคราเมื่อนางเห็นท่าทีไม่เต็มใจของป๋ายเสี่ยวเฟย

“เจ้าคิดว่าข้าอยากหรือ? ชื่อของเจ้าอยู่ในอันดับค่าหัว เจ้าคิดว่าข้าสามารถจัดการกับกลุ่มคนที่จะมาหาเจ้าได้เรื่อยๆ โดยไม่ขออนุญาตท่านเจ้าสถาบัน? ข้ามีหวังถูกไล่ออกหากรังแกศิษย์นักเรียนมากเกินไป ข้าเพิ่งได้มาเป็นอาจารย์ในสถาบันชิงหลัวอย่างลำบาก ข้ายังไม่อยากกลับบ้านโดยเร็วนัก”

สุ้มเสียงของนางมีร่องรอยตัดพ้อขณะที่นางเผยความคิดในใจ

“เขาจะปกป้องข้าหรือ? ท่านสนิทกับท่านเจ้าสถาบัน?”

ความตกตะลึงบนใบหน้าป๋ายเสี่ยวเฟยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร เสวี่ยอิ่งที่ไม่ค่อยจะเหมือนอาจารย์เท่าใดนักแถมยังไม่ค่อยรู้สถานการณ์ภายในสถาบันไม่น่าจะมีเส้นสายใหญ่ขนาดนี้

“เจ้าคิดว่าเช่นไร!? หากข้าสนิทกับเขามีหรือที่ข้าจะต้องเป็นกังวล? เมื่อครู่ข้าคงอัดพวกนั้นไปแล้ว! เจ้ามีสมองบ้างหรือไม่!?”

เสวี่ยอิ่งโขกหัวป๋ายเสี่ยวเฟยแรงๆ หนึ่งที สายตาของนางราวกับกำลังมองคนโง่อยู่

“ถ้าท่านไม่สนิทสนมกับเขา เหตุใดจึงเชิญเขามา? ท่านเจ้าสถาบันผู้สูงส่งมีหรือจะสนใจศิษย์ห้องเรียนคนเถื่อนไร้ชื่อเสียงอย่างข้า?”

นี่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกประหลาดใจ เพราะอย่างไรเสียคำว่า ‘เจ้าสถาบัน’ แลจะเกินเอื้อมไปเล็กน้อย

“ข้าไม่อาจทำให้เขาเคลื่อนไหว แต่เจ้านี่ทำได้!”

เสวี่ยอิ่งยิ้มเยาะพลางมองลงไปยังเสี่ยวเอ้อที่ส่ายหางเล่นอยู่....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด