ตอนที่แล้วGE436 ภัยพิบัติของเผ่าหกปีก [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE438 ราชาสุสานบุบผา [ฟรี]

GE437 อนุสรณ์ปีศาจ [ฟรี]


เฟินซื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น เป็นสตรีที่งดงามและมีชื่อเสียงในเผ่าปีศาจหกปีก

ด้วยที่นางเป็นผู้ที่งดงาม นางจึงมีความมั่นใจเป็นของตน แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางหรือสูง ยังชื่นชอบในตัวนาง

ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมากมายในเผ่าให้ความสำคัญกับตัวนางเพราะความงดงาม แต่ด้วยเหตุนั้นทำให้นางมีนิสัยเย่อหยิ่ง จึงไม่ได้สนใจผู้ใดที่เข้ามา

นางได้รับคำสั่งจากผู้อาวุโสใหญ่ให้ออกมาต้อนรับหนิงฝาน แต่นั่นก็ทำให้นางไม่พอใจเพราะถือเป็นการเสื่อมเสียเกียรติ

ยิ่งด้วยหนิงฝานมาช้าหลายวันเพราะเป็นห่วงเยว่หลิงคง นางที่เฝ้ารอก็ยิ่งไม่พอใจ

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึง... การรอหนิงฝานนำมาซึ่งอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต

เผ่าเนตรปีศาจและเผ่าเขาคู่ร่วมมือกับ 2 ขุมกำลังภายนอก ผนึกพื้นที่โดยรอบเขตของเผ่าหกปีกเอาไว้ และเริ่มเปิดฉากจู่โจม

เหตุที่ขุมกำลังทั้ง 4 ร่วมมือเข้าจู่โจมเผ่าหกปีก เป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่า ‘อนุสรณ์ปีศาจ’

เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว บริเวณเขตหวงห้ามของเผ่าหกปีกได้เกิดเหตุการณ์ประหลาด ผืนฟ้าถูกอาบย้อมด้วยโลหิต ก่อนที่พื้นที่หวงห้ามแห่งนั้นจะถูกทำลายไปอย่างน่าประหลาด

เขตหวงห้ามแห่งนั้นถูกสร้างขึ้นในสมัยโบราณ มีพลังปีศาจที่แข็งแกร่งป้องกัน ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกก็ไม่อาจทำลายสถานที่แห่งนั้นได้

แต่แล้วเมื่อครึ่งเดือนก่อน จู่ๆพลังงานบริเวณนั้นกลับลดปริมาณลงมหาศาลในชั่วพริบตา ก่อนจะปรากฏรูปปั้นศิลาโบราณชิ้นหนึ่งขึ้น

ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าหกปีกได้เก็บศิลานั้นไว้ และไม่ได้เปิดเผยว่าสิ่งนั้นคืออะไร

ในขณะที่เกิดปรากฏการณ์ประหลาดกับเผ่าหกปีก ก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันขึ้นในเผ่าเนตรปีศาจและเผ่าเขาคู่ ซึ่งพวกมันต่างก็ได้ศิลาโบราณเช่นเดียวกัน

ปรากฏการณ์ในแบบเดียวกันได้เกิดขึ้นกับเผ่าปีศาจยักษ์ เพียงแต่แต่เขตหวงห้ามของพวกมันไม่ถูกทำลาย และไม่ปรากฏศิลาโบราณ

จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดข่าวลือต่างๆนาๆไปในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ ว่าศิลาโบราณที่ปรากฏนั้นมีความลับอันยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจซ่อนอยู่ เพราะศิลาโบราณที่ปรากฏเพียง 3 ชิ้นบนโลก ตกอยู่ในมือของเผ่าปีศาจทั้งหมด

เผ่าปีศาจทั้งสามล้วนมีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ที่สำคัญเผ่าปีศาจทั้งสามยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในทะะเลไร้สิ้นสุด จึงทำให้ไม่มีผู้ใดกล้ายั่วยุ

ในหมู่แคว้นทั้ง 800 แห่งในโลกพิรุณ ก็มีขุมกำลังที่เร้นกายจากโลกภายนอกเช่นเดียวกัน และพวกมันก็มีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ดังนั้น ขุมกำลังเหล่านั้นจึงเริ่มเคลื่อนไหว

ท่ามกลางขุมกำลังมากมายในโลกพิรุณนั้น เผ่าปีศาจทั้ง 4 ในทะเลไร้สิ้นสุดคือขุมกำลังที่แข็งแกร่ง แต่ก็อยู่ใต้อาณัติของกษัตริย์อัสนีปู้ซัว ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปจึงไม่กล้ายั่วยุ

ดังนั้น พวกที่คิดกล้าลงมือจริงๆ จึงกลายเป็นพวกมันด้วยกันเอง!

เผ่าเนตรปีศาจและเผ่าเขาคู่อยู่ไม่ไกลกันนัก พวกมันติดต่อกันอยู่เสมอ จึงคิดที่จะร่วมมือเข้าช่วงชิงศิลาโบราณจากเผ่าหกปีก ส่วนเผ่าปีศาจยักษ์ที่ไม่ได้ครอบครองศิลาโบราณ รอดพ้นจากภัยพิบัติไป

เหตุที่เผ่าหกปีกถูกจู่โจมกระทันหัน ก็เพราะเผ่าเนตรปีศาจและเขาคู่ได้ไปเทียบเชิญผู้เชี่ยวชาญของวังผนึกอสูรและนิกายสุสานบุบผามาช่วย

นับเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่ขุมกำลังฝ่ายธรรมะจะติดต่อกับขุมกำลังฝ่ายอธรรม มีข่าวลือว่า ‘ราชาสุสานบุบผา’ ประมุขนิกายสุสานบุบผาเป็นผู้ที่มากพรสวรรค์ในวิหารพิรุณ ในชีวิตของมันพ่ายแพ้เพียงแค่ครั้งเดียว นั่นคือพ่ายให้กับหยุนเทียนเฉว

ราชาสุสานบุบผาอยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงสุด มักเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากกษัตริย์อัสนี และเป็นผู้ที่อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกคนต่อไป

ในการจู่โจมเผ่าปีศาจหกปีกในครั้งนี้ นิกายสุสานบุบผาได้ส่งเพียงผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงออกมา

ส่วนวังผนึกอสูร ลู่เจี่ยเฟินผู้เป็นจ้าววังได้โอสถรักษาจากเผ่าเนตรปีศาจ รักษาอาการบาดเจ็บที่มันได้รับจากวังดารา ทำให้มันฝึกฝนและเพิ่มพูนพลังได้อีกครั้ง อีกไม่นานมันก็จะบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง

เหตุที่เผ่าเนตรปีศาจหยิบยื่นความช่วยเหลือให้วังผนึกอสูรก็เพราะต้องการให้พวกมันเป็นกำลังในการจู่โจมเผ่าหกปีก

นอกจากนี้ ด้วยชื่อเสียงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดคนที่ 8 ของลู่เจี่ยเฟิน ก็สามารถใช้ข่มขู่ผู้เชี่ยวชาญในทะเลไร้สิ้นสุดได้เช่นกัน...

เรื่องราวทั้งหมดนั้น เฟินซื่อเป็นผู้เล่าให้หนิงฝานฟังโดยไม่กล้าปิดบัง แม้ว่านางจะเป็นสตรีที่งดงามและเป็นที่หมายปองของบุรุษมากมายในเผ่า แต่นางนั้นไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าขุมกำลังอื่นๆ

หากพวกมันเห็นแก่ที่นางเป็นสตรที่งดงาม พวกมันคงปล่อยนางไปแล้ว เพราะด้วยระดับพลังของนาง ไม่มีทางจะสู้พวกมันได้

“ขอบคุณท่านหมิงที่ช่วยข้า… สิ่งที่ข้ากล่าวออกมาทั้งหมดเป็นความจริง ไม่ได้ปกปิดใดๆกับท่านแม้แต่น้อย”

ก่อนหน้านางเป็นผู้มีนิสัยเย่อหยิ่งทะนงตน นางไม่พอใจที่ผู้อาวุโสใหญ่ให้มาต้อนรับหนิงฝาน แต่ยามนี้ นางไม่กล้าแสดงท่าทีแบบนั้น นางหวาดกลัวเขา แรงกดดันของเขาน่ากลัวกว่าผู้อาวุโสใหญ่ของนางมาก

นางรู้แล้วว่าการที่นางดูแคลนหนิงฝานเป็นสิ่งผิด หากนางไม่ได้หนิงฝานช่วย นางคงไม่รอดมือพวกมัน

กลิ่นอาย แววตา และแรงกดดันของหนิงฝานในยามนี้เปลี่ยนไป หลังจากได้สัมผัสกับพลังในขอบเขตจักรพรรดิเซียน ได้ต่อสู้กับโม๋หลัว ทุกสิ่งของเขาเปลี่ยนไป... กลิ่นอายที่แผ่ออกมาราวกับเขาเป็นจักรพรรดิเซียนคนหนึ่ง

“เขาเป็นคนไร้หัวใจ แต่ไม่ใช่คนเลือดเย็น...” นางขบคิด

นางคือสตรีที่งดงามที่สุดในเผ่า แต่ในสายตาาของหนิงฝานแล้ว นางนั้นไร้ค่าให้ชายตามอง

“ดีแล้วที่เจ้าไม่ได้โกหก ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องเสียใจ” ในขณะที่หนิงฝานกล่าวถามนาง เขาใช้วิชาคารมด้วย เพื่อดูว่าสิ่งที่นางพูดเป็นความจริงหรือไม่

ยามนี้ร่างกายของนางมาถึงจุดที่ไม่อาจคงชีวิตเอาไว้ ดวงจิตของนางจึงต้องสละกายเนื้อ... ในเมื่อนางกล่าวความจริง หนิงฝานก็จะไม่ทอดทิ้งนาง

เขานำดวงจิตดวงน้อยๆของนางวางไว้บนบ่า จากนั้นกระตุ้นปีกฟู่ลี่ พาเยว่หลิงคงและศพนางสวรรค์มุ่งเข้าสู่เผ่าหกปีกอย่างรวดเร็ว

“แตงกวาน้อย เจ้าจะช่วยเผ่าหกปีกจริงๆเหรอ? วังผนึกอสูรไม่นับเป็นอันใด แต่กับเผ่าเนตรปีศาจและเขาคู่ พวกมันทรงพลัง หากเกิดสอดมือเรื่องนี้ อาจนำภัยมาสู่เจ้า”

เยว่หลิงคงขบคิดพลางกล่าวเตือน แม้บางทีนางจะดูไร้เหตุผลไปบ้าง แต่นางก็นับเป็นสตรีที่ดีคนหนึ่ง

“ท่านคือเยว่หลิงคง...ภรรยาของท่านหมิงใช่หรือไม่? ท่านหลิงคง ช่วยเผ่าหกปีกของข้าด้วย!” เฟินซื่อกล่าวขอร้อง

ในหมู่ขุมกำลังทั้ง 4 ที่จู่โจมเผ่าหกปีกนั้น มีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้นสองคน และขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงอีก 2 ส่วนเผ่าหกปีกมีแค่ผู้อาวุโสใหญ่ ย่อมยากจะรับมือกับพวกมันทั้งหมด

เฟินซื่อเคยได้ยินว่าหนิงฝานมีทาสไร้ดัดแปลงขั้นต้น 3 ตน ทั้งยังมีเยว่หลิงคงที่อยู่ขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงข้างกาย ซึ่งสามารถรับมือขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ ดังนั้นนางจึงว่าหนิงฝานและหลิงคงจะช่วยเผ่าของนางให้พ้นภัยได้

เยว่หลิงคงขมวดคิ้วกับคำกล่าวของเฟินซื่อ นางไม่ได้ขมวดคิ้วที่ขอให้ไปสู้กับคนของเผ่าเนตรปีศาจหรือเขาคู่ แต่นางขมวดคิ้วที่เฟินซื่อกล่าวว่านางเป็นภรรยาของหนิงฝาน

เมื่อได้ยินคำว่าภรรยาของหนิงฝาน นางรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก ภาพแววตาที่อ่อนโยนของหนิงฝานปรากฏขึ้นในหัวของนาง

“แตงกวาน้อย ถึงข้าจะไม่ชอบยั่วยุขุมกำลังใหญ่แบบนั้น แต่หากเจ้าตัดสินใจลงมือ ข้าก็จะช่วยอีกแรง” หลิงคงกล่าวอย่างหนักแน่น

หนิงฝานดีใจที่ได้ยินคำกล่าวของนาง เพราะสิ่งที่นางกล่าวแสดงให้เห็นว่า นางพร้อมจะร่วมเป็นร่วมตายกับเขา ไม่ว่าศัตรูจะทรงพลังหรือน่ากลัวขนาดนั้น นางก็จะไม่ทอดทิ้งเขา

หนิงฝานกุมมือนางไว้เบาๆพลางยิ้มด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ

“มีเพียงเผ่าหกปีกเท่านั้นที่มีศิลาฟื้นฟู ข้าอยากให้พวกมันรักษาเหว่ยเหลียง ฉะนั้นข้าจึงต้องช่วยพวกมัน… ยามนี้ข้าต้องพึ่งเจ้าแล้ว”

“อืม… ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง แต่...ปล่อยมือข้าได้แล้ว...”

หลิงคงในยามนี้สั่นเทาไปทั้งตัว เป็นความรู้สึกที่นางไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ที่สำคัญ ใจนางเต้นรัวมาก แม้จะเป็นยามที่ร่วมรักกับหนิงฝาน นางก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้… ดูเหมือนนางจะมีใจให้เข้าแล้ว

“แตงกวาน้อย ยามนี้ข้าฟื้นฟูเต็มที่แล้ว ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับขอบเขตไร้ดัดแปลง 2 คน และกึ่งไร้ดัดแปลงอีก 2 คนก็ไม่ใช่ปัญหา ข้าจะจัดการพวกมันเพื่อปกป้องเจ้าเอง!”

นางไม่รู้ว่าหนิงฝานสังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหอคอยอัสนี หรือเรื่องที่เขาประลองกับผู้อาวุโสสามแห่งตระกูลซัว นางไม่รู้

แต่เมื่อนางบอกว่าสู้กับพวกมันได้ทั้งหมด หนิงฝานก็วางใจ ผิดกับเฟินซื่อที่ได้ยินแล้วตกตะลึง

“ท่านหลิงคงกล่าวว่ารับมือกับพวกมันทั้งหมดได้! แม้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ยังไม่อาจรับมือขอบเขตไร้ดัดแปลง 2 คน และกึ่งไร้ดัดแปลง 2 คนได้พร้อมกัน ท่านหลิงคงแข็งแกร่งมาก” แม้นางจะไม่เชื่อ แต่นางก็ไม่กล้ากล่าวออกไป เพราะกลัวว่าหลิงคงจะเปลี่ยนใจ

หนิงฝานเชื่อที่นางกล่าว ว่านางจะเอาชนะพวกมันได้ หากเกิดดวงจิตของนางได้รับการฟื้นฟูจากใบใผ่อัสนีทองคำมากกว่า หนิงฝานเชื่อว่านางจะทรงพลังยิ่งขึ้น

นางคนเดียวเทียบได้กับขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นระดับแนวหน้า และแค่นางคนเดียว ก็น่าจะช่วยเผ่าหกปีกให้รอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้

แม้นางจะยอมเป็นศัตรูกับเผ่าปีศาจที่ทรงพลังเพื่อเขา แต่เขาไม่ได้อยากให้นางทำถึงขนาดนั้น เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำลายพวกมันให้สิ้นซาก แค่คิดอยากจะช่วยเผ่าหกปีก เพื่อใช้ศิลาฟื้นฟูเท่านั้น

แค่ชื่อเสียงของหนิงฝานในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสวิหารพิรุณ และคนสำคัญของตระกูลซัว ก็มากพอที่จะทำให้พวกมันหวั่นเกรง

“การปรากฏขึ้นของอนุสรณ์ปีศาจ… โลหิตที่อาบย้อมนภา เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ข้าเอาชนะโม๋หลัว… ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า...”

“หากอยากจะรู้ ดูเหมือนข้าต้องชิงอนุสรณ์ปีศาจมาก่อน บางทีในนั้นอาจมีวิธีให้ข้าดูดซับโลหิตของโม๋หลัวก็ได้!”

*ตูม ตูม ตูม*

ไกลออกไปมีเสียงการต่อสู้ที่รุนแรงดังมาจากเผ่าหกปีก ควันไฟลอยฟุ้งสิ่งก่อสร้างพังทะลาย

ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าหกปีกอาบโชกไปด้วยโลหิตทั่วร่าง เพราะต้องรับมือกับผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังทั้ง 4 แม้ว่าตนเองจะไม่อาจรับมือ แต่ก็ยังไม่ตัดใจยอมแพ้

“เฉวียนยี่ ส่งอนุสรณ์ปีศาจมาซะ แล้วข้าคงศพสมบูรณ์ให้เจ้า!” ชายชราในเกราะดำ มีเขาบนศีรษะกล่าว มันมีพลังอยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น

“กุ๋ยเจี่ยว เจ้าฝันไปเถอะ! อนุสรณ์ปีศาจของข้ามี ‘วิธีลบล้างตราประทับปีศาจ’ ของโม๋หลัวอยู่ นี่คือความหวังที่เผ่าของข้าจะถูกปลดปล่อย ต่อให้ข้าตายก็ไม่มีทางให้!”

“ฮ่าฮ่า! ในเมื่อเจ้าไม่ยอม ก็อย่าหาว่าข้าไร้หัวใจ!” ลู่เจี่ยเฟินหัวเราะพลางนำขวานที่ลุกโหมด้วยเพลิงสีม่วงฟาดฟันเข้าใส่เฉวียนยี่

ขวานของลู่เจี่ยเฟินทรงอานุภาพ และรุ่นแรงมากพอที่จะทำให้ขอบเขตไร้ดัดแปลงบาดเจ็บได้

เดิมทีเฉวียนยี่แค่มุ่งสมาธิไปกับการรับมือสองขอบเขตไร้ดัดแปลง แต่ชายชราคาดไม่ถึงว่าลู่เจี่ยเฟินจะทรงพลังมากขนาดนี้

ขวานของลู่เจี่ยเฟินฟันเข้าที่แขนของชายชรา ความร้อนจากเพลิงม่วงแผดเผาจนรู้สึกแสบร้อนอย่างรุนแรง ปราณภายในร่างปั่นป่วน ผู้เชี่ยวชาญอีก 3 คนที่เหลือจึงฉวยโอกาสนี้เข้าจู่โจมชายชรา จนอาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับอีกไม่นานชายชราจะไม่สามารถยื้อชีวิตได้อีก

เฉวียนยี่จ้องมองลู่เจี่ยเฟินด้วยแววตาที่โกรธแค้น ชายชรารู้ว่าหากยังรั้นไม่ยอมมอบสิ่งที่พวกมันต้องการให้ จะตายโดยไร้ดินกลบฝัง

“ลู่เจี่ยเฟิน มดปลวกอย่างเจ้าเป็นได้แค่สุนัขรับใช้ของเผ่าเนตรปีศาจ ข้าไม่ยอมถูกสุนัขอย่างเจ้าสังหารแน่!”

“ฮึ่ม! รนหาที่ตาย” แววตาลู่เจี่ยเฟินแปรเปลี่ยนเย็นชา มันเกลียดผู้ที่กล่าวว่ามันคือมดปลวก มันจะทำให้คนผู้นั้นรู้ว่ามันแข็งแกร่งขนาดไหน

ยามนี้ผู้ที่ลู่เจี่ยเฟินหวาดกลัวคือหนิงฝาน ตราบใดที่มันยังไม่บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง ความหวาดกลัวในตัวหนิงฝานจะยังฝังลึกอยู่ในใจของมัน

มันขยับมือเป็นท่าทาง ก่อนจะควงขวานฟาดฟันเข้าใส่บริเวณตันเถียนของเฉวียนยี่ เพื่อหวังสังหารให้ตายในคราวเดียว

เฉวียนยี่ดวงตาแดงก่ำ ปูดโปนไปด้วยโลหิตที่อัดแน่นด้วยความแค้น การปรากฏขึ้นของอนุสรณ์ปีศาจคือความหวังที่ปลดปล่อยเผ่าให้เป็นอิสระ ดังนั้น ต่อให้ชายชราต้องตายก็จะไม่ยอมให้เผ่าถูกทำลายเด็ดขาด!

“ข้าไม่ยอมหรอก!”

ชายชราเผาโลหิตปีศาจของตน โคจรพลังไว้ที่ฝ่ามือเพื่อเตรียมจะใช้วิชาธนูดับดารา ต้านการจู่โจมของลู่เจี่ยเฟิน

แต่ในชั่วพริบตานั้น กลับมีเงาร่างของผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวปรากฏ ก่อนจะใช้ดรรชนีต้านรับการจู่โจมจากขวาน

ดรรชนีของผู้เยาว์คนนั้นทรงพลังในระดับเดียวกับการจู่โจมของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง จนทำให้ขวานแตกร้าว อานุภาพลดลงมหาศาล

มีเพียงผู้ที่ฝึกฝนร่างกายจนถึงขอบเขตกายทองคำเท่านั้นที่จะทำแบบนั้นได้!

“เจ้าเป็นใคร! เหตุใดกล้าสอดมือ!” สมบัติชิ้นสำคัญของลู่เจี่ยเฟินถูกทำลาย ทำให้มันโกรธแค้น

แต่เมื่อเห็นใบหน้าของผู้เยาว์คนนั้น สีหน้ามันกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง ความโกรธแค้นหายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน

“ซัวหมิง! เจ้าบรรลุขอบเขตกายทองคำ? ไม่… เจ้ายังไม่บรรลุกายทองคำ ผู้ที่บรรลุกายทองคำยามที่ชกหมัดจะเปล่งแสงสีทอง เจ้ายังไม่บรรลุกายทองคำ!”

ลู่เจี่ยเฟินกล่าวเพราะจงใจจะบอกผู้เชี่ยวชาญอีก 3 คนที่เหลือว่าหนิงฝานยังไม่บรรลุขอบเขตกายทองคำ

แม้มันจะกลัวหนิงฝาน แต่มันก็วางแผนยืมมือคนอื่นๆสังหาร

“ซัวหมิง ถึงเจ้าจะเป็นคนของวิหารพิรุณ มีทาสไร้ดัดแปลง 3 ตน ก็ไม่อาจสอดมือเพื่อหวังชิงอนุสรณ์ปีศาจไปได้ … ไปซะ แล้วพวกข้าจะไม่ติดใจเอาความ” ลู่เจี่ยเฟินใส่ความว่าหนิงฝานคิดหวังช่วงชิงอนุสรณ์ปีศาจ

เมื่อคนของเผ่าเนตรปีศาจและเขาคู่ได้ยิน แววตาพวกมันแปรเปลี่ยนเย็นชา

“ลู่เจี่ยเฟิน เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว! ในเมื่อมันคิดจะช่วงชิงอนุสรณ์ปีศาจ ไม่ว่ามันจะเป็นใครพวกข้าก็ไม่ยอม ต่อให้เจ้ามีทาสไร้ดัดแปลง 3 ตนก็ไม่นับเป็นอันใด!”

นับเป็นเรื่องดีที่ลู่เจี่ยเฟินหวังดี อธิบายเรื่องราวให้หมดโดยที่หนิงฝานไม่ต้องกล่าว ตัวเขาอยากให้คนของเผ่าเนตรปีศาจและเขาคู่ลงมือ

แม้ลู่เจี่ยเฟินจะใช้แผนยืมมีดสังหาร แต่หนิงฝานก็ถือโอกาสเอามีดนั้นสังหารพวกมันกลับ แล้วช่วงชิงอนนุสรณ์ปีศาจของพวกมันมา

หนิงฝานจ้องมองลู่เจี่ยเฟินด้วยสายตาเย็นชา มันยังไม่ต่างไปจากอดีต ยังมีความทะเยอทะยาน เป็นผู้ที่ถูกจูงจมูกได้ง่าย

“ดูเหมือนวันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไว้ไม่ได้อีก! หากวันใดเจ้าทรงพลังขึ้น ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ให้กับข้า!” หนิงฝานแผ่เจตนาสังหาร วันนี้เขาจะสังหารลู่เจี่ยเฟินให้ได้ คนของเผ่าเนตรปีศาจและเขาคู่ก็เหมือนกัน

“เยว่เอ๋อร์ เจ้าใช้เวลานานขนาดไหนถึงจะเอาชนะพวกมันได้?”

“ชั่วธูปไหม้หมดดอก...” นางกล่าวด้วยแววตาที่มั่นใจ ก่อนก้าวเท้าออกไปเบื้องหน้า ทะยานเข้าหาพวกมันอย่างรวดเร็ว

“ว่าไงนะ!” ลู่เจี่ยเฟินตกตะลึง เพราะจากที่หนิงฝานกล่าว เขาไม่ได้ตั้งใจจะลงมือเอง และไม่ได้ตั้งใจจะใช้ทาสไร้ดัดแปลง แต่แค่ให้สตรีนางนึงลงมือ

ในสายตาของพวกมัน เยว่หลิงคงเป็นเพียงสตรี การที่นางกล่าวว่าจะเอาชนะพวกมันทั้ง 4 คนในเวลาชั่วธูปไหม้หมดดอก จึงเป็นคำกล่าวอ้างที่น่าโมโห

“ฆ่ามัน!” ลู่เจี่ยเฟินและคนอื่นๆทะยานเข้าหาหลิงคง

ลู่เจี่ยเฟินได้ยินมาว่าหลิงคงคือสตรีของหนิงฝาน หากสังหารนางได้ย่อมทำให้หนิงฝานโกรธแค้น

“โอสถของเผ่าเนตรปีศาจทำให้ข้าบรรลุถึงจุดตีบตันของขอบเขตตัดวิญญาณ อีกเพียงก้าวเดียวข้าจะบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง ยิ่งคนอื่นๆช่วย ย่อมสังหารนางได้ง่ายๆ!”

มันนำลูกดอกสีทองที่ลุกโหมด้วยเพลิงสีม่วงออกมา แล้วเริ่มหาโอกาสลอบจู่โจมหนิงฝาน

แต่ทุกการเคลื่อนไหวของมัน หลิงคงรับรู้ทั้งหมด

“ลู่เจี่ยเฟิน เจ้ามันเป็นเพียงมดปลวกที่อ่อนแอ… ไม่ว่าเจ้าจะสังหารผู้ใดข้าไม่สน แต่ในเมื่อคิดร้ายกับแตงกวาน้อย เขาไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!” นางปลดปล่อยเจตนาสังหารที่รุนแรง นำผ้าขาวผืนหนึ่งออกมา โบกสะบัดเข้าจู่โจมผู้เชี่ยวชาญทั้ง 4!

*ตูม ตูม ตูม ตูม!*

ผ้าที่นางสะบัดจู่โจม ทรงพลังจนเกือบเทียบเคียงการจู่โจมในระะดับไร้ดัดแปลงขั้นกลาง

เสียงการปะทะดังสนั่น เกราะคุ้มกายของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นสองคนแตกออก ร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนลู่เจี่ยเฟินและอีกคน เกราะของพวกมันถูกทำลาย ซ้ำยังบาดเจ็บสาหัสจากการจู่โจม

ลู่เจี่ยเฟินถอยห่างพลางกระอักโลหิตคำโต พวกมันไม่เชื่อว่านางจะทรงพลังขนาดนี้ ยามนี้นางบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นแล้ว จึงทรงพลังขึ้นมากเมื่อเทียบกับในอดีต คนของเผ่าปีศาจยามนี้ไม่อาจสู้นางได้

หนิงฝานพยักหน้า นางทรงพลังกว่าที่เขาคิดไว้ ดวงจิตของเฟินซื่อที่นั่งอยู่บนไหล่หนิงฝานก็ตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของหลิงคง

นางเอไม่เชื่อว่าเยว่หลิงคงคนเดียวจะเอาชนะคนทั้ง 4 ได้ แต่ตอนนี้นางรู้ว่าเยว่หลิงคงแข็งแกร่งจริงๆ

“นี่เหรอพลังที่แท้จริงของท่านหลิงคง! ต่อให้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ก็สู้ท่านหลิงคงไม่ได้”

“แต่ข้าไม่เข้าใจ… ผู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้สมควรทะนงตน เหตุใดถึงยอมเป็นสตรีของท่านซัวหมิง? เหตุใดถึงยอมเป็นศัตรูกับเผ่าปีศาจโบราณเพื่อท่านซัวหมิง… หรือท่านซัวหมิงจะมีเสน่ห์จนท่านหลิงคงหลงไหล?” นางกล่าวในใจด้วยความตกตะลึง

แต่ยิ่งนางจ้องมองหนิงฝาน นางยิ่งสงสัย เพราะหนิงฝานนั้นดูบอบบางและอ่อนแอ นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดเยว่หลิงคงถึงได้รักหนิงฝานขนาดนั้น...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด