ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0670 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0672 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0671 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 671 : ยันต์ราชัน

หากฉินหยุนตายแล้วจริง อย่างนั้นผู้ที่จะมีความสุขที่สุด ย่อมต้องเป็นฝ่ายตามล่าฉินหยุนของตำหนักจารึกเทวะ

กระนั้นภายในย่อมต้องมีความนึกเสียดาย เพราะฉินหยุนจะมีค่ามากที่สุดหากได้นำไปแลกเปลี่ยน เป็นจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวจากหยางฉีเย่ว์

ครึ่งเซียนจากตระกูลหลงกล่าวคำ “ฉินหยุนสิ้นชีพ คิดได้รับจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวยิ่งเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก! ตอนนี้พวกเราไม่ทราบด้วยซ้ำว่าหยางฉีเย่ว์ยังหลบซ่อนในเทือกเขานิราศจันทราหรือไม่”

“มีแต่จับตัวฉินหยุนจึงค่อยบีบบังคับให้นางเผยตัวออกมาได้!” ครึ่งเซียนจากหุบเขาเซียนโอสถถอนหายใจยาว เขาเองก็รู้สึกว่าความตายของฉินหยุน มันได้ทำเรื่องจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวได้รับมายากเย็นมากขึ้น

หากไม่เกิดเรื่องนี้ พวกเขาก็ยังถือว่าพอมีความหวัง

แดนวิญญาณอ้างว้างกว้างใหญ่ หากหยางฉีเย่ว์คิดหลบซ่อน คิดหาตัวนางก็กล่าวได้ว่าเป็นเรื่องยากดังงมเข็มในมหาสมุทร

กระนั้น เรื่องราวจะเป็นไปอีกทางหากฉินหยุนยังอยู่ เพราะเขาอยู่ที่นครเซียนยุทธภัณฑ์เสมอมา

กระนั้นตอนนี้ฉินหยุนตายตก เท่ากับเป็นการตัดความหวังอันน้อยนิดของพวกเขาจนหมดสิ้น

เจี้ยนหนันหู่เองก็พบว่าเรื่องราวชวนเสียดาย “ข้าฝึกฝนหนักหนาช่วงหลายเดือนมานี้ พละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ข้ามั่นใจว่าสามารถเอาชนะฉินหยุน! แต่ยังไม่ทันได้ขันแข่งกันอีกครั้ง เขากลับด่วนตายจาก!”

“พี่หู่ จอมราชันดวงดาวอสูรแข็งแกร่งเพียงนั้น? ความเร็วฉินหยุนมากล้ำ เขาย่อมสามารถหลบหนีได้หากคิดทำ อย่างเลวร้ายก็แค่บาดเจ็บและซ่อนตัวอยู่กระมัง!”

เจี้ยนรั่วหยานกล่าว ก่อนหน้านี้ นางได้เป็นประจักษ์พยานกับตาตนเองถึงความสามารถอันเหนือล้ำที่ฉินหยุนใช้หลบหนี เป็นเขาแข็งแกร่งในทุกสัดส่วนความสามารถ

เจี้ยนหนันหู่ส่ายศีรษะ “จอมราชันดวงดาวอสูรมีความเร็วอย่างน้อยก็สองเท่าจากตัวข้า! ฉินหยุนรวดเร็วกว่าข้าระดับหนึ่ง กระนั้นไม่มีทางมากมายถึงสองเท่า หากคิดหลบหนีหลังได้รับบาดเจ็บ ความเร็วก็มีแต่จะเชื่องช้าลงไปอีก”

แม่เฒ่าหม่ากล่าว “ภายในไม่อาจใช้งานยันต์หรืออุปกรณ์ ไม่เช่นนั้น ฉินหยุนสมควรหลบหนีได้อย่างแน่นอน!”

“ดาบเต๋าของข้ายังอยู่ที่ฉินหยุน ถือว่ามอบให้แก่เขาเป็นของขวัญ เขาถือเป็นคู่แข่งที่คู่ควรได้รับการยกย่องแล้ว!” เจี้ยนหนันหู่กล่าวโดยไม่แม้แต่จะเผยร่องรอยความปวดใจใด

ทุกคนต่างทราบ ว่าดาบเต๋าของเจี้ยนหนันหู่คืออุปกรณ์เต๋าชั้นเลิศ โดยเฉพาะบรรดาครึ่งเซียนที่คุ้นเคยกับเจี้ยนสือเทียน ย้อนกลับไปวันคืนเก่าก่อน เจี้ยนสือเทียนก็เป็นผู้ใช้ดาบเล่มนั้น

ไม่เพียงเท่านั้น บรรดายอดฝีมือผู้มีชื่อเสียงของตระกูลเจี้ยน รวมถึงตำหนักเซียนดาบ ต่างเคยใช้ดาบเล่มนั้นมาก่อน

ชั่วขณะนี้เอง ครึ่งเซียนจากตำหนักจารึกเทวะพลันนำเอาเปลือกหอยสื่อสารออกมา หลังรับฟัง สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไปไม่น้อย “พวกเราเพิ่งได้รับข่าวคราวมา ยันต์ชีวิตของผู้ใช้วิชาปกครองอสูรมอดไหม้แล้ว!”

“ว่าอะไร? เจ้ายังคงสงสัยว่าเป็นฉินหยุนที่สังหารเขาอย่างนั้นหรือ? ผู้ใดทราบว่าเบื้องล่างมันเกิดอะไรขึ้น? ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรของเจ้าอาจคิดอยากควบคุมจอมราชันดวงดาวอสูรจนถูกสังหารเสียเอง!” เจี้ยนหนันหู่กล่าวคำเสียงเย็น

ชั่วขณะนี้ ชายวัยกลางคนพลันบินขึ้นจากเกาะ เขาคือขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูง สีหน้าเวลานี้หวาดกลัวพร้อมกล่าวคำ “จอมราชันดวงดาวอสูรนั้นเข่นฆ่าทั่วทุกหัวระแหง อสูร รวมถึงสัตว์ราชันอสูรต่างถูกสังหารในพริบตา ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรของเราก็ถูกสังหารไปแล้วเช่นกัน!”

เจี้ยนหนันหู่เร่งรีบถาม “จอมราชันดวงดาวอสูรสังหารสัตว์ราชันอสูรด้วยหรือ?”

ชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นตำหนักจารึกเทวะส่งไปติดต่อกับผู้ใช้วิชาปกครองอสูร เขาพยักหน้ารับตอบคำ “ถูกต้อง พวกเราเห็นเช่นนั้น เป็นมันสังหารสัตว์ราชันอสูรในสามกระบวนท่า! จากนั้นจึงนำเอาแก่นผลึกแก้วสัตว์ราชันอสูรไป!”

“เช่นกัน จอมราชันดวงดาวอสูรยังดึงดูดพลังดวงดาวไปอย่างมหาศาล ส่งผลให้บรรดาอสูรตนอื่นกลับคืนร่างเดิม”

“ผู้อาวุโส เร่งรีบปลดม่านพลังและจับตัวจอมราชันดวงดาวอสูร มัน... มันสามารถใช้งานเป็นหุ่นเชิดที่เลิศล้ำ ตราบเท่าที่พวกเราส่งผู้ใช้วิชาปกครองอสูรขอบเขตราชันยุทธ์เข้าไป คิดควบคุมจอมราชันดวงดาวอสูรย่อมทำได้ หลังจากที่มันดูดกลืนพลังมหาศาลไปขนาดนั้น ร่างกายของมันยิ่งใหญ่โตและแข็งแกร่ง ตราบเท่าที่มีพลังงาน มันจะยิ่งเติบโตได้มากขึ้นไปอีก!”

“หากพวกเราจับตัวจอมราชันดวงดาวอสูรที่มีชีวิต และอัญเชิญดวงดาวอสูรอีกสักจำนวนหนึ่งลงมา ด้วยพลังดวงดาวมหาศาล จอมราชันดวงดาวอสูรจะสามารถมีพลังระดับครึ่งเซียน... บางทีอาจเป็นพลังถึงระดับเซียนได้!”

ได้ยินคำกล่าวของชายวัยกลางคน ครึ่งเซียนจากตำหนักจารึกเทวะพลันเผยความยินดี เขากล่าว “ทุกคน เช่นนั้นร่วมมือกับเปิดม่านพลังแล้ว!”

“เจ้าจงทำไปเองเถอะ!” เปาเฉิงโฉ่วตัดเยื่อใย

“ฉินหยุนอาจยังรอดชีวิต เมื่อใดม่านพลังเปิด เจ้าจะสามารถเข้าเกาะไปค้นหาตัวเขาได้!” ครึ่งเซียนจากตำหนักจารึกเทวะเร่งรีบกล่าว

ย้อนกลับไปกาลก่อน ผู้คนซึ่งติดตั้งม่านพลังนี้ คือกลุ่มอาจารย์จารึกเต๋าระดับชั้นแนวหน้า กระทั่งว่าเป็นครึ่งเซียน คิดทำลายมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

“คิดทำอะไรจงทำด้วยตนเอง! ฉินหยุนย่อมต้องตายอย่างไม่มีอันใดให้สงสัย อย่าได้เชื่อคำกล่าวอ้างนั้น!” เจี้ยนหนันหู่กล่าวคำขึ้น “ย้อนกลับไปตอนนั้น ฉินหยุนเผชิญหน้าจอมราชันดวงดาวอสูรเพียงลำพัง เขาคงกลายเป็นพลังงานให้จอมราชันดวงดาวอสูรนั่นไปแล้ว!”

ครึ่งเซียนจากตำหนักจารึกเทวะเผยเสียงกราดเกรี้ยว “หากเจ้าไม่ช่วย เช่นนั้นพวกเราก็ทำเองได้!”

หลังจากนั้น เขาจึงให้ชายวัยกลางคนไปนำราชันยุทธ์ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรเดินทางมา

เจี้ยนรั่วหยานเอ่ยถามเสียงเบา “จ้าวสำนัก ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรหายากมากเลยหรือ?”

เปาเฉิงโฉ่วพยักหน้ารับ “พลังจิตพวกเขาเหล่านั้นเปรียบดังท้าทายสวรรค์ ดังนั้นจึงหาตัวได้ยากอย่างยิ่ง!”

หานเฝิงหู่และคณะคนของฝ่ายเขา เพียงแต่รับชมเรื่องราว หาได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำลายม่านพลัง

ด้วยเหตุนี้ จึงมีแต่คนของตำหนักจารึกเทวะอีกฝ่ายที่โหมโจมตีม่านพลังกันอย่างสุดแรง

“ผู้อาวุโส ท่านต้องใช้เวลาประมานใดขอรับ?” ชายวัยกลางคนเอ่ยถาม

“ไม่มั่นใจนัก บางทีอาจราวครึ่งวัน!” ครึ่งเซียนกล่าวออกด้วยอาการร้อนรนระดับหนึ่ง

“หากพวกเราช้าไปเพียงนิด มันผู้นั้นได้ดูดกลืนพลังดวงดาวภายในจนหมดสิ้นและแข็งแกร่งมากขึ้น มันจะยิ่งเป็นเรื่องยากหากคิดควบคุมมัน... ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรของพวกเรามากสุดก็อยู่ที่ขอบเขตราชันยุทธ์” ชายวัยกลางคนเอ่ยเสียงอย่างเป็นกังวล “หากพลังของมันเพิ่มขึ้นเกินกว่าราชันยุทธ์ คิดควบคุมตอนนั้นก็ถือเป็นเรื่องยากมหาศาลแล้วขอรับ”

“อย่างนั้นจะให้พวกเราทำอย่างไร?” ครึ่งเซียนผู้นี้ยิ่งร้อนใจ จากนั้นเขาจึงนำเอายันต์สว่างเจิดจ้าสีทองออกมา

ยันต์แผ่นนี้หนาใหญ่คล้ายแผ่นกระเบื้อง ทั้งตัวยันต์เป็นสีทองอร่าม

“นั่น... ยันต์ราชัน! ถึงกับคิดใช้ของระดับนั้นเลยหรือ!” หานเฝิงหู่อุทานเสียงเบา

ครึ่งเซียนผู้นั้นนำเอายันต์ราชันออกมาจำนวนหนึ่ง พวกมันล้วนเป็นสิ่งของล้ำค่าอย่างถึงที่สุด

มูลค่าของยันต์ราชัน ไม่ต้อยต่ำไปกว่าอุปกรณ์เต๋า และพลังของมันมากล้ำ กระทั่งจักรพรรดิยุทธ์ก็ไม่อาจได้ครอบครองยันต์เช่นนี้

“ยันต์ราชันทำลายเขตแดน?” หานเฝิงหู่ขมวดคิ้วกล่าวคำ “หากใช้จำนวนหนึ่งระเบิดพลังออกไป ก็สมควรทำลายม่านพลังได้!”

ครึ่งเซียนในชุดสีเทาพยักหน้ารับ “ยันต์ราชันทำลายเขตแดนเป็นสิ่งที่ยากสร้างขึ้นมาอย่างยิ่ง เขาถึงขั้นกล้าใช้งานมัน...”

ก่อนหน้านี้ ผู้คนต่างได้ยินจากชายวัยกลางคน ว่าจอมราชันดวงดาวอสูรเป็นตัวตนอันพิเศษ ตราบเท่าที่มีพลังงานป้อนให้มันเรื่อยไป พลังของมันจะยิ่งเติบโตขึ้นราวกับหลุมไร้ก้น

เป็นปกติที่ตำหนักจารึกเทวะจะต้องการมันไว้ในครอบครอง มันถือเป็นสิ่งล้ำค่าระดับสูงยิ่ง

ครึ่งเซียนจากตำหนักจารึกเทวะส่งแผ่นยันต์ราชันบินออก เมื่อมันสัมผัสกับม่านพลัง คลื่นพลังสีทองอัดแน่นพลันปะทุออก แสงสีทองถึงกับเข้าปกคลุมทั่วทั้งเกาะยุทธ์อสูร

“ม่านพลังยังไม่ถูกทำลาย!” เจี้ยนรั่วหยานขมวดคิ้วกล่าว

“ทว่าอำนาจของม่านพลังก็อ่อนลงไปมาก บางตำแหน่งถูกทำลาย อย่างไรแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่อาจารย์จารึกโบราณสร้างไว้ คิดทำลายย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย!” เจี้ยนสือเทียนกล่าว

“ราชันยุทธ์สามารถเข้าไปและใช้งานอาวุธ! เร่งรีบให้ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรขอบเขตราชันยุทธ์เข้าไปได้แล้ว!” หนึ่งในราชันยุทธ์จากตำหนักจารึกเทวะเร่งรีบพุ่งเข้าไปโดยไม่ติดขัดอันใด

กระนั้น ครึ่งเซียนก็ยังถูกม่านพลังขวางกั้นเอาไว้อยู่

“คิดว่าหากพวกเราร่วมมือกันโจมตี สักครึ่งชั่วยามคงสำเร็จผล กระนั้นตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเช่นนั้น!” เจี้ยนสือเทียนกล่าว

ไม่นานจากนั้น ผู้อาวุโสชุดสีแดงจึงมาถึง เขาถือแส้หางม้าเอาไว้ในมือ หลังได้ทราบสถานการณ์ เขาจึงยินดีเป็นล้นพ้นพร้อมบุกเข้าสู่เกาะยุทธ์อสูร

“ข้าคิดอยากเข้าไปรับชมยิ่งนัก!” เจี้ยนรั่วหยานกล่าวเสียงเบา

“อย่าได้เข้าไป ภายในอันตรายเกินไป!” เจี้ยนสือเทียนกล่าวเตือน

ภายในเกาะยุทธ์อสูร ฉินหยุนควบคุมจอมราชันดวงดาวอสูรเพื่อไล่ล่าและสังหารสัตว์ราชันอสูร

ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรที่นี่สิ้นชีพเพราะฝีมือของเขาและเชี่ยวเย่ว์หลานไปเรียบร้อยแล้ว

เชี่ยวเย่ว์หลานขณะนี้กำลังควบคุมจอมราชันดวงดาวอสูร บุกเข้าโจมตีใส่สัตว์อสูรขนาดใหญ่

แต่แล้วอย่างกะทันหัน แสงสีแดงพลันเคลื่อนคล้อยลงมา

“มีคนมา! ทั้งยังแข็งแกร่งนัก เป็นราชันยุทธ์!” ฉินหยุนรับแกนกลางดวงดาวควบคุมแทนพร้อมกล่าวอย่างตระหนก

“ดูจากชุดนั่น หรือจะเป็นราชันยุทธ์ผู้ใช้วิชาปกครองอสูร?” เชี่ยวเย่ว์หลานกล่าว เพราะผู้ใช้วิชาปกครองอสูรซึ่งถูกพวกเขาสังหาร ก็สวมใส่ชุดเช่นเดียวกัน ทว่าคนก่อนหน้านี้ไม่มีแส้หางม้า

“เย่ว์หลาน เร่งรีบจัดการมันให้ตกตาย!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว “ถือเป็นการทดสอบพลังจอมราชันดวงดาวอสูรตัวนี้ด้วยเลยเป็นไร?!”

เชี่ยวเย่ว์หลานหัวเราะรับเสียงเบา “ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรคนนี้ คงคิดต้องการเข้าควบคุมจอมราชันดวงดาวอสูรเป็นแน่!”

นางรับหน้าที่ควบคุมร่างจอมราชันดวงดาวอสูรกระโดดร่างทะยานออก ปลดปล่อยหมัดพุ่งเข้าปะทะกับผู้ใช้วิชาปกครองอสูร

ตู้ม!

พลังงานของหมัดที่อัดแน่นด้วยพลังดวงดาวพุ่งปะทะออก แรงระเบิดรุนแรงส่งผลให้เกิดเสียงดังสนั่นฟากฟ้า

ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรตื่นตระหนกเป็นล้นพ้น เขาไม่คาดคิด ว่าตนจะไม่อาจควบคุมจอมราชันดวงดาวอสูร พละกำลังเขาไม่อ่อนด้อย ดังนั้นจึงสามารถหลบเลี่ยงหมัดที่พุ่งตรงเข้ามาได้รวดเร็ว

“มีแต่ต้องจัดการก่อนจึงค่อยควบคุมได้อย่างนั้นสินะ!” ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรนี้มากประสบการณ์ เขากล่าวออกด้วยน้ำเสียงอันสงบ จากนั้นจึงเก็บแส้หางม้าพร้อมขว้างปายันต์ที่ดูร้ายแรงออกมา

“ไม่ใช่ว่าที่นี่ใช้ยันต์ไม่ได้หรอกหรือ?” ฉินหยุนเผยความตื่นตะลึง

“เสี่ยวหยุน อาจเป็นเพราะม่านพลังอ่อนแรงลง เพราะเหตุนั้นราชันยุทธ์จึงสามารถเข้ามาและใช้งานยันต์ได้!” เชี่ยวเย่ว์หลานถามออกมา “เจ้ามีอาวุธใดให้ใช้บ้างหรือไม่?”

“ย่อมต้องมี!” ฉินหยุนหัวเราะคิกคักพลางนำเอาค้อนเทวะเก้าตะวันออกมา

เขาปลดปล่อยค้อนเทวะเก้าตะวันออกมาเพื่อให้จอมราชันดวงดาวอสูรได้งาน

เมื่อจอมราชันดวงดาวอสูรคว้าค้อนเทวะเก้าตะวันไว้ในมือ ฉินหยุนจึงเร่งรีบขยายขนาดของมัน

“มันผู้นี้ ชะตามีแต่ต้องตาย!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง “เย่ว์หลาน วางใจและโจมตีมันไป ตราบเท่าที่โจมตีโดนตัวมัน อย่างไรมันก็ต้องตาย!”

“ได้!” เชี่ยวเย่ว์หลานรับคำยินดี นางหลับตาลงพร้อมควบคุมจอมราชันดวงดาวอสูร พุ่งทะยานหมายปะทะกับผู้ใช้วิชาปกครองอสูร

จอมราชันดวงดาวอสูรเดิมมีความเร็วอันยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ทางด้านราชันยุทธ์ผู้ใช้วิชาปกครองอสูร เขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้สูงล้ำอันใดนัก นอกจากนี้แล้ว เขายังประเมินความแข็งแกร่งของจอมราชันดวงดาวอสูรต่ำเกินไป

และเช่นกัน อาวุธที่จอมราชันดวงดาวอสูรถือเอาไว้ในมือ มันคือค้อนเทวะเก้าตะวัน!

ได้เห็นค้อนพุ่งเข้ามา ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรจึงเร่งรีบนำเอาอุปกรณ์ลึกล้ำมาต้านรับไว้

ตู้ม!

ค้อนเทวะเก้าตะวันบดขยี้อุปกรณ์ลึกล้ำนั้นแหลกเละ ร่างผู้ใช้วิชาปกครองอสูรถูกฟาดหวดลงกับพื้น ชุดเกราะบนร่างกายของเขาระเบิดแตกออก ผิวหนังและหน้าอกถึงกับแยกเปิดเป็นแผลใหญ่

“อ่อนแอเกินไปแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์หลานยิ้มอย่างนึกเดียดฉันท์

“ปลิดชีพมัน! นำเอาแก่นเต๋ามันออกมา!” ฉินหยุนกล่าว “อย่างไรแล้ว วิญญาณยุทธ์ของผู้ใช้วิชาปกครองอสูรย่อมต้องดีไม่น้อยแน่!”

จอมราชันดวงดาวอสูรพุ่งทะยานเข้ามา ฝ่ามือสะกดลงที่ศีรษะของผู้ใช้วิชาปกครองอสูร ศีรษะนั้นแหลกเละ เลือดเนื้อสาดกระเซ็นเป็นดอกบัวโลหิต

ตอนนี้เอง ด้านบนเกาะยุทธ์อสูร ผู้คนของตำหนักจารึกเทวะพลันได้เห็นยันต์ชีวิตที่มอดไหม้

“ตายแล้ว... ราชันยุทธ์ผู้ใช้วิชาปกครองอสูรเพียงหนึ่งเดียวของพวกเราตายแล้ว!” ชายวัยกลางคนร้องออกด้วยความโศกศัลย์ถึงที่สุด

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด