ตอนที่แล้วบทที่ 299 - เข้ามาใกล้ , ออกไปให้ไกล (5) [22-12-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 301 - ลิลิธ (1) [26-12-2020]

บทที่ 300 - เข้ามาใกล้ , ออกไปให้ไกล (6) [24-12-2020]


บทที่ 300 - เข้ามาใกล้ , ออกไปให้ไกล (6)

นรกสีชาดนั้นก็แข็งแกร่งพอที่จะสร้างปัญหากับฉันได้อยู่แล้วต่อให้ฉันจะแข็งแกร่งมากขึ้นเพราะราชาแห่งสรรพสัตว์ก็ตามที พวกมันได้ปรากฏตัวออกมาจากทุกๆที่ในดันเจี้ยนและพยายามที่จะเข้ามาโจมตีฉันพร้อมๆกัน

ยังไงก็ตามฉันก็รู้วิธีที่จะสู้กับพวกมันจากชั้นที่ 81 แล้ว นั่นก็คือการใช้สกิลของอัศวินแห่งความตาย ลมหายใจแห่งความตาย ฉันได้สร้างเพลิงโกลาหลที่หุ้มด้วยพลังของความตายเอาไว้ ในตอนที่พวกมันสัมผัสกับเพลิงพวกมันจะถูกย้อมเป็นสีทองเพราะการสูญเสียมานาและระเหยหายไป

"ฉันเกลียดความเงียบของพวกมันจริงๆ"

พวกมันไม่ได้ส่งเสียงลื่นๆหรือเสียงน้ำไหลออกมาเลย อยู่ๆพวกมันจะโผล่พรวดออกมาโจมตีฉัน สิ่งที่ฉันรำคาญมากที่สุดเลยก็คือสถานการที่แห่งนี้ได้ดูดมานาไปจากตัวฉัน วิญญาณสัมบูรณ์ได้ทำงานยื้อเอ่ไว้และป้องกันจิตใจฉันแต่ว่ามันก็ไม่สามารถจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบขนาดนั้น นี่มันคือนรกจริงๆ

[ข้าดอร์ตู กำลังเสริมพลังให้กับอุปกรณ์ของนายท่าน]

จู่ๆดอร์ตูก็พูดขึ้นมา

"เสริมพลัง?"

[ข้าดอร์ตู เสริมพลังให้กับโลหะทั้งหมด]

เกราะของฉันได้ส่งแสงจากๆออกมาทันที สัญลักษณ์เล็กๆก็ยังปรากฏออกมาด้วย หอกโกลาหลก็ดูจะเป็นเหมือนๆกัน หอกของฉันได้ยาวขึ้นเล็กน้อยและมีสัญลักษณ์สีแดงปรากฏขึ้นบนคมหอก

"ดอร์ตู นาย..."

[ข้าดอร์ตู ข้าทำได้เยี่ยม]

"ใช่ นายทำได้ยอดมาก"

มเมื่อเขารู้สึกต้องการจะให้ฉันชมเขาฉันก็ไม่ขัดศรัทธานั้น ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเสริมให้กับอุปกรณ์ของฉันได้ยังไง แต่ไม่นานฉันก็คงจะรู้เอง

อย่างแรกเลยคือพลังป้องกันของเกราะเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่พลังป้องกันทางกายภาพเท่านั้นแต่มันยังรวมไปถึงพลังป้องกันเวทย์และความต้านทานมานาอีกด้วย นี่มันหมายความว่านรกสีชาดจะขโมยมานาของฉันไปได้น้อยลง เดี๋ยวนะ เสริมพลังให้กับเกราะหรอ? ถึงแม้ว่าเกราะจะอยู่ในระดับตำนานแล้วก็ตามน่ะนะ?

[ข้าดอร์ตู ผลมีแค่ชั่วคราว หากมีเวลามากกว่านี้ดอร์ตูก็จะสามารถเปลื่ยนมันแบบถาวรได้]

"ดอร์ตู... นายยอดที่สุดเลย"

ในทางกลับกันหอกโกลาหลที่ได้รับการเสริมพลังขึ้นมาได้เต็มไปด้วยออร่า จำนวนออร่าที่ฉันสามารถจะดึงออกมาด้วยมานาได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นรกสีชาดก็ดูจะตกใจกับความเปลื่ยนแปลงไปของฉันทำให้พวกมันถอยกลับออกไปก่อนที่จะเข้ามาพร้อมๆกันใหม่ เจ้าพวกขี้ขลาดนี่มัน

[พวกมันอยู่ต่ำกว่าเราด้วยเจ้านาย!]

"ชาราน่า! พวกเราจะทะลวงผ่านไป!"

ให้ตายสิทำไมฉันต้องมาวิ่งทะลุคลื่นในตอนปีนดันเจี้ยนด้วยนะ!? ฉันได้เปิดใช้งานเทพวายุพิโรธพุ่งออกไปทันที

"ชาราน่า!"

[ค่ะ นายท่าน!]

เพียงแค่ฉันพูดชื่อ ภูติธาตุของฉันก็ได้กลายเป็นยินดัและแสดงพลังออกมา จากปลายหอกของฉันได้เริ่มมีวังวนที่รุนแรงปกคลุมลงมาถึงตัวของฉัน ชาราน่าได้เสิรมพลังให้กับวังวนนี้อย่างมากและเพลิงโกลาหลของหอกก็ได้ส่งแสงที่ดูน่ากลัวออกมาไม่แพ้วังวนเลย

"ย๊ากกกกกกกกกก!"

ฉันได้ร้องออกมาสุดเสียงและพุ่งตรงเข้าใส่คลื่นนรกสีชาด

"พวกแกมันก็แค่พวกตัวก็อปปี้เท่านั้นแหละ"

คลื่นที่พัดมาจากฉัน หลังจากที่ได้ปะทะกับวังวนเพลิงแล้วพวกมันส่วนใหญ่ระเหยไปและล่วงลงไปในตอนที่ถูกย้อมเป็นสีเทา ถึงแม้ว่าฉันจะมองเห็นได้แต่ข้างหน้าวังวนที่หมุนอยู่แต่เสียงของพวกนรกสีชาดที่ตายไปก็ทำให้ฉันยิ้มออกมา

"ที่พวกนายเป็นแบบนี้ พวกนายก็น่าจะรู้นะว่าแข็งแกร่งไม่พอ"

แน่นอนว่าด้วยจำนวนของพวกมันมันก็เป็นการยากที่ฉันจะคงสภาพวังวนเอาไว้ได้ แต่หากฉันหยุดลงเมื่อไหร่ฉันก็รู้ได้เลยว่าฉันจะต้องถูกพวกมันกลืนกินไปแน่ ดังนั้นฉันจึงได้จับหอกแน่นและพุ่งทะลวงไปด้านหน้า วิญญาณสัมบูรณ์ วงจรเพรูต้า ดอร์ตูและชาราน่า นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ผสมพลังที่มากแบบนี้

[คุณได้เคลียร์ดันเจี้ยนที่หนึ่งชั้นที่ 82 คุณได้รับคุณสมบัติที่จะท้าทายบียอนชั้นที่ 32]

[คุณได้รับโบนัสสเตตัส 5 แต้ม]

หลังจากได้ใช้เทพวายุพิโรธไปหลายต่อหลายครั้งในที่สุดฉันก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ เมื่อวังวนรอบตัวของฉันได้หายไปในที่สุดแล้วฉันก็สามารถจะกลับมามองรอบๆได้อีกครั้ง ไกลออกไปหน่อยมีบันไดและประตูสีดำที่นำฉันไปสู่บียอนอยู่ นอกจากนี้ก็ยังมีโรเล็ตต้าที่มองฉันอย่างตกใจ

"ชิน ชินเปลื่ยนเกราะกับอาวุธใหม่หรอ? ชินไปหาหลินมาหรอ?"

"อ่า ไม่ นี่เป็นเพราะภูติธาตุของฉันนะ"

"ภูติธาตุ? ภูติธาตุที่เปลื่ยนเกราะกับอาวุธระดับตำนานได้งั้นหรอ? อืมมม...."

ฉันไม่ได้คิดมากนัก แต่ว่าดูเหมือนโรเล็ตต้าจะคิดต่างจากฉัน ยังไงก็ตามเธอก็ดูจะลังเลและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก กลับกันเธอได้ยิ้มขึ้นมาและเปลื่ยนเรื่องไป

"ทำได้ดีมาก ศัตรูของโลกไม่ใช่สิ่งที่จะรับมือได้ง่ายๆใช่ไหม?"

"แน่นอนสิ"

"มานี่สิฉันจะนวดให้"

"ฉันรู้สึกว่าเธอจะพาฉันไปนวดในที่ที่ไม่ดีนะสิ"

"อย่าได้ประมาทนะ เอะเฮะเฮะ"

ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าโรเล็ตต้าได้ลืมเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับการทำงานในชั้นขายของไปแล้ว แต่ว่าเมื่อเห็นหน้าของเธอฉันก็ปฏิเสธเธอไม่ได้

"อูหุหุ ฉันได้เตรียมที่นอนเผื่อจะเกิดอะไรขึ้นเอาไว้แล้วด้วยนนะ"

"ถ้าเธอสัมผัสที่แปลกๆของฉัน ฉันจะตรงเข้าบียอน"

โรเล็ตต้าได้นวดฉันจริงๆซึ่งขัดไปจากท่าทางของเธอ เมื่อฉันได้นอนลงเกราะและหอกของฉันก็ได้กลับไปอยู่ในรูปแบบของกำไลข้อมือและปลอกคอ เธอได้ขึ้นมาบนตัวฉันและกดนิ้วนวดลงไปบนกล้ามเนื้อที่เจ็บของฉัน หากเป็นคนปกติก็คงจะกระดูกหักไปแล้วแต่ว่าตัวฉันในตอนนี้มีพลังมากพอที่จะทนกับความแข็งแกร่งของเธอ ทุกๆครั้งที่เธอกดนิ้วลงมาก็จะดูเหมือนมีลมเย็นๆไหลเข้ามาในตัวฉัน ฉันยังได้ยิน

[พลังเวทย์ของคุณเพิ่มขึ้่น 1]

[พลังเวทย์ของคุณเพิ่มขึ้น 2]

[โชคของคุณเพิ่มขึ้น 3]

[ความอดทนของคุณเพิ่มขึ้น 2]

"นี่มันคือพลังที่จะมีแต่ราชินีเอลฟ์ที่ใช้ได้ ดังนั้นฉันจึงใช้มันไม่ได้บ่อยนัก ชิควรจะสนุกไปกับันนะ แล้วเป็นไงบ้าง สบายขึ้นไหม?"

"อืมม สเตตัสของฉันกำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างถาวร... นี่มันจะไม่ผิดหรอ?"

"... ตามปกติแล้วเทคนิคนี้จะใช้ได้แค่เฉพาะกับคู่สมรสของราชินีเอลฟ์ ดังนั้นอย่าไปบอกเอลฟ์คนอื่นนะ"

ฉันได้ยิ้มขึ้นและผ่อนคลายร่างกายของตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่ฉันได้หลับตาลงไปก็ได้ทำให้โรเล็ตต้าหัวเราะออกมาในขณะที่ยังคงนวดต่อไป

"เห๋... ใช่แล้ว ถ้าเป็นชิน... หุหุ"

"เธอพูดอะไรนะ?"

"ฉันบอกว่าฉันรักชิน"

"อืมม... ฉันก็รักโรเล็ตต้าเหมือนกัน"

"...ฮี้ ฉันไม่ได้บันทึกมันเอาไว้อีกแล้ว"

โรเล็ตต้าได้ขมวดคติ้วขึ้นมา ทำให้ฉันหัวเราะออกไปเล็กน้อย

ฉันรู้ว่านี่มันไม่ใช่สิ่งที่โรเล็ตต้าจะพูดแต่แรกแน่นอน ฉันรู้ว่าเธอได้ซ่อนบางอย่างจากฉัน แต่ว่าฉันไม่ได้ถามออกไป

เธอเป็นราชินีเอลฟ์ที่มีชีวิตอยู่มานานกว่า 2000 ปี เธอไม่จำเป็นต้องบอกทุกๆอย่างที่เธอรู้กับฉันก็ได้ พวกเขาทั้งสองคนต่างก็ไว้ใจกันและกัน

ความเงียบที่น่าพอใจได้ดำเนินต่อไปอย่างนี้และไม่นานนักพวกเราก็ไปคุยเรื่องอื่น

"เคนได้เข้ากิลด์ของชินหรอ?"

"ใช่แล้ว เขาได้ตัดสินที่จะมาร่วมมือกับฉันเพื่อเป้าหมายที่มีร่วมกัน

"จริงๆแล้วฉันก็คิดว่าฉันรู้ทุกๆอย่างเกี่ยวกับชินนะ.... แต่ว่าชินในตอนนี้ได้เจอกับสิ่งต่างๆที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนและชินตอนนี้ก็ยังทำในบางสิ่งได้ง่ายๆทั้งๆที่มันเป็นเรื่องยากสำหรับฉัน"

วิธีการพูดของเธอดูเหมือนกับแม่ที่ภูมิใจที่ลูกเติบโตทำให้ฉันอดหัวเราะออกมาไม่ได้

"เธอไม่ชอบหรอ?"

"ไม่ ฉันคิดว่าการมีความลับมันทำให้มีเสน่ห์มากขึ้น ฉันไม่ได้มีแผนที่จะเค้นถามอะไรจากชินอยู่แล้ว"

"โรเล็ตต้าก็มีเสน่ห์เหมือนกัน"

"อูววว"

โรเล็ตต้าได้เงียบลงไปทำให็ฉันได้เล่าเรื่องของเคนต่อ

"ฉันคิดว่าเคนอาจจะมีความรู้สึกที่ยาวนานกับโรเล็ตต้านะ"

"ฉันก็คิดแบบนั้น ชินก็รู้ว่าฉันสวยมาก"

"ว้าว"

"ว้าว!? ว้าวนั่นมันอะไรกัน!?"

"มันหมายความว่าฉันรักเธอ"

"อย่ามาหลอกฉันนะ"

โรเล็ตต้าได้เริ่มนวดตัวฉันแรงขึ้นอีกแต่ว่าฉันก็ยังหัวเราะออกไป ถ้าหากว่าฉันไม่ได้รับพลังมาจากราชาแห่งสรรพสัตว์ร่างของฉันคงแหลกไปแล้ว

[เสน่ห์ของคุณเพิ่มขึ้น 3]

[โชคของคุณเพิ่มขึ้น 3]

"อ่า นี่มันพอแล้ว เธอคิดว่าจะใช้พลังเท่าไหร่กันล่ะ?"

"แต่...."

"ค่อยทำแบบนี้ทีหลังก็ได้ ตอนนี้ฉันต้องไปแล้ว"

ฉันได้ลุกขึ้นมายืดตัว การนวดของเธอได้ทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นเหมือนกับการสร้างร่างใหม่ของฉันเลย ฉันได้ลูบหัวโรเล็ตต้าเบาๆที่ดูจะอยากได้มากกว่านี้และกระโดดเข้าไปในบียอนโดยไม่แม้แต่ใส่เกราะ

จากนั้นในเวลาแค่ 30 นาทีต่อมาฉันก็ได้กระโดดออกมาจากประตู โรเล็ตต้าที่กำลังหาวอยู่ได้เบิกตากว้างอย่างตกใจ หลังจากที่ได้ตรวจสอบฉันแล้วเธอก็เรียกฉันอย่างตกตะลึง

"....ชิน?"

ฉันได้โบกมือของฉันให้กับเธอและวิ่งขึ้นไปบนบันได

"ไว้เจอกันชั้นที่ 83 นะโรเล็ตต้า"

"....เอ๋" ชิน! ชิน! นั่นมันอะไรนะ ชินเข้าไปในบียอนใช่ไหม แล้วชินไปบนชั้นที่ 83 ได้ยังไง มันเกิดอะไรขึ้น?"

แม้ว่าหลังจากที่ฉันได้เข้ามาในชั้นที่ 83 แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนกับได้ยินเสียงตะโกนของโรเล็ตต้าอยู่ ฉันได้พบว่านี่มันน่าสนใจจริงๆ

จากชั้นที่ 81 ไปจนถึงชั้นที่ 85 ฉันก็สามารถจะข้ามบียอนไปได้แล้วดังนั้นนรกสีชาดเป็นเพียงแค่อุปสรรคอย่างเดียวที่ฉันจะต้องเจอ โชคดีที่นรกสีชาดบนชั้นสูงๆก็ไม่ได้ถูกเสริมเอฟเฟ็กต์แปลกๆมา พวกมันก็แค่ดูดมานาได้มาขึ้นในตอนที่ปรากฏตัวเท่านั้นเอง

ยิ่งฉันได้สู้กับพวกมันมากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งเชี่ยวชาญในทักษะของฉันมากขึ้น จากที่ฉันรู้สึกวิญญาณสัมบูรณ์ก็ดูจะพัฒนาขึ้นมากที่สุด มันได้ทะลวงไปถึงเลเวล 8 ในระหว่างที่ฉันทะลวงชั้นที่ 83 และในชั้นที่ 84 ซึ่งเป็นโถงทางเดินที่เปิดกว้างและมีนรกสีชาดที่แข็งแกร่งขึ้นในที่สุดแล้ววิญญาณสัมบูรณ์ของฉันก็ได้ไปถึงระดับ 9 แม้แต่ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลย

"ฟู่.... ถ้างั้นนี่มันไม่ใช่แค่การจินตนาการของฉันสินะ ประสิทธิภาพของวงจรเพรูต้าก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน

วิญญาณสัมบูรณ์ได้มุ่งเน้นไปสู่ความสำเร็จของวิญญาณที่สมบูรณ์แบบ พลังของมันคือการดูดมานาตามธรรมชาติเพื่อยะระดับวิญาณของฉันแต่ว่าหลังจากที่มันได้มาถึงเลเวล 9 แล้วมันไม่เพียงแต่ขโมยมานาจากมนอสเตอร์เท่านั้นแต่มันถึงกลับดูดมานาจากทุกๆสิ่งในจักรวาลแล้ว ในตอนที่ฉันได้ใช้วงจรเพรูต้าดูดมานามันได้เพิ่มผลลัพธ์ขึ้นไปหลายเท่า

นอกไปจากนี้ฉันยังคุ้นเคยกับดอร์ตูที่เพิ่งจะเกิดมามากขึ้นและสามารถจะใช้พลังของเขาได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ฉันยังได้ปรับใช้วงจรเพรูต้าให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นจนเหนือกว่าคำว่า 'เชี่ยวชาญ' ไปแล้ว

"นรกสีชาดอาจจะเป็นสภาพของสิ่งมีชีวิตที่พยายามจะไปสู่ระดับที่สูงขึ้น"

บางทีเจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสารนี้อาจจะคิดว่ามันกำลังเข้าไปหาดวงวิญญาณ

มันไม่ใช่แค่นรกสีชาดเท่านั้น ศัตรูของโลกที่ฉันได้พบทั้งหมดต่างก็พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายสูงสุดของพวกมันคืออะไร? พวกมันพยายามจะทำให้ตัวเองสมบูรณ์แบบเหมือนวิญญาณสัมบูรณ์หรอ? แม้แต่พลังของโลกก็ยังไม่.....

"อ๊า ฉันแทบจะคิดอะไรได้อีกแล้ว"

มันอาจจะเป็นนามธรรมมากเกินกว่าที่ฉันจะหาคำตอบที่แน่นอนได้ ยังไงก็ตามสำหรับตอนนี้ฉันได้รู้สึกว่าจังหวังหัวใจของฉันได้เต้นรัวและดังมากขึ้น สัญชาตญาณของฉันมันกำลังบอกกับฉันว่าฉันเดินมาถูกทางแล้ว ถ้าฉันยังไม่ตอแบบนี้ ฉันก็จะสามารถวิ่งได้เร็วกว่าคนอื่นๆ

แต่... ทำไมล่ะ? ทำไมมีแค่ฉัน?

ฉันไม่รู้เลย ฉันไม่ได้มีทางได้คำตอบแน่ดังนั้นฉันก็ต้องไปต่อเท่านั้น ซักวันหนึ่งเมื่อมันถึงจุดหมายฉันก็จะรู้เอง

ฉันได้เตะประตูยักษ์ข้างหน้าออกไป มันกำลังรอคอยฉันอยู่

"มาสู้กันนรกสีชาด"

การต่อสู้กับบอสประจำชั้นที่ 85 ได้เริ่มขึ้นแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด