ตอนที่แล้วบทที่ 257 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (8) [01-10-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 259 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (10) [05-10-2020]

บทที่ 258 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (9) [03-10-2020]


บทที่ 258 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (9)

เรสพิน่ามีผมสีม่วง ผิวสีน้ำเงินอ่อน และม่านตาสีขาวน่ากลัว แต่แม้แบบนั้นเธอก็ยังสามารถจะเรียกได้ว่าสวยงามแม้จะมองจากพื้นฐานของมนุษย์ ยังไงก็ตามลักษณะเผ่าพันธ์ของเธอก็เด่นชัดเกินไปและทำให้เธอดูเหมือนมอนสเตอร์มากกว่าหญิงสาว

ในตอนที่ฉันชี้หอกไปทางเธอจู่ๆเธอก็เริ่มพูดออกมา

[ฮีโรตอบฉันหน่อยสิ คนที่มาในทวีปลูก้าใช่เจ้าไหม]

"ฮ่าห์"

ฉันได้พุ่งออกไปโดยไม่สนใจเธอ หลังจากที่ฉันได้ยิงออร่าที่รวมอยู่บนปลายหอกออกไปอย่างรวดเร็ว ฉันก็ได้รวมภูติธาตุใกล้ๆมาสร้างขึ้นเป็นใบมีดธาตุ

"ใบมีดธาตุ"

[ฮิค ฉันเกลียดตัวเองจังเลยที่มานั่งสิ่งนี้อีก]

[ทำไมนายต้องร้องไห้ล่ะ ขี่นี่มันสนุกดีออก]

[รถไฟเหาะ]

[ข้าบอกเจ้าแล้วว่าทักษะของเจ้ามันไม่ได้ผลกับข้า]

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้จำกัดการใช้พลังของเธอเลยในตอนที่เธอยกดาบขึ้นมาปะทะกับฉัน แม้ว่าคมหอกของฉันที่ทำขึ้นมาจากใบมีดธาตุจะสั้นลง แต่ฉันก็ยังคงพุ่งเข้าไปหาเธอ ในตอนที่ฉันใช้มัน ฉันก็เดาเอาไว้ว่าเธอจะต้องยกเลิกพลังนี้ การค้นพบว่าพลังของเธอไม่สามารถจะยกเลิกทักษะของฉันได้โดยสมบูรณ์มันเป็นประโยชน์โดยที่ฉันไม่ได้คาดคิดไว้

เรสพิน่าก็ดูจะรู้ในเรื่องนี้เหมือนกัน ตอนนั้นเธอก็ได้กัดริมฝีปากและชี้ดาบมาถ้าฉัน ถ้าทั้งหมดนี้คือพลังของเธอ เธอก็คงไม่มีทางตัดส่วนของแอนตาร์กติก้ามาใช้เป็นเรือได้แน่นอน

[เจ้าจะไม่มีเวลาแม้แต่แสดงความเจ็บปวด]

ออร่าสีขาวได้ปรากฏขึ้นมาหุ้มร่างของเธอเอาไว้ รอบตัวฉันได้ถูกล้อมไปด้วยพลังงานเยือกแข็งในทันที แม้แต่พลังของริยูก็ยังเป็นเรื่่องยากที่จะต้านพลังนี้

"ริยู"

[ฉันกำลังคอยอยู่เลย]

ริยูดูจะรู้สึกได้ถึงพลังของศัตรูของพวกเราทำให้เธอได้เข้าไปอยู่ในเกราะของฉันในทันทีที่เรียกเธอ จากนั้นฉันก็ให้ชาราน่าเข้าไปภายในเกราะของฉัน

[แล้วฉันล่ะนายท่าน]

"เธอเข้ามาในร่างฉันเลยไพก้า"

[เข้าใจแล้ว]

ในตอนนี้ฉันได้ใช้ภูติธาตุทั้งสามตนด้วยสปิริตออร่าพร้อมๆกันทำให้ฉันต้องใจมานาไปอย่างมหาศาล และด้วยการที่ฉันใช้มานาไปจากราชันวายุพิโรธในก่อนหน้านี้อีกด้วยทำให้ฉันก็ดึงพลังของวงจรเพรูต้าจนถึงขีดสุดเพื่อชดเชยให้กับมานาที่ต้องเสียไป

แน่นอนว่าด้วยมานาจำนวลมหาศาลกว่า 200,000 มานา ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมากังวลเรื่องนี้มากเกินไป ตราบเท่าที่ฉันยังคงมีมานาโพชั่นอยู่มันก็จะไม่หมดลง ในตอนที่เธอได้มองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่ตกใจฉันก็ได้หยิบเอาโพชั่นมานาเกรดสูงนับสิบออกมา หนึ่งขวดดื่มลงไปในขณะที่ขวดที่ยังเหลืออยู่ได้เก็บไประหว่างเข็มขัด มันเป็นการเตรียมพร้อมเอาไว้เผื่อในกรณีที่เธอจะปิดผลึกช่องเก็บของเหมือนกับศัตรูของโลก

แต่ฉันเดาว่าเธอคงจะทำแบบนั้นไม่ได้ เพื่อที่จะยืนยันในเรื่องนี้ฉันได้ยกหอกขึ้นอีกครั้ง

[ผู้ใช้ภูติธาตุ... อย่างที่ข้าคิดเลย เจ้าคือ....]

"ฮ่าห์ วังวนโกลาหล"

ฉันได้จุดเพลิงโกลาหลขึ้นแทนที่จะใช้พลังของไพก้าและเสริมพลังของเพลิงขึ้นด้วยพลังไต้ฝุ่นคลั่ง ในตอนนั้นพลังของชาราน่าก็ได้เสริมขึ้นทำให้วังวนเพลิงสีขาวลุกฮือขึ้น แต่แล้วเรสพิน่าเธอก็ได้ตะโกนออกมาอีกครั้งและกางมือออกมา

[ข้าบอกแล้วว่ามันไร้ประโยชน์]

ฉันได้หยักหน้าเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังที่ผ่านฉันไป ฉันพอจะรู้สึกได้ถึงบางอย่างเรื่องของขอบเขตพลังนี้ แม้ว่ามันจะไม่ได้สร้างอันตรายกับฉันโดยตรง แต่พลังนี้ก็นำเอาพลังที่ไม่ใช่ของฉันไป

พลังนี้กลับคล้ายกับพรมากกว่าที่จะเป็นคำสาป ฉันพอจะอนุมานได้ว่าทักษะนี้เป็นการเปลื่ยนทุกสิ่งให้กลับไปสู่สถานะบริสุทธิ เพราะแบบนี้ฉันก็เลยเข้าใจได้เลยว่าทำไมเธอถึงได้ทำลายเหตุการณ์ดันเจี้ยนได้ เนื่องจากว่าเหตุการณ์ดันเจี้ยนเป็นคุกเทียมที่สร้างขึ้นมาด้วยพลังของลอร์ดเชอริฟิน่า

พลังของนักสำรวจที่ใช้อยู่ก็ไม่ได้เป็นของตัวพวกเขาเองคล้ายๆกัน มันคือพลังที่กลั่นกลองขึ้นมาโดยดันเจี้ยนให้นักสำรวจใช้งานได้ง่ายขึ้น แม้ว่าพลังของดันเจี้ยนมันจะบังคับให้ต้องเข้ากับนักสำรวจด้วย แต่มันก็ยังไม่ใช่พลังที่เกิดจากนักสำรวจจริงๆ ฉันผู้ที่กำลังก้าวออกมาจากกรอบนั้นจึงได้พอเข้าใจในสิ่งที่พลังของเธอทำอยู่

ยังไงก็ตามเพลิงนี้ เพลิงโกลาหล....

"แม้ว่าจะเป็นเพลิงเท่าฝ่ามือมันก็เจ็บมากพอแล้ว"

"ถ้าคิดว่าจะเผาข้าด้วยไฟหยิบมือนั้นก็ลองดู"

วังวนเพลิงที่ล้อมรอบหอกของฉันอยู่ได้เล็กลงไปกว่าเดิมมากๆ ล็อทเต้กับฉันได้พุ่งตรงไปหาเรสพิน่าอย่างไม่ลังเลใจ และเรสพิน่าก็ได้เหวี่ยงดาบที่เต็มไปด้วยพลังเยือกแข็งของเธอออกมา

[ตรึง]

"ฮ่าห์"

ฉันได้ส่งเสียงออกมาและรับดาบของเธอด้วยหอก ไอน้ำจำนวนมหาศาลได้พวยพุ่งขึ้นมาในทันที

[ข้าเข้าใจแล้วทำไมเจ้าถึงยโสนัก แต่ว่านะไฟของเจ้าก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องกลัว]

"มาดูกันว่าฉันทำได้ไหม"

ในตอนที่ดาบป้องกันหอก ฉันได้ถอยหลังกลับมาทันทีและโจมตีเข้าไปที่ไหล่ของเธอ การชักหอกกลับมาและโจมตีกลับไปอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่ฉันทำได้จนชินแล้วก่อนที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนซะอีก ด้วยระดับในปัจจุบันของฉันแล้วการแทงที่รวดเร็วไม่ได้มีทางเธอจะกันได้

[มันไม่ได้ผลหรอก]

ยังไงก็ตามก่อนที่หอกของฉันจะทะลวงไหล่ของเธอ น้ำแข็งก็พุ่งขึ้นมาจากไหร่ของเธอและป้องกันหอกเอาไว้หอกที่หุ้มด้วยเพลิงได้ปะทะเข้ากับน้ำแข็งของเธอสิ่งที่ออกมามีเพิ่งแค่ไอน้ำเท่านั้น

[นี้คือทั้งหมดที่เจ้าทำได้ในฐานะฮีโร่แล้วงั้นหรอ นี้คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเจ้าถึงได้วิ่งหนีในตอนเจอท่าองค์เหลือหัวเดม่อนลอร์ดสินะ ข้าจะแช่แข็งเจ้าและมองให้กับองค์เหนือหัวหัว]

"เนื้อแช่แข็งมันไม่ค่อยอร่อยนา"

แม้ว่าฉันจะตอบออกไปอย่างไม่สนใจอะไรแต่ว่าพลังเยือกแข็งของเธอเป็นของจริง พลังนี้มันดูง่ายๆธรรมดา แต่ว่ามันเป็นพลังที่แช่แข็งทั้งทวีปมาแล้ว ในตอนที่ริยูออกมาจากเกราะของฉันมันก็อาจจะแช่แข็งฉันได้ในทันทีเลยก็ได้

ฉันได้แทงหอกออกไปหยุดดาบของเธอทำให้ไอน้ำได้พวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องล้อมเราเอาไว้ แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นเรสพิน่าหรือฉันต่างก็ไม่ใช่มือใหม่ที่จะถูกบังตาได้ด้วยไอน้ำแค่นี้ แต่ในบางจุดเรสพิน่าก็ดูจะรู้ตัวว่าเธอไม่ได้อยู่ในสภาพปกติ

[เจ้า เจ้ามีดวงตามาร]

"เธอจะรู้ตัวช้าเกินไปไหม"

[เจ้าคิดว่าดวงตามารของเจ้าจะหยุดข้าได้หรอ ดูเหมือนว่าที่เจ้าได้มาเป็นฮีโร่ผ่านการประกวดสินะ]

จู่ๆการเคลื่อนไหวของเรสพิน่าก็ได้ดุดันขึ้น เธอได้เร่งพลังงามเยือกแข็งจำนวนมากเข้าไปในดาบของเธอและฟาดหอกของฉัน จากนั้นเธอก็กระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้า ฉันได้สั่งล็อทเต้โดยทันทีเพื่อไม่ให้เธอได้เตรียมใช้ทักษะของเธอ

"ล็อทเต้พุ่งเข้าไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้เลยย"

[เข้าใจแล้วฮีโร่]

ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์และหมอบตัวลงทันที ล็อทเต้ได้กลายเป็นเส้นแสงสีทองและเร่งความเร็วเข้าไปหาเรสพิน่า

เนื่องจากว่าล็อทเต้คือราชินีเพลิงเธอจึงมีความเกี่ยวข้องกับแสงและไฟ มันจะไม่เป็นการพูดเกินไปเลยหากจะพูดว่าร่างของเธอนี้เป็นการผสมรวมระหว่างแสงกับไฟ ถ้าไฟของเธอเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังแล้วล่ะก็ แสงก็คือสัญลักษณ์ของควาเร็วสูง ความเร็วที่เธอได้เร่งขึ้นในทันทีนั้นเร็วเทียบเท่าได้กับทักษะความเร็วศักดิ์สิทธิ์ของฉัน เพราะแบบนี้ในตอนที่เรสพิน่าได้พุ่งออกไปไม่นานนักเราก็ตามเธอทันแล้ว

[อึก]

"ตายซะ"

หอกโกลาหลของฉันได้ถูกหุ้มด้วยพลังที่น่ากลัวพุ่งเข้าใส่เรสพิน่าด้วยความเร็วที่น่ากลัวของล็อทเต้ มันดูเหมือนว่าเธอจะไม่คิดว่าเราจะไล่ตามมาเร็วแบบนี้ โชคร้ายที่เวทย์ของเธอก็ดูจะไม่ต้องใช้เวลาร่ายนานนัก

[ชิน]

"อั๊ก"

หอกของฉันได้หยุดลงระหว่างท่างและมันห่างจากเรสพิน่าแค่เพียงฝ่ามือเท่านั้น เธอเร็วยิ่งกว่าฉันงั้นหรอ นี่มันเป็นไปไม่ได้ มันก็แค่ล็อทเต้กับฉันถูกแช่แข็ง

ในตอนนี้ฉันเพิ่งจะรู้ตัวว่าคริสตัลน้ำแข็งที่เรสพิน่าทิ้งไว้ระหว่างทางได้เกาะพวกเราและหยุดเราเอาไว้ แม้ว่าน้ำแข็งพวกนี้จะมีพลังที่น่ากลัวอยู่ภายใน แต่ว่ามันก็ซ่อนพลังเอาไว้ในตอนที่ฉันพุ่งเข้ามาและจู่ๆก็ปล่อยพลังออกมาในตอนที่คริสตัลน้ำแข็งมารวมกันมากพอ

[หุหุ ถูกแล้ว]

"อ๊า...."

[อากาศที่นี่แปลก อากาศในบริเวณนี้จะต้องถูกแช่แข็งไม่ว่ายังไงก็ตาม]

ริยูได้ร้องออกมาและเปล่งแสงจำนวนมากขึ้น ล็อทเต้ก็ยังปล่อยเพลิงที่น่ากลัวกว่าปกติออกมาจากร่างของเธอเพื่อเผาน้ำแข็งที่ปกคลุมเราเอาไว้ แม้อย่างนั้นพวกเราละลายน้ำแข็งเสร็จก่อนที่เราจะถูกโจมตี.... ฉันยอมรับเลยว่าเธอก้าวอยู่หน้าเราก้าวหนึ่งเมื่อคิดถึงเวทย์ที่เธอถึงเอาไว้แล้วแสดงว่าเธอมั่นใจว่าเราจะไล่ตามหลังเธอ

[เจ้าตายไปแล้ว]

"ฉันจะไม่ยอมโดนมันเป็นครั้งที่สองแน่"

แสงสีขาวได้ลอยออกมาจากร่างของเธอ ฉันได้ใช้พลังของริยูในทันทีเพื่อสร้างบาเรียน้ำแข็งขนาดใหญ่ขึ้นรอบตัวของเรา

[ล็อทเต้พุ่งผ่านไปเลย บาเรียน้ำแข็งจะป้องกันนน้ำแข็งของเธอให้]

[ก๊าซซซซซซซซ]

ล็อทเต้ดูจะไม่พอใจที่เธอผู้เป็นราชินีเพลิงได้ถูกแช่แข็งอยู่พักหนึ่งทำให้เธอคำรามยาวออกมาและพุ่งออกไป ก่อนที่ฉันจะรู้ตัวบาเรียน้ำแข็งที่สร้างขึ้นจากพลังน้ำแข็งของริยูก็ถูกตัดขาดครึ่งจากดาบของเรสพิน่าแล้วและหอกของฉันก็แทบจะหยุดดาบของเธอไม่ทัน

[อั๊ก ทั้งหมดที่เจ้ามีก็มีแต่ความป่าเถื่อนกำลังสินะ]

"ฮ่าห์"

ฉันจะปล่อยให้เธอถอยกลับไปไม่ได้ทำให้ฉันได้ฝืนพุ่งเข้าไปไกลเธอ ด้วยการใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่องนี้ฉันได้โจมตีออกไปด้วยความเร็วที่เธอไม่สามารถจะตามทัน ยังไงก็ตามมันเหมือนกับในตอนก่อนหน้านี้เกราะน้ำแข็งของเธอจะปรากฏขึ้นมาในตอนหอกของฉันเกือบจะถึงเธอและป้องกันหอกของฉันเอาไว้

ฉันได้ใส่มานาลงไปในหอกโกลาหลอย่างไม่สิ้นสุดลงเพื่อที่จะป้องกันหอกจากการถูกน้ำแข็งทำให้สูญเสียความเร็ว ยังไงก็ตามมันไม่มีการโจมตีไหนของฉันที่ได้ผลอย่างมากเลย ถึงแม้ว่าความเร็วหอกของฉันมันจะห่างไกลไปจากปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ แต่เธอมีมานาภายในร่างมากเกินไป

"เธออายุเท่าไหร่กัน เธอเกิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่"

[ข้าแข็งแกร่งมาตั้งแต่ที่ข้าเกิด ฉันเกิดขึ้นมาได้เพราะพลังที่มหาศาลขององค์เหนือหัว การเกิดของข้าคือสัญญาณกาารเริ่มตนสำหรับแผนขององค์เหนือหัวที่จะยึดครองโลกทั้งหมดและแผนของท่านจะต้องสำเร็จ ฮีโร่ ข้าจะฆ่าเจ้าและเอาพลังของโลกมาเป็นก้าวแรกในการไปสู่เปป้าหมายนี้]

เธอไม่เพียงแค่จะยืนอยู่เฉยๆรับการโจมตีหอกของฉันเท่านั้น แม้ว่าเธอจะช้ากว่าฉันแต่เธอก็ยังโจมตีกลับมา ฉันได้ป้องกันการโจมตีของเธอด้วยพลังของริยูที่อยู่ในเกราะของฉัน แต่ว่าฉันก็หยุดความเสียหายที่เกิดขึ้นมาได้ แม้ว่าฉันจะแทงหอกออกไปอย่างรุนแรงใส่อกของเธอและใช้พายุหอกสายฟ้า แต่ทักษะนี้ก็ใช้งานได้ไม่เหมือนกับตามปกติ พลังของเธอเป็นปัญหาอย่างแท้จริง

[หุหุ การใช้พลังของดันเจี้ยนมันเริ่มที่จะยากขึ้นไปเรื่อยๆใช่ไหมล่ะ นี้คือพลังที่ถูกมอบมาให้กับข้าเพื่อทำลายเจ้าฮีโร่และทุกๆสิ่งที่มันเกี่ยวข้องกับดันเจี้ยน]

"ตื่นจากความฝันได้แอล้ว เธอจะต้องตายที่นี่"

[ข้าจะตายที่นี่งั้นหรอ.... เจ้าต่างหากคือคนที่จะตายฮีโร่]

ในตอนที่เธอตะโกนออกมาเธอก็เหวี่ยงดาบลงมาด้วยเช่นกันทำให้มานาที่อยู่ภายในดาบระเบิดออกมาอย่างรุนแรง นี้เป็นพลังเยือกแข็งที่อันครายอย่างแท้จริง

"ริยู ชาราน่า"

[ฉันพร้อมแล้ว]

[ฉันจะเสริมพลังให้ริยูเอง]

บาเรียได้ถูกสร้งขึ้นมาล้อมตัวฉันกับล็อทเต้ในทันที ยังไงก็ตามมันก็ยังไม่พอที่จะป้องกันการโจมตีของเธอ บาเรียค่อยๆพังลงอย่างช้าๆ ล็อทเต้ได้ร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น

[เจ้าปีศาจต่ำต้อยบังอาจกล้ามาโจมตีฮีโร่กับฉัน ก๊าซซซซซซ]

ล็อทเต้ได้พ่นลมหายใจเพลิงที่เหมือนกับแสงออกมา พลังงานเยือกแข็งของเรสพิน่าที่กำลังเจาะทะลวงบาเรียของริยูกับชาราน่าอยู่นั้นได้ถูกดันกลับไปด้วยลมหายใจเพลิงของล็อทตเต้ ในเวลาเดียวกันก็มีคนเข้ามาทางด้านหลังของฉัน

"หนูจะช่วยพ่อเอง"

"ไอน่า"

ในสถานการณ์ที่น่ากลัวซึ่งพลังเยือกแข็งอย่างมากกำลังปะทะกับพลังความร้อนสูง ฉันได้หันไปยิ้มให้กับไอน่าอย่างสงบแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

[ลูกสาวของเจ้าก็ยังแข็งแกร่งงั้นหรอ พลังงของโลกนี่มันสูงแปลกๆนะ... ยังไงก็เถอะมันก็ไร้ประโยชน์ต่อหน้าฉัน]

"เธอก็น่าจะทำได้เพียงแค่ยกเลิกพลังของดันเจี้ยน"

ฉันแย้งออกไปและจุดออร่าขึ้นรอบๆหอกของฉัน ในเวลาเดียวกันฉันก็พูดกับไอน่า

"ไอน่า พ่อจะจัดการผู้หญิงคนนี้เอง ไอน่าน่าจะไปช่วยคนอื่นดีกว่านะ"

"พ่อจะสู้คนเดียวหรอ"

"แน่นอนสิเธอไม่ได้เก่งอะไรเลย นอกจากนี้... มันอาจจะอันตรายนิดหน่อยนะ ปล่อยการต่อสู้บนท้องฟ้าให้รากิแล้วก็ไปสู้กับปีศาจบนพื้นดินกับแม่นะ เข้าใจไหม"

"อื้อ หนูจะไปบอกแม่นะ"

ไอน่านั้นทั้งไร้เดียงสาและนิสัยดีมาก เธอได้หยักหน้าโดยไม่สงสัยอะไรพร้อมหันกลับไป ในตอนนั้นหอกน้ำแข็งก็พุ่งผ่านฉันไป ความเร็วนี้มันน่ากลัวมากจนฉันมองแทบจะไม่ทัน

[ข้าจะฆ่ารู้สาวเจ้าก่อนละกัน]

"ตลกดีนะ"

ยังไงก็ตามฉันไม่ได้กังวลเลย ถ้าหากฉันคิดว่าชีวิตของไอน่าจะอยู่ในอันตรายฉันก็จะให้เธอถอยกลับไปนับตั้งแต่ตอนแรกที่เธอมาถึงแล้ว แม้ฉันจะบอกให้เธอกลับไปก็ตามแต่นั่นก็เป็นแค่เพราะว่าเธอไม่สามารถจะเอาชนะเรสพิน่าได้ ถึงแม้อย่างนั้นไอน่าก็จะไม่มีทางตายเพราะเรสพิน่าแน่ หากเปลื่ยนเป็นให้ฉันเชื่อว่าวอร์คเกอร์จะตายจากการซุ่มโจมตีของก็อบลินยังน่าเชื่อถือกว่าซะอีก

"อันตราย หมายความว่าไงอะ นี้มันหมายความว่าแบบนี้จริงๆหรอ"

ไอน่าได้สัมผัสกับหอกน้ำแข็งด้วยนิ้วของเธอและยกมันขึ้นอย่างง่ายดาย แม้กระทั่งเรสพิน่าจะเป็นคนใช้ แต่หอกน้ำแข็งนี้ก็ทำตามคำสั่งของไอน่าเหมือนกับแกะเชื่องๆ

[อะไรกัน....!?]

นี้มันคือระดับที่เหนือขั้นกว่าการที่จะใช้มานามาอธิบายได้ ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้ยังไง แต่ว่าในอดีตแม้จะไม่มีส่วนช่วยจากดันเจี้ยนไอน่าก็ยังสามารถเทียบกับฉันและฮวาหยาได้ ในตอนนี้เธอยังได้กลายมาเป็นนักสำรวจระดับทองแล้ว การควบคุมน้ำแข็งของเธอไม่มีใครจะมาเทียบได้อีกแล้ว

"ตามจริงหนูก็อยากจะอยู่กับพ่อนะ หนูอยากจะจัดการลงโทษคนชั่ว"

"แต่ว่าไอน่า ด้วยพลังของหนู..."

"เทวีสคาดี"

พลังเยือกแข็งจำนวนมหาศาลได้หมุนวนรอบตัวของไอน่าในทันที แม้ว่าจะค่อนข้างใกล้เคียงกับเรสพิน่าแล้วพลังที่ล้อมไอน่าอยู่ก็ยังคงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไอน่าได้มองขึ้นมาด้วยตาสีน้ำเงินของเธอ หอกน้ำแข็งในมือของเธอได้แยกออกเป็นนับพันลอยอยู่เต็มท้องฟ้าทันที ท้องฟ้าที่ซึ่งเคยเป็นอาณาเขตของเรสพิน่าได้กลายมาเป็นของไอน่าแล้ว

พลังเยือกแข็งทั้งหมดได้เป็นของไอน่าและลมหายใจของเธอก็ยังเป็นพลังเยือกแข็งและรวมกันอยู่กลางอากาศ

ท้องฟ้าได้เปลื่ยนไป จนกระทั่งถึงตอนนี้มันรู้สึกเหมือนกับโลกนี้เป็นศัตรู แต่สำหรับในตอนนี้แล้วโลกได้กลายมาเป็นพรรคพวก

ไอน่าได้ยกนิ้วขึ้นและชี้ไปที่เรสพิน่า ด้วยแบบนั้นพลังเยือกแข็งในร่างของเธอได้กระจายออกมา และสิ่งที่เธอพูดต่อมามันก็ยิ่งน่าเหลือเชื่อจนฉันต้องหัวเราะออกมา

"ถ้าเธอรังแกพ่อ ฉันก็จะรังแกเธอยิ่งกว่า ถ้าเธอรังแกฉัน ฉันก็จะรังแกเธอคืนยิ่งกว่า และถ้าหากว่าเธอมารังแกพ่อกับฉัน ฉันก็จะรังแกเธอคืนยิ่งหนักๆๆๆเลย ฉันจะลงโทษเธอเอง"

[เป็นไปไม่ได้.... เจ้าเด็กเหลือขอนี่]

ไอน่าเธอเป็นทั้งเด็กที่ได้รับทั้งพรและคำสาปที่ยิ่งใหญ่มากยิ่งกว่าภูติธาตุอย่างริยูซะอีก

....และแล้วสมาชิกคนที่ห้าของกิลด์รีไวเวิร์ลก็ได้รับชื่อที่แท้จริงแล้ว

ทีหลังบอกพ่อให้เร็วกว่านี้หน่อยสิไอน่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด