ตอนที่แล้วบทที่ 11 เรื่องคืนนั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 13 ฝันอีโรติก

บทที่ 12 คู่ฟัดคู่กัด!


จิงหยาเดินกระหืดกระหอบไปตลอดทางด้วยความโมโห

เพราะความโกรธ เธอเลยไม่ทันสังเกตเห็นว่าเธอกำลังเดินหนีเย่หัวจนไปเจอทางตันเข้าให้

ขณะกำลังกลับหลังหันเพื่อเดินย้อนกลับไป

เธอจึงเห็นว่าเย่หัวกำลังจ้ำอ้าวไล่ตามเธอมา

ถึงจะคลายความโกรธลงไปบ้างแล้ว แต่เธอทำเป็นไม่สนใจผู้ชายคนนี้

จิงหยารีบเดินหนีไปอีกทาง จนกระทั่งมาถึงยังศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง

เมื่อเข้าไปในช็อปปิ้งมอลล์ จิงหยาเดินเข้าเดินออกร้านรวงต่างๆ

โดยไม่สนใจสามีของเธอแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่เธอออกมาจากแต่ละร้าน

เธอก็จะเห็นเย่หัวยืนเก๊กหล่อสูบบุหรี่รอเธออยู่ทุกครั้ง

เธอนึกในใจว่าผู้ชายคนนี้คงสำนึกผิดแล้วสินะ

แต่เมื่อเธอเดินออกมาจากร้านสุดท้ายที่เธอเดินเข้าไป

เย่หัวกลับกลับหายหัวไปเสียอย่างงั้น

ผู้ชายงี่เง่าคนนี้หายไปไหน? จิงหยามองหาเย่หัวด้วยอาการหงุดหงิด

เธอนึกในใจว่า อีตานี่คงเห็นสาวสวยสักคนเดินผ่านมา

แล้วคงเดินตามต้อยๆ ผู้หญิงคนนั้นไป

“คุณซื้อของเสร็จแล้วเหรอ” เย่หัวเอ่ยทักจิงหยาจากด้านหลังที่เธอยืนอยู่

หญิงสาวหันกลับไปมองตามเสียงนั้น

เธอเห็นเย่หัวเดินมาอย่างสบายใจไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ ทั้งนั้น

จิงหยาขมวดคิ้วก่อนจะถามสามีของเธอด้วยน้ำเสียงดุดันว่า

“คุณหายไปไหนมา”

“ผมไปเข้าห้องน้ำ” เย่หัวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

แต่ดูน่าหมั่นไส้เกินไปสำหรับจิงหยา

“รับนี่ไปถือเลย” จิงหยายื่นถุงช็อปปิ้งในมือเธอไปยังฝ่ายชายให้ช่วยถือ

“ผมไม่ถือ” เย่หัวมองถูถุงช็อปปิ้งเล็กบ้างใหญ่บ้างในมือภรรยาสาวสวย

จอมราชันย์เทพอสูรอย่างเขาจะลดเกียรติตัวเองมาถือของให้ผู้หญิงเนี่ยนะ

ฝันไปเถอะ! รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น!

จิงหยาโกรธจนควันออกหู เธอรู้สึกคิดผิดที่เอาเย่หัวมาเป็นสามี

การต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายแบบเย่หัว คงทำให้เธออายุสั้นลงอย่างแน่นอน

อายุขัยของเธอคงหายไปสักครึ่งหนึ่ง จิงหยาคิด!

จิงหยาเลือกจะไม่พูดตอบโต้ เธอกลับหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

แล้วกดโทรออกหาใครบางคน

“สวัสดีครับท่านประธานจิง ไม่ทราบมีอะไรให้ผมรับใช้ท่านครับ”

เสียงปลายสายพูดตอบรับ

“ส่งรถมารับฉันที่เฟิร์สเรทช็อปปิ้งเซ็นเตอร์เดี๋ยวนี้เลย เร็วๆ นะ”

จิงหยาสั่งผู้ช่วยของเธอผ่านทางโทรศัพท์

“ได้ครับท่านประธาน รอสักครู่นะครับท่าน”

เสียงปลายสายรับคำสั่งอย่างนอบน้อม

หลังจากวางหูโทรศัพท์

จิงหยามองดูเย่หัวที่เดินนำหน้าเธอด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันท์

เธอพูดพึมพำว่า “ทำไมถึงไม่ยอมช่วยถือของ แถมยังเดินเร็วขนาดนั้น ลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันท้องไส้อยู่”

“ใช่... ฉันกำลังท้อง ทำไมฉันลืมเรื่องนี้ไปนะ ฉันคือผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง

ฉันต้องสำคัญที่สุดสำหรับผู้ชายคนนี้สิ” จิงหยาคิด

“อั๊ยยะ!” จู่ๆ จิงหยาก็ร้องออกมาเสียงดัง

แล้วเธอก็แกล้งทำเป็นล้มลงไปกองอยู่บนพื้น

เอามือขึ้นมากุมหน้าท้องทำทีเหมือนปวดท้องมาก

เย่หัวถึงกับชะงักหยุดเดิน แสงสีแดงวาบขึ้นในดวงตาสีดำสนิทของเขา

มันเหมือนแสงเลเซอร์ที่กำลังสแกนบางสิ่งบางอย่าง

เย่หัวกำลังสแกนดูเด็กในท้องของจิงหยาด้วยอำนาจพิเศษของเขา

เมื่อเห็นว่าเด็กปลอดภัยดี เขาถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยอาการโล่งอก

ผู้หญิงคนนี้เกือบฆ่าลูกของเขา เย่หัวโกรธมาก

ความโกรธของเขากำลังทะลุจุดเดือด และส่งแรงสั่นสะเทือนออกมาเหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ

พลังแห่งความโกรธของมหาราชันย์ ถึงขั้นทำให้ศูนย์การค้าถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

ผู้คนในห้างถึงกับตื่นตระหนกตกใจ เพราะคิดว่าเกิดแผ่นดินไหว

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นอันตรธานไปอย่างรวดเร็ว จนทุกคนโล่งใจที่ปลอดภัย

อันที่จริงๆ คนในศูนย์การค้าแห่งนี้ต้องขอบคุณเย่หัวเลยทีเดียว

ที่เขาสามารถระงับความโกรธเอาไว้ได้

ไม่งั้นพวกเขาคงตายอยู่ใต้ซากอาคารนี้เป็นแน่แท้

“เป็นบ้าอะไรของคุณ ทำไมเดินไม่ระวัง!”

เย่หัวตะคอกใส่จิงหยาด้วยความโกรธ

เสียงของเขาดังราวกับเสียงคำราม จนทุกคนในห้างต่างก็ได้ยิน

ทุกคนสงสารฝ่ายหญิง แต่ใครล่ะจะกล้าเข้าไปช่วย

จิงหยาถึงกับอึ้ง กับการที่เธอโดนเย่หัวตะคอกใส่หน้า

เธอคิดในใจว่าเธอกำลังท้องอยู่นะ และเด็กในท้องก็ลูกเขา

เธอผิดตรงไหน ที่ขอให้เขาช่วยถือของให้

แล้วที่เธอแกล้งทำเป็นปวดท้องล้มลงไปเนี่ย

ก็เพื่อพิสูจน์ดูว่าผู้ชายคนนี้จะตอบสนองยังไงก็เท่านั้นถ้าเธอเป็นอะไรไป

ตอนนี้จิงหยาหมดความอดทนอีกต่อไป นัยน์ตาของเธอร้อนผ่าว

แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นทาง

มันคือน้ำตาที่ผสมปะปนไปด้วยอารมณ์โกรธและอารมณ์เศร้า

เธอคิดว่าเย่หัวจะมีหัวใจมากกว่านี้ เขาไม่ต่างอะไรจากสัตว์เลือดเย็น

“ใช่! ฉันเดินไม่ระวังแล้วไง! ไสหัวไปเลย!

อย่ามายุ่งกับฉันและเด็กที่อยู่ในท้อง ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก...”

จิงหยาร้องไห้อย่างหนักหน่วง

ใครเห็นก็คงรู้สึกใจหายกับภาพความเปราะบางของผู้หญิงคนนี้

จิงหยาเองรู้สึกสิ้นหวัง เธอคงพึ่งพาผู้ชายคนนี้ไม่ได้

ทำไมเธอต้องพาตัวเองมาเจอความขื่นขมแบบนี้

ไม่ใช่เฉพาะเย่หัวที่ทำกับเธอแบบนี้ ผู้ชายคนอื่นๆ

ที่เข้ามาในชีวิตเธอก็ล้วนไม่ได้ดีไปกว่าเขา

มีแต่ผู้ชายเส็งเคร็ง จ้องแต่จะหลอกลวง

ฉากดราม่าระหว่างชายหญิงคู่นี้ ดึงดูดความสนใจของคนในศูนย์การค้ามิใช่น้อย

ผู้คนในห้างต่างสงสารในชะตากรรมของสาวงามคนนี้

ผู้ชายดูเป็นสิ่งมีชีวิตเลือดเย็น เขาตะคอกใส่ผู้หญิงที่ล้มลงกับพื้น

ไม่ได้แสดงความรู้สึกห่วงใยเธอแม้แต่น้อย

แถมยังต่อว่าเธออีกว่าเธอไม่รู้วิธีเดินหรืออย่างไร

จะว่าไป นี่เป็นครั้งแรกที่จิงหยาเสียการควบคุมอารมณ์ตัวเองแบบนี้

เธอถึงขั้นร้องไห้อย่างไม่อายใครในที่สาธารณะอันพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา

แต่ทันใดนั้นเอง เมื่อเธอเงยหน้ามองไปยังเย่หัว

เธอรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างกำลังดึงดูดเธอ ให้จับจ้องไปยังใบหน้าของผู้ชายคนนี้

ใบหน้าของเย่หัวดูงดงามราวรูปสลักหินอ่อนของทวยเทพ

เขาดูดึงดูดมาก...

“คุณไม่คิดเหรอว่ามันน่าอาย ผมว่ามันน่าอาย...”

เย่หัวพูดกับจิงหยาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

จิงหยากวาดตามองไปรอบๆ ผู้คนในศูนย์การค้ากำลังมองมาที่เธอ

จิงหยาชักรู้สึกอาย และแอบหวังในใจว่าคงไม่มีใครถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่

และถ้ามีใครเอาคลิปนี้ไปเผยแพร่ รับรองว่าซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเธอต้องสูญเสียภาพลักษณ์อย่างแน่นอน

แล้วใครควรจะรับผิดชอบเรื่องนี้ ก็ต้องเป็นผู้ชายที่ตะคอกใส่เธอให้อับอายขายหน้าประชาชีอยู่ตอนนี้นี่ไง

โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เย่หัวเข้ามาช้อนร่างจิงหยาขึ้นมาและอุ้มเธอไว้

นี่เขาสำนึกแล้วหรือไง

จิงหยานึกสงสัย ว่าเขากำลังอุ้มเธอขึ้นมาเพราะสำนึกผิด ที่ตะคอกใส่เหรอหรืออย่างไร

แถมยังรวยล้นฟ้ามหาศาล แล้วเขากล้าดียังไงมาทำกับเธอแบบนั้น

ใครกันที่เป็นตัวการที่ทำให้เธอขายหน้า

“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้” จิงหยาบอกเย่หัว

ดูเหมือนตอนนี้เธอสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว

“คุณเดินให้ระวังกว่านี้ได้ไหมล่ะ” เย่หัวถามกลับ

“คุณน่ะสิที่เดินไม่ระวัง!” จิงหยาตะโกนใส่เย่หัว เมื่อเขาวางเธอลง

ทันทีที่เท้าแตะพื้น จิงหยาก็เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

ไม่ช้าผู้ช่วยของจิงหยาก็มาถึงยังศูนย์การค้า พร้อมกับรถที่จิงหยาสั่งให้มารับเธอ

เมื่อหลิวฮั่งเห็นจิงหยาเดินมาพร้อมกับชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง

เขาก็อดแปลกใจไม่ได้ ผู้ชายที่มากับเจ้านายเขาคือใคร

หรือเขาคือผู้ชายที่คนทั้งบริษัทกำลังกอสซิปพูดถึงอยู่ ณ ขณะนี้

“ระวังศีรษะนะครับท่านประธานจิง”

หลิวฮั่งเปิดประตูรถ เพื่อต้อนรับซีอีโอหญิงของบริษัทด้วยรอยยิ้ม

ฝ่ายจิงหยากลับมีสีหน้าเย็นชาขณะโน้มตัวก้าวเข้าไปในรถ

“เขยิบเข้าไปข้างใน” เย่หัวบอกจิงหยาขณะยืนรอตรงประตูรถ

“ทำไมไม่ขึ้นมาอีกฝั่งล่ะ” จิงหยางงกับพฤติกรรมของเย่หัวจริงๆ

ทำไมเขาต้องทำเรื่องง่ายให้กลายเป็นเรื่องยากตลอดเวลา

“อีกด้านนึงไม่ปลอดภัย” เย่หัวตอบ หน้าตาย

น้ำเสียงนิ่งเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ ทั้งสิ้น

จิงหยาถึงกับพูดไม่ออก เธอนึกเสียใจที่ปล่อยให้เรื่องคืนนั้นเกิดขึ้น

ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ เธอยอมถูกโบยตีให้ดิ้นตาย

หัวเด็ดตีนขาดยังไงเธอจะไม่เหยียบไปที่บาร์แห่งนั้นเป็นอันขาด

เธอจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้

“คุณดูงงๆ นะ สงสัยอะไร” เย่หัวถาม

จิงหยาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะยอมขยับตัวเข้าไปด้านในเพื่อให้เย่หัว

ตามเข้ามาในรถ

จริงๆ แล้วคนที่งงเป็นไก่ตาแตกคือหลิวฮั่งต่างหาก

เขาแทบไม่เชื่อสิ่งที่เขาเห็น ซีอีโอจิงหยาผู้ทรนงเนี่ยนะ

ยอมทำตามคำสั่งผู้ชายคนนี้ ชายคนนี้คือใครกันแน่

ถึงกำราบนางสิงห์อย่างจิงหยาได้

“ถามเขาเอาเองสิ” จิงหยาตอบทั้งๆ

ที่สายตายังมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง

"ไปที่บาร์" เย่หัวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

เขาเองก็มองออกไปนอกหน้าต่างเช่นกัน

“เอ่อ...” หลิวฮั่งรู้สึกว่าบรรยากาศในรถช่างแปลกประหลาดเอามากๆ

จนเขาเองไม่กล้าแม้แต่จะพูดกับคนทั้งสอง

แต่สิ่งหนึ่งที่หลิวฮั่งปฏิเสธไม่ได้คือคนทั้งคู่ดูเหมาะสมคู่ควรกันมากด้วยเรื่องรูปลักษณ์หน้าตา

พวกเขาดูเสมอชั้นกัน แต่หลิวฮั่งอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องการไปบาร์ในเวลานี้

นี่มันเพิ่งจะตกบ่ายเท่านั้น แต่ถ้านี่เป็นความประสงค์ของท่านซีอีโอแล้วล่ะก็ เขาก็ยินดีทำตามโดยไม่ขัดขืน

ในที่สุด รถยนต์ Audi คันงามก็พาพวกเขามาถึงยังตรอกเล็กๆ ที่ตั้งบาร์ของเย่หัว

“ทิ้งรถไว้ที่นี่แหละ ฉันต้องการใช้รถ” จิงหยาบอกหลิวฮั่ง

“รับทราบครับท่านประธาน นี่กุญแจรถครับท่าน”

หลิวฮั่งน้อมรับบัญชานายหญิงของเขา พร้อมยื่นกุญแจรถหรูให้เธอไป

เย่หัวมองดูเหตุการณ์ในรถโดยไม่พูดอะไร สักพักเขาเปิดประตูรถก้าวออกไป

และเดินนำเข้าไปในบาร์โดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรกับจิงหยาเลย

จิงหยารู้สึกโกรธผู้ชายคนนี้ขึ้นมาอีกรอบ

แต่เธอพยายามระงับความโกรธเอาไว้

เธอจะไม่สติแตกต่อหน้าลูกน้องของเธอเป็นอันขาด

เธอรับกุญแจจากหลิวฮั่งมา แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

แล้วใครจะช่วยเธอหิ้วไอ้พวกถุงช็อปปิ้งเข้าไปในบาร์ล่ะ

“ให้ผมช่วยถือเข้าไปนะครับท่านประธานจิง”

หลิวฮั่งเสนอตัวเหมือนรู้ว่านายหญิงของเขา ต้องการความช่วยเหลือ

“ไม่จำเป็น” จิงหยาเผลอตะคอกใส่ลูกน้องเพราะอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว

เมื่อเห็นอากัปกิริยาแบบนั้นของผู้เป็นนาย

หลิวฮั่งรู้ตัวทันที ว่าเขาควรลากลับให้เร็วที่สุด

นาทีนี้เขาควรกลับบ้านกลับช่อง ไปกินข้าวเย็นกับศรีภรรยาของเขาดีกว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

เมื่อจิงหยาหอบข้าวของขึ้นมาเองถึงห้องนอนชั้นสองของบาร์

เธอก็พบว่าเย่หัวกำลังจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้า

ร่างกายของเขากำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่ดูแกร่งราวกับหินผา

เขาดูสมบูรณ์แบบ อย่างปฏิเสธไม่ได้

จิงหยาคิดในใจ ว่าเธอจะไม่ตกเป็นเหยื่อในเกมส์ของผู้ชายคนนี้เป็นอันขาด

เขาตั้งใจโชว์ออฟ โชว์หุ่น เพื่อล่อลวงเธอแน่ๆ

คอยตาเธอบ้าง เธอจงใจจะเล่นเกมส์เดียวกัน

แล้วจิงหยาก็เปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก จนเหลือแต่ชุดชั้นใน

สัดส่วนโค้งเว้าโนนเนิน และผิวพรรณผุดผ่องของเธอ งดงามสมบูรณ์แบบ

ถ้าผู้ชายคนไหนมาเห็นเธอในสภาพเกือบเปลือยแบบนี้ รับรองว่าชายผู้นั้น

คงยากที่จะระงับความคุ้มคลั่งชั่งใจเอาไว้ให้จงได้

จิงหยารู้สึกว่าเธอกำลังจะเป็นผู้ชนะ

ใครกันจะอดทนต่อความเย้ายวนของนางพญาจิงหยาได้

ซีอีโอจิงมั่นใจว่าตอนนี้เย่หัวคงกำลังน้ำลายสอลอบมองเธอ อย่างหื่นกระหายเป็นแน่

“นังวิญญาณผีชั่ว แกจะหนีไปไหน”

จิงหยาสะดุ้งตกใจ ตัวแข็งทื่อและเผลอกำมือไว้แน่น

คนบ้าคนบอ! ผู้ชายคนนี้สติไม่ดีหรือไอคิวต่ำกันแน่

นอกจากเขาจะไม่สนใจเธอแล้ว

เขายังเปิดทีวีดูรายการโปรดอย่างสบายใจเฉิบ

"ห้องน้ำอยู่ที่ไหน!" จิงหยาถามด้วยความโกรธ

“มันอยู่ข้างคุณนั่นไง”

เย่หัวบอกเธอด้วยสีหน้าที่แสดงออกมาว่า เขากำลังพูดอยู่กับสิ่งมีชีวิตปัญญาอ่อน

ถึงจุดนี้ จิงหยาโกรธจนแทบจะเป็นลมล้มพับไปเลยทีเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด