ตอนที่แล้วบทที่ 282 - ฤดูที่สาม (7) [18-11-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 284 - สมาชิกคนล่าสุด (1) [22-11-2020]

บทที่ 283 - ฤดูที่สาม (8) [20-11-2020]


บทที่ 283 - ฤดูที่สาม (8)

"คุณชิน คุณไม่เป็นไรนะ!?"

เมื่อฉันได้กลับมาที่คฤหาสน์หลังจากที่จัดการทะลวงผ่านชั้นที่ 81 ฉันก็ได้เจอเข้ากับสุมิเระ

"อ่าสุมิเระ นี่มัน... อืมม ฉันเพิ่งจะผ่านการต่อสู้ที่ยาวนานมานะ"

"คุณดูเหนื่อยนะคะ เชิญไปอาบน้ำและพักเถอะค่ะ"

"อ่า ฉันก็จะทำแบบนั้นแหละ"

ฉันได้ตอบกลับไปอย่างเต็มใจและสงสัยว่าทำไมสุมิเระถึงได้ออกมาอยู่ในสวน ก่อนที่ฉันจะคิดออก สุมิเระก็ปรบมือของเธอและถามออกมา

"คุณชินอยากจะให้หนูช่วยถูหลังให้ไหมค่ะ? ฉันมักจะทำแบบนี้ให้พ่อเสมอในตอนที่ท่านยังอยู่"

"ฉันคงต้องขอปฏิเสธล่ะ จำเอาไว้ด้วยนะว่าอย่าทำแบบนั้นกับผู้ชายคนอื่นนอกจากว่าเธอจะแต่งงานกับเขา

"ค่ะ....?"

หืมม? อย่าบอกฉันนะว่าสุมิเระกำลังทำกับฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นพ่าอของเธอ? แล้วก็พ่อของสุมิเระให้ลูกสาวที่โตขนาดนี้ถูหลัง!? ฉันได้ตกอยู่ในความงุนงง ในเวลาเดียวกันฉันก็เห็นชิ้นส่วนดินของส่วนพลิกออกมาจากมุมหนึ่งของสายตา มันไม่ใช่ผลิก แต่ว่ามันเป็นพืชบางชินดที่โตขึ้นมา มันดูเหมือนกับจะมีคนมาปลูกอะไรเอาไว้

เมื่อสุมิเระได้เห็นว่าฉันมองอะไรเธอก็ยิ้มหวานออกมา

"อ่า เจ้าพวกนี้ คุณชินรู้ไหมค่ะพวกผักจากพื้นที่พักอาศัยมันโตได้ไม่ดีบนโลก แต่ว่าเมื่อหนูเอามันมาลองปลูกที่นี่พวกมันก็โตได้ดีจนน่าทึ่งเลยล่ะ"

ฉันได้คิดกลับไปถึงลาน่ากับพูกี้ศพทั้งสองที่ได้ถูกทิ้งไว้ในสวนนี้ทันที มันดูเหมือนว่าสวนมาเรียเน่จะมีความพิเศษมากกว่าตัวดันเจี้ยนเอง แต่ว่าฉันก็ไม่ได้บอกกับสุมิเระ

ฉันก็ยังเพิ่งจะรู้ตัวอีกด้วยว่าสุมิเระกำลังใส่เสื่อสบายๆ ผ้ากันเปื้อนและถุงมือทำสวนที่สกปรก ในหมู่สมาชิกกิลด์แล้วเธอดูจะเป็นเด็กสาวที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนมากที่สุด

ฉันไม่คิดว่าฮวาหยาจะทำแบบนี้ได้เลยและสำหรับเยอึนฉันมั่นใจเลยว่าเลยว่าเธอจะบอกว่าเธอทำราเม็งได้ดี ซึ่งนั่นมันหมายความว่าเธอทำอาหารอย่างอื่นได้ไม่ดีนั่นเอง จะมีก็แต่รูเดียที่ช่วยแม่จัดการบ้านเท่านั้นที่มีศักยภาพในด้านนี้เหมือนสุมิเระ แต่ว่าสุมิเระก็ยังปลูกต้นไม้ที่นี่ด้วย... ฉันได้พูดกับเธอด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

"เธอก็แค่ซื้อมันก็ได้นี่"

"ฮิฮิ หนูก็แค่มาดูแลพวกมันทุกๆครั้งที่หนูฝึกเสร็จนะคะ หนูไม่ได้วางแผนที่จะไปปีนดันเจี้ยนจนกว่าหนูจะเรียนเทคนิคที่คุณชินสอนหนูสำเร็จ"

"ทำไมล่ะ?"

"เอ่อ.... มันน่าอายนิดหน่อยนะคะ แต่ว่าหลังจากหนูได้เห็นการโจมตีด้วยหอกของคุณชินหนูก็ยังพยายามใช้มันไม่ว่าตอนไหนก็ตามที่หนูถือหอก หนูก็เลยคิดว่ามันน่าจะดีก่วาที่จะปีนดันเจี้ยนหลังจากหนูได้เรียนมันจนอยู่ในระดับที่ใช้ได้แล้ว แต่ยังไงก็ตามหนูก็กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่งแล้ว"

"อ่า จริงสิสุมิเระก็เข้ามาดันเจี้ยนที่หนึ่งแล้วสินะ"

"ค่ะ มันก็ยังไม่ถึงเดือนเลย"

...ฉันได้แสดงให้เธอเห็นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าเธอจำมันอยู่ในใจแล้วหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมีพรสวรรค์ ฉันก็คงจะตำหนิตัวเองแน่ๆที่ขัดขวางการพัฒนาการของเธอ แต่ว่าในเมื่อสุมิเระเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะที่ฉันเคยเห็นมาก่อนดังนั้นฉันคิดว่าฉันไม่จำเป็นต้องไปห่วงอะไร ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องเรียนรู้เทคนิคนี้ได้เร็วยิ่งกว่าที่ฉันจินตนาการซะอีก ตอนนี้มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ฉันจะช่วยเธอได้

"เธออยากจะมาซ้อมกับฉันหลังฉันอาบน้ำเสร็จไหมล่ะ? ฉันมีการสอนวงจรเพรูต้าในตอนบ่ายด้วยนี่น่าจะเป็นโอกาสดีเลยนะ"

"ค่ะ! อะ อ่า มะ ไม่สิ.... คุณชินควรจะพักนะคะ พวกเราค่อยมาฝึกกันทีหลังก็ได้...."

"แค่อาบน้ำฉันก็ไม่เป็นไรแล้ว เดี๋ยวฉันจะกลับมานะ"

"คะ ค่ะ!"

เธอไม่ได้ปฏิเสธออกมาเป็นครั้งที่สอง ฉันได้โบกมือให้กับเธอด้วยรอยยิ้มและมุ่งหน้าไปอาบน้ำ ห้องอาบน้ำในชั้นแรกนั่นใหญ่มากพอที่จะใช้เป็นห้องอาบน้ำสาธารณะประจำโรงแรมได้เลย แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกใช่บ่อยนักแต่มันก็เป็นที่ๆดีที่สุดที่จะใช้คลายความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทุกวัน หลังจากเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำแล้วฉันก็ได้เจอแขกอีกคนในห้องน้ำนี้นั่นก็คือพ่อ

"โอ้ ลูกกลับมาแล้วหรอ? มันใช้เวลานานเลยนี่"

"พ่อ ถ้าหากว่าพ่อตดในห้องน้ำผมไล่พ่อออกไปแน่"

"นี่เป็นคำแรกที่ลูกพูดกับพ่อของลูกงั้นหรอ?"

"ผมเอาจริงนะ"

ฉันได้โยนถังน้ำร้อนลงไปและก้าวเข้าไปในอ่างน้ำร้อน พ่อได้ตอบกลับมาทันที

"ไม่ต้องห่วงน่า ร่างกายของพ่อมันไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว พ่อสามารถจะควบคุมปรากฏการพวกนั่นได้แล้ว"

"อ่า"

ฉันได้ตรวจสอบร่างกายพ่อพร้อมพูดออกไปแบบนั้น พ่อก็ยังมีโครงสร้างที่หยาบกระด้างและใบหน้าที่อ่อนกว่าวัยจริงๆอยู่เสมอ เมื่อมองดูแล้วพ่อก็ไม่ใช่แค่ยังดูอ่อนกว่าวัยเท่านั้น แต่พ่อก็ยังมีร่างกายที่สมบูรณ์แบบ

"....พ่อสร้างร่างขึ้นมาใหม่อะไรแบบนี้งั้นหรอ?"

"ฮึ่ม พ่อก็แค่ทะลวงผ่านขีดจำกัดวิชาหอกมาได้นิดหน่อยเอง"

ฉันได้ผงะไป ฉันจำได้ว่าในตอนที่ฉันเชี่ยวชาญวงจรเพรูต้าในตอนนั้นร่างกายของฉันได้พังลงไปครั้งหนึ่งและถูกสร้างขึ้นมาใหม่เอง เพราะแบบนี้ฉันจึงถามพ่อไป

"พ่อ ร่างกายของพ่อมันพังลงไปแล้วเกิดขึ้นมาใหม่หรืออะไรแบบนี้หรือป่าว?"

"อืมม ไม่ ไม่จริงน่า"

ในครั้งนี้พ่อได้ผงะไป ใบหน้าที่ผ่อนคลายของพ่อได้ตึงขึ้นเล็กน้อย

"พ่อรู้สึกเหมือนกับร่างกายได้ถูกเปลื่ยนใหม่ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับจิตใจของพ่อโล่งขึ้นและพ่อก็มีความศักดิ์สิทธิ์อะไรซักอย่างนี่แหละ ในที่สุดพ่อก็รู้สึกเหมือนกับเข้าใจถึงสิ่งที่เป็นมานาและธรรมชาติของพลังที่พ่อมี แต่ว่าแก... ร่างกายของแกพังลงไปหรอ?"

"บางทีอาจจะเพราะว่าผมเรียนวงจรเพรูต้า"

"หืมมม"

พ่อเกลียดการที่ต้องแพ้ลูกชายจริงๆ แต่ว่าสิ่งที่พ่อพูดออกมาต่อทำให้ฉันมึนไปพักหนึ่ง

"แกจะไปสอนให้แม่ไหม?"

"แม่ของแกไง ไม่ใช่ว่าแกควรจะไปสอนอะไรให้แม่แกมั้งหรอ? ต่อให้เธอจะไม่ใช่นักสำรวจก็ตามเถอะ"

หลังจากมึนไปพักหนึ่งฉันก็ส่ายหัวออกมา

"วงจรเพรูต้ามันไม่ใช่ว่าจะเรียนกันได้ง่ายๆ แต่ว่ามันก็ยังดีนะที่จะวิธีบ่มเพาะมานาให้กับแม่ ผมคิดว่าพ่อควรจะเป็นคนสอนแม่นะ"

ในตอนนั้นเองฉันก็ได้ตกลงไปอยู่ในความคิด ฉันไม่ได้เจอแม่มาซักพักแล้ว ด้วยทุกอย่างที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยน โลก มอนสเตอร์และปีศาจนี้ จำนวนครั้งที่ฉันได้เจอกับแม่ฉันสามารถจะนับนิ้วในมือข้างหนึ่งได้เลย ฉันได้รู้สึกผิดและจากนั้นก็รู้สึกโล่งใจที่พ่อยังคงคิดถึงแม่เสมอ

การล่อลวงของดันเจี้ยนมันเป็นยังไงงั้นหรอ? ถ้าหากว่าคุณมีความสามารถสาวสวยนักสำรวจมากมายก็จะมาต่อแถวขอให้คุณช่วย ด้วยความสามารถของพ่อต่อให้พ่อมีใบหน้าเหมือนออร์คก็ตามนักสำรวจผู้หญิงก็ยังอยากจะกระโดดเข้าหา แม่ก็สวยในตอนที่ยังวัยรุ่น แต่ว่าหากนำไปเทียบกับที่ดันเจี้ยนที่ที่มีทุกๆเผ่าพันธ์รวมกันอยู่แล้วล่ะก็....

"แกรู้ไหม ผู้หญิงคนนี้มักจะบ่นที่ฉันเก็บสิ่งดีๆไว้เองตลอดเลย"

"แทนที่จะรอให้แม่อ่อนวัยด้วยการเชี่ยวชาญการบ่มเพาะมานา การเอาไอเทมมาให้แม่มันก็น่าจะเร็วกว่านะ"

"แกก็พูดเหมือนมันหากันง่ายๆแหละ อย่าได้พูดไร้สาระสิ"

ฉันสามารถจะเข้าใจในสิ่งที่แม่รู้สึกได้เลย ทุกๆคนในครอบครัวนอกจากแม่ต่างก็เป็นนักสำรวจดันเจี้ยนกันหมด ในตอนนี้พ่อก็ยังกลายมาดูเด็กลงอีกด้วย แม้แต่ฉันยังรู้สึกผิดเลย

"ผมก็จะช่วยหาเหมือนกันพ่อ แต่ว่านั่นก็คือผมมีเวลาว่างมาหลังจากการช่วยโลกนะ"

"แกกำลังจะพูดเหมือนกับว่าฉันควรแก้ปัญหาด้วยตัวเองสินะ"

พ่อได้ตีผิวน้ำสร้างแรงสั่นสะเทือนขึ้นยิงกระสุนน้ำใส่ฉัน ฉันได้เอาปลายมือลงไปใต้น้ำและสร้างวังวนเล็กๆป้องกันเอาไว้ นี่มันเป็นการต่อสู้ใต้น้ำเล่นๆกันระหว่างพ่อกับลูกแต่ว่าหากเป็นคนธรรมดาโดนกระสุนนั่นเข้า เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

"ชิน ฉันได้คิดมาว่านายอยู่ที่นี่ ฉันมีบางอย่างอยากจะคุยกับนาย"

ในตอนนั้นเองได้มีคนวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ คนที่เรียกฉันแบบนี้คือฮวาหยา แม้ว่าเธอจะรู้ว่าฉันอยู่ในห้องน้ำเธอก็ยังเข้ามาอย่างมั่นใจและจ้องฉันตรงๆ โชคดีที่ทั้งฉันกับพ่อพวกเราได้ใส่ผ้าไว้ท่อนล่าง เมื่อเธอได้เห็นว่าพ่ออยู่ที่นี่เธอก็ได้ทำใบหน้าที่อ่านออกได้ง่ายๆว่า 'น่าอับอาย'

"โอ้ คุณลุงก็อยู่ที่นี่ด้วย"

"เธอไม่ต้องมาทำเป็นอายเลย? จริงๆแล้วเธอไม่ต้องมาที่นี่ก็ได้ เธอก็แค่ส่งข้อความมาไม่ได้หรือไง!?"

"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ ในเมื่อเราอยู่บ้านเดียวกันมันไม่ดีกว่าหรอที่จะคุยกันแบบเห็นหน้า? มันก็ไม่ใช่ว่านายกับคุณลุงจะเปลือยซะหน่อย"

ฉันได้หมดคำพูดไปกับฮวาหยาที่ทำตัวไร้ยางอายแบบนี้ เมื่ฉันกำลังคิดหนักว่าจะพูดอะไรออกไปดี ฮวาหยาก็เดาะลิ้นของเธอและพูดต่อ

"ขอโทษด้วยฉันผิดเอง ฉันไม่คิดว่าคุณลุงจะอยู่ที่นี่ด้วย หนูขอโทษนะคะคุณลุง"

"ไม่เป็นไรหรอกฮวาหยา อย่างที่หนูพูดแหละ มันก็ไม่ได้ว่าฉันเปลือยซะหน่อยนี่ นอกจากนี้เดี๋ยวเร็วๆนี้หนูก็มาเป็นลูกสาวของฉันแล้ว"

"เฮะๆ หนูรู้ว่าคุณลุงอยู่ข้างหนู! เดี๋ยวหนูจะเลี้ยงเหล้าคุณลุงทีหลังเองค่ะ!"

โอ้พระเจ้า พ่อถูกซื้อตัวไปแล้ว! ฉันได้ก่ายหหน้าฝากและถอนหายใจออกมา เธอได้ขอโทษฉันอีกครั้งและเสริมขึ้นมา

"ตอนแรกฉันคิดว่านี้มันเป็นโอกาสดีที่จะมาหาคุณและจบลงด้วยการที่ฉันลงไปด้วยนะ"

ผู้หญิงคนนี้นี่มันพยายามจะโจมตีลูกชายต่อหน้าพ่อของเขาเนี่ยนะ

"พ่อ ดูเธอสิ"

"มันไม่ใช่ว่าเยี่ยมไปเลยหรอ? แม่ของแกบ่นเสมอเลยนะว่าเธออยากจะเห็นหน้าหลานนะและฉันก็ยินดีมากด้วยหากเป็นฮวาหยา ฉันจะรู้สึกแย่ๆนิดถ้าเป็นรูเดีย แต่ว่าไม่ใช่ว่าแกเอาทั้งคู่ก็ได้นี่? ด้วยการลดลงของประชากรบนโลกเพราะมอนสเตอร์นี่น่าจะเป็นสิ่งที่แกควรทำที่สุดนะ"

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่พ่อกับแม่กลายเป็นแบบนี้? หรือว่าฉันแค่หัวโบราณไปนะ? นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันทำท่าให้ฮวาหยาเข้ามา... ไม่สิ ออกไป อย่าเข้ามา!

"ฉันล้อเล่น จริงๆฉันแค่วิ่งมาเพราะฉันรีบนะ"

"ถ้าเธอรีบจริงๆเธอก็แค่ส่งข้อความมา..."

ฮวาหยาได้ผิวปากและหลบสายตาของฉ้ันไป ถ้างั้นเธอก็เข้ามาเพราะรีบจริงๆแต่ว่ามันก็มีแรงจูงใจอื่นด้วยสินะ? การพยายามจะบรรลุสองเป้าหมายด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวนี่มันเป็นกลยุทธ์จริงๆ ในเมื่อเธอน่ารักฉันจะยกโทษให้เธอ

"ถ้าเธอไม่ได้คิดจะออกไปล่ะก็บอกสิ่งที่จะมาซะสิ"

"ใช่แล้ว พวกเราได้เจอราชาอีกตนแล้ว รวมผู้ใช้พลังระดับ SS ที่เราทำให้เป็นนักสำรวจแล้วพวกเราได้เสียคนไปทั้งหมด 150 คน ซัคคิวบิที่ทำการถ่ายวิดีโอแทบจะส่งมาไม่ได้

ให้ตายสิ ฉันจะอาบน้ำพักผ่อนสบายๆไม่ได้เลยหรอ? ฉันได้ดีดตัวขึ้นและตะโกนออกไป

"ถ้ามันเกิดเรื่องแบบนี้ก็บอกฉันแต่แรกสิ"

"ฉันก็บอกว่าฉันรีบมาบอกนายไป... โอ้ ดีจริงๆ"

ดีกับผีสี!....นี่คือสิ่งที่ฉันจะตะโกนออกไป แต่ว่าฉันก็รู้ตัวได้ว่าช่วงร่างของฉันมันโหว่งๆ ถึงแม้ว่าร่างกายของฉันจะทนยิ่งกว่าเหล็กแต่ว่าผ้าที่พันรอบเอวของฉันมันไม่ใช่แบบนั้นและมันได้หลุดไปจากการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันนี้

"อะ อะไร........."

หลังจากที่ฉันตระหนักได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นฉันก็นั่งลงไปและตะโกนออกมา

"กรี๊ดดดดดดดด!"

"...ชิน ปฏิกิริยานี่มันผิดนะ"

ฮวาหยาได้เสริมขึ้นมาและมองตรงมาที่ฉันต่อไป ฉันก็ไม่คิดว่านั่นมันเป็นปฏิกิริยาที่ถูกต้องนะ แต่ว่าเฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ เธอมองไปไหน!?

ในท้ายที่สุดแล้วเวลาก็ผ่านไปอีก 5 นาทีก่อนที่ฉันจะใส่เสื้อผ้ากลับมาและกลับไปที่โลก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด