ตอนที่แล้วRC:บทที่ 16 ผลฮั๋วหยาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปRC:บทที่ 18 สู้สุดใจกับชายหัวล้าน

RC:บทที่ 17 เป็นฮีโร่เข้าช่วยสาวสวย


RC:บทที่ 17 เป็นฮีโร่เข้าช่วยสาวสวย

ด้วยเหตุนั้น หลิน เฟิงจึงขี่มอเตอร์ไซต์เข้าไปที่ถนนในเมืองก่อนจะขี่ไปเรื่อยๆเพื่อกลับบ้าน

แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลิน เฟิงขี่มอเตอร์ไซต์ตัดผ่านถนนเล็กๆสายนั้น เด็กสาวคนหนึ่งก็ปรากฏแก่สายตา พลันเขาก็ตกหลุมเสน่ห์ไปในที่สุด

เด็กสาวคนนั้นอายุราวๆยี่สิบปี เธอใส่ชุดสีขาว สวมหมวกสีขาว ใส่รองเท้าส้นสูงดูโดดเด่นพลางถือกระเป๋าหนังราคาแพง ดูท่าทางราวกับเป็นคุณหนู

เธอเดินอยู่ตรงข้ามกับหลิน เฟิงซึ่งรู้สึกถึงแรงดึงดูดอันไม่อาจต้านทานได้จากระยะไกลเกือบ 100 เมตร

“โอ้  เราได้เจอสาวสวยในสถานที่เล็กๆแบบนี้ แถมส้นสูงสองข้างนั่นยังดูสั่นๆอีก อย่างน้อยต้องเหมาะแล้วล่ะ”

หลิน เฟิงจ้องสาวงามคนนั้นไปตลอดทางโดยลืมไปว่าตัวเองกำลังขี่มอเตอร์ไซต์อยู่ ตัวรถบิดไปมาอย่างควบคุมไม่ได้จนเกือบจะตกลงไปในคูน้ำเน่า

สาวสวยที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งนั้นเองก็ได้เห็นใบหน้าแสนอัปลักษณ์ของหลิน เฟิง ทันใดนั้นเองเธอก็ยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เหมือนกับนางฟ้าเลย เธอนั้นสวยมากจนทำเอาหลิน เฟิงหน้าแดง จากนั้นเขาก็ก้มหัวและปรับให้รถที่สั่นอยู่คงที่

“กรี๊ด”

ทันใดนั้นเอง เมื่อหลิน เฟิงก้มหัวลง เสียงกรีดร้องของเด็กสาวคนนั้นก็ดังขึ้น หลิน เฟิงจึงรีบเงยหน้าขึ้น แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับหายไปแล้ว

“อ้าว แล้วเธอคนนั้นล่ะ” หลิน เฟิงหันไปมองรอบๆ ทำไมคนที่อยู่ตรงนั้นอยู่ดีๆถึงหายไปได้ล่ะ

“ฮือๆ ช่วยด้วยๆ...”

ในตอนนั้นเอง เสียงร้องขอความช่วยเหลือก็ดังขึ้นจากในตรอกที่อยู่เบื้องหน้าหลิน เฟิง เสียงนั้นแหลมเล็กและอู้อี้ราวกับถูกอะไรบางอย่างทับไว้

หลิน เฟิงจึงเร่งเกียร์อย่างไม่คิดลังเลก่อนจะรีบตรงไปยังทางนั้น จนกระทั่งเกือบถึงทางเข้าของตรอกดังกล่าว เขาจึงกระโดดลงจากมอเอร์ไซต์แทบจะในทันที ก่อนจะรีบไปที่ตรอกนั้น

สิ่งที่เขาไม่ได้สังเกตก็คือเมื่อเขามาถึง มอเตอร์ไซต์ของเขาก็ยังคงขี่ต่อไปข้างหน้าอยู่ จากนั้นก็พุ่งชนเข้ากับกำแพง หน้ารถเสียหายไปเกือบครึ่ง ชิ้นส่วนกระจัดกระจายเป็นชิ้นๆ

ข้างหน้านั้น มีคนหนุ่มสามคนกำลังอุ้มตัวเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นสาวสวยคนเดียวกับที่หลิน เฟิงเพิ่งได้เห็นไป

คนทั้งสามคนนี้มีรูปร่างผอมและผมที่มีสีต่างกันไป เพียงแวบแรกที่เห็น ก็ดูออกแล้วว่าพวกนี้เป็นพวกขี้เมา

ผมยาวลงมานั้นถูกย้อมเป็นสีเหลือง ส่วนผมสั้นๆนั้นถูกย้อมด้วยสีม่วง ส่วนอีกคนนั้นหัวล้าน มองแค่แวบแรก ผมก็รู้เลยว่าพวกนี้ไม่ใช่คนดีแน่ๆ แต่เป็นพวกอันธพาลทั่วๆไป

ไม่น่าสงสัยเลยว่าเสียงที่หลิน เฟิงได้ยินนั้นจะทั้งแหลมเล็กและอู้อี้ เพราะหนึ่งในนั้นเอามือปิดปากเธอไว้ จนเธอไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ ทำได้แค่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเท่านั้น

ส่วนอีกสองคนที่เหลือ คนหนึ่งใช้แขนรัดเธอไว้แน่นเพื่อไม่ให้หนี ส่วนอีกคนนั้นคว้ากระเป๋าเธอมาก่อนจะควานหาอะไรบางอย่างไปเรื่อยๆ

“เด็กผู้หญิงคนนี้รวยจริงไหม แล้วนายคิดว่านี่คืออะไรล่ะ” ทันใดนั้นเอง ชายหัวล้านจึงหยิบปึกเงินออกมาจากกระเป๋าหญิงสาว อย่างน้อย 20000

“พระเจ้าช่วย ยัยผู้หญิงคนนี้มันลูกคนรวยนี่หว่า มีเงินเพียบเลย แค่นี้ก็พอสำหรับพวกเราไปทั้งเดือนแล้ว” ชายผมเหลืองที่ยืนอยู่ข้างหลังเด็กสาวว่าขึ้น

“นี่พวกนายคิดจะทำอะไรในเวลากลางวันแสกๆแบบนี้กัน ไม่กลัวโดนตำรวจจับหรือไง” เด็กสาวถามขึ้นพลางสะอื้นด้วยความกลัว

“ฮะ ตำรวจหรอ สถานีตำรวจก็เหมือนบ้านฉันนั่นแหละ เราเพิ่งจะได้ออกมาจากที่นั่นกันเองแหละ ฮ่าๆ” ชายหัวล้านหัวเราะร่วน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสามคนนี้ก่ออาชญากรรมอยู่แล้ว จากที่ได้ฟังในสิ่งที่พวกเขาพูด เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้เข้าออกสถานีตำรวจบ่อยเป็นว่าเล่น

คนพวกนี้จึงไม่กลัวถูกจับหรอกเพราะพวกเขาชาชินเสียแล้ว

จนบางครั้ง พวกเขาก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังจะไปสถานีตำรวจเป็นการพักร้อนเสียแล้ว

“พี่ใหญ่ ไม่ใช่แค่เงินนะ แต่ยังมีกำไลข้อมือกับสร้อยคออีก นี่ไม่ใช่ของกระจอกๆเลยนะ” ชายผมสีม่วงอีกคนที่ปิดปากหญิงสาวอยู่ว่าขึ้น

ชายผมสีม่วงที่ปิดปากหญิงสาวอยู่นั้นเมื่อเห็นสร้อยคอที่ห้อยอยู่ของเธอ ดวงตาเขาก็วาววับ

“ไม่ ไม่นะ นี่เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากยายของฉัน อย่าเอาไปเลยนะ ขอร้องล่ะ”

เมื่อเด็กสาวเห็นว่าชายหัวล้านกำลังจะคว้าสร้อยที่อยู่บนคอของเธอไป เธอจึงขืนตัวออกมาจากมือของชายคนดังกล่าวก่อนจะเอ่ยขอร้อง

“ไปให้พ้นเลย ฉันไม่สนหรอกว่าใครจะให้เธอมา แต่ตอนนี้มันเป็นของฉันแล้ว ฮ่าๆ” ชายหัวล้านคนนั้นกระชากสร้อยจากคอหญิงสาวก่อนจะจ้องอยู่เป็นเวลานาน

“ว้าว ของดีนี่หว่า ดูท่าจะมีค่ามากโขอยู่ ฮ่าๆ”

แม้ว่าแสงไฟในตรอกจะริบหรี่มาก แต่ก็ยังพอจะเห็นแสงไฟเรืองๆจากสร้อยคอนั้นได้ซึ่งนั่นทำให้คนทั้งสามถึงกับอัศจรรน์ใจ

ในตอนนี้ ทั้งกระเป๋าเงิน กระเป๋าหนัง สร้อยคอ สร้อยข้อมือรวมถึงของมีค่าอื่นๆทั้งหมดนั้นก็ถูกชายทั้งสามฉกฉวยไป เธอทำได้แค่เพียงตัวสั่นอยู่ในมุมนั้นพร้อมกับร้องไห้

“ฮ่าๆ วันนี้ได้ของมาเพียบเลย ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะพาพวกนายสองคนไปหาอะไรร้อนๆเผ็ดๆ อย่างไปหาผู้หญิงมานอนกกด้วยยังไงล่ะ” ชายหัวล้านหัวเราะขึ้นและกำลังจะเดินจากไป

“นี่ รอก่อนสิ  นายจะหาผู้หญิงแบบนั้นทำไมละ ที่นี่มีของฟรี แล้วยังดูดีด้วยนะ” ชายหนุ่มผมเหลืองจ้องไปที่หญิงสาวนั้นอย่างพินิจก่อนจะพูดขึ้น

เขาไม่รู้ว่าทำไมไม่สังเกตหญิงสาวให้ดีก่อนหน้านี้ น่าประหลาดใจจริงๆเพราะเด็กสาวคนนี้สวยมาก

ไม่ว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นคนที่สวยที่สุดหรือไม่ แต่ยังไงก็ตาม ทั้งสามคนนี้ก็ไม่เคยได้พบกับความสวยที่น่าจับตามองขนาดนี้

“พระเจ้า นี่ล่ะผู้หญิงที่โลกควรมี...”

ในตอนแรก แสงจากในตรอกยังคงสลัว มีเงาในทุกๆที่ พวกเขาเพียงแค่เห็นว่ามีคนๆหนึ่ง และอยากปล้น ที่คาดไม่ถึงก็คือ พวกเขาก็ได้เจอกับเงินก้อนใหญ่ แถมสาวเจ้ายังสาวอีก แล้วพวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร

“ลูกพี่ ในเมื่อไม่มีใครเริ่ม งั้นผมขอก่อนล่ะ” เมื่อฮวง เหมาเห็นว่าคนอีกสองคนไม่ขยับและดูจะไม่ได้สนใจ เขาจึงขอเสนอตัวอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะจัดการก่อน

แต่ในขณะที่กำลังจะถอดกางเกงอยู่นั้น ทันใดนั้นเอง ชายหัวล้านจึงเตะเขาไปทีหนึ่ง ก่อนจะดึงกางเกงเขาขึ้น ก่อนจะว่า

“ฉันยังไม่ได้เริ่มจัดการกับสาวสวยคนนี้ก่อนเลย แล้วนี่แกรีบหรือ ฮึ” ชายหัวล้านกล่าวขึ้นน้ำเสียงเรื่อยๆพลางปลดเข็มขัด

“ลูกพี่ยังไม่ทันได้สนุกเลย แล้วจะเป็นตานายไปได้ยังไง ครั้งนี้แกเอาไปเลยคนสุดท้าย” ชายผมม่วงอีกคนว่าขึ้น

“ลูกพี่ เอาก่อนเลย เดี๋ยวพวกเราค่อยต่อทีหลังนะ” ชายผมม่วงมองเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงมุมนั้น น้ำลายหก

“งั้นพวกแกก็ไปอยู่ข้างนอกและคอยดูคนไว้ล่ะ ไว้ฉันเสร็จพวกแกก็มาต่อ” ทันทีที่ชายหัวล้านพูดจบ ชายสองคนนั้นจึงไปยืนอยู่ที่ทางเข้าตรอก

“นี่ พวกแก ยังต้องการอะไรอีกล่ะ ฮือๆ พวกแกก็ปล้นไปจากฉันแล้วนี่ ปล่อยฉันไปเถอะนะ อยากได้อะไรก็เอาไปเลย” เด็กสาวร้องไห้

ในตอนนั้นเอง เธอรู้สึกสิ้นหวังและไม่เคยคาดคิดว่าจะออกมาข้างนอกและได้เจอกับพวกสวะสังคมแบบนี้ พวกมันไม่ได้ต้องการปล้นแค่เงินเท่านั้นแต่ยังต้องการอย่างอื่นอีกด้วย

อย่างพวกของมีค่าต่างๆรวมถึงสร้อยข้อมือ สร้อยคอที่คุณยายเธอให้มาและอื่นๆ

“ช่วยด้วยๆๆ มีคนจะข่มขืนฉัน”

แต่ชายสามคนนี้ยังไม่หยุด อีกทั้งยังต้องการจะขืนใจเธอด้วย เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็หวาดกลัว มือนั้นตบเข้าที่มือตัวเองก่อนที่จะกรีดร้องขึ้น

“ไม่ต้องกรี๊ด นังนี่ จะแหกปากร้องแค่ไหนก็ไม่มีใครมาหรอกโว้ย ให้พี่ใหญ่รักเธอเถอะ ไม่ต้องห่วง พี่เขาน่ะอ่อนโยนจะตาย ฮ่าๆ” แล้วตอนนั้นเอง เขาก็กำลังจะกระโจนเข้าหาเด็กสาว

“หยุด...”