ตอนที่แล้วบทที่ 156 ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์วิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 158 เชื่อไหมว่าชายชราผู้นี้จะฆ่าเจ้าด้วยฝ่ามือเดียว?

บทที่ 157 สร้อยเงินดับโลกา


ย่าฮุนหลงกลเชื่อ ร่างกายของนางหยุดชะงักก่อนที่จะกลับไปหาสุ่ยเชียนโหรวอย่างรวดเร็ว นางอาจคาดไว้แล้วว่ามันเป็นกลอุบาย แต่ในฐานะที่เป็นผู้คุ้มกันลับ ความปลอดภัยของสุ่ยเชียนโหรวนั้นสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ ตอนนี้เสื้อคลุมวิหควิญญาณของสุ่ยเชียนโหรวได้ถูกทำลายลงไปแล้ว ซึ่งทำให้ย่าฮุนเป็นกังวลมากขึ้น

“วิ่ง! มุ่งหน้ากลับไปที่สำนัก!”

เจียงอี้ปลดปล่อยความโล่งใจและควบคุมปีศาจหมาป่าให้วิ่งไปที่สำนักจิตอสูรด้วยความเร็วสูงสุด จูเก๋อชิงหยุนพำนักอยู่ที่สำนัก สุ่ยเชียนโหรวและย่าฮุนผู้นั้นคงไม่กล้าไล่ตามเขาไปใช่ไหม?

“โชคร้ายนัก!”

ขณะที่เขานั่งอยู่บนปีศาจหมาป่าที่กำลังวิ่งอยู่เจียงอี้ก็เริ่มสบถ บนผาหินที่เขาเข้าไปอยู่เต็มไปด้วยความเละเทะที่เกิดจากการต่อสู้ เฉียนคุนต้องการส่งคนไปขนส่งวัตถุดิบเหล่านี้ไปยังเมืองจิตอสูรทุกวันและนำไปแลกเงินที่ร้านของตระกูลเฉียน

แต่เจียงอี้รู้สึกว่ามันลำบากเกินไปและขอให้เฉียนคุนมาทุกๆห้าวัน ตอนนี้ตำลึงทองนับหมื่นได้สูญเปล่าไปหมดแล้ว ถ้ำหินแสนสบายก็ถูกทำลายเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจียงอี้จะรู้สึกถึงความเกลียดชังเข้ากระดูกดำ

เจียงอี้นึกถึงบางสิ่งและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เห็นได้ชัดว่าสุ่ยเชียนโหรวเป็นบุคคลที่กล้าหาญและรักการต่อสู้ หญิงสาวผู้มีชื่อเสียงที่ไม่รู้จักโลก คงไม่สามารถรู้ตำแหน่งของเขาได้อย่างแม่นยำเช่นนี้

แม้ว่านางจะรู้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสำนักจิตอสูร เฉียนว่านก้วนรู้ว่าใครคือสุ่ยเชียนโหรวและยังกล่าวว่าแม่ของนางเป็นนักสู้อันดับหนึ่งของทวีป ทำไมเฉียนว่านก้วนไม่บอกให้เขารู้เร็วกว่านี้?

สมรู้ร่วมคิด!

เจียงอี้ได้กลิ่นการสมคบคิดกัน แน่นอนว่าเขาไม่ได้สงสัยเฉียนว่านก้วน แต่เขารู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจัดการและวางแผน วัตถุประสงค์ของพวกนั้นคือการใช้สุ่ยเชียนโหรวกำจัดเขา

“ฟึ่บ!”

ในไม่ช้าหมาป่าจันทราสีเงินก็ลงจากเขาเมฆาทมิฬและวิ่งเข้าสู่สำนักจิตอสูร เมื่อเขาพุ่งเข้าไปในอาณาเขตของสำนักจิตอสูร หน่วยลาดตระเวนที่คอยดูแลบริเวณใกล้ๆนั้นต่างก็ตกใจ

สมาชิกของหน่วยลาดตระเวนต่างอยู่ขอบเขตจื่อฝู่ ท้องฟ้ามืดครึ้มและทุกคนจะรู้สึกถึงเงาที่พาดผ่านพวกเขาไป พวกเขามองด้วยตาเปล่าของพวกเขาแต่กลับมองไม่เห็นสิ่งใดเลย พวกเขาจึงคิดว่าพวกเขาเห็นผี

“ไอ้เด็กสารเลว ยังพยายามวิ่งหนี รับความตายของเจ้าซะ!”

เสียงคำรามดังกึกก้องสะท้อนออกมาจากในหุบเขาเมฆาทมิฬ ย่าฮุนอุ้มสุ่ยเชียนโหรวและตามมาด้วยความเร็วสูงสุดขณะที่ร่างของนางเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าเกรงขาม จิตสังหารนั้นพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าทำให้เหล่าหน่วยลาดตระเวนจากสำนักต่างสั่นสะท้านด้วยความกลัวและผู้ที่แผ่รังสีออกมานั้นอยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร

“ส่งสัญญาณ เรียกกำลังเสริม!”

หน่วยลาดตระเวนไม่กล้าสู้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยว หนึ่งในนั้นตะโกนและในไม่ช้าเปลวไฟนับไม่ถ้วนก็พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกมันปะทุกลางอากาศท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดสนิท

หญิงแก่บ้าคลั่งและหญิงสาวบ้าคลั่งอีกคน!

เจียงอี้หันกลับมามองและมีความโกรธแค้นในดวงตาของเขา เขามองไปที่ระยะทางของภูเขาจิตอสูรที่อยู่ห่างออกไปและปล่อยรอยยิ้มเยือกเย็น จากนั้นเขาก็ตะโกนด้วยเสียงที่ดังที่สุดของเขาว่า “หญิงบ้าสองคนนั้นน่ะ นายน้อยผู้นี้อยู่ตรงนี้ หากเจ้ากล้าก็มาฆ่าข้าสิ!”

“ย่าฮุน! ฆ่าเขา ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!”

เมื่อย่าฮุนเห็นสัญญาณไฟลุกโชดช่วงบนท้องฟ้า นางก็รู้สึกลังเลขึ้นมาบ้าง ในทางกลับกัน เมื่อสุ่ยเชียนโหรวได้ยินเสียงตะโกนอวดดีจากเจียงอี้ นางก็โกรธแค้นทันที

ตลอดชีวิตของนาง นางไม่เคยเจ็บปวดอย่างนี้มาก่อน ตลอดทางจากเกาะดาวตกไปยันอาณาจักรเป่ยเหลียงจนถึงอาณาจักรเสินหวู่ นางไม่เคยประสบความสูญเสียอะไรเลย

แต่ตอนนี้ เจียงอี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ใบหน้าของนางสกปรกแล้ว เขายังฆ่ากิเลนทมิฬที่อยู่กับนางตั้งแต่ยังเป็นเด็กและยังทำลายสิ่งประดิษฐ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ เสื้อคลุมวิหควิญญาณ ซึ่งเป็นของขวัญจากแม่ของนาง มันแทบจะไม่สามารถบรรยายออกมาได้ว่าในใจของนางโกรธเกรี้ยวมากมายถึงเพียงไหน

ย่าฮุนก็โกรธมากเช่นกัน เมื่อครั้งแรกที่นางเห็นเจียงอี้และพบว่าเขาเป็นเพียงแค่ขั้นที่แปดของขอบเขตฉูติ่ง นางไม่ได้เคารพอะไรเขาเลย จนกระทั่งเจียงอี้ได้สังหารกิเลนทมิฬ เนื่องจากระยะทางที่ไกลและกิเลนทมิฬได้สกัดกั้นวิสัยทัศน์ของนาง นางจึงไม่รู้ว่าเจียงอี้สังหารกิเลนทมิฬได้อย่างไร

นางนึกภาพได้เพียงเมื่อตอนที่นางต้องกลับไปที่เกาะดาวตก นางไม่รู้จะอธิบายให้สุ่ยโย่วหลานฟังอย่างไร นางรู้เกี่ยวกับอารมณ์ขององค์หญิงน้อยนี้ดี หากนางไม่ได้ฆ่าเจียงอี้ องค์หญิงน้อยก็คงไม่อ่อนข้ออย่างแน่นอน ดวงตาของย่าฮุนกระพริบสองครั้งก่อนที่นางจะกัดฟันและไล่ล่าต่อไปยังอาณาเขตของสำนักจิตอสูร

“องค์หญิง ข้าขอยืมไหมปีศาจนภาของท่านได้ไหม? ข้าจะวางกับดักเด็กนั่น ก่อนจะฆ่าเขา! หมาป่าจันทราสีเงินว่องไวเกินไปและข้าเกรงว่าข้าอาจจะทำตามที่ท่านขอไม่ได้”

ย่าฮุนเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในขณะที่พูดคุยกับสุ่ยเชียนโหรว สุยเชียนโหรวหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะถามด้วยความสงสัย “ท่านย่าฮุน ไหมปีศาจนภานี้ได้รับการขัดเกลาจากข้าไปเล็กน้อยแล้ว ท่านจะสามารถใช้มันได้หรือไม่?”

“จิตวิญญาณของข้าแข็งแกร่ง รอยประทับที่ท่านทิ้งไว้บนไหมปีศาจนภา ข้าลบล้างมันได้อย่างง่ายดาย!”

ย่าฮุนพูดต่ออย่างรวดเร็ว “เร็วเข้า เด็กนั่นกำลังจะเข้าสู่สำนักจิตอสูร จูเก๋อชิงหยุนนั่นอาจจะไม่กล้าที่จะรุกรานแม่ของท่าน… แต่ถ้าเราจะสร้างความเสียหายในสำนัก เขาคงต้องยื่นมือเข้ามายุ่ง จูเก๋อชิงหยุนยังคงต้องรักษาชื่อเสียงของเขาไว้หลังจากเกิดสิ่งต่างๆทั้งหมดนั่น”

“ตกลง!”

แหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของสุ่ยเชียนโหรวเปล่งประกายและมีผ้าไหมสีเงินปรากฏขึ้น แสงสีดำส่องประกายแวววับในดวงตาของย่าฮุนซึ่งถูกยิงเข้าสู่ไหมปีศาจนภา นางคว้าไหมปีศาจนภาด้วยมือเดียวและเทแก่นแท้พลังของนางก่อนจะตะโกนออกมา “ไป!”

“ซ่อก แซ่ก!”

ไหมปีศาจนภาถูกยิงออกไปในท้องฟ้าและเพียงไม่กี่พริบตามันก็พุ่งข้ามท้องฟ้าและไล่ตามเจียงอี้

“นี่มันอะไรน่ะ?”

เจียงอี้มองไปข้างหลังเขาและรู้สึกว่ามีแสงสีเงินแวบผ่านท้องฟ้ามา มือของเขาจับไปที่ไข่มุกวิญญาณเพลิงทันทีขณะที่เขาตะโกนว่า “เจ้าหมา หลบไปทางซ้าย”

“ฟึ่บ ฟั่บ!”

เขาไม่ได้คาดไว้ว่าไหมปีศาจนภาจะหมุนและติดตามเขาไปทุกทิศที่หมาป่าจันทราสีเงินพุ่งไป ดูเหมือนว่ามันจะเล็งมาที่เขาจากระยะไกล

เจียงอี้สาปแช่งในใจของเขา แต่ไม่กล้าที่จะใช้หินวิญญาณเพลิงเพราะเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถจู่โจมโดนไหมปีศาจนภาได้

ธิดาของนักสู้อันดับหนึ่งของทวีป? นางมีสิ่งประดิษฐ์จำนวนมากอย่างแน่นอน แม่ของนางผู้นี้ต้องทำให้นางเสียนิสัย นางถึงได้มีพฤติกรรมป่าเถื่อนเช่นนี้!

เจียงอี้กำลังคร่ำครวญถึงเรื่องยากลำบากของเขา แต่เขาจะทำอะไรได้? สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการสั่งให้ปีศาจหมาป่าใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดเพื่อมุ่งหน้าไปยังสำนัก ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากสำนักเพียงไม่กี่พันเมตรและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อเข้าไปยังสำนัก

"ซ่อก แซ่ก!"

น่าเสียดายที่ไหมปีศาจนภานั้นเร็วเกินไป มันเร็วมากจนเจียงอี้และหมาป่าจันทราสีเงินไม่มีโอกาสตอบโต้และถูกห่อหุ้ม พวกเขาถูกห่อไว้เหมือนเกี๊ยว! แต่ปีศาจหมาป่ายังคงวิ่งอย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งสองกลิ้งไปข้างหน้าจนในที่สุดก็ชนเข้ากับหิน

อะไรเนี่ย? ทำไมมันแข็งเช่นนี้?

เจียงอี้รู้สึกถึงแสงไฟสีขาวและร่างกายของเขาก็ขยับไม่ได้อีกต่อไป เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะบิดตัว แต่ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไร ไหมปีศาจนภาก็ยิ่งแน่นมากขึ้นเท่านั้น มันเริ่มมัดเขาอย่างแน่นหนาจนเขาหายใจไม่ออกจริงๆ

หินวิญญาณเพลิง!

เจียงอี้กัดฟันของเขาและพร้อมที่จะปล่อยหินวิญญาณเพลิง ในไม่ช้าเขาก็ตกใจเมื่อเขานึกอะไรบางอย่างได้ หินวิญญาณเพลิงนั้นช่างโหดร้ายมาก เขากลัวว่าเมื่อมันปรากฏขึ้น หมาป่าจันทราสีเงินก็คงได้ถูกเผาจนกลายเป็นไอ

ด้วยเครื่องรางสัตว์วิญญาณที่อยู่กับเขา ตราบใดที่เขาเปิดใช้งานด้วยแก่นแท้พลังของเขา เขาสามารถเก็บหมาป่าจันทราสีเงินเข้ามาได้

แต่ปัญหาคือ ... เจียงอี้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว เขาจะหยิบเครื่องรางสัตว์วิญญาณออกมาได้อย่างไร เครื่องรางสัตว์วิญญาณนั้นไม่เหมือนไข่มุกวิญญาณเพลิงที่สามารถควบคุมได้ด้วยจิตใจของเขา

“ฟึ่บ!”

ย่าฮุนบินมาแต่ไกลด้วยความเร็วสูงมาก นางคิดถึงปัจจัยนี้และเสี่ยงใช้งานไหมปีศาจนภา แน่นอนว่านางไม่มีทางเลือกนอกจากวางเดิมพันนี้ด้วยเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่านางชนะการเดิมพันโดยเห็นว่าเจียงอี้ไม่ต้องการละทิ้งหมาป่าจันทราสีเงิน!

“องค์หญิง ปลดปล่อยสร้อยเงินดับโลกาแล้วบดขยี้เจียงอี้เลย!”

ในเวลาเพียงไม่กี่เฮือก นางก็ร่นช่องว่างระหว่างพวกเขาจนเหลือเพียงสามร้อยกว่าเมตร สุ่ยเชียนโหรวได้เปิดใช้งานสร้อยเงินดับโลกาทันที ซึ่งมันพุ่งตรงเข้าไปทางเจียงอี้

ในทางกลับกัน ย่าฮุนให้ความสนใจกับไหมปีศาจนภาและพร้อมที่จะถอนมันออกทันทีเมื่อสร้อยกำลังจะโจมตีเจียงอี้ สร้อยคอนั้นจะสามารถเปลี่ยนเจียงอี้ให้เละเป็นโจ๊กได้อย่างง่ายดาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด