ตอนที่แล้วบทที่ 155 แม้แต่พระเจ้าก็ต้องตาย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 157 สร้อยเงินดับโลกา

บทที่ 156 ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์วิญญาณ


“ฮึ่ม!”

ในขณะที่เจียงอี้กำลังมุ่งหน้าไปสังหารสุ่ยเชียนโหรว จู่ๆร่างของหญิงชราผู้หนึ่งก็โผล่ออกมาจากเงามืดราวกับภูตผี นางไม่ได้ลงมือใดๆแต่ทำเพียงแค่เค้นเสียงอย่างเย็นชา

ทันใดนั้นเองเจียงอี้ก็รู้สึกราวกับว่าถูกฟ้าผ่า ร่างของเขาหยุดชะงักพร้อมกับจิตสังหารและเจตจำนงสังหารที่สูญสลายไป

“อ๊าก—!”

เจียงอี้ใช้มือกุมศีรษะขณะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างน่าเวทนา เขารู้สึกทุกข์ทรมานราวกับถูกฉีกกระชากดวงวิญญาณ

หากไม่ใช่เพราะเขาจับเขาของหมาป่าจันทราสีเงินไว้แน่น ป่านนี้ร่างของเขาคงจะร่วงลงไปแล้ว

“การโจมตีทางวิญญาณ? ผู้คุ้มกันลับของสุ่ยเชียนโหรวเป็นผู้เชี่ยวชาญศาสตร์วิญญาณ!”

ฝีเท้าของผู้อาวุโสหลิวหยุดชะงักขณะที่จ้องมองไปยังร่างของหญิงชราผมสีเงินด้วยความตื่นกลัว

เขาคาดเดาไว้แล้วว่าผู้ที่จะมาเป็นผู้คุ้มกันลับให้กับสุ่ยเชียนโหรวจะต้องไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญศาสตร์วิญญาณ

ต้องทราบก่อนว่าจอมยุทธประเภทนี้สามารถสังหารศัตรูได้โดยไม่ต้องลงมือและไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้!

“ฮ่าฮ่า! เจียงอี้ มารับความตายของเจ้าซะ!”

เมื่อสุ่ยเชียนโหรวเห็นว่าเจียงอี้ถูกโจมตีทางวิญญาณ นางก็แสยะยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่พลังของเจตจำนงสังหารสูญสลายไป พละกำลังของนางก็กลับมาอยู่ในจุดสูงสุดอีกครั้ง

ในขณะที่สุ่ยเชียนโหรวพึมพำบางอย่าง วงแหวนอันสลับซับซ้อนจำนวนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากนั้นก็กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์รูปแบบดาบอยู่ในมือของนาง

ด้วยการตวัดเพียงครั้งเดียวหลังจากที่ถ่ายเทแก่นแท้พลังลงไป มันก็เกิดเป็นคลื่นพลังปราณซึ่งฟาดเข้าใส่เจียงอี้ราวกับจะสังหารอีกฝ่ายให้ตาย

“สิ่งประดิษฐ์ระดับสวรรค์? หลบเร็วลูกพี่!”

เฉียนว่านก้วนเบิกตากว้างจนแทบจะถลนออกมา เขาบิดตัวอย่างแรงแต่ก็ถูกผู้อาวุโสหลิวจับไว้และพาถอยกลับมา

ผู้คุ้มกันลับของสุ่ยเชียนโหรวแข็งแกร่งเกินไป หากพวกเขาลอบโจมตีนาง บางทีอาจจะเป็นพวกเขาเองที่ต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่

“อ๊าก—!”

เจียงอี้ยังคงกรีดร้องอย่างน่าสงสาร เห็นได้ชัดว่าดวงวิญญาณของเขากำลังทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสจนเกินจะทนไหว

แต่ทางด้านของหมาป่าจันทราสีเงินกลับไม่ได้รับรู้อะไรทั้งสิ้น เนื่องจากไม่ได้มีเชาวน์ปัญญามากนักและไม่ได้รับคำสั่งจากเจียงอี้ มันก็ยังคงวิ่งตรงไปข้างหน้าเพื่อที่จะสังหารสุ่ยเชียนโหรวเช่นเดิม

“ตายเสียเถอะ!”

แต่ในขณะที่ดาบยาวในมือของสุ่ยเชียนโหรวกำลังฟาดลงมานั้น จู่ๆเสียงร้องของเจียงอี้ก็เงียบไป ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่ร่องรอยความเจ็บปวดบนใบหน้าก็ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าอันเย็นชาพร้อมกับจิตสังหารที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันดูคล้ายกับว่าความเจ็บปวดที่ได้รับก่อนหน้าเป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น!

ความเจ็บปวดของเจียงอี้ก่อนหน้านี้เกิดจากการที่ดวงวิญญาณถูกโจมตี แต่มันก็เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่ไข่มุกวิญญาณเพลิงจะส่งพลังงานบางอย่างไหลเวียนเข้ามาหล่อเลี้ยงดวงวิญญาณจนกลายเป็นแสงสีทอง จากนั้นความเจ็บปวดก็หายไปในพริบตา

เจียงอี้แสร้งทำเป็นบาดเจ็บเพื่อที่จะล่อให้สุ่ยเชียนโหรวเข้ามาใกล้และในตอนนี้นางก็อยู่ใกล้กับเขามาก

มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป? ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยความโหดเหี้ยม จากนั้นก็สะบัดมือพร้อมกับเขวี้ยงหินวิญญาณเพลิงใส่สุ่ยเชียนโหรวอย่างไร้ปรานี

“บัดซบ!”

สีหน้าของผู้คุ้มกันลับของสุ่ยเชียนโหรวแปรเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน นางรีบพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับคำราม

“เดรัจฉานน้อย เจ้ากล้า?!”

น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลัง ทันทีที่นางเปิดปาก มันราวกับว่าห้วงอากาศโดยรอบกำลังถูกบีบอัดจากคลื่นพลังที่แกร่งกล้า

“คลื่นเสียงดูดวิญญาณ!”

สีหน้าของผู้อาวุโสหลิวซีดขาวลง เขาถอยหนีอย่างไม่คิดชีวิตและหันกลับมามองเจียงอี้ราวกับคนที่ตายไปแล้ว

คลื่นเสียงดูดวิญญาณเป็นการโจมตีทางวิญญาณที่อันตรายอย่างยิ่งยวด หากว่ามีดวงวิญญาณที่ไม่แข็งแกร่งพอ ดวงวิญญาณของคนผู้นั้นจะพังทลายในทันที

“หืม?! ย่าฮุน! ช่วยข้าด้วย!”

ในขณะที่หินวิญญาณเพลิงปรากฏออกมา สุ่ยเชียนโหรวก็สัมผัสได้ถึงอันตราย นางรู้สึกเหมือนว่าเศษหินสีแดงก้อนนี้เปรียบเสมือนเคียวของยมทูตที่สามารถพรากชีวิตนางไปได้ตลอดเวลา

ใบหน้าของสุ่ยเชียนโหรวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร่างกายของนางสั่นเทาและร้องตะโกนออกไปโดยสัญชาตญาณ

ฟู้ววว!

เมื่อหินวิญญาณเพลิงสัมผัสกับม่านพลังสีเขียวของสุ่ยเชียนโหรว มันก็ลุกไหม้ด้วยเพลิงสีเขียวในทันที ม่านพลังที่แม้แต่หน้าไม้สังหารเทพยังไม่สามารถทำลายได้แต่กลับต้องมอดไหม้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

หินวิญญาณเพลิงยังคงไม่หยุดนิ่งและบินตรงไปหาสุ่ยเชียนโหรวด้วยความเร็วที่น่ากลัว

ครื้นนน!

แต่ทันใดนั้นเอง ชุดของนางก็ระเบิดแสงสีเขียวขจีออกมา แม้แต่กระดิ่งที่ถูกประดับไว้ก็เริ่มส่งเสียงและเปล่งประกาย

“กริ๊งๆ!”

เหตุการณ์ที่ตามมาช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก!

จู่ๆร่างของสุ่นเชียนโหรวก็หายไปจากตำแหน่งเดิมและไปปรากฏตัวอยู่ในตำแหน่งที่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร

กระดิ่งสีเขียวระเบิด แม้แต่เสื้อคลุมของนางก็หม่นสีลงและมีสภาพที่ดูไม่ได้

“อ๊ากกก!”

ในเวลาเดียวกัน เจียงอี้ก็ใช้มือกุมศีรษะด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง ดูเหมือนว่าคลื่นเสียงดูดวิญญาณของหญิงชราที่ถูกเรียกว่าย่าฮุนจะทรงพลังกว่าการโจมตีครั้งก่อนอย่างเทียบไม่ติด

ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าดวงวิญญาณกำลังสูญสลาย ถ้าหากดวงวิญญาณของเขาถูกทำลายไป เขาก็จะตายในทันที

ครื้นนน!

ไข่มุกวิญญาณเพลิงส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง พลังงานลึกลับหลั่งไหลเข้าสู่ดวงวิญญาณของเจียงอี้และปกป้องมันไว้ จากนั้นความเจ็บปวดทั้งหมดก็พลันสลายหายไป

ถึงอย่างนั้น สีหน้าของเขาก็ยังคงซีดขาวเล็กน้อยเพราะเพิ่งจะหลุดพ้นจากความตาย

“เสื้อคลุมวิหควิญญาณถูกทำลายแล้ว? เด็กน้อย ไม่ว่ายังไงวันนี้เจ้าก็จะต้องตาย!”

เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธทำให้เจียงอี้ตื่นตัว ย่าฮุนได้แปรเปลี่ยนเป็นเงาและทะยานเข้าหาเขาด้วยความเร็วสูง บางทีคงเป็นเพราะนางเริ่มตระหนักได้แล้วว่าเจียงอี้อาจจะมีสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ปกป้องวิญญาณอยู่กับตัว

ดังนั้นนางจึงไม่ใช้การโจมตีทางวิญญาณอีกต่อไปแต่หันไปใช้ดาบเพื่อลงมือปลดชีพเขาแทน

“หนี!”

เจียงอี้ไม่ใช่คนโง่ แม้เขาจะไม่มั่นใจว่าสุ่ยเชียนโหรวใช้ศาสตร์เวทย์แบบไหนถึงทำให้นางสามารถเคลื่อนที่ได้ในพริบตาหรือบางที่อาจจะเป็นเพราะชุดของนาง แต่ที่แน่ๆย่าฮุนคนนี้คงจะสามารถฆ่าเขาได้ก่อนที่จะไปถึงตัวสุ่ยเชียนโหรวอย่างแน่นอน

อย่างน้อยการลงมือของเจียงอี้ในวันนี้ก็ไม่สูญเปล่า เขาสามารถสังหารกิเลนทมิฬที่เป็นสัตว์อสูรระดับสามและยังทำลายสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอดของอีกฝ่ายได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็จะสูญเปล่าหากว่าเขาถูกฆ่าตายอยู่ที่นี่

“เจ้าหมา รีบปลดปล่อยวิชาอสูรของเจ้าซะ! จากนั้นก็หลบหนีด้วยความเร็วเต็มกำลัง!”

เจียงอี้ตะโกนด้วยความเร่งรีบ ทางด้านหมาป่าจันทราสีเงินเองก็ไม่รอช้า เขาของมันส่องสว่างและยิงลำแสงสีม่วงตรงไปยังหญิงชรา จากนั้นมันก็หันหลังเพื่อหลบหนีในทันที

“ฮึ่ม!”

“ตู้มมมม!”

ด้วยประสบการณ์ที่มีมาอย่างโชกโชน ย่าฮุนเพียงแค่เบี่ยงตัวเล็กน้อยก็สามารถหลบลำแสงของหมาป่าจันทราสีเงินได้อย่างง่ายดาย

ลำแสงสีม่วงพุ่งผ่านอากาศทะลุไปยังแนวป่าที่อยู่ไกลออกไป จากนั้นมันก็ระเบิดออกจนกลายเป็นพลังทำลายล้างที่น่าหวาดกลัว

“คิดหนีรึ? ตายซะ!”

เมื่อหญิงชราเห็นว่าหมาป่าจันทราสีเงินหลงเหลือเพียงแค่ภาพติดตาซึ่งหลบหนีไปไกลแล้ว นางก็เค้นเสียงด้วยความโกรธและกวัดแกว่งดาบเพื่อปลดปล่อยคลื่นพลังไล่หลังพวกเจียงอี้

“เจ้าหมา หลบไปทางซ้าย!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่อยู่ด้านหลัง เจียงอี้ก็ไม่รีรอที่จะออกคำสั่ง โชคดีที่ปีศาจหมาป่ารวดเร็วพอจึงสามารถหลบคลื่นดาบรูปจันทร์เสี้ยวได้อย่างหวุดหวิด

“ตู้มมม!”

คลื่นดาบทะลวงผ่านอากาศและเฉือนทำลายต้นไม้พร้อมกับสิ่งกีดขวางทั้งหมดที่อยู่ในเส้นทางของมัน มันพุ่งไปข้างหน้าหลายร้อยเมตรก่อนที่จะอ่อนแรงลง

“ช่างทรงพลังอะไรเช่นนี้!”

หัวใจของเจียงอี้แทบจะหยุดเต้น เขาหันกลับไปมองย่าฮุนด้วยความกลัว ดูเหมือนว่าความเร็วของนางแทบจะไม่ด้อยไปกว่าหมาป่าจันทราสีเงิน เห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นที่เจ็ดหรือแปดเป็นอย่างน้อย ไม่เช่นนั้นนางจะครอบครองความเร็วระดับเดียวกับหมาป่าจันทราสีเงินได้อย่างไร?

เมื่อเห็นว่าย่าฮุนกำลังจะปลดปล่อยการโจมตีออกมาอีกครั้ง เจียงอี้ก็รีบคิดแผนการ วินาทีต่อมาเขาก็หันไปทางขวาและตะโกนสุดเสียง

“จ่างซุนอู๋จี้ เจ้าจะซ่อนตัวอีกนานแค่ไหน?! รีบไปฆ่าสุ่ยเชียนโหรวเร็วเข้า จากนั้นสมบัติบนตัวของนางก็จะกลายเป็นของพวกเรา!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด