ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0652 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0654 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0653 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 653 : พลังของจิตวิญญาณสัตว์

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานต่างสวมใส่หน้ากาก พร้อมเริ่มออกวิ่งโดยทันที

เขาไม่ทราบว่าผู้ใดส่งหุ่นเชิดเหล่านั้นเข้ามา เพียงทราบว่าหุ่นเชิดวรยุทธ์ลึกล้ำแข็งแกร่งยิ่ง

กระทั่งว่าฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานร่วมมือกัน ก็ยังไม่อาจเอาชัยจากหุ่นเชิดนั้นได้สำเร็จ

“เสี่ยวหยุน รอสักพักและอย่าได้พูดคุย!” เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน “หากหุ่นเชิดนั่นหาตัวเจ้า มันจะไม่อาจจดจำพวกเราทั้งสอง ดังนั้นมันย่อมไม่สร้างความวุ่นวายอย่างฉับพลันเช่นกัน”

ฉินหยุนพยักหน้ารับ

พวกเขาไม่ทราบว่าหุ่นเชิดมาจากเส้นทางใด ดังนั้นจึงได้แต่อาศัยโชค

หุ่นเชิดเหล่านี้สร้างขึ้นโดยตำหนักจารึกเทวะ พวกมันปราดเปรื่อง แม้ไม่อาจแยกแยะบุคคลจากออร่า กระนั้นสัมผัสทางจิตวิญญาณของพวกมันครอบคลุมพื้นที่

หากพบเจอพลังจิตวิญญาณผันแปรใกล้เคียง หุ่นเชิดจะสัมผัสถึงได้พร้อมเร่งรีบเข้ามา

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานถูกหุ่นเชิดเหล่านี้ติดตามก็เพราะเหตุนี้

“เหตุใดหุ่นเชิดนี่รวดเร็วนัก!” ฉินหยุนตระหนักได้ถึงแสงจากแหวนบนมือที่ยิ่งมายิ่งสว่าง เขาอดไม่ได้ที่จะเผยความหวาดกลัวอยู่ภายใน

“มันมาแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงสื่อสารบอกฉินหยุน

กลุ่มคนเหนือเกาะต่างได้เห็นหุ่นเชิดไล่ตามบุคคลสวมใส่หน้ากากผ่านกระจก

หุ่นเชิดย่อมพบเห็นฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลาน

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานต่างสวมใส่ชุดและหน้ากากสีดำ ดังนั้นคิดทราบว่าเป็นพวกเขาย่อมไม่อาจเป็นไปได้

กระนั้น ผู้อาวุโสที่ควบคุมก็ยังเพิ่มความเร็วหุ่นเชิดให้ไล่ตาม

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานซึ่งกำลังวิ่งหนี พลันถูกขวางโดยหุ่นเชิด

“พวกเจ้ามาจากสำนักใด?” หุ่นเชิดเอ่ยถาม

“วิมานเซียนปีศาจ!” เชี่ยวเย่ว์หลานตอบกลับโดยทันควัน

กลุ่มผู้อาวุโสวิมานเซียนปีศาจย่อมอยู่ที่นี่ พวกเขาเร่งรีบเผยเสียงเย็น “อย่าได้คิดลงมือต่อศิษย์พวกเรา!”

ผู้อาวุโสหุบเขาเซียนโอสถเอ่ยคำ “พวกเจ้าไม่ได้ยินหรือไร? หุ่นเชิดเหล่านี้มาที่นี่เพื่อทดสอบศิษย์ของพวกเรา ในเมื่องานประลองยุทธ์จัดขึ้นโดยตำหนักจารึกเทวะ พวกเราก็ต้องฟังคำพวกเขา!”

ผู้อาวุโสเหวินจากตำหนักจารึกเทวะควบคุมหุ่นเชิดกล่าวคำ “ถอดหน้ากากพวกเจ้าออก!”

“อย่าได้ฝัน!” เชี่ยวเย่ว์หลานตอบกลับ

“หากเจ้าไม่ถอด เช่นนั้นอย่ากล่าวหาว่าข้าไร้มารยาท!” หุ่นเชิดกล่าวคำ

“หุ่นเชิด เจ้ามีจุดประสงค์อันใด?” เชี่ยวเย่ว์หลานเอ่ยคำเสียงเย็น

“ข้ามาจากตำหนักจารึกเทวะ พวกเราส่งหุ่นเชิดเหล่านี้ออกมาเพื่อเพิ่มความยากแก่การทดสอบบรรดาศิษย์ ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น!” ตัวตนของหุ่นเชิดนี้ ทำเอาฉินหยุนมีโทสะ

เขาไม่คาดคิด ว่าหุ่นเชิดที่แข็งแกร่งเหล่านี้จะเป็นตำหนักจารึกเทวะส่งมา

ผ่านไปครู่ อีกหลายร่างจึงมาถึง

หุ่นเชิดหลายตัวมาถึง!

ไม่นานจากนั้น ทั้งสิบตัวต่างมาพร้อมกันที่นี่

“เสี่ยวหยุน แยกกันหนี!” เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงสื่อสารบอกฉินหยุน “เจ้าต้องสลัดพวกมันให้หลุดโดยเร็วที่สุด!”

นางกล่าวคำจบ จึงเร่งรีบเผ่นหนีหาย

ทางด้านฉินหยุน เขาเร่งรีบออกวิ่งไปยังอีกทิศทางหนึ่ง

หุ่นเชิดทั้งสิบกระจายตัวออกเป็นสองทาง ไล่ตามทั้งฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลาน

ขณะฉินหยุนวิ่งหนี เขาลอบทดลองใช้พลังจิตโจมตีใส่หุ่นเชิดทางด้านหลัง

กระนั้นกลับไม่ได้ผลแม้เพียงนิด หุ่นเชิดที่ไล่ตามติดด้านหลังสามารถปิดกั้นการโจมตีทางพลังจิตได้

“ตัวบัดซบจากตำหนักจารึกเทวะผู้ใดเพ่งเล็งข้า?”

ฉินหยุนใช้งานเงาปลิดชีพลมหายใจสมบูรณ์ แม้เขาเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทว่าความผันแปรทางจิตวิญญาณยังคงอยู่

“มันเป็นฉินหยุนแน่แล้ว ข้าเคยเห็นมันใช้เคล็ดวิชานี้มาก่อน!” ผู้อาวุโสของหุบเขาเซียนโอสถพลันตะโกน “เร่งรีบสังหารมัน!”

“เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวนี้ไม่เลว! ทว่าหุ่นเชิดพวกเราระดับสูงล้ำ มีความสามารถสัมผัสความผันแปรทางจิตวิญญาณ!” ผู้อาวุโสเหวินหัวเราะอย่างนึกสนุก

ผู้คนต่างมองสถานการณ์ซึ่งส่งผ่านมาทางกระจก ภายในต่างคาดหวังว่าถัดไปจะเกิดเรื่องราวใดขึ้น

ขณะพวกเขาคาดหวัง  ภาพบนกระจกพลันหายวับ

“ผู้อาวุโสเหวิน นี่เจ้าคิดทำอะไร?” แม่เฒ่าหม่ากล่าวเสียงกราดเกรี้ยว

“กระจกนี่มีอะไรบางอย่างผิดพลาด ข้าจะหาทางกู้ภาพกลับคืนมาโดยเร็ว!” ผู้อาวุโสเหวินแสร้งทำเป็นกังวลใจขณะกล่าวคำ “ข้าจะรีบแก้โดยเร็ว!”

ผู้อาวุโสเหวินที่พบตัวฉินหยุน เขาจึงก่อการอย่างไร้ซึ่งยางอาย เขาไม่คิดอยากให้ผู้ใดได้พบเห็นภาพฉากถัดจากนั้น

แม้ฉินหยุนใช้งานเงาปลิดชีพลมหายใจสมบูรณ์ หุ่นเชิดกลับยังสามารถไล่ตาม ทั้งยังเป็นการไล่ตามอย่างไม่ลังเลใด

หุ่นเชิดทั้งห้าปิดล้อมเขาเอาไว้ ก่อนจะเริ่มบุกโจมตี

ฉินหยุนเร่งรีบปลดปล่อยพลังสั่นไหวต้านรับเอาไว้

หากเป็นหุ่นเชิดธรรมดา ฉินหยุนคงไม่หวั่นเกรง

กระนั้น ที่เขาเผชิญหน้าคือหุ่นเชิดขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำถึงห้าตัว และเขายังมือเปล่า เป็นไปไม่ได้ที่จะต้านรับเอาไว้

“การทดสอบนี่ไม่มากไปหรือยังไง!” ฉินหยุนคำรามกราดเกรี้ยว “ไม่คิดหรือว่าหุ่นเชิดขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำห้าตัว ส่งมาเพื่อรับมือขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้นนี้มันมากเกินไป?”

ฉินหยุนใช้ปราการพฤกษาของวิชายุทธ์โทเทมต้นไม้ ทำให้เกิดชั้นเปลือกไหม้หนาปรากฏบนผิวร่างกาย

“ฉินหยุน เจ้าต้องตกอยู่ในกำมือพวกเรา! อย่าได้ต่อต้านแล้ว หากยังดื้อดึง เจ้าก็มีแต่จะเจ็บตัว! พวกเราเพียงต้องการจับตัวเจ้า หาได้มีเจตนาร้าย เพียงคิดใช้ตัวเจ้าแลกเปลี่ยนกับหยางฉีเย่ว์!”

หุ่นเชิดตัวใหญ่แค่นเสียงกล่าว “ถึงตอนนั้น เมื่อหยางฉีเย่ว์มอบจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาว เจ้าก็จะรอดชีวิต!”

“ตำหนักจารึกเทวะ เป็นพวกเจ้าอย่างนั้นสิที่ใช้อุปกรณ์ราชันตั้งค่าหัวต่อข้า!” ฉินหยุนพอได้ยินคำกล่าวของหุ่นเชิด เขายิ่งกราดเกรี้ยว

“ไม่ใช่ทั้งตำหนักจารึกเทวะ! ภายในตำหนักจารึกเทวะย่อมมีหลายฝักฝ่าย และบังเอิญพวกเราเป็นฝ่ายที่แข็งแกร่งที่สุด!” หุ่นเชิดโจมตีฉินหยุนราวคลุ้มคลั่งทั้งยังหัวเราะ “มาดูกันว่าเจ้าจะทนได้นานสักเพียงใด!”

หุ่นเชิดทั้งห้าตัวไม่ได้โหมโจมตีหนักหน่วง เพราะพวกมันคิดจับฉินหยุนโดยรอดชีวิต

มีแต่ฉินหยุนที่รอดชีวิตจึงมีคุณค่าอย่างสูงสุด

“เสี่ยวหยุน เจ้าไม่อาจสังหารพวกมัน ความแตกต่างทางพลังมากเกินไป และเจ้าก็ไม่อาจหลบหนีได้ด้วย!” หลิงหยุนเอ๋อช่วยปลดปล่อยพลังแรงโน้มถ่วงออกมา

ทว่าหุ่นเชิดทั้งห้าตัวนี้มีร่างกายแกร่งกล้า พวกมันสามารถต้านรับไว้อย่างง่ายดาย

“ฉินหยุน จงหยุดขัดขืน! หุ่นเชิดเหล่านี้ดูไปเหมือนหุ่นเชิดขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ทว่าแกนกลางพวกมันเป็นของหุ่นเชิดขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ! พวกเราต้องเผชิญปัญหาไปมากกว่าจะมีโอกาสได้จับตัวเจ้าเช่นตอนนี้ได้!”

“เจ้าไม่รู้ใช่หรือไม่? นับตั้งแต่ที่เจ้าเข้ามายังเกาะแห่งนี้ ชะตาเจ้าก็ร่วงหล่นในมือพวกเราแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ตู้ม!

หุ่นเชิดที่โจมตี ฉับพลันยิ่งดุดัน มันปล่อยหมัดรัวต่อเนื่องหลายชุด

ฉินหยุนเร่งรีบใช้ห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์

ตึง! ตึง!

ห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของเขาเป็นผลให้พื้นดินเกิดรอยแยก ฝ่ามือเอื้อมถึงตัวหุ่นเชิด กระนั้นก็ทำได้เพียงแค่ให้หุ่นเชิดต้องถอยไปสองก้าว

ฉินหยุนค่อยตระหนัก เร่งรีบใช้กรงเล็บพฤกษาคว้าจับเท้าของหุ่นเชิดทั้งห้าตัวไว้ด้วยรากไม้

กระนั้น พลังอันเหนือล้ำได้ถูกปลดปล่อยออกจากขาของหุ่นเชิด พวกมันทำลายกรงเล็บพฤกษาได้

ร่างกายฉินหยุนถูกโจมตีหลายครั้งครา กระทั่งว่ามีร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำ เขาก็ไม่อาจต้านรับการโจมตีจากหุ่นเชิดขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำมากมายเหล่านี้ได้

“ฉินหยุน หุ่นเชิดเหล่านี้หาได้ใช่ธรรมดา เจ้าคงได้รู้แล้ว!”

“พวกเราลงทุนไปมาก หุ่นเชิดตัวหนึ่งมูลค่าทัดเทียมอุปกรณ์เต๋าอันล้ำค่าถึงสอง ด้วยการขัดเกลาอย่างยากลำบาก หุ่นเชิดเหล่านี้ล้ำค่าเสียยิ่งกว่าอุปกรณ์เต๋า!” ผู้อาวุโสเหวินเผยเสียงตื่นเต้นยินดีดังผ่านกลุ่มหุ่นเชิด

“ข้าจะทำให้พวกมันกลายเป็นเศษขยะ!” ฉินหยุนกล่าวคำจบ เขาถูกหมัดต่อยเข้าที่ใบหน้าจนร่างกระเด็น

จากนั้น ร่างของเขาจึงถูกโจมตีโดยหุ่นเชิดตัวอื่น

หุ่นเชิดทั้งห้ารุมโจมตีฉินหยุนอย่างดุดันและรุนแรง

ผู้อาวุโสเหวินทราบ ว่าฉินหยุนครอบครองร่างลึกล้ำ ดังนั้นเขาจึงสามารถปล่อยการโจมตีออกอย่างไร้ปรานี

เขาควบคุมหุ่นเชิดทั้งห้าโจมตีใส่ฉินหยุน ภายในยังต้องอึ้ง เพราะร่างของฉินหยุนแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก

เขาทราบดีว่าหุ่นเชิดเหล่านี้แข็งแกร่งเพียงใด กระทั่งยอดยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำยังต้องแพ้พ่าย สภาพย่อมเลวร้าย กระดูกทั้งร่างอาจหักแทบครบทุกท่อน

ผู้อาวุโสเหวินควบคุมหุ่นเชิด เพิ่มแรงขึ้นต่อเนื่อง เขาคิดอยากทุบตีฉินหยุนจนถึงขั้นอีกฝ่ายไร้ซึ่งเรี่ยวแรงต่อต้าน

เพียงไม่นาน ฉินหยุนจึงล้มลงกับพื้น ใบหน้าเขาฝังจมลงกับพื้น หลังศีรษะถูกเหยียบย่ำเอาไว้โดยหุ่นเชิด แผ่นหลัง แขน และขา ทั้งหมดถูกจับยึดเอาไว้อย่างแน่นหนา

“ฉินหยุน ข้ายอมรับว่าเจ้ามีความสามารถ แต่มันก็เท่านั้น พรสวรรค์ของเจ้าสูงส่ง ทว่าชีวิตย่อมสำคัญกว่า! เจ้าควรร่วมมือกับพวกเรา เพื่อให้หยางฉีเย่ว์ได้ส่งจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวมา เมื่อเสร็จเรื่อง พวกเราย่อมปล่อยตัวเจ้าไป!”

“อย่าได้ฝัน!” ฉินหยุนคำราม

ได้ยินคำฉินหยุน ผู้อาวุโสเหวินจึงเร่งรีบควบคุมหุ่นเชิดเหยียบร่างฉินหยุนให้จมดินลึกลง

“เจ้าหนูน้อย เจ้าถึงขั้นร่วมมือกับศิษย์จากเกาะจันทราปีศาจ ศิษย์หญิงผู้นั้นที่หลบหนีย่อมต้องถูกจับตัวมาเช่นกัน ฮ่าฮ่าฮ่า!” ผู้อาวุโสเหวินหัวเราะเสียงดัง

ฉินหยุนกำหมัดแน่น โทสะภายในสุมอัดแทบล้นทะลัก เขาคิดพยายามปลดปล่อยพลังจากแก่นเต๋าตะวันทมิฬ

“เสี่ยวหยุน อย่าเพิ่งใช้พลังของแก่นเต๋าตะวันทมิฬในตอนนี้ เร่งรีบเรียกใช้พลังของจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์!” หลิงหยุนเอ๋อสัมผัสได้ ว่าฉินหยุนกำลังจะเสียการควบคุมตนเอง นางเร่งรีบกล่าว

ฉินหยุนได้ผสานรวมเข้ากับจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์ มันมีพลังอันแกร่งกล้าให้เขาได้หยิบยืมใช้ยามจำเป็น

หลังจากใช้งานมันแล้ว มันจะเลือนหาย ไม่อาจใช้ได้อีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ฉินหยุนไม่เคยใช้งานมันมาก่อน และตอนนี้ หลังหลิงหยุนเอ๋อบอกกล่าว เขาพลันปลดปล่อยพลังจากจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์

โฮก!

พลังที่อัดแน่นภายในกระดูกฉินหยุนคล้ายเดือดพล่านพร้อมระเบิดออก พลังรุนแรงทะลักล้นออกจากกระดูกของเขาสาดซัดไปยังเลือดเนื้อในกาย

ฉินหยุน ผู้ซึ่งถูกกำราบลงกับพื้น ฉับพลันลุกขึ้นยืนพร้อมผลักหุ่นเชิดทั้งห้ากระเด็น

“ข้าจะให้พวกมันได้กลายเป็นเศษขยะอยู่ที่นี่!”

ฉินหยุนคำราม ดวงตาทอประกายด้วยออร่าสีดำ วิญญาณยุทธ์สั่นไหวและอสนีบาตอัคคีได้ผสานรวมกับร่างกาย

หลังฝึกฝนกระดูกวิญญาณ ช่องว่างภายในกระดูกอันกว้างใหญ่ได้ถูกเบิกออก มันสามารถบรรจุพลังภายในอันแกร่งกล้าเอาไว้ได้มากมายมหาศาล

หลังจากกระดูกวิญญาณได้ผสานรวมกับจิตวิญญาณสัตว์ มันทำให้พลังภายในช่องว่างของกระดูกยิ่งเหนือล้ำและแกร่งกล้า และยังง่ายต่อการควบคุมอย่างยืดหยุ่น

เวลานี้ พลังที่ซุกซ่อนไว้ของจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์พลันทะลักออกผ่านในกระดูกวิญญาณ มันไหลหลั่งถ่ายเทสู่ทุกส่วนในร่างของฉินหยุน

ผู้อาวุโสเหวินได้เห็นฉินหยุนแกร่งกล้าอย่างกะทันหัน เขาเกิดอาการตระหนกและแตกตื่น เร่งรีบควบคุมหุ่นเชิดเข้าโจมตี

ฉินหยุนที่เรียกใช้พลังราชสีห์สวรรค์ พละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่า แขนปูดบวมขึ้น ฝ่ามือแปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นกรงเล็บราชสีห์สวรรค์อันแหลมคม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด