ตอนที่แล้วบทที่ 267 - คาฮาร์ (1) [19-10-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 269 - คาฮาร์ (3) [23-10-2020]

บทที่ 268 - คาฮาร์ (2) [21-10-2020]


บทที่ 268 - คาฮาร์ (2)

"หลิน?"

"ฉันรู้ว่านายจะพูดอะไร แต่ว่านั่นเป็นการเข้าใจผิด"

หลินได้หยิบบุหรี่ออกมาสูบ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรก็ตามแต่บุหรี่ของเขาก็ไฟลุกขึ้น จากนั้นฉันก็หันไปตรวจสอบกำไลข้อมือของเดซี่แทน แต่มันก็ยังเป็นเหมือนกับของฉันทำให้เต็มไปด้วยคำถาม

"นี้เป็นงานชิ้นเอกที่ฉันสร้างขึ้นด้วยกำลังทั้งหหมดของฉัน มันคงจะไม่มีอะไรที่เหมือนกับของพวกนี้ได้อีกแล้ว"

หลินได้พ่นควันออกมาในตอนที่จ้องมาทางฉันทำให้ฉันหยักไหล่ขึ้น

"ฉันรู้น่า ยังไงสิ่งนี้มันก็เป็นสิ่งที่หลินได้ใช้เวลาทุ่มเทไปกับมันกว่าสองเดือน แต่ว่าทำไมฉันดูข้อมูลไม่ได้ล่ะ?"

"มันยังไม่ชัดอีกหรอ? นี้มันก็เพราะลอร์ดของพวกนี้ไม่ออกไง"

มันรู้สึกเหมือนกับมีคนมาตีหัวของฉันทำให้ฉันคิดออกทันที หลินได้ยิ้มเยาะขึ้น

"ลอร์ดดันเจี้ยนไม่ได้มีพลังในการจะรู้ในทุกสิ่ง เธอสามารถจะวัดค่าในรางวัลที่เธอจะมอบออกไปได้ แต่ว่าของพวกนี้เป็นสิ่งที่ฉันได้ทำขึ้นด้วยพลังของฉันเอง ถ้าหากว่าลอร์ดสามารถจะรู้ในพลังของมันได้ง่ายๆความภาคภูมิใจของฉันก็คงพังหมดแล้ว"

"ถ้างั้นของที่นายทำขึ้นก่อนหน้านี้เพื่อให้ฉันในก่อนหน้านี้ล่ะ?"

"อืมม... ฉันก็แค่มีเวลาไม่พอ ที่ในครั้งนี้ฉันทำมันได้ก็เพราะว่าฉันถูกลงโทษขังอยู่ที่นี่ไง แล้วก็ยัง...."

เขาลังเลนิดหน่อย

"ไอเทมที่ไม่รู้ข้อมูลเลยนั่นจะให้ผลที่ดี กำไลนี้อาจจะมีระดับที่เหนือกว่าตำนานไปแล้ว แต่ว่าถ้าหากว่านายอย่างจะรู้ระดับของมันก็คงจะเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์..."

"ถ้างั้นมันก็เหมือนกับอินิกม่า แต่ก็ไม่แน่นอนสินะ"

"ใช่แล้ว"

ฉันได้ยิ้มขึ้น มันดูเหมือนว่าไอเทมนี้จะคล้ายๆกับอินิกม่า มานาที่ฉันสามารถจะใช้ได้ในตอนที่ใช้โอเวอร์ลอร์ด สิ่งของที่มีพลังเหนือกว่าอิธิพลของดันเจี้ยนสินะ ของพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้านศัตรูของโลกโดยเฉพาะเลย

"แล้วกำไรพวกนี้ทำอะไรได้?"

"ฉันก็ไม่รู้สิ"

"ไอ้เจ้าเผ่ามังกรนี่

...."

"เฮ้ๆ การหาคุณภาพและพลังของไอเทมมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะ! ฉันจะต้องรู้ถึงไอเทมพวกนี้ทั้งๆที่แม้แต่ลอร์ดก็ยังไม่รู้งั้นหรอ? หืออ...."

หลินได้หลบสายตาของฉันและพ่นควันออกมาอีกครั้ง แนได้แต่เก็บความโกรธเอาไว้ในใจ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาได้ไอแห้งๆออกมาและอธิบายขึ้น

"อย่างน้อยกำไลพวกนี้ก็ไม่ใช่ของต้องสาปล่ะ จากประสบการณ์ที่ฉันได้มาจากการสู้กับบุ๊ควอร์คเกอร์ได้ถูกนำมาใช้สร้างเจ้าสิ่งนี้ขึ้น ถ้านายได้ไปสู้กับไอพวกนั้นอีกครั้งตราบเท่าที่กำไลนี้ยังปกป้องนายอยู่พวกนั้นก็จะไม่มีทางเขียนอะไรเกี่ยวกับตัวนายได้ ศัตรูของโลกยังทำไม่ได้แม้แต่จะลบล้างพลังของกำไรนี้ ดังนั้นมันต้องใช้งานได้ดีแน่กับทุกคน"

"ทุกคน?"

"ทุกคนไง"

ฉันได้ตะสินใจที่จะเชื่อในคำพูดของหลิน ยังไงก็ตามหลินก็เป็นช่างตีเหล็กที่ยิ่งใหญ่ก็ยังใช้เวลาถึงสองเดือนเต็มในการสร้างพวกมัน

ฉันได้ใส่กำไลข้อมือลงไปในทันที หลังจากที่ฉันได้ใส่มันลงไปฉันได้รู้สึกถึงการเปลื่ยนแปลงทันที

ฉันจะอธิบายมันยังไงดีนะ? มันแทบจะรู้สึกเหมือนกับว่าสัมผัสของฉันได้เฉียบคมยิ่งขึ้น ใช่แล้วประสาทสัมผัสของฉันมันได้เพิ่มขึ้นสองเท่า ตา หู ปาก จมูก อวัยวะทั้งสี่นี่สามารถรับรู้ถึงสิ่งต่างๆภายนอกได้สูงยิ่งขึ้น พูดตามตรงแล้วความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นในตอนที่ฉันเลเวลกับสเตตัสเพิ่มขึ้น แต่ว่าในตอนนี้มันมากเกินไปแล้ว ฉันได้รู้สึกมึนหัวจนต้องหยุดหายใจไปพักหนึ่ง

"โอ้ดูเหมือนมันจะได้ผลสินะ"

"...เป็นอย่างที่นายพูด"

ฉันได้ยกแขนซ้ายขึ้นมา กำไลข้อมูลได้หดจดพอดีกับข้อมือของฉันและรัดแขนของฉันจนเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปแล้ว แม้ว่ามันจะไม่ควรจะติดแบบนี้แต่มันก็ไม่ขยับสักนิดเลยจริงๆ หลังจากนั้นไม่นานฉันก็เริ่มที่จะชินกับการเปลื่ยนแปลงนี้ แต่ว่าความรู้สึกเจ็บปวดอันใหม่ก็ได้เกิดขึ้นภายในตัวฉัน

"หลิน...!?"

"ฉันได้ลองเลียนแบบวิธีที่ลอร์ดยกระดับของนายนะ อย่ามองฉันแบบนั้นสิ จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้วิธีทำหรอก ดังนั้นฉันก็เลยใช้พลังของมังกรนิดหน่อยนะ จริงๆแล้วมันก็มากอยู่... ฉันได้คัดลอกการขจัดร่างกายของมังกรให้สะอาดอีกด้วยนะ"

หลินได้ตกอยู่ในความคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยกนิ้วขึ้นมา

"มันจะเป็นการยกระดับร่างกายของนายให้ใกล้เคียงกับของมังกรนะ ถ้าหากว่าความสำเร็จกับระดับของนายไม่เพียงพอนายก็คงจะต้องตายจากการที่ร่างการบิดเบี้ยวไป แต่ว่านายมีคุณสมบัติมากยิ่งกว่าพอไแล้ว"

"ถ้างั้นนี่ก็ไม่ใช่พลังใหม่ที่จะมอบให้กับฉัน แต่ว่าเป็น...."

"ใช่แล้ว มันได้ใช้พลังมังกรในการปรับพลังของนายให้เข้ากันกับระดับจริงๆของนายที่ควรจะเป็นอยู่ นี้แป็นเหตุผลที่ทำให้มันดูอ่อนกว่าเมื่อเทียบกับเลเวลหรือสเตตัส อืมม ในตอนนี้ฉันคิดว่ามันดูต่างไปจากวิธีที่ลอร์ดใช้จริงๆ ยังไงก็ตามลอร์ดก็ได้มอบระดับให้นายแบบตรงๆเลย เธอดูต่างไปจริงๆ"

"นี้มัน...! นายรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หลิน?"

"แน่นอนสิว่าฉันรู้ นั่นก็เป็นเหตุผลที่ฉันทำอุปกรณ์แบบนี้ให้นายไง"

ในเวลาเดียวกันท้ายที่สุดแล้วฉันก็ได้เอาชนะความเจ็บปวดที่มหาศาลและลุกขึ้นมายืนได้ เขาสามารถจะรู้สึกได้เลยว่าอวัยะภายในของเขาก็พัฒนาขึ้นเหมือนๆกันกับอวัยวะภายนอก การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น กระดูกหนาขึ้น และหัวใจของเขาร่วมไปถึงอวัยวะอื่นๆก็ได้รับการเสริมขึ้น

ในตอนที่เขากำหมัดแน่น หลินก็เสริมขึ้นเล็กๆ

"มันจะไม่มีใครเอาสิ่งนี้ไปจากนายได้ แม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์เท่ากับสเตตัสที่ไม่มีขีดจำกัดแต่ว่ามันก็ยังมีประโยคอยู่ ยังไงในตอนนี้มันก็คือพลังของนายจริงๆ

"หลิน!"

ฉันได้ตะโกนออกไป

"มันไม่มีทางที่นายจะทำแบบนี้ได้ด้วยแค่ร่างมังกรแน่ นายคงไม่ได้ทิ้งพลังของตัวเองไปนะ!?"

"มันก็ไม่มากนักหรอก ของผู้หญิงอีกคนมีเพียงแค่เสี้ยวเดียวที่ฉันใส่ให้นายเอง"

"แต่ทำไมนายถึงต้องทำขนาดนี้"

"ก็เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นคนที่มีพรสวรรค์ที่จะยอมรับพลังของมังกรได้ ฉันก็เลยอยากจะลองดูไง"

"อย่ามาล้อเล่นนะ"

"ก็เพราะว่าฉันอยากให้พวกนายพัฒนายไง"

หลินได้พูดขึ้นเงียบๆ ฉนได้ปิดปากลงและจ้องมองเขา ในตอนนี้ร่างกายของฉันได้รับการเสริมขึ้นแล้วทำให้ในที่สุดฉันสามารถจะมองออกได้เลยว่าตัวเขาในตอนนี้อ่อนแอกว่าแต่ก่อน ถ้าหากฉันใช้โอเวอร์ลอร์ดการโจมตีของฉันก็สามารถจะไปถึงเขาได้แล้วด้วยซ้ำ ไม่มากงั้นหรอ? นี้มันไม่มากยังไงกัน?

หลินได้ยกแขนบางๆของเขาขึ้นซึ่งมองเห็นได้เลยว่าเขาไม่สามารถจะทำได้แม้แต่ยกปืนขึ้น แขนของเขามันรู้สึกเหมือนกับถูกล่ามโซ่เอาไว้ทำให้ลมหายใจของฉันต้องหยุดไปครู่หนึ่ง ฉันไม่รู้เลยว่าหลินรู้สึกยังไงแต่แล้วเขาก็พูดด้วยเสียงที่จริงจัง

"ฉันทำหน้าที่ในส่วนของฉันแล้ว จงใช้พวกมันให้ดีซะ"

"หลิน...."

"ฉันรู้สึกได้ถึงบางอย่างจากเหตุการณ์ของซิปัว เจ้าพวกสารเลวจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังคลืบคลานไปโลกต่างๆโดยที่ฉันออกไปจัดการพวกมันไม่ได้ ถ้านายเป็นฉันนายจะรู้สึกยังไง?"

"ฉันคิดว่าคงรู้สึกไร้ค่ามั้ง"

"ใช่เลย ใครกันจะมาใช้ชีวิตอย่างไร้ค่า? น่าเสียดายที่ฉันออกไปจากที่นี่ไม่ได้เลย ทางเลือกเดียวที่ฉันมีอยู่ก็คือมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมีอยู่ให้กับคนที่ฉันไว้ใจได้"

ฉันไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี แต่ฉันควรจะขอบคุณเขาที่เชื่อใจฉันดีไหมนะ? หลินได้ยิ้มขึ้นกับฉันที่ไร้คำพูดไปและเสริมขึ้นมา

"ในตอนนี้นายได้รับไปแล้วใช่ไหม? ถ้างั้นก่อนที่จะฆ่าพวกมันก็ตะโกน 'นี้สำหรับหลิน' ด้วยล่ะกัน เดี่ยวฉันจะไปมองกับผู้หญิงผมเทาอีกคนด้วย"

"ฟู่ ฉันได้มาแล้ว ไว้ใจได้เลย"

นับตั้งแต่ที่ฉันรับได้มันมาแล้วมันก็ไม่มีทางที่จะส่งกลับคืนไปได้ ฉันได้ตอบกลับหลินด้วยรอยยิ้มและเก็บกำไลข้อมือของเดซี่เอาไว้อย่างปลอดภัย ฉันยังได้ขอให้เธอมากับฉันด้วยดังนั้นตอนนั้นฉันจะได้ให้กับเธอ

"ตอนนี้ก็ไปได้แล้ว"

"อ่า หลิน มีเพื่อนคนนึงของฉันเป็นผู้ใช้ปีนด้วยนะ"

"เอ๋ เหมือนฉันนะหรอ?"

"ใช่"

หลินได้หยิบบุหรี่ขึ้นมาอีกอันหนึ่งและมองลงมาเล็กน้อย ในตอนนั้นเขาก็ได้ถามขึ้นมาด้วยเสียงที่ไม่ชัดเจนนัก ฉันได้หยักหน้าในทันที จากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้น

"น่าสนใจ ทีหลังก็พาเขามาหาฉันนะ ฉันจะตรวจสอบเขาด้วยตัวเองเอง ขอบคุณมาก"

"ฉันคิดไว้แล้วว่านายจะพูดแบบนี้ คงอีกไม่นานหรอก"

ฉันได้โบกมือขอบคุณเขาและหันหน้าไป ลีออนนายจะต้องขอบคุณฉันซะแล้วล่ะ

"เดซี่เธออยู่ไหนนะ?"

[บียอนชั้นที่ 16 เพิ่งจะเข้ามาวันนี้เอง]

ฉันได้สบถขึ้นภายในใจ แม้ว่าเดซี่จะเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยมแต่ว่าเธอก็ยังไม่สามารถจะพิชิตบียอนได้ในเวลาแค่วันสองวัน ในคราวนี้ฉันคงรอการช่วยเหลือจากเธอไม่ได้

ในตอนที่ฉันไม่ได้พูดอะไรออกไปเดซี่ก็ถามอกมา

[นายต้องการให้ฉันช่วยอะไรหรอ?]

"ไม่หรอก ไม่เป็นไร"

[ฉันจะตายเดี๋ยวนี้ล่ะ รอเดี๋ยว]

"มันไม่เป็นไรจริงๆ อย่าตั้งใจไปตายแบบนั้นขอร้องล่ะ"

[...ซึนเดเระ?]

เพียงไม่นานนักเธอก็ทำให้ฉันพูดไม่ออกเลย แต่แล้วฉันก็เรียกความสงบกลับคืนมาและตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว

"ไม่สิ ใครกันที่สอนคำแบบนี้กับเธอนะ"

[แต่คังชินต้องการให้ฉันช่วย]

"ฉันไม่...เอาเถอะ ฉันต้องการ แต่ว่ามันก็ไม่เป็นไรหรอก"

[ฉันรู้แล้ว ซึนเดเระ]

"ฉันไม่ได้ซึนเดเระนะ"

[รอ 10 นาที]

"ไม่ การที่เข้าดันเจี้ยนไม่ได้อีกเป็นเวลาเดือนนึงมันเป็นความเสียหายที่ร้ายแรงเกินไปสำหรับในตอนนี้

[...ชิ]

เดซี่ดูเหมือนจะเข้าใจ แม้ว่าเธอจะเดาะลิ้นขึ้นอย่างไม่พอใจแต่เธอก็เลิกพูดเรื่องที่จะไปตายแล้ว

"ฉันกำลังจะไปทำภารกิจทหารรับจ้างต่างมิติ หลินได้ให้รางวัลที่ทำให้เธอมาแล้วงั้นเดี๋ยวฉันจะเอามาให้เธอในตอนที่กลับมานะ

[อื้อ]

เธอได้ตอบกลับมาเงียบๆ จากนั้นก็ถามขึ้น

[นายกำลังไปไหนนะ?]

"เธอคงไม่ได้จะตามฉันมาใช่ไหม

[ฉันจะรีบจัดการบียอนและตามไป]

"ฉันจะยอมรับแค่ความคิดของเธอเท่านั้น"

[ชิ]

หลังจากคุยกับเธอเสร็จฉันก็ได้เปิดช่องสนทนาของกิลด์และบอกกับทุกคนว่าฉันกำลังจะไปทำภารกิจทหารรับจ้างต่างมิติ ฮวาหยาได้โผล่ขึ้นมาแต่เธอก็รู้ว่าในตอนนี้เธอจะต้องอยู่ข้างๆเคียร่า

นับตั้งแต่ที่ฉันทำธุระทั้งหมดที่ฉันจะต้องทำเสร็จหมดแล้วในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ฉันจะต้องไปหาเอเลนี่อีกครั้งแล้ว ก่อนหน้านั้นฉันก็ไติดต่อไปหาเอลลอส เนื่องจากว่าฮีโร่ได้หายไปฉันจึงอยากจะตรวจสอบในความปลอดภัยของเขา โชคดีที่เขาได้ตอบกลับมาในทันทีที่ได้รับข้อความจากฉัน

[ชิน]

"เฮ้เอลลอส ดีจังเลยนะที่นายตอบกลับมา"

[ถ้านายติดต่อมาหาฉันแบบนี้มันก็หมายความว่า...?]

"สถานการณ์ในโลกตอนนี้สงบลงแล้ว"

เอลลอสได้หายใจออกมาอย่างโล่งอก เสียงของเขาในตอนนี้ดูหนักอึ้งเอามากๆ

[ฟู่... ฉันกำลังรอนายอยู่เลย มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นที่ทวีปของฉัน ฉันก็เลยรอคอยความช่วยเหลือจากนาย]

"ใช่แล้ว ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน เดี๋ยวฉันจะไปที่นั่นแล้วรอเดี๋ยวนะ"

ด้วยแบบนี้ฉนได้กลับไปที่ศาลา โรเล็ตต้าก็ยังคงจับล็อคเอเลนี่อยู่

"กรี๊ดดดดดดดด"

เธอยังอยู่ที่นี่อีกหรอ!?"

"พวกเธอเริ่มมันต่อตั้งแต่ที่นายออกไปแล้ว นายต้องการป็อปคอร์นหน่อยปะ?"

โรทั่งคนเเคระได้หยิบจานที่เต็มไปด้วยป็อปคอร์นเข้ามาหาฉัน ฉันได้คว้ามันเอาไว้เต็มกำมือและใส่ลงไปในปาก จากนั้นฉันก็ทรุดตัวนั่งลงข้างๆเขา สมาชิกส่วนที่เหลือของสวนแฟรี่ต่างก็กำลังนั่งเคี้ยวป็อบคอร์นเพลิดเพลินไปกับฉากๆนี้ พวกเขาทั้งหมดที่โหดร้ายกันจริงๆ

หลังจากใบหน้าของเอเลนี่ได้กลายเป็นสีขาว จากนั้นก็สีแดง จากนั้นก็ขาว จากนั้นก็แดง โรเล็ตต้าก็ดูจะเหนื่อยกับการล็อคคอของเธอแล้วทำให้เธอเปลื่ยนไปเป็นการดึงหน้าของเอเลนี่ออก เสียงร้องของเอเลนี่ได้ดังออกไปทั่ว เธอได้เคาะพื้นอย่างต่อเนื่อง แต่โชคร้ายว่าที่นี่มันไม่มีกติกาแบบมวยป้ำในสวนแฟรี่เลย

"อั๊ก ถ้า นาย มา แล้ว ก็ หยุด เธอ สิ"

"โอ้ ชินหรอ"

บางทีอาจจะเป็นรเพราะว่าเธอได้เห็นฉันแล้วโรเล็ตต้าได้ลุกขึ้นมาอย่างสบายๆ เอเลนี่ได้ไอเอาฟองน้ำลายออกมาจากปากมากมายแต่ก็ไม่มีใครไปสนเธอเลย

"พวกเรากำลังคุยกันเรื่องมิตรภาพของหญิงสาวอยู่เลย ฉันพูดเรื่องดีๆของชินด้วยนะ ดังนั้นเธอก็คงจะไม่มาเจ้าชู้กับชินแล้ว"

"เรื่องดีๆ....?"

ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเรื่องดีๆคืออะไร แต่ว่าการคุยของเธออาจจะถึงกับฆ่าเอเลนี่ได้เลยก็ได้ ดังนั้นฉันได้แต่บอกเธอออกไป

"สำหรับตอนนี้อย่าคุยกับมากดีกว่านะโรเล็ตต้า"

"โอ้ ถ้างั้น... เอะ เอะเฮะเฮะ"

โรเล็ตต้าได้ดีความคำพูดของฉันในทางที่เธอชอบและตกไปอยู่ในโลกจินตนาการของเธอ ฉันเดาว่านี้คงเป็นอีกหนึ่งในพรสวรรค์ของเธอ....

ฉันได้รอให้เอเลนี่ฟื้นตัว เมื่อเธอฟื้นตัวแล้วฉันก็รับกระดาษใบหนึ่งมาจากเธอ แต่แม้ว่าจะผ่านไปนานแล้วโรเล็ตต้าก็ยังคงอยู่ในโลกจินตนาการของเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่น่าขนลุก

"นี้เป็นแบบฟอร์มคำขอหรอ? นี้เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้เห็นมัน"

"มันยังใช้เป็นเครื่องนำทางได้ด้วย ไอเทมส่วนหนึ่งของฮีโร่ถูกฝังพลังเอาไว้ทำให้มันสามารถจะบอกได้ว่าฮีโร่อยู่ที่ไหน"

"อ่อ"

"ในคราวนี้จะมีคนรวมทั้งหมด 25 คนรวมนายด้วย พวกเขาทั้งหมดน่าจะรวมกันอยู่ในที่ๆนายกำลังจะไป เป้าหมายมีเพียงแค่อย่างเดียวคือการช่วยฮีโร่"

เอเลนี่ได้พูดออกมาอย่างมีราศีในขณะที่ท่าทางการจัดการซ่อมชุดที่พังของเธอมันตรงกันข้ามมาก แน่นอนว่าฉันไม่ได้รู้สึกถึงราศีใดๆของเธอเลย

"นี้มันอันตรายมาก นายอาจจะต้องเจอกับศัตรูของโลกด้วย ฉันจะถามนายอีกครั้งนะ นายจะไปจริงๆหรอ?"

"ใช่"

"ขอบคุณ!"

เธอได้กางแขนออกมาเพื่อที่จะกอดฉัน จากนั้นเองเธอก็ผงะไปอย่างเห็นได้ชัด

"โชคดีนะ ฉันขออธิฐานให้ชัยชนะเป็นของนาย"

เพราะอย่างนี้ฉันก็ได้มุ่งหน้าสู่ทวีปอีเดียสพร้อมๆกับลิโคไรท์และล็อทเต้ อ่าแน่นอนว่าฉันก็ได้พรจากโรเล็ตต้าเหมือนกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด