ตอนที่แล้วตอนที่ 22 อาจจะไม่ใช่สำหรับเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 ข้าจะตอนน้องชายเจ้าหากเจ้าลืม!

ตอนที่ 23 สมบัติจากสวรรค์ปฐพี


“คนที่ช้าที่สุดจะถูกสัตว์อสูรจับกิน!!!”

หลังจากพวกเขาแอบลอบออกจากสถาบัน ป๋ายเสี่ยวเฟยราวกับเป็นม้าที่ได้กลับคืนสู่ธรรมชาติ เขาวิ่งหายตัวไปภายในผืนป่าหนาครึ้ม

“พี่ใหญ่ป๋ายรอข้าด้วย! ข้ายังไม่ได้บอกท่านเลยว่าแม่น้ำอยู่ไหน!”

หวู่จื๋อสมกับที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ เขาสามารถไล่ตามป๋ายเสี่ยวเฟยโดยไม่ต้องพยายามมาก

สือขุยยังถือว่าพอใช้ได้ เขาไม่ได้ถูกป๋ายเสี่ยวเฟยและหวู่จื๋อทิ้งห่างมากนักถึงเขาจะช้ากว่าเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับโม่ข่าแล้วยังดีกว่ามาก...

“พี่ใหญ่เฟย! สหายสือ! เจ้าโง่หวู่! พวกเจ้าทั้งหมดรอข้าด้วย! ข้าวิ่งไม่ไหวแล้ว!!!”

เสียงของโม่ข่าราวกับว่าเขาใกล้จะร้องโฮเต็มทนเพราะสำหรับเขาแล้วพื้นที่มืดสนิทโดยรอบดูเหมือนจะเต็มไปด้วยภยันตราย

“เร็วกว่านี้สือขุย! ตรงนั้นมีหมาป่า!”

เสียงของป๋ายเสี่ยวเฟยดังมาจากข้างหน้า สือขุยที่ตอนแรกคิดจะรอโม่ข่าพลันครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะตัดสินใจไล่ตามป๋ายเสี่ยวเฟยต่อ

“หมาป่า!?”

โม่ข่าหันไปมองรอบด้านอย่างกังวล เขารู้สึกราวกับได้ยินเสียงใบไม้สั่นไหว

“แม่จ๋า!! ข้ากำลังจะตาย!!!”

โม่ข่าราวร้องโหยหวนราวถูกไฟรนก้น ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามเท่า เขาไล่ตามป๋ายเสี่ยวเฟยและคนอื่นเสมือนพายุคลั่ง

“วู้ฮู!!!!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกเหมือนได้เจอมารดาเมื่อเขาเห็นแม่น้ำ เขารีบถอดเสื้อผ้าบนร่างก่อนจะกระโจนเข้าไป

ไม่นานนักหวู่จื๋อก็มาถึง ถึงอย่างไรเสียเขาก็เป็นคนคอยตะโกนบอกทาง

“ข้างในเสื้อข้ามีขวดสีฟ้า เทผงข้างในแล้วป้ายตัวเจ้า จากนั้นเจ้าจะสามารถล้างกลิ่นออกได้”

ป๋ายเสี่ยวเฟยโผล่หัวออกมาจากน้ำเริ่มถูร่างกายตัวเองอย่างรุนแรง

ระเบิดเหม็นโฉ่เรียกได้ว่าเกือบสมบูรณ์ แต่ผลข้างเคียงของมันออกจะผิดปกติเล็กน้อย

ก่อนที่ป๋ายเสี่ยวเฟยจะล้างตัวเสร็จ โม่ข่าและสือขุยก็มาถึง โม่ข่าที่ไล่ตามสือขุยอย่างยากลำบากอยู่ในสภาพเหนื่อยหอบปานตาย

“เจ้าควรจะจริงจังต่อการฝึกฝนร่างกายมากกว่านี้ มิเช่นนั้นเจ้าถูกพี่ใหญ่เฟยเล่นตายแน่...”

ถึงแม้สือขุยจะไร้เดียงสาอยู่บ้างแต่เขาก็สามารถทำนายอนาคตของเขาได้หลังจากรู้จักป๋ายเสี่ยวเฟยเพียงไม่กี่ชั่วโมง

การอยู่กับป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ต่างอะไรกับอยู่ถ้ำเดียวกับเสือ!

โม่ข่าทรุดตัวลงพื้นพลางกล่าวไปด้วยหอบหายใจไปด้วย

“มัน..ไม่ใช่...ธุระของ...เจ้า...เจ้าเคยเห็น...นักปรุงโอสถ...วิ่งไปทั่วรึ..?”

“เช่นนั้นก็ขอให้โชคดี”

สือขุยกางแขนก่อนจะถอดเสื้อผ้าจากนั้นจึงกระโจนลงน้ำ ต่างจากป๋ายเสี่ยวเฟยและหวู่จื๋อ เขาไม่ได้ว่ายไปยังกลางแม่น้ำ

คนบางกลุ่มที่ว่ายน้ำไม่เป็นมิอาจรับรู้ความสำราญนี้ได้...

“ฮ่ง! ฮ่ง!!!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเพิ่งอาบน้ำเสร็จเมื่อเสี่ยวเอ้อพลันเห่าสุดเสียงจากขอบริมน้ำ ในชั่วเวลาหนึ่งโม่ข่าและพวกรู้สึกราวกับหัวใจพุ่งขึ้นมาอยู่ในลำคอ

‘คงไม่ใช่ว่ามีสัตว์อสูรแถวนี้ใช่หรือไม่!?’

“ว่ากระไรเสี่ยวเอ้อ”

ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่กังวลเพราะเสี่ยวเอ้อไม่แสดงท่าทีรู้สึกถึงอันตราย

“ฮ่ง! ฮ่ง!”

เสี่ยวเอ้อเห่าสองคราก่อนจะวิ่งรอบเป็นวงกลมพลางส่ายหาง

“มีสิ่งของดีแถวนี้?”

นัยน์ตาป๋ายเสี่ยวเฟยเป็นประกายเมื่อได้ยิน เขารีบว่ายกลับเข้าฝั่งทันที

“อยู่ที่ใด? อยู่ที่ใด?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยอุ้มเสี่ยวเอ้อขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นของนักล่าสมบัติ

เสี่ยวเอ้อตื่นเต้นเช่นกัน มันยกอุ้งเท้าขึ้นมาชี้ไปยังทิศทางต้นน้ำ ท่าทีของมันเหมือนกับมนุษย์ไม่มีผิด

“มีสิ่งดีเลิศข้างบนนั้น? พวกเจ้าอยากไปดูด้วยหรือไม่?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยหันไปถามพวกโม่ข่า ภายใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส พวกเขาราวกับได้เห็นอสูรร้ายกวักมือเรียกไปสู่หนทางที่ผิด

“ข้ายังอาบไม่เสร็จ”

สือขุยเป็นคนแรกที่แสดงถึงจุดยืนของตนเพราะเขามีลางสังหรณ์ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ข้า... ข้าอยาก...”

การถูกป๋ายเสี่ยวเฟยจ้องเขม็งทำให้หวู่จื๋อไม่อาจพูดแก้ตัวได้ หลังจากผ่านไปนาน เขาทำได้เพียงส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังโม่ข่าและสือขุย

“พี่ใหญ่เฟย เจ้าโง่สือคุยต้องอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องพวกเรา หากมีหมาป่ามาท่านจะเสียลูกน้องผู้ซื่อสัตย์สองคนเป็นแน่แท้”

ถึงแม้ร่างกายเขาจะไม่ดีแต่สมองจัดว่าไวพอใช้ได้

“เจ้าปอดแหกสามตัว ช่างเถอะ พวกเจ้าทั้งหมดรอข้าอยู่ที่นี่”

ป๋ายเสี่ยวเฟยส่ายมืออย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะวิ่งขึ้นไปทางต้นน้ำโดยมีเสี่ยวเอ้ออยู่ในอ้อมแขน คำว่า ‘กลัว’ ได้ถูกลบไปจากพจนานุกรมของเขาเป็นที่เรียบร้อย…

ด้วยการนำทางของเสี่ยวเอ้อ ป๋ายเสี่ยวเฟยถึงจุดหมายอย่างรวดเร็ว เขาได้กลิ่นหอมฉุยของสมบัติแห่งสวรรค์ปฐพีมาแต่ไกล

“เด็กดี เลี้ยงไม่เสียข้าวสุกจริงแท้!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยที่แอบซ่อนตัวอยู่หลังหินก้อนใหญ่มองไปยังพื้นที่โล่งข้างหน้า

ส่วนใหญ่สมบัติแห่งสวรรค์ปฐพีจะมีบางอย่างปกป้องมันไว้ในบริเวณโดยรอบ เขาจึงจำเป็นต้องระมัดระวังตัว

ป๋ายเสี่ยวเฟยเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญสิ่งแปลกประหลาดมากมายขณะข่มความตื่นเต้นในใจ เพราะอย่างไรก็ตามเสี่ยวเอ้อเคยหลอกเขามาหลายคราแล้ว

แต่ต่อให้ป๋ายเสี่ยวเฟยคิดให้ตายอย่างไรก็ไม่มีทางคาดคิดถึงฉากตรงหน้าเป็นแน่แท้...

ตรงใจกลางแม่น้ำภายใต้แสงจันทร์สีเงินมีดรุณีน้อยรูปร่างผอมเพรียวที่กำลังขัดถูร่างกายของตนอย่างเบามือ ผิวหนังนุ่มนวลของนางราวกับเปล่งประกายกว่าเดิมท่ามกลางหมู่เดือนดาวจากเบื้องบน

ที่สำคัญกว่า ป๋ายเสี่ยวเฟยสามารถมองเห็นอย่างเลือนรางว่ารูปโฉมของดรุณีผู้นี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลินหลีแม้แต่น้อย กระทั่งความงดงามที่แฝงความป่าเถื่อนยังเป็นสิ่งที่แม้แต่หลินหลีก็ไม่มี

“เป็นนาง?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยพลันนึกออกถึงบุคคลที่เขาพานพบเมื่อวันก่อนกับดรุณีตรงหน้า

ตลอดเวลาป๋ายเสี่ยวเฟยอยู่ในสภาพจดจ่ออย่างสุดขีดถึงขั้นลืมว่าตนเองได้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไป

“นั่นใคร!?”

ถึงแม้เสียงกลืนน้ำลายของเขาจะแผ่วเบาแต่มันกลับมิอาจเล็ดลอดไปจากประสาทสัมผัสของนางได้

“ไม่ใช่ใครทั้งนั้น!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยชาญฉลาดมาทั้งชีวิตเว้นก็เสียแต่วินาทีนี้เอง เขาถึงกับยืนขึ้นจากจุดเดิมด้วยเพราะตกใจ และไม่ว่าเขาจะเสียใจกับการกระทำนี้เพียงใดมันก็สายไปแล้ว

หญิงสาวพลันปลดปล่อยศรวารีอันแหลมคมในฉับพลัน ศรนั้นปักเข้ากลางอกเขาอย่างแม่นยำ แรงกระแทกส่งป๋ายเสี่ยวเฟยปลิวกระเด็นไปไกล

แต่โชคยังดี นางจู่โจมในสภาพตื่นตระหนกจึงไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด เป็นเหตุให้บาดแผลไม่ถึงแก่ชีวิต

ป๋ายเสี่ยวเฟยกล้ำกลืนฝืนทนความเจ็บปวดเหลือคณานับพลางเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น เขาเริ่มคิดหาหนทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์เบื้องหน้า

‘ดูๆ แล้วข้าไม่มีทางสู้นางได้และข้าไม่น่าจะหลบหนีพ้นด...’

เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยคิดได้เช่นนั้นก็เป็นเวลาเดียวกับที่หญิงสาวสวมใส่อาภรณ์ปกปิดเรือนร่าง นางพุ่งเข้ามาข้างกายเขานัยน์ตางดงามยั่วยวนคล้ายจิ้งจอกคู่นั้นเต็มไปด้วยโทสะ

“ตาย!”

หญิงสาวตัดสินใจปิดปากป๋ายเสี่ยวเฟยด้วยการสังหาร ลูกบอลเจิดจรัสสีม่วงอ่อนปรากฏขึ้นในฝ่ามือ แต่ก่อนที่ฝ่ามือนั้นจะกระทบหน้าผากของป๋ายเสี่ยวเฟยนางก็พลันหยุดมือเมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนคือใคร

“เป็นเจ้า!!??”

พร้อมกับเสียงตกใจระคนสับสน เรื่องราวแสนพิลึกกึกกือก็ได้เริ่มต้นขึ้น...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด