ตอนที่แล้วบทที่ 253 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (4) [23-09-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 255 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (6) [27-09-2020]

บทที่ 254 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (5) [25-09-2020]


บทที่ 254 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (5)

ฉันได้มอบตรวจสอบเธอละเอียดยิ่งขึ้นทั้งๆที่สับสน ผมยาวสีม่วงอ่อนของเธอดูจะกลืนไปกลับความมืดรอบๆและก็ยังรวมถึงผิวซีดขาวของเธออีก ดวงตาของเธอก็ยังมีสีม่วงอ่อนเหมือนกับผมของเธอและราวกับดูดแสงทั้งหมดเข้าไป ไม่เพียงแค่ขนาดตัวของเธอที่เล็กเท่านั้นแต่ตาของเธอ ริมฝีปากของเธอและหูของเธอต่างก็เล็กหมด ทุกๆคนที่มองไปที่เธอก็คงจะคิดแบบเดียวกันว่าเธออายุเพียงแค่สิบปีเท่านั้นเอง

อ่า เธอก็ยังไม่ได้ใส่เสื้อใดๆเลยอีกด้วย

"ชิน ชินมีอะไรจะพูดก่อนที่ฉันจะควักตาชินไหม"

"ฉันไม่รู้เรื่องนะ ฉันถูกกล่าวหา ถ้าหากว่าเธอจะหาคนผิดเธอก็ต้องไปคุยกับเด็กที่ทำแบบนั้นสิ"

"ในบางครั้งการที่อยู่ในบางที่ก็ถือเป็นความผิดแล้วนะ ถ้าหากว่าชินรู้ว่าเธอเปลือยอยู่ชินก็ควรจะหันไปสิ"

"ฉันคิดว่าเธอจะโตกว่านี้เพราะเสียงของเธอดูเป็นผู้ใหญ่ ฉันรู้สึกตกใจว่าเธอเป็นเด็กเลยมองสำรวจเธอนะ ฉันรู้ว่านี้มันเป็นความผิดของฉัน แต่ว่าการควักลูกตาฉันออกมามันออกจะเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินไปแล้วนะ"

ในตอนที่ฉันตอบกลับไปอย่างสงบและป้องกันนิ้วของโรเล็ตต้าอย่างหมดท่า เชอริฟิน่าได้มองดูเราเงียบๆ ไปใส่อะไรสักหน่อยเถ้อะ ขอร้องล่ะ

"ลอร์ด ใส่อะไรสักหน่อยสิ"

"นั่นมันเป็นปัญหาสินะ ฉันขอโทษ ฉันแทบไม่เคยคุยกับคนอื่นๆเลย"

เธอได้ขอโทษโรเล็ตต้าและดีดนิ้วออกมา เธอได้เปลื่ยนมาใส่ชุดเดรสสีดำในทันที ฉันได้ดันนิ้วของโรเล็ตต้าออกไปและถอนหายใจอย่างโล่งอก ในเวลาเดียวกันฉันก็อดที่จะคิดกับตัวเองไม่ได้ว่าเธอใส่อะไรอยู่ข้างใต้...? อะแฮ่ม

"ตอนนี้ฉันก็ใส่เสื้อล่ะนะ มันไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องควักลูกตาเขาออกแล้วสินะ"

"ฟู่...เธอตั้งใจทำแบบนี้ใช่ไหม"

"โรเล็ตต้าเธอก็น่าจะรู้ดีที่สุดนะว่าฉันไม่ได้ใส่เสื้อเป็นปกติ"

"อืมม... ฉันมาถามเธอก่อนนะ เธอรู้ใช่ไหมว่าทำไมเราถึงอยู่ที่นี่"

"ใช่ มันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกถูกไหม"

เชอริฟิน่าได้หยักหน้าช้าๆและพูดต่อ

"โลกกำลังอยู่ในสถานะป้องกันศัตรูที่บุกรุกอย่างสมบูรณ์ ถ้าคุณยังคงพัฒนาต่อไปมันก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะหยุดศัตรูของโลกได้ก่อนที่มนุษยชาติจะต้องหลั่งเลือด"

"ฉันรู้แล้วล่ะ แต่ว่า..."

"ยังไงก็ตามพวกเขานั้นก็ตระหนักได้ว่าคุณนั้นทรงพลัง"

เชอริฟิน่าได้มองมาท่ฉัน เมื่อมองเข้าไปในนัยตาที่ทรงเสน่ห์สีม่วงอ่อนของเธอมันทำให้ฉันรู้สึกเข้าใจได้ว่าทำไมโรเล็ตต้าถึงได้ทดสอบฉันก่อนหน้านี้ โรเล็ตต้าได้พูดฉันออกมา

"ถ้าหากลอร์ดล่อลวงชินล่ะก็ ฉันจะฆ่าแม้กระทั่งลอร์ดแน่นอน"

"ฉันไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น นอกไปจากนี้ความรักไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผู้ดูแล โรเล็ตต้าฉันได้บอกเธอเรื่องนี้หลายครั้งแล้วนะแต่เธอก็ไม่เคยฟังฉันสักที"

"ถ้าลอร์ดไปพูดเรื่องนี้กับคนอื่น ฉันก็จะฆ่าลอร์ด"

"ความรักมันสร้างปัญหาให้ทั้งเธอและคนที่เธอรัก ความคาดหวังของเธอมันสูงเกินไป"

โรเล็ตต้าได้หยิบเอาขวานของเธออกมา

"ฉันก็ฆ่าจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้ซะ"

"โรเล็ตต้า ขอร้องล่ะ"

"แต่ว่าผู้หญิงคนนี้มัน...! ชินเป็นความคาดหวังที่สูงเกินไปของฉันงั้นหรอ ฉันเอาแต่ใจไปหรอ"

"มันไม่ใช่แบบนั้นซักนิด ดังนั้นเก็บขวานลงไปก่อนที่ฉันจะรู้สึกแบบนั้นซะ แล้วก็เธอเก็บขวานไว้ไหนกันถึงเอามันออกมาได้ตลอดเวลาแบบนี้"

หลังจากฉันได้หยุดยั้งวิกฤตครั้งที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ดันเจี้ยนก่อตั้งมาแล้วเชอริฟิน่าก็พูดออกมาอย่างหน่ายใจ

"การเร่งความเร็วของการบุกรุกมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการจะทำเพราะว่ามันใช้มานาที่สูง...."

"เธอพูดเหมือนมันกำลังเป็นไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหรอ"

"แทนที่พวกนั้นจะประสบความสำเร็จในการบุกรุก พวกเขากลับต้องสูญเสียดินแดนที่พวกนั้นได้รับไปแทน เพื่อตอบสนองสิ่งเหล่านี้พวกนั้นก็จะต้องงเสียสละกองกำลังของพวกเขาบางส่วนเพื่อที่จะฝืนบังคับทางผ่าน"

ฉันได้ล้มเลิกการเถียงและฟังเธอต่อไป

"ตามปกติแล้วฉันจะแบ่งพลังของฉันออกไปอย่างเท่าเทียมกันในทุกๆโลก ผู้ดูแลดันเจี้ยน ผู้ดูแลนักสำรวจ และการแทรกแซงการบุกรุกของศัตรู"

"ใช่ ใช่"

"เพราะเหตุการณ์ล่าสุดที่ซิปัวได้หนีไป....อ่าถึงแบบนั้นในเรื่องนี้เราก็จะต้องขอบคุณคุณที่ทำให้เราสามารรถป้องกันดันเจี้ยนเอาไว้ได้ ถ้าว่าแม้แต่เราสูญเสียแค่หนีดันเจี้ยนก็จะต้องเผชิญกับปัญหาหนักแน่ๆ"

"ช่วยอธิบายต่อไปด้วยลอร์ด"

โรเล็ตต้าได้พูดออกมาอย่างรำคาญ เชอริฟิน่าได้หยักหน้ารับและพูดต่อ

"เพราะเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นจากการที่ซิปัวหนีไปทำให้ดันเจี้ยนหยุดตัวลง สายตาของฉันก็ยังถูกจำกัดลงไปด้วย ซิปัวได้กลับมายังตำแหน่งของเธอแล้ว แต่ว่าก่อนที่พลังของฉันจะกลับมาครบถ้วน การบุกรุกครั้งที่สามของศัตรูก็ได้เริ่มขึ้น พวกเราอยู่ในจุดที่จัดการไม่ทันเวลา"

"ถ้างั้นทฤษฏีของฉันก็ถูกต้องสินะลอร์ด"

"ใช่แล้ว ดันเจี้ยนก่อตัวได้ไม่สมบูรณ์ นอกไปจากนี้เพราะว่าฉันได้เร่งเปิดใช้งานพลังของฉันทำให้ฉันไม่ได้สังเกตุว่าพวกนั้นได้มารวมตัวอยู่ในจุดๆเดียวกัน เนื่องจากว่าฉันไม่ได้สังเกตุว่าเหตุการ์ดันเจี้ยนได้หายไปและศัตรูได้มารวมกันเป็นกองทัพ คุณสามารถจะบอกได้เลยว่าพวกนั้นได้ต้มฉันซะแล้ว แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็หมายความว่าพวกนั้นก็ยังมีพลังที่จะป้องกันฉันไม่ให้รู้ตัวว่าเหตุการณ์ดันเจี้ยนหายไป"

"มันเป็นไปไม่ได้"

"ศัตรูของเรามีทั้งพลังที่หลากหลายและน่ากลัว โรเล็ตต้าสิ่งที่เราคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้มักจะย้อนกลับมาทำร้ายเราเองเสมอ"

ลอร์ดได้พูดออกมาอย่างใจเย็นๆ

"จำเรื่องนี้เอาไว้ อาจจะมีใครสักคนที่อยู่ท่ามกลางพวกนั้นสามารถจะเข้าใจในพลังของฉันได้และเพิกเฉยพลังเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์"

"มันจะใช่เดม่อนลอร์ดไหม"

"ฉันไม่คิดว่าเป็นแบบนั้นนะ ในตอนที่นักสำรวจคนสุดท้ายออกมาจากทวีปลูก้า เขาคนนั้นไม่ได้มีพลังแบบนี้ มันจะต้องเป็นปีศาจที่เกิดขึ้นมาใหม่หลังจากที่เดม่อนลอร์ดได้รับพลังของโลก"

แม้ว่าเธอจะพูดด้วยเสียงที่จริงจัง แต่ฉันก็ไม่สามารถจะตั้งสมาธิกับคำพูดของเธอได้เพราะรูปลักษณ์ของเธอ ฉันได้ตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติกลับมาและถามเธอ

"แล้วก็อาจจะมีแบบนั้นมากกว่าหนึ่งด้วยสินะ"

"แน่นอนอยู่แล้ว ฉันวางแผนที่จะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่ว่าสิ่งที่ดันเจี้ยนทำให้คุณได้ก็มีแต่จะยิ่งน้อยลง"

"ลอร์ด เธอนี่ไร้ความผิดชอบเกินไปแล้วนะ"

"ฉันคาดหวังกับคุณเอาไว้มากนะ"

เธอได้ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของโรเล็ตต้าและมองตรงมาที่ฉัน

"คุณอาจจะไม่รู้ แต่ว่าคุณเป็นนักสำรวจที่ปีนดันเจี้ยนได้เร็วที่สุดเท่าที่ดันเจี้ยนเคยมีตัวตนมาแล้ว การโซโล่ดันเจี้ยนคือสิ่งที่คุณคิดว่าธรรมดาและง่ายมันไม่ใช่แม้แต่สิ่งที่นักสำรวจ 1% จะทำได้เลย ความสามารถในการปีนสองชั้นในวันเดียวก็ยังน้อยยิ่งกว่า 1% ของ 1% อีกที่ทำกันได้ สสำหรับความเร็วในการปีนบียอนของคุณฉันยิ่งไม่มีอะไรจะพูด คุณทั้งแข็งแกร่งและมีความคิดที่กล้าหาญพร้อมทั้งโชคที่สนับสนุนคุณเป็นอย่างมากแม้แต่ฉันยังยากที่จะเชื่อเลย ความสนใจและความปรารถนาดีต่อคุณจากเทพนั้นก็แทบจะเป็นครั้งแรกเลยนับตั้งแต่ที่จักรวาลได้เริ่มต้นขึ้น"

"เอะเฮะ เธอกำลังทำให้ฉันอายนะ"

"ทำไมคุณต้องอายด้วยล่ะโรเล็ตต้า"

เธอได้งงกับท่าทางของโรเล็ตต้า จากนั้นก็หันกลับมาหาฉันอีกครั้ง

"ยังไงก็ตามยิ่งความสำเร็จของคุณมากเท่าไหร่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ ฉันเกลียดคำว่า 'โชคชะตา' ที่สุด แต่ว่าเมื่อดูจากพรสวรรค์และโชคของคุณ ฉันอดที่จะคิดไม่ได้ว่าช่วงเวลาที่ต้องการพลังแบบนี้จะมาถึงแล้ว

"ลอร์ด"

โรเล็ตต้าได้มองไปที่เชอริฟิน่าด้วยใบห้นาที่ตกใจมากๆ เมื่อเห็นอาการกังวลที่อยู่บใบหน้าเล็กๆของเธอ โรเล็ตต้าก็ได้ถามออกมา

"ไม่สบายใจ...? ทำไมล่ะ? ลอร์ดได้เห็นและได้ประสบกับโลกที่ล่มสลายมานับไม่ถ้วนและคุณรู้สึกไม่สบายใจในอันตรายของโลกชินหรอ"

"ลองคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกที่เป็นอยู่สิโรเล็ตต้า"

ฉันสามารถจะเข้าใจในคววามไม่สบายใจที่เชอริฟิน่ารู้สึกได้ โรเล็ตต้าก็ดูจะเข้าใจได้ถึงบางสิ่งทำให้เธอเงียบลงไป

"ผู้นำของศัตรูที่มีพลังในการเพิกเฉยพลังของดันเจี้ยน นั่นมันเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้นำ มันรู้ได้ชัดเจนว่าดันเจี้ยนนั้นเป็นผู้คุ้มกันและผู้นำการโจมตีนี้ได้เกิดขึ้นมาเพื่อเอาชนะผู้คุ้มกัน"

"เป็นแบบนั้นงั้นหรอ"

"แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันก็ไม่ได้ออกมาในภาพแบบนั้นเหมือนกัน เดม่อนลอร์ดที่เปิดทางผ่านโลกอื่นหลังจากที่ดูดพลังของโลกมาาและความจริงที่ว่าคือทางผ่านนั้นนำทางมาสู่โลก ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถเมินเฉยได้ มันก็เหมือนๆกันกับหัวหน้าของเหล่ามอนสเตอร์แต่ว่าฉันก็ยังคงไม่รู้ว่าตัวตนของเขาคนนั้นเป็นแบบนั้น แต่ถ้าคุณป้องกันโลกไม่สำเร็จและพวกเขานั้นชนะ คุณคิดว่าพวกนั้นจะหยุดไหม"

"...."

ทั้งโรเล็ตต้าและฉันต่างก็พูดไม่ออก ฉันไม่อยากจะจินตนาการในตอนที่โลกถึงจุดจบเลย แต่ว่าถ้าผู้ที่บุกโลกได้เริ่มเอื้อมไปโลกอื่นๆต่อ แล้วมันจะมีกี่คนกันที่จะสามารถป้องกันตัวเองได้อีก ลอร์ดได้ขัดความเงียบขจองเราด้วยความพูดต่อออกมาอย่างโหดเหี้ยม

"อันตรายที่โลกกำลังเผชิญอยู่นี้ร้ายแรงมาก คุณจะต้องหยุดพวกเขา ถ้าหากว่าคุณให้พวกนั้นมาลงตั้งหลักได้ พวกเราก็ไม่รู้แล้วว่าพวกนั้นจะทำอะไรต่อไป พวกนั้นจะต้องถูกขับไล่ออกไป นอกจากนี้คุณจะต้องแกร่งขึ้น"

"แน่นอน"

"คุณมาถูกทางแล้ว พัฒนาต่อไป ปีนดันเจี้ยนแต่ว่าอย่าได้ถูกมันครอบงำ แค่ทำเหมือนกับที่คุณทำในตอนนี้พัฒนาพลังที่ไม่มีทางได้จากดันเจี้ยนต่อไป นอกจากนี้..."

ฉันรู้สึกเหมือนกับไม่อยากจะฟังเรื่องต่อไป เพียงแค่ในตอนที่ฉันกำลังจะปิดหูตามสัญชาตญาณลอร์ดก็ได้ประกาศออกมา

"คุณจะต้องเปิดอกยอมรับมนุษย์ที่มีชื่อว่าเคียร่า คีเน็กซ์"

"ฉันอยากจะตาย...."

เธอได้พูดต่อไปราวกับรู้อยู่แล้วว่าฉันจะตอบสนองแบบนี้

"เธอก็คือคนที่ได้รับพลังของโลกเหมือนกับคุณ ถ้าหากว่าคุณคือฮีโร่ เธอก็คือนักบุญ พวกคุณทั้งสองคนคือตัวตนที่โลกขาดไปไม่ได้ เมื่อดูจากสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันแล้วฉันถึงได้เข้าใจว่าทำไมถึงเธอต้องมีตัวตนอยู่ คุณจะเป็นจะต้องมีคนที่คอยอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรู คุณต้องใช้เธอผู้ที่เกิดมาพร้อมกับพลังที่ดันเจี้ยนให้ไม่ได้"

"ขอร้องล่ะ.... อ่าาา ถ้าเธอพูดแบบนั้น...."

ฉันอยากจะปฏิเสธเธอออกไปตรงๆ แต่ว่าฉันก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง ฉันไม่ชอบเธอเลย ฉันไม่ชอบนิสัยของเธอและฉันไม่ชอบเธอที่ชื่นชมในตัวฉันเพียงเพราะฉันเป็นฮีโร่ ฉันไม่ชอบรูปลักษณ์ของเธอและฉันไม่ชอบเสียงของเธอ ฉันไม่ชอบในทุกๆสิ่งที่เป็นเธอ ฉันรู้สึกเกลียดทัศนคติของเธอที่มองชีวิตของผู้คนเป็นแค่ตัวเลขเท่านั้น

แต่ถ้าหากฉันกีดกันเธอออกไปเพราะว่าฉันไม่ชอบนิสัยและการกระทำของเธอ แล้วมันจบลงด้วยการบาดเจ็บล้มตายโดยที่ฉันไม่ยอมใช้พลังของเธอล่ะ

ถ้าหากว่าคนที่บาดเจ็บล้มตายเหล่านั้นคือ ยุย ไอน่า แม่ พ่อ ไอน่า ฮวาหยา เยอึน ยุย รูเดีย ไอน่า เดซี่ เร็น ยุย ลีออน ไอน่า วอร์คเกอร์ ยุย หรือไอน่า....

"เธอจะแข็งแกร่งขึ้นได้ภายในดันเจี้ยน ด้วยการยกระดับขึ้นนี้เธอจะสามารถเสริมพลังของเธอที่ได้รับมาในตอนนี้คุณจำเป็นต้องมีพลังของเธอช่วย"

"...อ๊าาาา"

ฉันมีคนมากเกินไปที่ต้องการจะปกป้อง ฉันคิดเสมอว่ามันเป็ฯเรื่องใหญ่มากที่จะปกป้องทุกคนด้วยพลังของฉัน แต่ฉันก็รู้ดีเหมือนกับว่าในตอนนี้ฉันไม่มีทางจะแก้ไขทุกๆอย่างด้วยตัวเองได้

เพื่อที่จะปกป้องคนที่รัก...

"ฟู่...ฉันจะติดต่อไปหาเธอ"

ฉันจะชักนำเธอได้ไหมนะ ฮวาหยาอาจจะทำเรื่องนี้ได้ แต่ว่าเธอคงจะไม่คลั่งไปนะ ฉันได้ถอนหายใจออกมาเมื่อคิดถึงตอนที่ได้เจอกับหน้าเคียร่า คีเน็กซ์ โรเล็ตต้าก็ยังจ้องไปยังลอร์ดเขม็ง

"ฉันรู้สึกหงุดงิดกับจำนวนผู้หญิงที่รายล้อมชินมากพอแล้วนะ ทำไมเธอถึงได้เพิ่มอีกคนด้วยเล่าไ

"ถ้างั้นโรเล็ตต้าจะไปที่โลกเพื่อช่วยเขาหรอ"

"....ฉันทำได้"

"ไม่ได้อย่างแน่นอน เธอควรจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุดนะ"

โรเล็ตต้าได้เบะปากใส่เชอริฟิน่า แต่เชอริฟิน่าก็ยังพูดต่อไปโดยไม่ใส่ใจสายตาใดๆ

"การมีผู้หญิงเพิ่มคนสองคนมันสำคัญกว่าความปลอดภัยของเขางั้นหรอ"

"ฉันไม่รู้ ชินกลับกันดีกว่า ฉันไม่น่าพาชินมาที่นี่เลย ฮึ่ม"

"เอ๋ พวกเราจะกลับแล้วหรอ"

"พวกเราได้รู้ในสิ่งที่เราอยากรู้แล้ว ลอร์ด มีอะไรอยากจะพูดอีกไหมล่ะ"

"ฉันก็อยากจะช่วยอีกหน่อยนะ แต่ว่าโชคร้าย...."

เธอได้ส่ายหัวออกมา ท่าทางของเธอมันดูเข้ากับคำว่า 'ยายแก่' แต่นับตั้งแต่ที่ฉันรู้ว่าผู้หญิงค่อนข้างจะอ่อนไหวกับเรื่องอายุ ดังนั้นฉันจึงไม่โง่พอจะถามออกไป

"ฉันหวังว่าคุณจะผ่านอันตรายครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัยนะ ฉันจะเฝ้ารอการพบกันครั้งต่อไปของเรา"

"ฉันจะไม่พาชินมาหาเธออีกแล้ว"

โรเล็ตต้าได้ตะโกนออกมาใส่เธอและดึงฉันออกไป ฉันได้โค้งให้เชอริฟิน่าและตามโรเล็ตต้าไป เธอได้ดึงฉันออกมาเหมือนกับในตอนแรกที่เรามาที่นี่

"ชินจะต้องไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกังวลมากไปหรอก ดันเจี้ยนทั้งหมดคือสิ่งที่อยู่ภายในหัวของลอร์ด เธอจะไม่มีวันละเลยศักยภาพของชินแน่ ฉันจะโกรธอีกด้วย"

"ไม่ ฉันไม่คิดว่าเธอจะทำ.... กลับกันเธอคืออะไรหรอ เธอดูไม่เหมือนมนุษย์เลย"

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอไม่ได้เปลื่ยนไปเลยแม้แต่นิดนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ"

โรเล็ตต้าได้เสริมขึ้นมาด้วยรอยยิ้มขม

"เธอไม่เคยพูดเกี่ยวกับตัวเองเลย มันเป็นเวลาหลายร้อย... นานมาแล้วที่ฉันเจอเธอ"

เธอได้ตัดการติดต่อกับผู้คนแลละใช้ชีวิตสองพันปีหรือมากยิ่งกว่านั้นในความมืดนี้งั้นหรอ ฉันคิดเกี่ยวกับคำพูดที่ฉันเพิ่งจะคุยกับเธอ เชอริฟิน่าดูจะมีท่าทางอะไรบางอย่างปกตินะ แต่ว่าเมื่อคิดเกี่ยวกับมันเธอก็ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนเลย ทำไมเธอจะต้องใช้เวลานานแบบนี้.... ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้มีเวลามาห่วงเรื่องของคนอื่น แต่ว่าฉันก็อดจะคิดเกี่ยวกับเธอไม่ได้ ในตอนที่ฉันถอนหายใจออกมาโรเล็ตต้าก็มองมาทางฉันอย่างเป็นกังวล

"ชินไม่ได้สนใจเธอใช่ไหม ฉันคิดว่าชินต้านเสน่ห์เธอได้ แต่มันอาจจะเป็น..."

"โรเล็ตต้าเป็นคนเดียวสำหรับฉัน"

"อ๊าาาาาา เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่ได้เตรียมบันทึกเลย อีกครั้งสิ พูดอีกครั้งหนึ่ง"

"มันน่าอายนะ ดังนั้นไม่ดีกว่า"

"ชินนนนนนนนน"

ฉันไม่ได้อยู่ในจุดที่จะมาเป็นห่วงคนอื่นได้ ฉันจะต้องสู้กับปีศาจที่หลอกตาของลอร์ดแห่งดันเจี้ยนและพิชิตโอเชียเนีย ฉันจะต้องล้างความคิดก่อนที่จะออกไปสู้

เรื่องการติดต่อกับเคียร่าด้วย ฉันจะต้องเอามันออกไปก่อนจนกว่าการต่อสู้จะจบลง ยังไงก็ตามแค่ได้ฟังเธอมันก็ทำลายอารมณ์ของฉันแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด