ตอนที่แล้วบทที่ 8 การแต่งงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 เธอผู้รักสนุก

บทที่ 9 เธอผู้ไม่ธรรมดา


“แต่ที่บาร์มีแต่ควันบุหรี่ มันอันตรายกับเด็กในท้องนะ” จิงหยาโวยวาย

พอได้ยินว่าควันบุหรี่จะไม่ส่งผลดีกับเด็ก เย่หัวถามกลับทันที

“แล้วคุณมีเงินพอซื้อบ้านไหมล่ะ”

“ฮ่าๆ ฉันดูจนขนาดนั้นเลยเหรอไง” จิงหยาตอบพร้อมหัวเราะเสียงดัง

“ดี... งั้นคุณไปเรียกแท็กซี่”

เย่หัวบอกเธอขณะที่เอนหลังพิงกับต้นไม้ริมทาง

เพื่อบอกให้จิงหยารู้ว่าเขาจะรอเธอไปเรียกแท็กซี่

จิงหยาโมโหมาก เธอกำมือตัวเองไว้แน่น

ตอนนี้เธออยากเอากำปั้นชกหน้าผู้ชายคนนี้เหลือเกิน

เขาเป็นผู้ชายประเภทไหนกัน? ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย

ยังไงเสีย เธอจำเป็นต้องกลับโรงแรมเพื่อไปเอากระเป๋าสตางค์

เธอจึงเดินไปเรียกแท็กซี่ตามที่เขาบอก

บนรถแท็กซี่ เย่หัวจุดบุหรี่สูบ ตอนนี้จิงหยาหมดความอดทนแล้ว

เธอพูดเสียงแข็งว่า “คุณอยากฆ่าลูกฉันให้ตายใช่มั้ย”

เย่หัวทำหน้างง และพูดตอบเธอว่า “เด็กคนนี้คือลูกของผม”

“เด็กเป็นลูกฉัน!”

“ลูกผม!”

คนขับแท็กซี่ที่อายุอานามปาไปรุ่นลุงแล้ว ฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่

เขาถอนหายใจและคิดว่า หนุ่มสาวสมัยนี้ไม่ไหวจริงๆ มาทะเลาะกันด้วยเรื่องแบบนี้

คนขับแท็กซี่คิดเลยเถิดไปว่าคนทั้งคู่คงเคยแต่งงานกัน แต่ตอนนี้คงหย่ากันแล้ว

แต่ต้องยอมรับว่าหนุ่มสาวคู่นี้หน้าตาดีมีเสน่ห์ดึงดูด

โดยเฉพาะเมื่อมองผู้โดยสารหญิงที่อยู่เบาะหลัง

ความสวยของเธอทำให้เขาไม่เป็นอันขับรถเลยทีเดียว

และแล้วแท็กซี่ก็พาเขาและเธอมาส่งถึงโรงแรมที่จิงหยาพัก

เย่หัวหันไปบอกจิงหยาว่าเขาจะรอเธอบนรถ

“คุณนี่มัน…คุณนี่แย่จริงๆ จะขี้เกียจอะไรขนาดนั้น”

จิงหยาโกรธจนหน้าแดงก่ำ เธอลงจากรถ

กระแทกปิดประตูรถอย่างแรงก่อนเดินเข้าไปยังล็อบบี้โรงแรม

คนขับแท็กซี่ทำหน้าเจื่อนๆ และหันไปถามเย่หัวว่า

“พ่อหนุ่ม...หย่ากับเมียที่สวยขนาดนี้ทำไม ไม่เสียดายเหรอ”

เย่หัวจุดบุหรี่สูบอีกมวนก่อนจะตอบไปว่า “เราเพิ่งแต่งงานกัน”

“อา... ขอโทษๆ” คนขับแท็กซี่อึ้งไปสักครู่ แล้วก็ไม่ได้ชวนเย่หัวคุยอีกเลย

เป็นครั้งแรกที่เค้าเห็นคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันทะเลาะกันแบบนี้

แต่อีกเหตุผลนึง ที่คนขับแท็กซี่ไม่อยากคุยกับเย่หัวต่อ เพราะชายหนุ่มคนนี้แผ่รังสีบางอย่างที่น่ากลัวออกมา

ภายใต้เปลือกของชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีคนนี้ เหมือนมีบางสิ่งที่ชั่วร้ายแอบซ่อนอยู่ แท็กซี่รู้สึกเช่นนั้น

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป จิงหยากลับมาที่รถ

เธอใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกับการการอาบน้ำ

เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดลายขวางสีขาว และกระโปรงลายดอก

คนขับแท็กซี่เมื่อเห็นจิงหยากลับขึ้นมาบนรถ เขาถึงกับตะลึงกับความสวยของเธอ

เขาพร้อมยอมแลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้มีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มแบบเธอคนนี้

หลังจากขึ้นรถมา จิงหยาถามกับแท็กซี่ว่า

“คุณช่วยพาพวกเราไปหานายหน้าอสังหาฯ ที่ดีที่สุดได้ไหม”

“ดะ... ได้ครับ” คนขับแท็กซี่ถึงกับพูดติดอ่าง

เขาชักรู้สึกอิจฉาผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอ

รู้สึกอิจฉามากขึ้นไปอีก เมื่อนึกได้ว่าเธอกำลังอุ้มท้องลูกของชายหนุ่มผู้นี้

เย่หัวจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอีกมวน แต่ดูเหมือนเขานึกบางอย่างขึ้นมาได้

เขาเก็บบุหรี่มวนนั้น ไม่ได้จุดสูบ และหันไปพูดกับจิงหยาว่า

“คุณจงใจทำแบบนี้ใช่ไหม”

“คุณพูดถึงเรื่องอะไร” จิงหยาถามกลับ เธอไม่ได้หันไปมองเย่หัว สายตาของเธอมองไปนอกหน้าต่างตลอดทาง

เย่หัวเองหลังจากพูดประโยคนั้น เขาก็นิ่งเงียบตลอดทาง

จนกระทั่งแท็กซี่พาพวกเขามาถึงยังบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่ในย่านจอแจใจกลางเมือง

เย่หัวบอกกับคนขับทันทีว่า

“คุณพาพวกเราไปที่อื่นได้มั้ย ที่นี่มันวุ่นวายไปหน่อย ไปบริษัทแถบชานเมืองก็ได้”

คนขับแท็กซี่ไม่ตอบ แต่เขากลับมองผ่านกระจกหลังไปยังจิงหยา

เขาคิดว่าเขาควรฟังแต่ผู้หญิงคนนี้มากกว่า

จริงหยาถอนหายใจ แล้วเธอก็บอกให้คนขับทำตามที่เย่หัวบอก

เพราะเธอก็เห็นด้วยกับเขา เธอคิดว่าบ้านชานเมืองน่าจะเหมาะสมกว่า

เพราะมันไม่วุ่นวายเท่าในเมือง ซึ่งมันน่าจะดีต่อเด็กในท้องของเธอ

แท็กซี่ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อพาทั้งคู่มายังบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกที่ ที่ตั้งอยู่ชานเมือง

จิงหยาอ่านป้ายชื่อบริษัท “หลงฮู่เอสเตท”

เธอรู้สึกคุ้นกับชื่อนี้มาก ต่อมาเธอเพิ่งนึกได้ว่าบริษัทนี้ เป็นบริษัทในเครือของธุรกิจครอบครัวเธอเอง

เธอยังเคยประเมินแผนธุรกิจของบริษัทนี้ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ

เธอสังเกตเห็นลูกค้าเดินเข้าออกบริษัทนี้เยอะพอสมควร แสดงว่าธุรกิจไปได้สวยแน่นอน

“ยืนคิดเรื่องงี่เง่าอะไรอีกล่ะ” เย่หัวพูดแขวะจิงหยา แล้วก็จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ

จิงหยาขมวดคิ้ว จนหัวคิ้วชนกัน “คุณน่ะสิ งี่เง่า! นี่สูบบุหรี่อีกแล้วเหรอ ถ้าไม่สูบนี่จะตายมั้ย?”

“ตาย... ตายแน่นอน”

จิงหยาหมดความอดทน ไม่อยากเถียงกับเขาอีกต่อไป

เธอยุ่งกับเขามากไปกว่านี้ไม่ไหวแล้ว

ต่อมา เมื่อพวกเขาเดินเข้ามายังห้องรับรองลูกค้า

พนักงานทุกคนต่างหยุดกิจกรรมที่ทำ

สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังหนุ่มสาวที่เพิ่งเดินเข้ามา เสียงพูดคุยหายไป

ความเงียบเข้ามาแทนที่ บางช่วงถึงขนาดได้ยินเสียงกลืนน้ำลายดัง เอื๊อก ของใครสักคน

พนักงานคนนึงที่ดูอายุน้อยที่สุดในนั้น รีบวิ่งเข้าหาจิงหยาอย่างรวดเร็ว

“คุณผู้หญิงกำลังมองหาบ้านอยู่ใช่ไหมครับ”

“ใช่ ช่วยพาฉันไปเลือกแบบบ้านหน่อย”

จิงหยาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

เธอดูมีออร่าและบารมี จนหลายคนในสถานที่แห่งนี้ ไม่กล้าสู้ตามอง

“นี่ครับ อันนี้คือโครงการบ้านวิลล่าที่เราขาย คุณผู้หญิงโชคดีมากครับ ตอนนี้เราเหลือแค่หลังเดียวเท่านั้นครับ”

จิงหยามองดูแบบโมเดลบ้าน และบอกพนักงานขายคนนั้นว่า “โอเคฉันซื้อหลังนี้”

“อา...” พนักงานผู้นั้นถึงกับอึ้งไปชั่วครู่

เขาไม่เคยพบลูกค้าที่เด็ดขาดแบบผู้หญิงคนนี้มาก่อน

“ฮะฮ่า! ขอโทษนะคุณผู้หญิง ผมซื้อวิลล่าหลังนี้ไปแล้วครับ”

ผู้ชายร่างอ้วนคนหนึ่งวิ่งตรงมาที่เธอ เขาแขวนสร้อยทองเส้นเขื่องอยู่ที่คอ

ขนาดของมันใหญ่พอๆ กับโซ่เส้นนึง ผิวของเขาก็ดูมันเยิ้มไปทั้งตัว ฟันก็สีเหลืองอ๋อยเลยทีเดียว

“ท่านประธานเชง!”

พนักงานที่อยู่ตรงนั้นพร้อมใจกันขานชื่อชายร่างอ้วนเพื่อแสดงความเคารพ

เย่หัวยืนสูบบุหรี่ สังเกตการณ์ดูอยู่ห่างๆ อีกด้าน

จิงหยาชักสีหน้าแสดงความไม่พอใจ เธอหันไปถามพนักงานขาย

“คุณเพิ่งบอกฉันไปหยกๆ ว่าเหลือหลังสุดท้าย ยังไม่ได้ขายใครไม่ใช่เหรอ”

“เอ่อ...” พนักงานคนนั้นอ้ำอึ้ง

“คุณผู้หญิงครับ จริงๆ แล้วเราน่าจะคุยกันได้ ทานข้าวกับผมสักมื้อไหมล่ะครับ

เดี๋ยวเราคุยหาทางออกกันตอนทานข้าวก็ได้ สนใจไหมล่ะครับ”

เชงฉ่วยพูดกับเธอ เขาฉีกยิ้มจนเห็นแนวฟันสีเหลืองน่ารังเกียจ

จิงหยาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือ แล้วถามชายร่างอ้วนว่า

“คุณชื่ออะไร”

“ผมชื่อเชงฉ่วย” เชงฉ่วยละล่ำละลักตอบด้วยความตื่นเต้น

พอเขาเห็นโทรศัพท์ เขาคิดว่าจิงหยาคงอยากได้เบอร์โทรของเขาแน่ๆ

จิงหยาเอาโทรศัพท์แนบหู มืออีกข้างชี้ไปยังเย่หัวที่ยืนสูบบุหรี่อยู่

พร้อมถามเชงฉ่วยว่า “คุณคิดว่าผู้ชายคนนั้นหล่อมั้ย”

เชงฉ่วยมองตามมือที่ชี้ไป เขาสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นเย่หัว

แต่ก็ตอบเธอออกไปว่า “ผมหล่อกว่าเยอะ”

"ฉันก็ว่าอย่างนั้นนะ" จิงหยาตอบ

เชงฉ่วยตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้า “เห็นมั้ยๆ เราใจตรงกันนะเนี่ย”

เย่หัวพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก เขาคิดว่าจิงหยาคู่ควรกับเขามาก เธอดูไม่เกรงกลัวใครเลย

“ท่านประธานจิง มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”

เสียงจากปลายสายดังลอดออกจากลำโพงของจิงหยา

จิงหยาพูดด้วยเสียงราบเรียบ แต่ฟังดูน่าเกรงขามว่า

“เรามีความร่วมมืออะไรกับบริษัทหลงฮู่เอสเตทที่เมืองหลงอันบ้างไหม”

“มีครับท่าน เราถือหุ้นใหญ่ที่สุดของบริษัทนี้ครับ”

“แล้วประธานบริษัทหลงฮู่ฯ ชื่ออะไร ใช่เชงฉ่วยหรือเปล่า” จิงหยาถามต่อ

ปล่อยให้เชงฉ่วยยืนฟังอย่างมึนงง

“ไม่ใช่ครับ บอสใหญ่ของบริษัทชื่อเชงต้าวครับ เชงฉ่วยเป็นน้องชายเขาครับ”

“โทรหาเชงต้าว และบอกให้เขามาที่บริษัทตอนนี้เลย เดี๋ยวนี้!”

จิงหยาวางสาย ถ้าเธอไม่ได้ท้อง เธอคงระเบิดใส่เชงฉ่วยไปนานแล้ว

เธอพยายามระงับอารมณ์โกรธเอาไว้ เพราะเห็นแก่เด็กในครรภ์

พนักงานทุกคนที่นั่นได้ยินทุกอย่าง

พวกเขากำลังรอดูฉากต่อไปด้วยใจระทึก

เชงฉ่วยเองตอนนี้รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก จากที่ทำตัวกร่างเมื่อครู่นี้

กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ เขาดูเหมือนไอ้งั่งคนนึงไปแล้ว

“คุณผู้หญิง คุณไม่รู้ตัวหรอก คุณทำอะไรลงไป ไม่กลัวหน้าแตกเหรอไง เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน”

เชงฉ่วยยังพยายามพูดข่มจิงหยา จริงๆ แล้ว เขาอยากออกเดทกับผู้หญิงคนนี้ใจจะขาด

ทันทีที่เขาพูดจบ มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ตายล่ะ! พี่ชายของเขาโทรมาจริงๆ

“นายทำบ้าอะไรของนาย” เสียงตะโกนของเชงต้าวผู้พี่ ดังออกมาจากลำโพงโทรศัพท์

“ผะ... ผมเปล่า ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ” เชงฉ่วยตอบไป ขณะกำลังอึ้งๆ อึนๆ กับสถานการณ์

“นายรอฉันอยู่ตรงนั้นแหละ เจอกันภายใน 10 นาที” เชงต้าวยังตะโกนอยู่ปลายสาย

เชงฉ่วยวางหูโทรศัพท์ เขามองไปยังจิงหยา ทำสีหน้างง พูดอะไรไม่ออก

“คุณยังอยากทานข้าวกับฉันไหมล่ะ” จิงหยาพูดกับเขาอย่างเย็นชา

เชงฉ่วยกลืนน้ำลาย เหงื่อเริ่มไหล่ลงมาจากบริเวณหน้าผาก

เขานึกด่าตัวเองว่าทำอะไรลงไป ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

เย่หัวยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบๆ ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด