ตอนที่แล้วบทที่ 248 - สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ... (8) [13-09-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 250 - เหนือดินแดนน้ำแข็ง (1) [17-09-2020]

บทที่ 249 - สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ... (9) [15-09-2020]


บทที่ 249 - สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ... (9)

ทันทีที่ฉันตระหนักได้ว่าทักษะเพ่งเล็งหยุดใช้งานลงไปแล้วฉันก็ได้หยิบเอาขวดอิลิกเซอร์ออกมา หลังจากที่ฉันได้ดื่มลงไปประมาณครึ่งขวดฉันก็ขอให้ชาราน่าเอาอิลิกเซอร์นี้ไปให้ล็อทเต้ได้ดื่ม แม้ว่าเรายังอยู่ในสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน ข้อความก็ยังไหลมาต่อ

[น่าทึ่งมาก คุณได้ฆ่าหนึ่งในศัตรูที่คุกคามโลกได้อย่างสมบูรณ์เพียงลำพัง คุณได้เก็บเกี่ยวดวงวิญญาณของราชาแห่งการจำศีลด้วยเคียวยมทูต ด้วยดวงวิญญาณที่เก็บมานี้ทำให้มอนสเตอร์ที่มีธาตุสายฟ้าทั้งหมดที่บุกรุกมาที่โลกจะถูกลดพลังลง 10% นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ นอกไปจากนี้คุณยังสามารถจะเรียกพลังเวทย์ที่เหลืออยู่ในร่างกายและวิญญาณของราชาแห่งการจำศีลมาเปลื่ยนเป็นพลังของคุณได้]

[ถ้าหากคุณรับพลังของราชาแห่งการจำศีล ศพของราชาแห่งการจำศีลจะหายไปและคุณจะไม่ได้รับรางวัลใดๆจากการจู่โจมนี้ ถ้าหากว่าคุณทำลายวิญญาณของราชาแห่งการจำศีลคุณจะได้รับศพของราชาแห่งการจำศีลและได้รับรางวัลที่เหมาะสมจากดันเจี้ยน คุณต้องการจะทำอะไร]

[คุณได้รับฉายา 'จ้าวแห่งสายฟ้า' ความสัมพันธ์ธาตุสายฟ้าของคุณเพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังในการควบคุมภูติธาตุสายฟ้าได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ แม้ว่าจะไม่มีมานาคุณก็สามารถจะดึงพลังสายฟ้าจากธรรมชาติมาใช้ได้]

[คุณได้รับแต้มสเตตัส 30 แต้มและแต้มทักษะ 10 แต้มเป็นรางวัลสำหรับการเคลียร์การจู่โจมที่ยิ่งใหญ่]

ฉันได้คิดไว้แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้น ฉันสามารถจะบอกอะไรบางอย่างได้ว่ามีสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่เคียวของยมทูตโจมตีเป็ฯครั้งสุดท้าย รับพลังของราชาแห่งการจำศีลงั้นหรอ ฉันกำลังขบคิดกับข้อความข้อความนี้

[สามีที่รักคุณโอเคนะ]

"ใช่ ฉันไม่เป็นไรและล็อทเต้ล่ะ พลีนตอนนี้หยุดร้องเพลงได้แล้วนะ"

[อื้อ]

ในตอนที่ฉันมองกลับไปที่พรรคพวกของฉัน หน้าต่างข้อคามก็ได้เด้งขึ้นมาอีกครั้งราวกับรอคอยคำตอบจากฉัน

[คุณจะทำอะไร ถ้าหากว่าคุณไม่รีบตัดสินใจ วิญญาณของราชาก็จะดับสูญไป]

ความจริงแล้วฉันไม่มั่นใจเลยว่าจะทำยังไงดี ด้วยการเปลื่ยนแปลงที่ไม่แน่นอนนี่ฉันได้มองไปที่ศพของกระเบนยักษ์ที่อยู่ใต้น้ำ มันมีขนาดเล็กลงกว่าในตอนที่ราชาแห่งการจำศีลปรากฏตัวในตอนแรก

ใช่แล้ว ความลับของมันไม่ใช่อะไรที่ยิ่งใหญ่ มันก็เพียงแค่มีพลังที่สามารถจะขยายขนาดหรือย่อขนาดได้เท่านั้น มันแค่มีความสามารถในด้านนี้เท่านั้น

สิ่งที่ทำให้พลังของมันน่ากลัวก็คือการที่มันสามารถจะหดตัวลงไปจนราวกับว่ามันไม่ได้มีตัวตนอยู่หรือขยายขนาดของมันราวกับว่ามันเป็นศัตรูที่น่าสะพรึง นอกไปจากนี้ไม่ว่ามันจะมีขนาดตัวเท่าไหร่ก้ตามแต่พลังจริงๆของมันก็ไม่ได้เปลื่ยนไปเลย ในตอนที่มันย่อตัวทำให้พลังสายฟ้าขนาดมหาศาลอยู่ในตัวที่เล็กจิ๋วของมันและโจมตีด้วยความเร็วที่น่ากลัวแม้แต่อินิกม่าก็ยังไม่สามารถจะต้านทานได้เลย มันเป็นพลังที่เหมาะสมแล้วกับราชาแห่งการจำศีล

คำถามก็คือฉันรู้ได้ยังไง มันก็ต้องขอบคุณเพลิงโกลาหลไม่ว่ามันจะมีขนาดเล็กแค่ไหน แต่เพลิงโกลาหลที่เผาอยู่ภายในดวงตาของมันก็ไม่ได้หายไป นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันได้รู้

ยังไงก็ตามถ้าหากมันรู้ตัวว่าฉันรู้ความลับนี้แล้วฉันก็จะพลาดโอกาสที่จะสวนกลับไป เพื่อที่จะโจมตีมันในเวลาที่เหมาะเจาะแบบนี้ ฉันได้ทำเป็นไม่เห็นมันและจบลงด้วยการที่มีรูอยู่ทั่วตัว

ต้องขอบคุณเรื่องนี้ด้วยที่ทำให้มันเผลอลดการป้องกันลงและทำให้ฉันใส่การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดลงไปได้ ถ้าหากว่ามันยังคงไม่พอฉันก็ได้วางแผนไว้แล้วว่าจะใช้ความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้าเป็นการปิดฉาก แต่ว่ามันก็ไม่จำเป็นเลย ด้วยผลของตรีศูลและเคียวยมทูตก็เพียงพอแล้วที่จะปิดฉากมัน

[คุณจะทำอะไร]

"...ฟู่"

การตัดสินใจนี้มันขึ้นอยู่กับฉัน ถ้าหากฉันเอาศพและรางวัลการจู่โจมมา หืม...เดซี่จะได้รับอันเดทที่ทรงพลังและฉันก็จะได้รับไอเทมระดับตำนาน ยังไงก็ตามฉันก็สนใจในพลังที่จะกลายมาเป็นของฉัน แม้ว่าถ้าหากมันเป็นพลังที่สามารถเปลื่ยนร่างหรืแพลังในการซ่อนตัวตนฉันก็สามารถนำมันมาใช้เองได้ นอกไปจากนี้มันยังเป็นสิ่งที่พี่สาวข้อความแนะนำออกมาในตอนแรก...

"ฉันจะเอาพลัง"

ในตอนที่ฉันได้ตอบกลับไปศพของราชาแห่งการจำศีลก็เริ่มที่จะหดลง ฉันได้มองมันอย่างมึนงงจนกระทั่งศพได้หายไปโดยสมบูรณ์ ในท้ายที่สุดแล้วมีเพียงแค่พลังงานสีน้ำเงินที่ลอยออกมา จากนั้นมันได้ลอยเข้ามาในตัวของฉันอย่างช้าๆ

[สามีที่รัก]

ลิโคไรท์และพลีนที่เข้ามาหาฉันด้วยท่าทางที่โล่งใจได้ช็อคขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ยังไงก็ตามฉันก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะอธิบายสถานการณ์ให้พวกเธอได้ ในตอนที่พลังงานสีน้ำเงินเข้าไปในตัวของฉันมันได้ส่งเสียงก้องออกมาเพราะวงจรเพรูต้าและทะลุเข้าไปในร่างของฉันด้วยความเร็วที่น่ากลัว

[คุณสามารถจะหนึ่งในสองฉายานี้ หนึ่งคือ 'ราชาแห่งการจำศีล' และคุณก็จะได้รับทักษะพิเศษ 'โลกมายา' ด้วยทักษะนี้คุณจะสามารถเปลื่ยนแปลงขนาด รูปร่างและตนของของคุณได้อย่างอิสระโดยที่ยังคงความแข็งแกร่งเอาไว้ได้]

[ฉายาอย่างที่สองคือเปลื่ยนฉายาที่มอบให้กับคุณ 'จ้าวแห่งสายฟ้า' ไปเป็นฉายาใหม่ 'เทพสายฟ้า' ด้วยฉายานี้คุณจะมีความสัมพันธ์และอำนาจควบคุมด้านสายฟ้าไปถึงจุดสูงสุดทำให้คุณสามารถจะสร้างและใช้สายฟ้าได้ตามที่คุณต้องการ นอกไปจากนี้คุณก็ยังจะไม่ได้รับความเสียหายจากสายฟ้าที่มีระดับต่ำกว่า EX และคุณยังทำได้แม้แต่นำสายฟ้าของศัตรูมาใช้เป็นของตนเอง]

"แน่นอนสิว่าต้องเป็นเทพสายฟ้า เธอกำลังล้อฉันเล่นหรอ!?"

สองอย่างนี้มันเทียบกันได้ที่ไหนล่ะ ฉันได้ตะโกนออกไปราวกับว่าพี่สาวข้อความจะได้ยินฉัน หลังจากนั้นพลังงานสีน้ำเงินที่เข้ามาในร่างของฉันได้เปลื่ยนเป็นสีทองประกายในทันที มันได้เปลื่ยนแปลงเป็นสายฟ้าที่ทรงพลังและบ้าคลั่งราวกับจะเผาไหม้ฉัน

[นายท่าน พลังมากขนาดนี้... นี้มันคือ... ของนายท่าน]

"อ๊ากกกกกกกกก"

เนื่องจากว่าฉันไม่สามารถจะทนต่อการช็อคได้ทำให้ฉันได้ร้องออกมาจนทำให้ใต้น้ำสั่น นี้มันเหมือนกับในตอนที่ฉันได้รับพลังของเทพ... ไม่สิ ร่างกายของฉันเปลื่ยนไปมากกว่าตอนที่ได้รับพลังของเทพซะอีก

[คุณได้รับฉายา 'เทพสายฟ้า' ความสัมพันธ์และอำนาจควบคุมด้านสายฟ้าไปถึงจุดสูงสุด คุณสามารถจะใช้สายฟ้าทั้งหมดที่มีระดับต่ำกว่า EX ได้เหมือนกับเป็นของคุณเองและคุณจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากสายฟ้าเหล่านี้

[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้พบกับหนึ่งในเงื่อนไขหนึ่งเพื่อที่จะก้าวไปสู่อาณาจักรระดับต่อไป]

มันใช้เวลานานแน่ไหนกันนะก่อนที่ข้อความนี้จะดังขึ้น ฉันไม่มีทางจะรู้มันได้เลย ในตอนที่ฉันยังคงสติอยู่ ลิโคไรท์ ล็อทเต้และพลีนได้เข้ามากอดฉันเอาไว้

[สามีที่รัก สามีที่รัก]

[ฮีโร่อย่าตายนะ]

[ตื่นสิ ชิน]

ริยูกับชาราน่าก็ยังลอยอยู่รอบๆฉันอย่างกังวล ยังไงก็ตามเนื่องจากไพก้าอยู่ในร่างกายของฉันตลอดเวลาเธอจึงดูจะไม่ได้กังวลมากนัก ฉันได้ดีดหน้าผากของพวกเธอและให้พวกเธอถอยไป

"ฉันไม่เป็นไร หยุดพยายามถอดเกราะของฉันแล้วถอยไปได้แล้ว"

[แต่ว่าฉันอยากจะด้วยสอบร่างกายคุณ คุณจะต้องบาดเจ็บแน่]

ด้วยท่าทางที่สงสัยของลิโคไรท์ทำให้ฉันต้องตรวจสอบร่างกายของตัวเองและจากนั้นฉันก็ดีดหน้าผากของลิโคไรท์อีกครั้ง ทันใดนั้นเองฉันสงสัยว่าเหตุผลที่ฉันได้รับฉายาเทพสายฟ้ามันเป็นเพราะบัฟของลิโคไรท์หรือป่าว ยังไงก็ตามก็ต้องขอบคุณบัฟของเธอที่ได้ช่วยฉันอย่างมากอยู่ดี

ดังนั้นฉันได้เปลื่ยนความคิดไปลูบหัวของเธอ แม้ว่ามันจะไม่ได้ผลมากนักเพราะเราอยู่ใต้น้ำ แต่เธอก็ดูเหมือนจะเข้าใจในความรู้สึกของฉันทำให้หน้าของเธอสดใสขึ้น ทันใดนั้นเธอก็ถามออกมา

[แล้วฉันถอดเสื้อคุณได้ไหม]

"หยุดเลย ขอร้องล่ะ"

เพื่อเป็นการทดสอบพลังฉันได้ลองจุดสายฟ้าขึ้นบนมือซ้าย มันสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องใช้พลังของไพก้า แม้ว่าเราจะอยู่ใต้น้ำสายฟ้าสีทองก็ยังคงเต้นอยู่ในฝ่ามือของฉันอย่างเป็นธรรมชาติ ฉันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้นอกจากความสุข

[สามีที่รัก... ฉันรู้นะ ถ้าคุณได้รับพลังในระดับนี้มันทำให้รู้สึกว่าคุณจะเป็นลม มันเป็นยังไงบ้าง คุณรับมือกับมันไหวไหม]

"แน่นอนสิ ฉันรู้สึกเหมือน..."

ฉันได้โยนสายฟ้าลงไปที่ก้นของทะเล เส้นสายฟ้าเส้นเดียวไม่ได้สูญเสียพลังไปแม้แต่นิดในขณะที่ลดลงไปอย่างไม่สิ้นสุด ในไม่ช้าแสงที่ปล่อยลงไปก็หายไปและทิ้งไว้เพียงแรงระเบิดที่รุนแรงที่รู้สึกได้

"ฉันสามารถจะฆ่าได้แม้แต่ราชาที่เหลืออยู่อีกสามคนเพียงลำพัง"

ก่อนที่เราจะเข้าไปในเหตุการณ์ดันเจี้ยนระดับ SSS ที่อยู่ข้างล่าง ฉันได้บอกให้สมาชิกกิลด์คนอื่นๆที่เหลือได้รู้ว่าฉันได้จัดการราชาไปแล้วและไม่ต้องการกำลังเสริมอะไรอีก บางคนก็รู้สึกโล่งอก บางคนก็บ่น บางคนก็หัวเราะออกมาราวกับมันเป็นเพียงเรื่องปกติ ความเชื่อใจที่ลีออนมีให้ฉันมันมากเกินไปแล้ว

[มันไม่มีอะไรลำบากสำหรับหัวหน้ากิลด์เลย หัวใจฉันตกไปตาตุ่มตั้งนานแนะ]

[ราชานั่นอ่อนแอหรอ?]

"มันพูดว่ามันอ่อนแอที่สุดนะ"

[ถ้าหากว่าราชาทั้งหมดเป็นแบบนี้เราก็จะต้องระวังตัวเป็นพิเศษ นายบอกว่ามันได้ซ่อนตัวตนทำให้หาไม่เจอได้หรอ?]

ฉันได้เผลอหยักหน้าลงไปแม้ว่าฮวาหยาจะไม่เห็นก็ตามและตอบกลับไป

"มันเป็นเทคนิคแปลกๆที่มีแค่ราชาแห่งการจำศีลทำได้นะ ราชาตัวอื่นๆไม่น่าจะทำแบบนี้ได้ ฉันมั่นใจในเรื่องนี้ดังนั้นเธอไม่ต้องกังวลหรอก ราชาตัวอื่นๆทำแบบนี้ไม่ได้ การมีตัวตนของพวกมันจะมีอยู่อย่างทรงพลัง"

[ใช่แล้วราชาลาวาก็เป็นแบบนั้น แต่ว่า...]

[ศพ... เรื่องที่...สวยงาม ทนทาน...]

"มันไม่มีอะไรแบบนั้นนะ"

[อ่า... คังชิน ฉันเกลียดนาย]

เดซี่ดูจะโกรธที่ฉันไม่สามารถเอาศพของมันไปให้เธอได้ แต่ว่าฉันก็จะเลือกแบบเดิมแม้ว่าจะต้องย้อนเวลากลับไป ฉันได้ยิ้มออกมาและปลอบเธอ

"ฉันมั่นใจว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ในแอนตาร์กติกาก็เป็นมอนสเตอร์ที่ทรงพลังที่เหมือน ฉันจะหาตัวที่แข็งแกร่งไปให้เธอนะ"

"เกี่ยวก้อยสัญญา...."

ในตอนนั้นเองยุยก็ได้บอกฉันอย่างประทับใจ

[พี่ไข่ฟักแล้วนะ]

"จริงหรอ"

ฉันเศร้ามากที่ไม่สามารถจะไปอยู่กับเธอเพื่อเป็นพยานได้

[เป็นลูกไดโนเสาร์ที่น่ารักมากๆ]

"แล้วมันชื่ออะไรหรอ

ฉันรู้สึกไม่สบายใจจริงๆเลยทำให้ฉันถามยุยออกไป ยุยได้ตอบกลับมาอย่างร่าเริง

[ชื่อของมันคือดู....] [1. https://en.wikipedia.org/wiki/Dooly_the_Little_Dinosaur]

"ถ้ายุยยังไม่ตั้งชื่องั้นเอาเป็น 'รุท' เป็นไง"

ฉันได้ตัดบทเธอและตะโกนออกไป ยุยได้แก้ไขออกมา

[เธอเป็นผู้หญิง นอกจากนี้หนูก็ตั้งชื่อให้เธอแล้ว]

"ชื่อที่ยุยตั้งคือดู... ไม่ ชั่งมันเถอะ แล้วลูน่าเป็นไง"

[โอ้ เป็นชื่อที่ดีเลยพี่ ถ้างั้นนับจากนี้เรียกว่าลูน่าละกัน]

เพียงเพราะแบบนี้ฉันก็ได้ทำอนาคตที่สดใสให้กับยุยและลูน่า ฉันได้ตะโกนที่ที่เข้ามาในหัวออกไป แต่ว่าชื่อของลูกมังกรไฟลูน่า... เซนต์ในการตั้งชื่อของฉันนี่มัน....

[หนูดีใจจังที่พี่ตั้งชื่อให้กับเธอ หุหุ]

"พี่ก็ดีใจนะที่ยุยมีความสุข"

[หนูเห็นด้วยกับเรื่องนี้นะ แต่ว่าพี่ชายกับน้องสาวจะต้องมีระยะห่างบางอย่างกันนะ]

[หนูก็ห่างจากพี่แล้ว คุณก็อยากจะให้หนูไกลออกไปอีกหรอ หนูเกลียดพี่ฮวาหยา]

[ดูสิ แค่การตอบสนองแรกก็ผิดแล้ว ยุย นี่พี่สาวจะแนะนำเด็กหนุ่มดีๆให้เป็นไง]

[ไม่เอา หนูจะอยู่กับพี่ไปตลอดชีวิต หนูเกลียดพี่สาว]

มันดูเหมือนว่าฉันได้เผลอจุดประกายปัญหาขึ้นงั้นสินะ เนื่องจากฉันกลัวทั้งฮวาหยาและยุย ฉันจึงตัดสินใจที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่องจากนั้นก็มุ่งตรงสู่เหตุการณ์ดันเจี้ยนระดับ SSS

ในสองสัปดาหต่อมา วันที่ 32 นับจากที่ฉันออกมาจากเกาหลี ฉันได้กวาดล้างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรโอเชียเนียและมุ่งหน้าตรงไปสู่มหาสมุทรแอนตาร์กติกต่อ นับรวมแต้มเสตตัสของการจัดการราชาแห่งการจำศีลและจากดันเจี้ยนที่ได้รับมาแล้ว ฉันได้รับแต้มสเตตัสทั้งหมด 55 แต้ม ในขณะที่อัตราการเติบโตของหอกโกลาหลอยู่ที่ 84%

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด