49 สัตว์อสูรคริสตัล เสี่ยวจี๋

49 สัตว์อสูรคริสตัล เสี่ยวจี๋

วงแหวนอักขระตรวจสอบใบหน้า ได้ถูกติดตั้งเอาไว้ที่บานประตู มีแสงสีแดงวาบผ่านใบหน้าของหลี่เย้า พร้อมกับเสียงดัง “ปี๊บ ปี๊บ” สองครั้ง จากนั้นก็เกิดเสียงดัง “กริ๊ก” แล้วประตูก็เปิดออก

ด้านในห้องพักนั้นเรียบง่ายและธรรมดา มีเพียงเตียงหนึ่งเตียงและห้องน้ำเล็กๆห้องหนึ่ง แม้แต่โต๊ะสักตัวก็ยังไม่มี

แต่หลี่เย้ารู้ดีว่า นี่คือการรับรองเป็นพิเศษสำหรับพวกเขาแล้ว

บนยานบินคริสตัลมีเพียงเจ้าหน้าที่บนยานบินเท่านั้น ที่จะสามารถเสวยสุขอยู่ภายในห้องส่วนตัวได้ ส่วนนายทหารธรรมดาจะต้องนอนด้วยกันอยู่ภายในห้องตั้งแต่4-6คน หรือแม้แต่ 8 คนก็มี

หลี่เย้าเติบโตขึ้นมาภายในสุสานอาร์ติเฟ็กซ์ เขาจึงสามารถนอนได้อย่างสบายใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่กองขยะก็ตาม ในความคิดของเขา สภาพแวดล้อมของห้องนี้ ก็ถือว่าหรูหรามากแล้ว เขาก้าวขายาวๆเข้าไปด้านใน และโยนกระเป๋าไว้ที่มุมหนึ่ง แล้วจึงทุ่มตัวลงไปบนเตียงนอน พร้อมกับเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความพึงพอใจ

“ปุจิปุจิ ปุจิปุจิ สวัสดี นักเรียนหลี่เย้า เราคือสัตว์อสูรปุจิหมายเลข 2899 เป็นสัตว์อสูรส่วนตัวของคุณ คุณสามารถเรียกเราว่า 2899 หรือ เสี่ยวจี๋ ก็ได้”

สัตว์อสูรปุจิที่ตัวอ้วนป้อมและบ้องแบ๊ว ได้พยายามดิ้นรนออกมาจากใต้เตียงด้วยความยากลำบาก และทำให้หลี่เย้าต้องตกใจ

เจ้าสัตว์อสูรปุจิตัวอ้วนป้อมสีขาว ได้พยายามกระพือปีกของมันเพื่อบินขึ้นไปในอากาศ แล้วพูดว่า “เริ่มตั้งแต่ตอนนี้จนกระทั่งสิ้นสุดการแข่งขัน นักเรียนหลี่เย้าจะมีเสี่ยวจี๋คอยบริการตลอดเวลา เสี่ยวจี๋จะอธิบายกฎกติกาการแข่งขันให้คุณได้ฟัง ตอบคำถามของคุณ ช่วยให้คุณได้ติดต่อกับแมวมองของทั้ง 9 มหาวิทยาลัยชั้นยอด พร้อมทั้งถ่ายรูปและวิดีโอทุกการกระทำของคุณไปตลอดการแข่งขัน ซึ่งมันจะถูกส่งตรงไปยังศูนย์มอนิเตอร์ของเรา หากคุณเผชิญกับวิกฤตที่ร้ายแรง เสี่ยวจี๋ยังสามารถร้องเรียกให้ผู้ฝึกตนมาช่วยคุณได้ด้วย! ทั้งหมดล้วนตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ภายนอกของเสี่ยวจี๋ เพราะเสี่ยวจี๋คือผู้ช่วยที่ดีที่สุดของหลี่เย้าในการแข่งขันนี้!”

หลี่เย้าจ้องมองสัตว์อสูรปุจิสีขาวตัวอ้วนป้อมอยู่นานสองนาน ก่อนที่จะถามออกไปอย่างสงสัยว่า “เสี่ยวจี๋ นายสามารถพูดได้ด้วยตัวเอง หรือว่ามีใครควบคุมอยู่เบื้งหลังของนายเหรอ?”

เสี่ยวจี๋เริ่มบินไปมารอบๆหัวของหลี่เย้า มันพูดออกมาอย่างร่าเริงว่า “เสี่ยวจี๋ไม่ได้พูดออกมาด้วยตัวเอง และก็ไม่มีใครควบคุมเสี่ยวจี๋อยู่ด้วย แต่เป็นเพราะ ในร่างกายของเสี่ยวจี๋ได้ติดตั้งระบบCPUรุ่นล่าสุดเข้าไป ซึ่งมีคำสั่งอยู่ถึง 100,000 หน่วย ดังนั้น เสี่ยวจี๋จึงสามารถตอบคำถามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ เสี่ยวจี๋คือผลิตภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นมา จากการร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยเชินห่ายและวิทยาลัยการแพทย์เทียนตู เสี่ยวจี๋ไม่ใช่สัตว์อสูรวิญญาณธรรมดา! เสี่ยวจี๋คือ ‘สัตว์อสูรคริสตัล’ ที่ล้ำหน้าซึ่งถูกควบคุมด้วยคริสตัลโพรเซสเซอร์!”

“โอ้ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง! นายล้ำหน้ามากจริงๆ พวกเขาเพิ่มระดับสติปัญญาของสัตว์อสูร์วิญญาณด้วยวิธีนี้นี่เอง และด้วยวิธีนี้ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องที่สัตว์วิญญาณจะหลุดการควบคุมเหมือนกับสัตว์อสูรพวกนั้น!”

ความต้องการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเชินห่ายของหลี่เย้าเพิ่มมากขึ้นไปอีก เขาถามต่อไปว่า “เสี่ยวจี๋ ถ้าอย่างนั้นนายช่วยอธิบายกฎกติกาของการแข่งขันท้าทายขีดจำกัด ให้ฉันฟังหน่อยสิ”

“ได้เล้ย”

เสี่ยวจี๋ส่ายหัวของมัน หนวดสีชมพูของมันยื่นออกมาจากบนหัว และที่ปลายหนวดคือหินคริสตัลที่ส่องประกายวิบวับ

คริสตัลยิงแสงออกมา กลายเป็นภาพหน้าจอโฮโลแกรม3d อยู่ตรงหน้าหลี่เย้า แสงพลังวิญญาณบนหน้าจอโฮโลแกรมได้มีภาพของเกาะมังกรปีศาจปรากฏขึ้นมาในสายตาของหลี่เย้า

“การแข่งขันท้าทายขีดจำกัด คือช่วงเวลาของประเพณีการแข่งขันของสหพันธรัฐอันทรงเกียรติ โดยจุดประสงค์ของการแข่งขันก็เพื่อให้ทั้ง 9 มหาวิทยาลัยชั้นนำ ได้คัดเลือกเยาวชนผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะ และในเวลาเดียวกัน มันยังเป็นการมอบโอกาสเหล่านักเรียน ให้ความสำคัญในเรื่องของภาคสนามมากกว่าภาคทฤษฎี เพื่อแสดงความสามารถที่แท้จริงของพวกเขาออกมา”

“การแข่งขันท้าทายขีดจำกัด จะถูกจัดขึ้นในเวลาสองเดือนก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นประจำทุกปี และปรากฏอัจฉริยะจากการแข่งขันนี้อยู่เสมอ สนามแข่งขันที่ 571 นั้นมีสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย และได้รับชื่อเล่นว่า ‘สนามสอบแห่งความตาย’”

“ภายในเวลาห้าวัน ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3,000 คน จะต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อเอาชีวิตรอดบนเกาะมังกรปีศาจที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่ดุร้ายจำนวนมาก...นักเรียนหลี่เย้านั้นไม่ควรประเมินสัตว์อสูรบนเกาะแห่งนี้ต่ำจนเกินไป ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว สถานที่แห่งนี้ คือสนามรบระหว่างสหพันธรัฐแห่งดวงดาว และอาณาจักรอสูรตงจี่ ซากศพนับไม่ถ้วนได้ถูกฝังเอาไว้ใต้ท้องมหาสมุทร จนทำให้เกิดเป็นพลังแห่งความตายแทรกซึมอยู่ในชั้นบรรยากาศ!”

“เกาะมังกรปีศาจได้ดูดซับพลังนี้มานานหลายปี ดังนั้น สัตว์อสูรที่อยู่ที่นี่จึงร้ายกาจกว่าที่อื่นๆ”

เสี่ยวจี๋บินมาอยู่ตรงหน้าหลี่เย้า มันขยับปีกป้อมๆของมันไปมา พร้อมกับพูดออกมาอย่างร่างเริงว่า “ห้าวันของการแข่งขันท้าทายขีดจำกัดได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน คือ การอุ่นเครื่องและรอบตัดสิน สามวันแรกถือเป็นการอุ่นเครื่อง และอีกสองวันสุดท้ายคือตัดสิน”

“พรุ่งนี้เช้าเวลา 9.00 น. นักเรียนทั้ง 3,000 คนจะถูกปล่อยลงไปบนเกาะมังกรปีศาจ คุณจะต้องใส่เสื้อผ้าที่ธรรมดาที่สุด เช่น ชุดกีฬาที่ต้องไม่มีการติดตั้งความสามารถในการป้องกันใดๆทั้งสิ้น คุณไม่สามารถนำอาวุธไปด้วยได้ คุณจะไม่สามารถเอาน้ำดื่มไปด้วย และแม้กระทั่งรองเท้าก็ไม่ได้! แต่ละคนจะพกไปได้แค่ปุจิคนละตัวเท่านั้น”

“และสิ่งที่คุณต้องทำก็คือ การเอาตัวรอดภายใต้การโจมตีของสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนตลอดทั้งสามวัน”

“แต่แน่นอนว่า คุณจะไม่ไร้อาวุธและการป้องกันไปตลอดการแข่งขัน จะมี‘คะแนน’ถูกกระจายอยู่ทั่วทั้งเกาะ พร้อมกับชิ้นส่วนอาร์ติเฟ็กซ์และสิ่งของจำเป็นอื่นๆจำนวนมากก็ถูกเตรียมเอาไว้ที่นั่น หากคุณมีความสามารถ คุณก็สามารถประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ด้วยตัวเอง เพื่อใช้สำหรับต่อสู่กับสัตว์อสูร”

บนหน้าจอโฮโลแกรม ได้ซูมเข้าไปบนเกาะมังกรปีศาจ ภาพหน้าจอโฮโลแกรมได้กลายเป็นโปร่งแสง และแสดงตำแหน่งที่ตั้งของคะแนนขึ้น

เสี่ยวจี๋ยังคงพูดต่อไปว่า “ในการแข่งขันนั้น สิ่งสำคัญที่ที่สุดที่ต้องจดจำเอาไว้ในใจก็คือ ‘คะแนนรวม’ อันดับของคุณนั้นขึ้นอยู่กับคะแนนรวมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

“คุณสามารถได้รับคะแนนจากการฆ่าสัตว์อสูร ยิ่งสัตว์อสูรแข่งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้คะแนนมากขึ้นไปด้วย”

“เพื่อเป็นการทดสอบศักยภาพโดยรวมของผู้เข้าแข่งขัน มีอยู่หลากหลายวิธีที่ผู้เข้าแข่งขันสามารถทำเพื่อให้ได้รับคะแนนมา ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของอาร์ติเฟ็กซ์ คุณก็สามารถซ่อมแซมและประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ขึ้นมาได้มากเท่าที่คุณต้องการ  หากคุณมีความสามารถในเรื่องของสังเคราะห์ตัวยา คุณก็สามารถค้นหาสมุนไพรต่างๆที่อยู่บนเกาะได้ สรุปแล้ว หากคุณสามารถแสดงพรสวรรค์ที่มีโอกาสในการเป็นผู้ฝึกตน ผ่านการกระทำของคุณบนเกาะมังกรปีศาจออกมา คุณก็จะได้รับคะแนน”

“และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คุณต้องจดจำเอาไว้ก็คือ ‘ระบบแลกเปลี่ยน’ กฎข้อนี้ถูกตั้งขึ้นมาสำหรับผู้เข้าแข่งขัน ที่ไม่เชี่ยวชาญในด้านการต่อสู้”

“ในการแข่งขันนี้ คุณสามารถรับคะแนนผ่านทางระบบแลกเปลี่ยนได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีพรสวรรค์ในด้านการสร้างอาร์ติเฟ็กซ์ คุณก็สามารถสร้างดาบบินจำนวนมาก แล้วนำมันแลกเปลี่ยนคะแนนจากผู้เข้าแข่งขันสายการต่อสู้ ได้โดยการแลกเปลี่ยนดาบบินกับคะแนนจากพวกเขา ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงราคากันได้ ปุจิก็จะทำการแลกเปลี่ยนคะแนนให้โดยอัตโนมัติ โดยที่ไม่จำเป็นต้องกังวลว่า คุณจะถูกอีกฝ่ายโกง ด้วยวิธีนี้ ทำให้ผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านการต่อสู้ สามารถได้รับคะแนนอย่างยุติธรรมได้”

หลี่เย้ายกมือขวาของเขาขึ้นมา และถามคำถามออกไป “ขอฉันคั้นการอธิบายของนายแปบนึงนะ ฉันมีบางอย่างอยากจะถามน่ะ...สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ที่ได้เป็นสายต่อสู้และ ผู้เข้าแข่งขันที่เล่นในสายสนับสนุน เวลาที่พวกเขาต้องออกไปหาสิ่งของบนเกาะมังกรปีศาจ แล้วพวกเขาจะไม่เป็นอันตรายเอาเหรอ?”

เสี่ยวจี๋ส่ายหางปุกปุยของมัน “นักเรียนหลี่เย้าไม่ต้องกังวล เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น จะมีผู้ฝึกตนกว่ายี่สิบคนคอยบินสอดส่องอยู่บนอากาศตามที่ต่างๆบนเกาะมังกรปีศาจ และภยในตัวของเสี่ยวจี๋เอง ก็จะมีถุงใส่เจลแบบพิเศษเอาไว้ด้วย ทันทีที่ผู้เข้าแข่งขันได้รับบาดเจ็บที่ร้ายแรงถึงชีวิต หรืออาการบาดเจ็บเข้าสู่ช่วงวิกฤต เสี่ยวจี๋ก็จะปล่อยเจลออกมาครอบตัวผู้เข้าแข่งขันเอาไว้ และเสี่ยวจี๋ก็จะทำการแจ้งเตือนผู้ฝึกตนที่ลอยอยู่บนอากาศให้ทราบ”

“เจลชนิดนี้ เป็นอาร์ติเฟ็กซ์ชนิดพิเศษ มันสามารถป้องกันผู้เข้าแข่งขันให้ปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับสัตว์อสูรบนเกาะแห่งนี้ ที่จะสามารถทำลายเจลชนิดนี้ได้ ดังนั้น โปรดสบายใจได้!”

หลี่เย้าพยักหน้า การแข่งขันท้าทายขีดจำกัด ได้ถูกจัดขึ้นมาแล้วกว่าร้อยครั้ง พวกเขาได้ทำการปรับปรุงในเรื่องของความปลอดภัยมาเป็นเวลานานมากแล้ว เขาคงจะคิดมากเกินไป

เมื่อคิดดูอีกทีแล้ว หวังเย้าก็ถามออกมาอีกครั้งว่า “นายพูดแค่รอบอุ่นเครื่อง...แล้วกติกาในรอบตัดสินล่ะ?”