ตอนที่แล้วบทที่ 5 จิวเย่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 กลิ่นของเลือดเนื้อ

บทที่ 6 การกลับมาของเธอผู้นั้น


ณ ตอนนี้ จิวเย่ชักรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจผิดพลาดของเขา

อันที่จริงเขาไม่ควรอยู่ต่อ ไม่ควรดันทุรัง หวังจะให้ของขวัญอะไรแก่บอสผู้นี้

แต่สำหรับเขาตอนนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว

เขายังคงไม่ละความพยายามที่จะมอบของขวัญที่ว่าแก่เย่หัว

“บอสครับ ใจเย็นก่อนนะครับ”

เย่หัวมือไม้เริ่มสั่น วันนี้เขาแค่อยากได้ลองอะไรสดใหม่อีกสักครั้ง เขาคงไม่ได้หวังอะไรมากไป

จิวเย่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้ติดตามคนนึงของเขา

เขาสั่งการลูกน้องให้ดำเนินการสิ่งที่เตรียมไว้

ไม่นาน เหล่าสาวงามเริ่มทยอยเดินเข้ามาในห้องทีละคน จนนับได้ทั้งหมด 10 คน

กลิ่นน้ำหอมของสาวๆ ฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้องทำงานเลยทีเดียว

เย่หัวมองไปยังผู้หญิงทั้ง 10 คนโดยปราศจากความรู้สึกใดๆ

เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนในกลุ่มสาวๆ กลุ่มนี้ที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาได้เลย

“สาวๆ เหล่านี้คือสาวสวยดาวเด่นติดท็อปเท็นในมหาวิทยาลัยเมืองหลงอันเชียวนะ ครับบอส

ดูทรวดทรงองค์เอว พวกเธอสิครับ แต่ละคนนี่ฐานะครอบครัวไม่เบาเลยนะครับ อย่างเธอคนนี้

เธอคือซีอีโอที่อายุน้อยที่สุดในหลงอัน ทรัพย์สินของเธอมีมากกว่าสิบล้านหยวนเลยนะครับ”

“คนนี้… คนนั้น…และคนนี้ก็ด้วย…”

จิวเย่บรรยายสรรพคุณของเด็กสาวแต่ละคนให้เย่หัวฟัง

จริงๆ แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าสาวๆ เหล่านี้ต่างมีคุณสมบัติเพียบพร้อม

สรรพคุณเกินคำบรรรยายตามที่จิวเย่สาธยายให้เย่หัวฟัง

แต่เย่หัวกลับไม่ได้สนใจสาวๆ ทั้ง 10 คนเลย

บอสหนุ่มเบือนหน้ากลับดูรายการทีวี ดูเหมือนหนังสยองขวัญในทีวี จะน่าสนใจมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนอกจอเสียอีก

เด็กสาวทั้ง 10 คน ต่างรู้สึกผิดหวังไปตามๆ กัน

อันที่จริงพวกเธอล้วนมาด้วยความสมัครใจ ไม่ได้มีใครบังคับขู่เข็ญให้มา

เด็กสาวแต่ละคนต่างก็มาด้วยความหวังว่าบอสจะเลือกเธอ

พวกเธอหวังว่าจะได้มีโอกาสจะได้อยู่กับบอสหนุ่มทั้งคืน

พวกเธอหวังอยากจะมีค่ำคืนอันดูดดื่มกับบอส

แต่บอสกลับสนใจทีวีมากกว่าพวกเธอ ชายผู้นี้ไม่แม้แต่หันกลับมามองพวกเธอด้วยซ้ำ

ส่วนหลี่กู้หมาพิทบูล นอนหมอบราบกับพื้น

ดูขี้เกียจและไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องนั้นเลย

มันดูเป็นสัตว์เลี้ยงที่โดนเจ้านายตามใจจนเสียนิสัยไปแล้ว

จิวเย่เริ่มเหงื่อแตกอีกรอบ เย่หัวเอาใจยากกว่าที่เขาคิด

เขาจึงสั่งให้เด็กสาวทั้ง 10 คนรีบออกจากห้องไปโดยเร็ว

จากนั้น เขาได้นำตัวผู้หญิงอีกคนเข้ามาในห้องทำงาน

เย่หัวหันไปมองผู้หญิงหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามา แต่เขาดูไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนี้สักเท่าไหร่

“บอสครับ ผู้หญิงคนนี้ชื่อยี่รัน ตอนนี้เธอมีชื่อติดทำเนียบเซเล็บอันดับต้นๆเลยนะครับ”

การแนะนำยี่รันให้เย่หัวเหมือนการหงายไพ่ใบสุดท้ายของจิวเย่

เขายอมลงทุนว่าจ้างเธอผู้นี้มาด้วยซ้ำ

ฝ่ายหญิงเองก็คิดว่าการทำความรู้จักเย่หัว จะทำให้เธอเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีก

ต้องยอมรับว่ายี่รันผู้นี้โดดเด่นกว่าผู้หญิงคนอื่นพอสมควร

เธอดูจองหองเย่อหยิ่ง มีออร่าน่าค้นหา รูปร่างดีมีเสน่ห์เย้ายวน

มีส่วนโค้งเว้าเหมือนรูปตัว S ผิวขาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง

ใบหน้าเรียวเล็กก็ดูงดงาม ไม่ได้ผ่านมีดหมอมาก่อน

แต่ถึงกระนั้น เย่หัวก็ไม่ได้ให้ความสนใจเธอผู้นี้เป็นพิเศษ

คงมีเพียงจิงหยาผู้หญิงคนเมื่อคืน

หรือผู้หญิงที่อยู่ในระดับเดียวกับเธอเท่านั้น

ถึงจะเรียกความสนใจจากเขาได้

จิวเย่ชักรู้สึกท้อแท้ กับการพยายามเอาใจบอสผู้นี้ มาตรฐานเขาสูงเหลือเกิน

แม้แต่ผู้หญิงที่ค่อนไปทางสมบูรณ์แบบอย่างยี่รันก็ไม่สามารถเรียกความสนใจใดๆ จากเขาได้

“คุณสามารถเรียกชิงหยูตงมาได้มั้ย” เย่หัวถามออกมาด้วยเสียงอันเบา

เพียงได้ยินชื่อ “ชิงหยูตง” จิวเย่ถึงกับเกิดอาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม

เพราะว่าเธอผู้นี้เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ โด่งดังระดับอินเตอร์

ล่าสุดเธอเพิ่งได้ ออสการ์ดารานำหญิงยอดเยี่ยมมาในปีนี้

ตอนนี้ เธอเลยมีชื่อเสียงหนักกว่าเดิม แล้วจิวเย่จะตามเธอมาที่นี่ได้อย่างไรกัน

ฝ่ายยี่รันที่ได้ยินเย่หัวพูดเช่นนั้นก็แสดงท่าทีฟึดฟัด

เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพื่อเป็นการบอกเย่หัวว่า

ข้อเรียกร้องของเขาช่างตลกสิ้นดี มันเหมือนคำขอร้องของเด็กๆ

การแสดงออกของยี่รัน ทำให้เว่ยฉางเปลี่ยนท่าที และหลี่กู้ถึงกับลืมตาตื่น พร้อมจะจู่โจม

เผียะ!!!

จิวเย่เงื้อมือสุดแขนและตบหน้ายี่รันไปฉาดใหญ่ ด้วยกำลังของจิวเย่

ยี่รันถึงกับเสียหลักเซไปติดผนังห้องเลยทีเดียว

“ผู้หญิงคนนี้ทำสิ่งที่ไม่สมควร อย่าถือสาเธอเลยนะครับบอส”

จิวเย่ขอร้องเย่หัว

“ของขวัญของนาย ไม่เห็นได้เรื่อง” เย่หัวตอบ

หลี่กู้ลุกขึ้นมาจากพื้น เดินมาถูไถลำตัวไปกับขาข้างนึงของเย่หัว

ราวกับมันกำลังอ้อนเจ้านายเพื่อขอบางสิ่งบางอย่าง

เย่หัวถอนหายใจ และสั่งเจ้าพิทบูลว่า “ไปที่ห้องเก็บของ ไป!”

หลี่กู้เห่าออกมาพร้อมอาการลิงโลด มันพุ่งไปตรงหน้ายี่รัน งับที่ปกเสื้อเธอ

และลากเธอออกไปจากห้องทำงาน

ยี่รันตกใจสุดขีด เธอได้แต่กรีดร้องออกมาน่าเวทนา

เธอไม่มีทางจะต้านทานพละกำลังของพิทบูลตัวนี้ได้

เพราะอันที่จริงแล้วมันคือมังกรโครงกระดูก

จิวเย่มองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความฉงน

บาร์แห่งนี้เป็นสถานที่แบบไหนกันแน่ บอสของที่นี่ก็เป็นคนประหลาด

ลูกน้องเขาก็แปลก หมาที่เลี้ยงไว้ก็ยิ่งแปลกขึ้นไปอีก

ก่อนที่วู่เหย่ผู้เป็นนายของเขาจะเสียชีวิต

เขาก็ไม่ได้เตือนมาก่อนว่าจิวเย่ต้องเจออะไรที่นี่บ้าง

“เอาล่ะ... บอสได้รับของขวัญของคุณแล้ว คุณสามารถกลับไปได้แล้ว”

เว่ยฉางพูดอย่างไม่แยแส ปีศาจตนนี้เพิ่งกลับสู่ภาวะปกติ

เมื่อสักครู่ เขาเกือบเข้าไปขย้ำยี่รันเสียแล้ว

จิวเย่อยากหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด

เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังคุกคาม สงสารก็แต่ยี่รัน

เขาไม่รู้ว่าเธอจะมีชะตากรรมอย่างไร เขาได้แต่หวังว่าเธอจะปลอดภัย

ภายหลังจากที่จิวเย่ออกไปจากห้อง

เย่หัวดูโทรทัศน์ไปอีกสักพักก่อนจะกดรีโมทเพื่อปิดทีวี

“นายช่วยจัดการแทนฉันด้วย” เย่หัวหันไปพูดกับเว่ยฉาง

“ครับบอส...” เว่ยฉางตอบรับ

เย่หัวหาว เขารู้สึกง่วงเลยออกจากห้องทำงานเพื่อไปนอนพักที่ห้องนอน

ทิ้งเว่ยฉางไว้ตามลำพังในห้องทำงาน

เว่ยฉางพึมพำเบาๆ “วิญญาณร้าย... เทพแห่งความตาย จงปรากฏ”

ทันใดนั้น กระแสลมหมุนสีดำก็ก่อตัวขึ้นบนพื้น

และร่างหนึ่งที่สวมชุดสีดำ ถือเคียวค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากลมหมุนสีดำที่ว่า ร่างนั้นมาพร้อมกับรังสีแห่งความตาย...

“นายท่าน!” เทพแห่งความตายวางเคียวบนพื้น

คุกเข่าลงพร้อมและวางมือทั้งสองข้างราบขนานไปกับพื้น

มือทั้งสองข้างคือโครงกระดูกที่ไม่มีเนื้อหนังติดอยู่เลย

“ฉันไม่ต้องการให้คนๆ นี้ มีชีวิตรอดถึงวันพรุ่งนี้”

เว่ยฉางออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“ข้าจะรีบทำตามบัญชาของนายท่าน”

เทพแห่งความตายรับข้อมูลของคนผู้นั้นจากมือของเว่ยฉาง

และออกจากห้องไปทันที เขาดูคุ้นเคยกับภารกิจแบบนี้เป็นอย่างดี

เว่ยฉางถอนหายใจ เขาพูดพึมพำกับตัวเองว่า

“ความเป็นมนุษย์ที่ข้าสั่งสมมา เกือบจะหายไปเมื่อกี้นี้”

วันถัดมามีข่าวใหญ่เกิดขึ้นที่เมืองหลงอัน เรื่องแรกคือนายซ่งอันผิง

นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงเสียชีวิตภายในบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ

ข่าวนี้สร้างความกังขาแก่ผู้ได้ยินได้ฟังเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อจิวเย่ทราบข่าว เขาตัวสั่นไปหมดด้วยความกลัว

จะเป็นไปได้อย่างไรที่นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลอย่างซ่งอันผิงจะเสียชีวิตในเวลาชั่วข้ามคืน

เหตุการณ์แบบนี้มันน่าเหลือเชื่อ

เย่หัวไม่ได้รู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวกับข่าวใหญ่ที่ว่า เขายังใช้ชีวิตปกติ

เรียนรู้การเป็นมนุษย์จากการอ่านนิตยสาร ติดตามผลงานของชิงหยูตง

หรือไม่ก็ดูรายการทีวีรายการโปรดของเขา

อย่างไรก็ตาม เย่หัวสังเกตว่าหลี่กู้ชักมีพฤติกรรมแปลกๆ

มันจะหายหัวไปตั้งแต่เช้าโผล่กลับเข้ามาอีกทีก็คือช่วงเย็น

มันทำแบบนี้มาเป็นระยะเวลาสักหนึ่งสัปดาห์เห็นจะได้ ผ่านไปอาทิตย์เดียว

เจ้ามังกรโครงกระดูกก็กลับสู่ภาวะปกติ ทำกิจวัตรเดิมๆ คือกินกับนอน

บางทีช่วงที่ผ่านมามันอาจจะเบื่อกับความจำเจก็เป็นไปได้

หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปตามปกติ

จนกระทั่งคืนหนึ่ง ชีวิตอันสงบสุขของเย่หัวก็ถูกคุคามอีกครั้ง

“เธอยังอยู่ที่นี่เหรอ?” เย่หัวถาม ทั้งๆ ที่ตายังจ้องดูจอโทรทัศน์รายการเดิม

อันที่จริงเขาเคยดูมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เรื่องของพี่น้องคู่หนึ่งที่พยายามช่วยปู่ของพวกเค้า

ให้รอดพ้นจากวิญญาณผีร้าย

เว่ยฉางพยักหน้า “เธอยังอยู่ที่นี่ครับ บอสต้องการให้ผมไล่เธอไปจากที่นี่ไหม”

เย่หัวปิดโทรทัศน์ เขาลุกขึ้นยืนและตอบลูกน้องปีศาจไปว่า

“ฉันลืมไปเลย ปล่อยให้เธอรอมาสามวันแล้วสินะ ฉันจะไปพบเธอตอนนี้เลย”

“ยินดีด้วยครับบอส ตอนนี้บอสมีความเป็นมนุษย์มากขึ้นกว่าแต่ก่อน”

เว่ยฉางประหลาดใจกับท่าทีของเจ้านาย ตาเขาก็พูดแสดงความยินดีออกไปตามที่คิด

เย่หัวสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด

การเป็นมนุษย์ต้องใช้เวลาในการสั่งสมพัฒนามันขึ้นมา

มันยากมากกับการเรียนรู้เพื่อเป็นมนุษย์

และการสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป ก็เกิดขึ้นได้ง่ายมาก

เขาหวังว่าเธอผู้นั้นคงไม่ทำให้เขาสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปในคืนนี้

นาฬิกาบอกเวลาตีสองและบาร์ยังคงเงียบสงบ ในบาร์ค่อนข้างมืดสลัว

มีเพียงแสงไฟรอบ ๆ เคาน์เตอร์บาร์เท่านั้นที่ยังเปิดสว่างอยู่

บนเก้าอี้บาร์ทรงสูงตัวเดิม ผู้หญิง “คนเดิม” นั่งอยู่ตรงนั้น

แต่วันนี้เธอดูแตกต่างจากวันนั้น

เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าราคาแพงเช่นเดียวกับที่เธอเคยสวม

วันนี้เธอมาในชุดเรียบง่าย เชิ้ตแขนสั้น กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบเพียงเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด