ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 ความสดใหม่

บทที่ 1 บุรุษผู้เฉยชา


เมืองหลงอันตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลประเทศจีน

และเป็นเมืองที่กำลังเติบโตเบ่งบานทางเศรษฐกิจ

ยามเมื่อคิมหันตฤดูหมุนเวียนมาเยี่ยมเยียนเมืองนี้ในรอบปี

กิ่งไม้ใบหญ้าแกว่งไกวดูสดใสต้อนรับหน้าร้อน

หนุ่มสาวแต่งตัวตามสมัยนิยม พากันเดินขวักไขว่ไปทั่วเมือง ราวกับเป็นเส้นโลหิตที่หล่อเลี้ยงให้เมืองอุตสาหกรรมแห่งนี้

ดูคึกคักมีชีวิตชีวาอย่างน่าสนใจทีเดียว

และ ครั้นเมื่อโมงยามแห่งราตรีมาเยือนเมืองหลงอัน เมืองทั้งเมืองก็ดูเบ่งบานสว่างไสวด้วยแสงไฟหลากสี

ซึ่งหากใครบังเอิญพลัดหลงมาที่นี่ในช่วงโมงยามนี้

ช่วยไม่ได้เลยที่เขาเหล่านั้นคงต่างรู้สึกยินดีปรีดาเสียเหลือเกิน ที่ได้ใช้ชีวิต

ในยุคสมัยอันเรืองรองเช่นเดียวกับที่พวกเขาได้พบพานในเมืองหลงอัน

แต่จุดที่น่าสนใจที่สุดในเมืองหลงอันยามค่ำคืน คงหนีไม่พ้นสถานบันเทิงเริงรมย์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในตรอกเล็กๆ

ซึ่งไม่ได้เป็นเส้นทางที่คนจะเดินกันพลุกพล่านขวักไขว่สักเท่าใด

ช่างน่าแปลกเสียจริงที่ประตูทางเข้าบาร์แห่งนี้คราคร่ำไปด้วยนักท่องราตรี

ที่พร้อมใจมายืนต่อคิวยืดยาวเป็นหางว่าวเพื่อรอเข้าบาร์

และที่น่าแปลกใจยิ่งไปกว่านั้นคือ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ต่อคิวอยู่ล้วนเป็นผู้หญิงทั้งนั้น

และหากคุณเดินผ่านเหล่าหญิงสาวที่กำลังต่อคิวรอเข้า “สถานเริงรมย์”

แห่งนี้ คุณอาจจะได้ยินสาวๆ ในกลุ่มนั้นพูดคุยกันอื้ออึงว่า

“เฮ้อ... ฉันไม่แน่ใจว่าคืนนี้เจ้าของบาร์เขาจะมาไหม

ฉันแค่อยากจะแอบมองเขา ให้ตายฉันก็ยอม ฉันขอแค่ให้ได้มองเขาน่ะ”

“บอสเขาจะมาไหมฉันก็ไม่แน่ใจหรอกนะ มันก็แล้วอารมณ์เขาล่ะ

คืนไหนเขาอารมณ์ดีหน่อย เขาก็จะชงเหล้า

ผสมเครื่องดื่มให้ลูกค้าด้วยตัวเอง อย่างคราวที่แล้ว

มีผู้หญิงคนนึงได้ดื่มเหล้าที่เจ้าของบาร์ชงให้

เธอคนนั้นตื่นเต้นดีใจถึงกับเป็นลมล้มพับไปเลย”

“พวกหล่อนคงเพิ่งเคยมาเที่ยวที่นี่สินะ พวกเธอน่ะ ไม่รู้อะไรซะแล้ว

นอกจากบอสเขาจะเป็นสุดยอดบาร์เทนเดอร์ เขายังเป็นนักมายากลด้วยล่ะ

ฉันเห็นมากับตา ฉันเห็นเปลวไฟสีน้ำเงินในอุ้งมือข้างนึงของเขา

มันดูมหัศจรรย์มาก”

“จริง! คืนนั้นฉันก็อยู่ที่บาร์

ฉันคงไม่มีวันลืมค่ำคืนนั้นไปจนจวบวันสุดท้ายของชีวิต

ใต้แสงไฟสีน้ำเงินจากอุ้งมือเขา ใบหน้าของบอส... คือใบหน้านั้น ช่าง...

ขอโทษที ฉันไม่รู้จะหาคำไหนมาใช้เพื่อบอกว่าเขาหล่อมาก

มันคงดีไม่น้อยเลยล่ะ ถ้าเพียงแค่ฉันจะมีโอกาสมีความสัมพันธ์กับเขา

ความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน หรือขอแค่มีความสัมพันธ์กับเขาสักครั้ง

แค่คิด... ฉันก็น้ำลายจะไหลแล้วล่ะเนี่ย”

“นี่หล่อน! ฉันแนะนำว่าเธอควรจะเลิกคิดเรื่องนั้นไปเลย

ฉันได้ยินมาว่าบอสเขารักความสะอาดเป็นที่สุด

เขานิยมแต่ผู้หญิงที่สะอาดผุดผ่องเท่านั้นล่ะย่ะ”

“นี่หล่อน! แล้วฉันสกปรกตรงไหนมิทราบ

ฉันว่าหล่อนนั่นแหละที่เป็นนังโสโครก!”

ไม่ทันจะสิ้นคำพูด

บรรยากาศหน้าบาร์ก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นสนามมวยแทน

โดยคู่ชกคู่ฟัดคือผู้หญิงสองคนที่กำลังตบตีทึ้งผมกันพัลวัน หนุ่มๆ

ที่รอต่อคิวอยู่ด้วยพากันมองดูความบันเทิงตรงหน้าอย่างสนุกสนาน

แน่นอนพวกเขาไม่ได้มาเพื่อชื่นชมความหล่อเหลาของบอสเจ้าของบาร์

แต่พวกเขามาที่บาร์แห่งนี้เพราะมีสาวๆ มากหน้าหลายตา

พวกเขาแค่หวังว่าพวกเขาคงมีโอกาสกับสาวๆ เหล่านั้นบ้างก็เท่านั้น

ตรงกันข้ามกับบรรยากาศด้านในบาร์แห่งนี้

ทั่วทั้งบาร์อบอวลด้วยเสียงดนตรีบางเบา

ผนังรายรอบถูกตกแต่งด้วยภาพวาดสีน้ำมันของเหล่าศิลปินผู้มีชื่อเสียง

หลายคนสงสัยว่า ใครจะบ้าเอาภาพเขียนราคาแพงๆ

มาแขวนไว้เยอะแยะมากมายขนาดนี้ ภาพเหล่านี้คงไม่ใช่ภาพจริง

คงเป็นเพียงแค่ภาพปลอม

แค่ใครเล่าจะสนใจภาพเขียนเหล่านั้นในเวลาเช่นนี้ โดยเฉพาะสาวๆ

ในบาร์ พวกเธอมองไปยังบันไดที่ทอดจากชั้นสองโดยไม่ละสายตา

พร้อมทั้งคอยเงี่ยหูฟังว่าเมื่อไหร่นะที่เสียงหนักๆ

ของส้นรองเท้าจะกระทบกับพื้นบันได

เมื่อนั้นพวกเธอจะได้ยลร่างของบุรุษที่พวกเธอกำลังรอคอย

แต่ค่ำคืนนี้ ดูเหมือนว่าการรอคอยของสาวๆ คงสูญเปล่า

เพราะล่วงเลยใกล้รุ่งสางโมงยามที่บาร์จวนจะปิดบริการ

บอสหนุ่มเจ้าของบาร์ก็ยังไม่ปรากฏกาย ไร้แม่แต่เงาให้เห็น

“ไปตามเจ้านายเธอมาเดี๋ยวนี้ ฉันมาที่บาร์นี่เป็นคืนที่สามแล้ว

ฉันยังไม่เห็นบอสเลย ไม่เคยแม่แต่สักครั้ง เขาก็แค่ผู้ชายคนนึงใช่มั้ย

ตามเขาออกมาสิ เรียกเขามาเอาเงินที่ฉันนี่

ฉันจะฟาดหัวเขาสักห้าล้านหยวน

ถ้าเขายอมมาเป็นหนุ่มในสังกัดการดูแลของฉัน”

หญิงสาวในชุดกระโปรงงามสง่าลุกขึ้นจากโต๊ะอย่างอดรนทนไม่ไหว

พร้อมตะโกนออกมาด้วยความโมโห หญิงสาวผู้นี้สวยเตะตาเลยทีเดียว

เพียงแต่ว่าเครื่องสำอางที่อาบอยู่บนใบหน้าของเธอออกจะหนาไปสักหน่อย

จังหวะที่เธอตะโกนด้วยความโกรธ

น่ากลัวเหลือเกินที่ชั้นเครื่องสำอางที่พอกหน้าเธอไว้จะหลุดร่วงลงมา

“กรุณาอยู่ในความสงบครับคุณผู้หญิง”

พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบรุดมายังสุภาพสตรีผู้นี้

เขาพยายามใช้น้ำเสียงที่สุภาพที่สุดกับเธอ

สตรีผู้งดงามนางนี้ได้แต่พ่นลมหายใจฟึดฟัดออกมาจากจมูกและพูดตอบว่า

“ฉันจะก่อความไม่สงบที่นี่ แล้วจะทำไม จะทำอะไรฉัน ฉันมีเงินนะ

ฉันไม่ใช่ยาจกที่ไหน เรียกบอสของนายออกมาสิ

ไม่งั้นฉันจะพังที่นี่ให้ราบเลย”

ทันใดนั้น

เสียงพื้นรองเท้ากระทบพื้นบันไดที่เหล่าสุภาพสตรีรอคอยก็ได้ดังขึ้น

เสียงฝีเท้าของก้าวย่างนั้นสยบความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่

ตอนนี้สตรีทุกนางในบาร์ต่างนิ่งงันราวต้องมนต์สะกดเพียงแค่เห็นรองเท้า

หนังสีดำคู่นั้นกำลังเยื้องย่างลงมาจากบันได

และเมื่อร่างของบุรุษเจ้าของรองเท้าคู่นั้นปรากฏเต็มตัวต่อหน้าธารกำนัล

สถานเริงรมย์แห่งนี้ถึงขั้นเงียบสงัด มีเพียงเสียงกลืนน้ำลายของสาวๆ

เท่านั้นที่ดังขึ้นมาทำลายความเงียบนั้น

ชายที่หญิงสาวทุกคนในบาร์รอคอยปรากฏกายในชุดสูทสีดำ

สวมทับบนเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมเผยให้เห็นแผงอกอันชวนให้สาวๆ

วาบหวามใจมิใช่น้อย เขาสวมแหวนไว้ที่นิ้วชี้มือข้างขวา

หัวแหวนนั้นถูกสลักด้วยสัญลักษณ์ประหลาดบางอย่างที่ไม่มีใครรู้จัก

ดวงตาอันดำสนิทราวสีของรัตติกาลดูขลังและทรงพลังยามจับจ้องมายังสุภาพสตรีในบาร์

ใบหน้าราวเทพบุตรของบุรุษผู้นี้โดดเด่นสะดุดตาจนยากจะหาใบหน้าของชายใดมาเปรียบ

ทุกอย่างที่ประกอบร่างสร้างองค์ทรงเครื่องให้ชายหนุ่มทำให้เขาคือประติมากรรมอันสมบูรณ์แบบ

เขาช่างหล่อเหลาไร้ที่ติ แค่ชำเลืองตามองบุรุษผู้นี้

ก็อาจทำให้ผู้มองตกอยู่ภายใต้อิทธิพลอันทรงเสน่ห์ของเขา

ทุกคนที่ได้ประจักษ์เห็นบอสเจ้าของสถานเริงรมย์แห่งนี้ด้วยตาตนเอง

ต่างลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือเอกบุรุษผู้สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งบนผืนปฐพีนี้

คงเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย หากชายผู้นี้จะเป็นเพียงคนที่ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากและซับซ้อน

เพียงแต่ว่าเขาเป็นชายที่มีบุคลิกเยือกเย็นและเย็นชาที่สุดในบรรดาผู้คนแบบเดียวกันกับเขา

ที่คุณอาจจะเคยพบพานยากมากที่เราจะได้เห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเทพบุตรผู้นี้

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เคยแสดงท่าทีว่าเขาจะสนใจผู้หญิงสวยๆ เลย

และ ณ ขณะนี้ สาวงามผู้นั้นที่โกรธเกรี้ยวเมื่อสักครู่ ได้แต่ยืนนิ่ง

พยายามกลืนก้อนน้ำลายตัวเองลงคออย่างยากลำบาก

มันสมตามคำร่ำลือจริงๆ บอสเจ้าของบาร์หล่อเหลาเอาการ

เขางามราวเทพบุตรจุติตามคำบอกเล่าที่เธอได้ยินมา ไม่ใช่สิ!

จะเรียกว่าหล่ออย่างเดียวคงไม่พอ “บอส” ผู้นี้

อยู่เหนือนิยามความหล่อและความงดงามทั้งปวง

“ผมได้ยินว่าคุณอยากพบผมเหรอครับ คุณผู้หญิง”

เย่หัวก้าวย่างช้าๆ มายังสุภาพสตรีผู้นั้น

ตอนนี้เธอรู้สึกว่ากำลังมีหินผาก้อนมหึมากำลังกดทับเธอ

เธอถูกสะกดแน่นิ่งไม่ไหวติงด้วยนัยน์ตาสีราตรีคู่นั้น

ดูเหมือนว่าตอนนี้ ความโกรธขึ้งของหญิงสาวได้มลายหายไปสิ้นแล้ว

เธอยื่นมือขวาที่สั่นเทิ้มไปยังบุรุษผู้อยู่เบื้องหน้า

และพูดด้วยน้ำเสียงละล่ำละลักว่า “นี่คือ... เงิน... ห้าล้านหยวน และฉัน...ฉันอยากจะ.... เอ่อ...”

“คุณต้องการอะไรหรือครับคุณผู้หญิง” เย่หัวถามเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มเบา

แต่ในน้ำเสียงนั้นแฝงด้วยอำนาจบางอย่าง

มันคือพลังปีศาจที่เขามีตามธรรมชาติในน้ำเสียง

ที่แม้ใครเพียงได้ยินก็อาจถึงขั้นประหวั่นพรั่นพรึงไปเลยทีเดียว

หญิงสาวผู้งามสง่ารวบรวมพลังทั้งหมดที่เธอเหลืออยู่เพื่อตอบเขาไปว่า

“ฉันต้องการคุณ คุณต้องมาเป็นผู้ชายนายบำเรอของฉันไงล่ะ”

หลังได้ยินคำตอบของหญิงสาว เย่หัวไม่แสดงอาการใดๆ โต้ตอบ

หรือแม้แต่จะเผยให้เห็นความรู้สึกใดๆ ที่เขามีต่อคำพูดนั้น

เขาหันไปมองหญิงสาวปราดเดียวและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาว่า

“จมูกและตาของคุณคงผ่านการศัลยกรรมมาสินะ คางของคุณ...

ทำออกมาไม่เลวทีเดียว และหน้าอก... หน้าอกของคุณอาจจะเป็นของจริง

แต่มองดูส่วนอื่นๆ ในร่างกายคุณสิ

คุณคิดว่าจะมีส่วนไหนที่จะดึงดูดผมได้เหรอ”

สิ้นคำพูดนั้น หญิงสาวถึงกับตาเบิกโพลง ราวกับเพิ่งโดนผีหลอกมาหยกๆ

เช็กในมือของเธอปลิดปลิวหล่นลงพื้นขณะที่เธอก้าวเท้าไปข้างหลังเพื่อตั้ง

หลัก จังหวะนั้นเองที่เธอเสียการทรงตัวจนทรุดลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น

และแล้วเธอก็ปล่อยโฮออกมาราวกับเด็กผู้หญิงตัวน้อย

ไม่เคยมีใครหน้าไหนวิพากษ์ความงามของเธอเหมือนกับที่ผู้ชายคนนี้พึ่งทำลงไปกับเธอ

“รายที่เท่าไหร่แล้วละเนี่ย”

ผู้หญิงคนหนึ่งหันไปพูดกับหญิงสาวที่มาด้วยกัน

“นับไม่หวาดไม่ไหวหรอกเธอ ทุกครั้งที่บอสโผล่มาในบาร์

จะต้องมีนังตัวดีสักคนที่อยากลองของ อย่างฉันนี่นะหล่อน

ฉันเข้าใจและยอมรับสถานะตัวเอง แค่ได้มองบอส ฉันก็ปลื้มแล้วย่ะ”

“ฮ่าๆๆ ฉันก็เหมือนกัน ฉันก็คงได้แค่มอง ใครจะรับมือผู้ชายแบบบอสได้

ไม่มีหรอก”

เย่หัวไม่ชายตามองสาวงามที่ทรุดลงร่ำไห้อยู่กับพื้นแม้แต่น้อย

เขาหันไปสั่งพนักงานรักษาความปลอดภัยหนุ่ม “เอาตัวเธอออกไป มันน่ารำคาญเกินไปละ”

“ดะ... ได้ครับหัวหน้า” รปภ.หนุ่มละล่ำละลักตอบ ทุกครั้งที่เขาได้พบบอส

เขามักจะประหม่าแบบนี้ทุกครั้งไป แต่โปรดอย่าได้เข้าใจผิดคิดเป็นอื่น

เขาไม่ได้คิดหรือรู้สึกกับบอสเหมือนกับสาวๆ เหล่านั้น

อาการประหม่านี้เกิดขึ้นความกลัวเกรงเจ้านายเสียมากกว่า

และแล้วก็ถึงเวลาที่บาร์ปิดให้บริการ

บรรดานักท่องราตรีต่างทยอยกันกลับจนไม่เหลือลูกค้าในร้านแม้แต่คนเดียว

เย่หัวเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อผสมเครื่องดื่มสีสันแปลกตาแก้วนึงขึ้นมาดื่มเอง

ของเหลวในแก้วไวน์มีสีเขียวเข้ม อีกทั้งยังมีเส้นสีแดงลอยละล่องดูคล้ายปอยผมอยู่ภายในแก้วอีกด้วย

เหล่าพนักงานหญิงที่กำลังทำความสะอาดบาร์ลอบมองนายของพวกเธออย่างคลั่งไคล้ใหลหลง

ในที่สุดสาวน้อยหน้าตาน่ารักนางหนึ่งใช้ความกล้าหาญตัดสินใจอย่างเด็ด

เดี่ยวควักกระดาษที่บรรจงพับซ่อนเก็บมาจากกระเป๋ากางเกงของเธอ

มันคือจดหมายรักที่เธอปรารถนาจะมอบแด่บอสหนุ่มที่เธอแอบหลงรัก

“ถังเหว่ย! อย่านะ อย่าไป” พนักงานสาวอีกคนทักท้วงเพื่อนร่วมงาน

เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอกำลังจะทำสิ่งอุกอาจที่ไม่ควรทำ

ถึงกระนั้น เด็กสาวถังเหว่ยยังคงเดินอย่างองอาจตรงไปยังเจ้านาย

เมื่อไปหยุดอยู่ตรงหน้าเย่หัว เธอยื่นจดหมายไปให้เขาด้วยมือทั้งสองข้าง

แต่เธอกลับก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตา “บอส” แม้แต่น้อย

เย่หัวมองเด็กสาวด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ไร้ความรู้สึกใดๆ

แล้วเขาก็หันไปเพ่งพินิจมองของเหลวในแก้วไวน์แทน

“บอสคะ...” เสียงของเด็กสาวช่างไพเราะน่าฟัง หน้าตาก็ใช่ว่าขี้ริ้วขี้เหร่

ผิวพรรณหน้าตาของเธอระดับดาวเด่นของโรงเรียนเชียวล่ะ

ซึ่งในความเป็นจริงเธอคือเด็กสาวดาวประจำโรงเรียน

เธอมาทำงานพิเศษที่บาร์แห่งนี้และได้พบเย่หัวที่นี่

“เธอคือเด็กใหม่ใช่มั้ย” บอสหนุ่มถามอย่างไม่ใยดี

ถังเหว่ยเกิดอาการอึดอัดทำตัวไม่ถูกเสียแล้วในตอนนี้

เธอก้มหน้าและตอบเจ้านายของเธอไปว่า “ใช่ค่ะ”

“งั้นเธอไปรับค่าจ้างของวันนี้ และตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีก”

น้ำเสียงของเขาช่างแห้งแล้งไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆ

แม้แต่เด็กสาวหน้าตาสะสวยอย่างถังเหว่ย ก็ไม่อาจสั่นคลอนหัวใจของชายผู้นี้ได้

เขาไล่เด็กสาวออกจากงานเพียงเพราะแค่เธอสารภาพรักกับเขาเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด