ตอนที่แล้วตอนที่ 19 หินชิงหลัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 สถานที่ไร้กฎ

ตอนที่ 20 กลั่นแกล้งในหอพัก!


“พี่... พี่ใหญ่ป๋าย ท่านบอกว่ามีหินชิงหลัวเท่าใดนะ!?”

น้ำเสียงโม่ข่าสั่นเล็กน้อย เขาจ้องป๋ายเสี่ยวเฟยเขม็งด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

“สองร้อยก้อน ทำไมรึ? หากไม่เชื่อก็ดูเอาเอง”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกล่าวพลางหยิบตราหยกขึ้นมา

ในวินาทีต่อมาเสียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ดังไปทั่วห้อง

‘สองร้อยก้อนจริงด้วย!’

“พี่ใหญ่ป๋ายท่านรู้ไหมว่าหินชิงหลัวสองร้อยก้อนมีมูลค่าเท่าใด?”

เป็นช่วงเวลานี้เองที่โม่ข่ารู้สึกยินดีที่แผนการของเขาล้มเหลวเพราะหินชิงหลัวสองร้อยก้อนหมายความว่าป๋ายเสี่ยวเฟยย่อมผ่านการทดสอบเป็นคนแรกๆ

เพราะเขา สือขุยและหวู่จื๋อได้เพียงสิบก้อนเท่านั้น!

“อะไร? มันเยอะหรือ?”

สีหน้าประหลาดใจปนตื่นเต้นปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา โม่ข่าและคนอื่นๆ พยักหน้าอย่างรุนแรง

“ราคาเริ่มต้นของหินชิงหลัวในทวีปอยู่ที่เหรียญอเมทิสต์หนึ่งร้อยเหรียญต่อหนึ่งชิ้น และเหรียญอเมทิสต์หนึ่งเหรียญเพียงพอที่จะให้ครอบครัวธรรมดาใช้จ่ายจิปาถะได้หนึ่งอาทิตย์ ท่านคิดว่าสองร้อยหินชิงหลัวเยอะไหมล่ะ?”

พอโม่ข่าพูดจบนัยน์ตาทั้งคู่ของป๋ายเสี่ยวเฟยก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที ตราหยกที่เขาไม่แม้แต่จะสนใจเมื่อครู่ตอนนี้ถูกเก็บเข้าใส่เสื้อของเขาอย่างรวดเร็ว เขาถาม

“เจ้าหมายความว่าสองร้อยหินชิงหลัวเป็นเงินจำนวนมาก?”

โม่ข่าและพรรคพวกพยักหน้ารุนแรงอีกครั้ง

“พี่ใหญ่เฟย ข้าถามท่านได้ไหมว่าท่านได้อันดับเท่าไหร่ในการสอบ?”

โม่ข่าถาม ทั้งสามจ้องป๋ายเสี่ยวเฟยเขม็งโดยพลัน ดวงตาทุกคู่มีร่องรอยความคาดหวัง

“ข้าควรจะเป็นคนแรกเพราะตอนที่ข้าผ่านประตูหลักเข้าไปยังไม่มีใครมาถึง”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกล่าวอยากภาคภูมิเพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ใดนี่ก็เป็นเรื่องควรคู่แก่การภูมิใจอยู่ดี

“เจ้าเป็นคนที่ขี่อาชาเกล็ดทมิฬกลับไปยังประตู!?”

หวู่จื๋อถาม ร่างหนึ่งที่ควบอาชาเกล็ดทมิฬวิ่งผ่านเข้าไปตอนสอบปรากฏขึ้นในใจเขาส่วนใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“ถูกต้อง นั่นข้าเอง”

ใบหน้าของทั้งสามเปลี่ยนเป็นดีใจสุดขีดเมื่อได้ยินคำตอบ

‘ช่างเป็นขาที่อ้วนใหญ่น่าพึ่งพาเหลือเกิน!’

‘คนระดับนี้อยู่ในหอพักห้องเดียวกับข้า!’

ความคิดพวกนี้ผุดขึ้นในใจทั้งสามในเวลาเดียวกัน พวกเขาล้อมรอบป๋ายเสี่ยวเฟยไว้ ความกระตือรือร้นไม่ต่างไปจากผู้ติดตามลัทธิเห็นศาสดา

“พี่ใหญ่เฟย เรื่องชีวิตการเป็นอยู่ในอนาคตท่านให้ข้าจัดการเอง ข้าสัญญาว่าท่านจะต้องได้อยู่อย่างสุขสบายไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”

“ถูกแล้วพี่ใหญ่เฟย และข้าจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องความสะอาดภายในห้อง ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้!”

“ข้าด้วยพี่ใหญ่เฟย เพียงท่านสั่งข้าหวู่จื๋อจะอัดทุกคนที่ท่านไม่ชอบหน้าและข้าจะไม่บ่ายเบี่ยงแม้แต่น้อย!”

ทั้งสามพูดออกมาในเวลาเดียวกัน ในชั่วพริบตาพวกเขาได้ตระเตรียมอนาคตทุกอย่างให้ป๋ายเสี่ยวเฟย

“หยุด! หยุด! หยุด!!!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่อาจทนได้อีกอีกต่อไป เขาเคลื่อนที่ไปบนเตียงเพื่อหลบหนีทั้งสาม

ถึงแม้การที่เพื่อนร่วมห้องสนิทกันจะเป็นสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตามป๋ายเสี่ยวเฟยยังชาชินกับการรักษาระยะห่างกับเพื่อนผู้ชาย เพราะป๋ายเสี่ยวเฟยเป็นชายแท้...

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องการอะไร อยู่ให้ห่างจากข้าไม่งั้นข้าจะตะโกนเรียกความช่วยเหลือ”

โม่ข่าและพวกยิ้มมองหน้ากันเมื่อเห็นท่าทีของป๋ายเสี่ยวเฟย

“คุณชาย ต้องการละเล่นหรือไม่?”

“ข้าได้ทั้งรุกทั้งรับและข้ายังแข็งแรงกว่าโม่ข่า พี่ใหญ่เฟยเผื่อใจให้ข้าด้วยเถิด?”

“ข้ารุกอย่างเดียวไม่รับ แต่ข้าทำให้พี่เฟยพึงพอใจได้แน่”

ทั้งสามกัดริมฝีปากพลางเคลื่อนตัวเข้าไปกดดันป๋ายเสี่ยวเฟยจนเขาจนมุม พวกเขาราวกับถูกหยินโม๋สิงร่าง (อสูรมากกาม)

“ไอ้พวกวิกลจริต!”

“บัดซบ! ปล่อยข้า...”

“ข้ายอมแล้วพี่ชาย! พวกเจ้าทุกคนเป็นพี่ชายข้า พอใจหรือยัง!?”

พวกเขา ‘ปรนนิบัติ’ ป๋ายเสี่ยวเฟยสักพักก่อนจะแยกย้ายด้วยความพึงพอใจ โชคดีที่ร่างกายป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ได้อ่อนแอ มิเช่นนั้นเขาอาจเสียพรหมจรรย์ในวันนี้ก็เป็นได้...

“ไอ้พวกบ้า! ข้าจะจำวันนี้ไว้! หากในอนาคตมีที่ใดอันตรายข้าจะส่งพวกเจ้าไปเป็นคนแรก”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกร่นด่าสาปแช่งราวกับผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้ง

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเหตุใดทุกคนจึงไม่มองนักเชิดหุ่นสายมายาดีนัก เป็นเพราะเขาไม่ต้องอะไรจากคนพิการหากถูกเข้าประชิดกาย!

‘เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่ ข้าต้องหาหุ่นเชิดสายต่อสู้สักตัวสองตัวในอนาคต’

ป๋ายเสี่ยวเฟยตัดสินใจอีกครั้งที่จะเป็นนักเชิดหุ่นสายมายาที่ไม่มีใครเหมือน

“ฮี่ๆ พี่ใหญ่เฟยไม่ทำเช่นนั้นหรอก”

โม่ข่ากล่าวและพวกเขาทั้งสามพลันส่งสายตาเย้ายวนใส่ป๋ายเสี่ยวเฟย ทำเขาแทบอ้วกอาหารที่กินไว้ออกมา...

“ฮ่ง! ฮ่ง!”

เป็นเวลานี้เองที่เสี่ยวเอ้อวิ่งอย่างตื่นตูมเข้ามาในห้อง ข้างหลังมีเสียงฝีเท้าหลายคู่ดังตามมา

“หม้อต้มหมาอยู่ไหน!?”

“ข้าเห็นมันวิ่งเข้าห้องนั้นไป!”

“บัดซบ! ไปเอามันมา ฆ่าพวกมันทิ้งหากพวกมันปฏิเสธ!”

เสียงจากข้างนอกห้องดังเข้ามา ทั้งสี่ในห้อง 807 ไม่มีที่ให้หลบหนี

“เอาสิ่งนี้อุดจมูกทั้งสองของพวกเจ้าไว้ เมื่อข้าให้สัญญาณจงโจมตีให้แรงที่สุดเท่าที่ทำได้ ใครที่ขี้ขลาดไม่ทำตามคำสั่งลืมเรื่องใช้ชีวิตอยู่ในห้องนี้ได้เลย”

ป๋ายเสี่ยวเฟยโยนยาให้พวกเขาคนละสองเม็ดใบหน้าขึงขังจริงจัง

ทั้งสามปฏิบัติตามคำสั่งทันที ถึงแม้พวกเขาจะเกรงกลัวต่อสิ่งที่จะเกิดแต่การเคลื่อนไหวของพวกเขาไม่ช้าแม้แต่น้อย

หากต้องสวามิภักดิ์ต่ออสูรสองตน จงเลือกอสูรตนที่โหดเหี้ยมน้อยกว่า สำหรับพวกเขาการถูกอัดจนน่วมยังดีกว่าถูกป๋ายเสี่ยวเฟยทอดทิ้ง

อีกอย่างพวกเขาอาจจะไม่ใช่ฝ่ายถูกอัดก็เป็นได้ เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือนักเรียนที่สอบเข้าด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง!

นี่คือสิ่งที่ทั้งสามคิดในทันใดนั้นเองก็มีคนจำนวนแปดคนวิ่งเข้ามา ห้องที่ปกติก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนักพลันเสียพื้นที่ไปครึ่งหนึ่งทันที

“น้องชาย พวกเราวิ่งไล่หมามาถึงนี่ เจ้าช่วยไว้หน้าพวกเราแล้วส่งมันมาได้หรือไม่?”

คนที่เปิดปากพูดคือชายหนุ่มเยาว์วัยที่บึกบึนยิ่งกว่าหวู่จื๋อ พวกศิษย์ใหม่ต่างก็เพิ่งมาที่หอพักได้เพียงครึ่งวันเท่านั้น ยกเว้นป๋ายเสี่ยวเฟย ผู้ที่มีความสามารถในการรวบรวมพรรคพวกล้วนแต่เป็นผู้ที่มีรูปลักษณ์น่าหวั่นเกรงทุกคน ตัวอย่างก็คือชายหนุ่มตรงหน้า

“เสี่ยวเอ้อเป็นหุ่นเชิดของข้าเองพี่ชาย ข้าให้มันกับท่านไม่ได้!”

ป๋ายเสี่ยวเฟย กล่าวด้วยสีหน้าอ้อนวอน ความขี้ขลาดของเขามีให้เห็นอยู่ทั่วราวกับเขากำลังเกรงกลัวชายหนุ่มตรงหน้า

“อา เป็นหุ่นเชิดของเจ้าหรอกหรือ เห็นทีจะกินไม่ได้”

ชายหนุ่มหัวเราะลั่น ผู้คนข้างหลังค่อยๆ เคลื่อนตัวจัดวางตำแหน่งเตรียมพร้อมต่อสู้

“แต่น้องชาย เจ้าไม่อาจให้พวกเรามาที่นี่อย่างไร้ประโยชน์ใช่หรือไม่? เลี้ยงอาหารพวกเรามื้อนึงเป็นอย่างไร?”

ขณะที่ชายหนุ่มพูดอยู่นั้นคลื่นปราณกำเนิดก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่าง หากป๋ายเสี่ยวเฟยกล่าวปฏิเสธเขาคงพุ่งจู่โจมทันทีเป็นแน่แท้

“แค่มื้อเดียวจะไปพอได้อย่างไร? คนอย่างพวกท่านเหมาะกับงานเลี้ยงมื้อใหญ่!”

คำพูดของป๋ายเสี่ยวเฟยบ่งบอกว่าเขา ‘รู้ว่าอะไรควรมิควร’ ทำให้สีหน้าของชายหนุ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“แต่การพาคนจำนวนมากไปกินข้าวมันออกจะลำบากเล็กน้อย น้องชาย ทำไมเจ้าไม่ให้หินชิงหลัวเพื่อแสดงความเป็นมิตรกันแทน?”

ในที่สุดชายหนุ่มก็เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงที่เขามา กลุ่มนักเชิดหุ่นจะมองไม่ออกได้อย่างไรว่าเสี่ยวเอ้อเป็นหุ่นเชิด?

“มันไม่ลำบากแม้แต่น้อย ข้าสามารถเลี้ยงอาหารพวกเจ้าได้เดี๋ยวนี้เลย!!!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกล่าวมุมปากยกขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มชั่วร้ายก่อนที่จะปาลูกบอลทรงกลมในมือสองลูกลงพื้น ในวินาทีต่อมาเส้นใยสีเหลืองและขาวในรูปแบบก๊าซพลันปกคลุมไปทั่วห้อง

“โจมตี!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด