ตอนที่แล้วนักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 7
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 9

นักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 8


บทที่ 8 - การซื้อเพื่อนเล่น

มันไม่สำคัญว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ 'การหลบหนี' ของเจ้าชายที่สิบสามเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวตระกูลเย่กังวล เพราะนั่นหมายความว่ามีช่องโหว่ในการป้องกันของตระกูลพวกเขา

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้น ครอบครัวตระกูลเย่จึงเริ่มใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยรอบๆบ้านตระกูลเย่ ซึ่งนี้ก็เป็นเพียงสิ่งแปลกๆที่เริ่มจะเกิดขึ้น

นี่ไม่ใช่ส่วนที่น่าสนใจที่สุดของปัญหาทั้งหมด ส่วนที่น่าสนใจที่สุดนั้นคือช่วงเวลาที่เจ้าชายที่สิบสามได้ใช้เวลาใน 3 วันนั้นต่างหาก

ทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกนั่นช่างแสนตื่นเต้นซะจริง เมื่อเขาออกไป เขาก็ลืมในทันทีว่าเขาควรจะทำอะไรดี และเขาก็ได้เดินเตร่ไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกจากบ้าน ทุกอย่างเป็นสิ่งใหม่สำหรับเขา

โชคดีที่นี่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรและเป็นเขตพื้นที่ของชนชั้นสูง อัตราอาชญากรรมจึงอยู่ในระดับต่ำ ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นกับเจ้าชายที่สิบสาม ซึ่งกำลังเดินคนเดียวบนถนนพร้อมสวมเสื้อผ้าหรูหราเลยสักนิด

มีขุนนางน้อยมากมายเช่นเขาเดินไปรอบๆพื้นที่นี้ด้วยเช่นกัน พวกเขานั้นเดินกันเต็มถนน ซึ่งพวกเขาแทบทุกคนก็มีผู้ติดตามมาด้วย บางทีนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมคนอื่นจึงคิดว่าเขาเองก็มีผู้ติดตามมาด้วยเช่นเดียวกัน

หลังจากนั้นไม่นานนัก เจ้าชายที่สิบสามก็จำจุดประสงค์ที่เขาออกมาได้ จากนั้นเขาก็เริ่มมองไปรอบๆหาอะไรบางอย่าง? เอ้าคุณไม่รู้หรือไง? เขาจะเป็นลูกคนรวยและไปใช้เงินยังไงล่ะ!

เขาถามคนโดยรอบและก็ได้คำตอบในทันที มีสถานที่ที่ดีมากในการใช้เงินอยู่ในเมืองแห่งนี้ คนรวยทุกคนที่ไปที่นั่นล้วนแล้วแต่เป็นลูกคนรวย

ซึ่งไม่มีใครจำได้เลยว่าเจ้าชายที่สิบสามเป็นใคร ซึ่งหากมีคนจำเขาได้ล่ะก็ คนที่ไปบอกทางเขาย่อมต้องมีปัญหาใหญ่แน่

ทำไมงั้นเหรอ? หากคุณรู้ว่าสถานที่นั่นคือที่ไหน คุณจะเข้าใจเอง บางที คุณเองก็อาจต้องการไปเยือนบ้างนะ

“อาคารแห่งความรัก!” เจ้าชายที่สิบสามพูดชื่อของสถานที่ออกมาอย่างช้าๆ

“ฟุ๊บ... ..” เย่เฉิงเทียนพ่นน้ำชาที่เขาเพิ่งจะจิบในทันที

"อะไรนะ?! เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ?! อาคารแห่งความรักงั้นเหรอ?" เย่หยีและเย่เฉิงเทียนคำรามออกมาพร้อมกับใบชาที่ติดปากของพวกเขา

"ใช่!" เจ้าชายที่สิบสามพยักหน้า

“เฉิงเทียน อาคารแห่งความรักนี้คืออะไรกัน?” หลงแอนคีถามอย่างงงงวย ดูเหมือนว่าเธอไม่รู้ว่าสถานที่นี้คือที่ไหน แต่เห็นได้ชัดว่าสามีของเธอและปู่นั้นรู้

“เอ่อ…นั่นคือที่สถานที่ที่แพงที่สุดในเมืองหลวง…ซ่อง…” เย่เฉิงเทียนตอบอย่างสุภาพ

“โอ้ ซ่องสินะ ... ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าจะอาย ก็เจ้าเป็นผู้ชายนี้…อะไรนะ?! ซ่องงั้นเหรอ?” หลงแอนคีที่เพิ่งจะตระหนักได้ก็ตอบกลับไปในทันที

ซ่องเป็นวิธีการพูดแบบอ้อมๆถึงโสเภณี ว่าแต่เราจะไปยอมรับความจริงที่ว่าเด็กอายุห้าขวบเข้าไปในสถานที่เช่นนั้นได้อย่างไรกัน?

ซึ่งนี้คงเป็นเหตุผลว่าทำไมไม่มีใครพบตัวเขาเลย เพราะใครมันจะไปรู้กันว่าเขาไปอยู่ในที่แบบนั้น? ใครจะไปหาตัวเด็กอายุห้าขวบในสถานที่เช่นนั้นกัน?

“ลูกชาย บอกแม่สิว่าคนที่บอกทางลูกนั้นมีลักษณะอย่างไร? แม่จะไปฆ่ามัน!!” ใบหน้าของหลงแอนซีตอนนี้แดงแป๊ดไปด้วยความโกรธ เธอพูดออกมาอย่างโกรธมากๆ ไม่มีใครคิดว่าเธอพูดเล่นเลยสักคน

เราไม่สามารถตำหนิเธอได้หรอกนะ เพราะไอ้บ้าที่ไหนมันถึงไปแนะนำสถานที่ใช้เงินแบบนั้นกับเด็กอายุเท่านี้กันเล่า?

“เขามีตาและก็จมูก…” เจ้าชายที่สิบสามพยายามนึก น่าเสียดายที่สิ่งที่เขาอธิบายนั้น มันก็เพียงแค่บอกได้ว่าคนๆนั้นเป็นมนุษย์เท่านั้น ซึ่งนั้นทำให้ไม่สามารถบอกได้เลยนะว่าเป็นใคร!

“...”

“ช่างมันเถอะ แค่เจ้ากลับมาพ่อก็ดีใจแล้ว เขาแค่อยากใช้เงินนิดหน่อยเอง เพราะยังไงตัวลูกของเราคงไม่ต้องการไปที่แบบนั้นหรอก” เย่เฉิงเทียนพูดออกมา แต่ท่าทางของเขาตอนนี้ดูแปลกมาก

“ฮึ่มมม ข้าหวังว่าเขาคงจะไม่ไปทำอะไรแปลกๆในสถานที่นั้นหรอกนะ หรือว่าข้าจะต้องไปทำลายอาคารแห่งความรักหรือชื่ออะไรก็ตาม” หลงแอนคีพูด “ที่รัก ว่าแต่เจ้าไปทำอะไรที่นั่น? เจ้าพอจะบอกข้าได้ไหม?”

“อาหารที่นั่นอร่อยและเครื่องดื่มก็ยังดีมากด้วย แล้วยังมีเด็กผู้หญิงหลายคนที่มาเล่นเกมกับข้า ข้าต้องการไปเล่นที่นั่นอีก” เจ้าชายที่สิบสามกล่าว

ใบหน้าของหลงแอนคีในตอนนี้ยิ่งดำทมิฬขึ้นไปอีก เธอตอบกลับไปในทันที “ไม่ได้! เจ้าห้ามไปสถานที่เช่นนั่นอีกเด็ดขาด เจ้าอยากจะเป็นอาเสี่ยหรือใช้เงินที่ไหนก็ได้ แต่ห้ามเจ้าไปที่เช่นนั้นเชียว”

"ทำไมกันล่ะ? มันสนุกมากๆเลยนะ ที่นั่นสนุกมากจริงๆ"เขาพูดอย่างสับสน ซึ่งก็เป็นไปตามที่เขาพูดเลย ชายหนุ่มและชายแก่ก็เห็นด้วยกับที่เขาพูด มันสนุกกว่าอยู่บ้านจริงๆนั้นแหละ

แค๊ก แค๊ก แน่นอนว่านั้นเป็นตอนที่พวกเขายังหนุ่มๆ

"ไม่มี 'ทำไม' ทั้งนั้นแหละ แม่พูดเช่นไร เจ้าก็ควรฟังข้าเช่นนั้น"หลงแอนคีไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง ดังนั้นเธอจึงได้แต่ทำเป็นตัดสินใจเด็ดขาดไม่ให้เขาไป

"โอ้ งั้นข้าก็จะไม่ไปที่นั่นอีก ครั้งหน้าข้าจะไปหาเงินใช้ที่อื่นแทน" เจ้าชายที่สิบสามย่นจมูกและก็ตอบตกลง

ครั้งหน้างั้นเหรอ? เราจะไม่ให้เจ้ามี 'ครั้งหน้า' แน่ แล้วเราก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่คนเดียวด้วย

ที่นี่ทุกๆคนล้วนแล้วแต่มีคำถามอยู่ในหัวกัน แล้วเสือสาวผู้นี้เป็นมายังไง? สำหรับสาเหตุที่ซ่องนั้นต้อนรับเจ้าชายที่สิบสามโดยไม่มีการไต่ถามถึงสามวันนั้น พวกเขาก็พอจะรู้เหตุผลอยู่บ้างแล้ว

ในสถานที่อย่าง อาคารเริงรมย์ ตราบใดที่คุณเป็นเศรษฐี มันก็ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นชายชราหรือเด็ก จักรพรรดิหรือทาส พวกเขาปฏิบัติต่อคุณเหมือนแขกผู้มีเกียรติทั้งนั้นแหละ [เปลี่ยนชื่อเป็น อาคารเริงรมย์] รับใช้ปรนเปรออย่างเสมอภาค

ซึ่งจากที่ทราบมาจากเจ้าชายที่สิบสาม เขาบอกว่า แม่เสือสาวผู้นี้ เขาชื้อเธอมาจากการเป็นทาส....

ในระหว่างที่เขาอยู่ที่อาคารเริงรมย์ ก็ได้มีการประมูลทาสโดยบังเอิญและเด็กคนนั้นเป็นทาสคนหนึ่งที่อยู่ที่นั่น เธอได้ไปอยู่ที่นั่นเพื่อดึงดูดพวกที่มีความชอบแปลกๆ....สำหรับพวกความชอบแปลกๆนั้น เราจะไม่พูดถึงล่ะกัน

อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดนั้น เจ้าชายที่สิบสามซื้อหญิงสาวเชื้อเสือเพียงเพื่อต้องการใช้เงินของตัวเองก็เท่านั้นแหละ เพียงเพราะเขาต้องการเป็นลูกคนรวยที่ใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือยเท่านั้นแหละ หาใช่ความรัก ความสงสารหรือความเห็นอกเห็นใจเลย

จากทาสทั้งหมดที่เขาเลือกมานั้น ที่เขาเลือกเด็กสาวเผ่าเสือผู้นี้ก็เพราะอายุที่ใกล้เคียงของเจ้าตัว ยังไงเด็กก็ต้องเลือกเด็กที่มีอายุประมาณเดียวกันตามธรรมชาติอยู่แล้วนั้นแหละ!

ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือค่าใช้จ่ายของเจ้าชายที่สิบสามที่จ่ายให้กับซ่องรวมกับการชื้อหญิงสาวในซ่องด้วย แต่แทบทั้งหมดมันก็เป็นเงินของเขา รวมทั้งหมด 68,100 เหรียญทอง

นี่เป็นจำนวนเงินที่หลายคนไม่สามารถหาได้ชั่วชีวิต แต่เขาใช้มันทั้งหมดภายใน 3 วัน เขามีศักยภาพที่จะเป็นอาเสี่ยโดยแท้จริง

นี่คือเหตุผลที่อาคารเริงรมย์ไม่ได้ส่งข่าว แต่ให้เจ้าชายที่สิบสามพักและใช้เงินภายในนั้นแทน ผู้ใช้เงินมือเติบแบบนี้ยิ่งหายากอยู่

เขาใช้จ่ายเงิน 50,000 เหรียญทองในการซื้อแม่เสือสาว ซึ่งนั้นถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่มากที่สุดของเขาเลย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจริงๆแล้วพวกเขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเด็กน้อยผู้นี้แท้จริงเป็นใคร แต่เด็กผู้นี้กลับมีเงินมากมายไปแข่งประมูลเพื่อเด็กผู้หญิงคนเดียว นั่นจึงทำให้เด็กสาวผู้นี้มีราคาสูงถึง 50,000 เหรียญทอง นี่เป็นตั๋วเงินที่มีราคาสูงที่สุดของการประมูล ส่วนอันดับสองนั้นเป็นของสาวงามครึ่งเอลฟ์ที่งดงามมากโดยมีราคาอยู่ที่ 20,000 เหรียญทอง

ซึ่งแม้ว่าจะไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดก็เถอะ แต่คนที่ไปแข่งกับเจ้าชายที่สิบสามนั้นดูโกรธมาก เขาต้องการที่จะดูว่าใครกันกล้าประมูลสู้กับเขา แต่พอได้เห็นก็ได้แต่ตะลึงงัน ทุกๆคนเองก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน มันเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงโคตรๆ

นี่ไม่ใช่การซื้อให้เป็น 'คู่ขา' แต่เป็นการซื้อให้เป็นเพื่อนเล่น!

ช่างมันเถอะ เขาไม่ต้องการจะไปหาเรื่องเด็กหรอกนะ มันคงจะไม่ดีแน่หากข่าวเรื่องแบบนี้แพร่กระจายไป ดังนั้นคนผู้นี้้ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเขาเอง พูดตามตรงเลยนะ หากเขาไปสู้แก่งแย่งชิงเพื่อเด็กสาว เรื่องราวนี้คงจะแพร่ไวราวกับไฟป่า และชื่อเสียงของเขาคงจะมุดลงเหวไปเลย

อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้เลยว่าเจ้าชายที่สิบสามนั้นก็มีสถานะพิเศษอยู่ เพราะเมืองในตอนนี้กำลังโกลาหลอยู่กับการตามหาตัวเขา! พอเป็นอย่างนี้แล้ว เรื่องราวพวกนี้ก็ยังคงแพร่ออกไปอยู่ดี

หลายคนบอกคนที่ไปแข่งกับเจ้าชายที่สิบสามว่า พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเป็น 'พวกแบบนั้น' ... [โลลิคอน]

ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าจะมีคนที่ร่ำรวยประมูลแข่ง เจ้าชายที่สิบสามก็ยังคงประมูลในราคาที่สูงกว่า นี่เป็นเพราะวัตถุประสงค์ของเขาคือการใช้จ่ายเงิน เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขานำเงินมพอหรือเปล่า เพ้ย ต้องบอกว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีเงินเท่าไหร่

เหตุการณ์ 'การหายตัวไป' จึงสิ้นสุดลงอยู่ตรงนี่ เหลือเพียงเสียงร้องโหยหวนที่บอกว่าตนไม่ใช่โลลิคอนดังขึ้นอยู่ ...

แฟนเพจ:แปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด