ตอนที่แล้วเล่ม1 : บทที่ 1 – ถือกำเนิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม1 : บทที่ 3 – พลัง

เล่ม1 : บทที่ 2 – มังกร


กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 2 – มังกร

ผ่านไปร่วมห้าเดือนหลังจากที่โนอาห์ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกใบใหม่

มันเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรืออย่างน้อยก็ดูคล้ายจากสภาพแวดล้อมที่เขาเห็น คฤหาสน์ที่เขาอาศัยอยู่คล้ายคลึงกับบ้านพักตากอากาศชนบทในชีวิตก่อนหน้านี้ แต่ที่นี่มีปราสาทขนาดใหญ่ที่ทำมาจากไม้เกือบทั้งหมด มีกำแพงหินเป็นรั้วกั้นเขต

เขาอยู่ในอ้อมแขนของแม่คนใหม่ เขามองไปรอบๆ ขณะที่แม่ของเขากำลังเดินอยู่ในคฤหาสน์พลางพูดกับเขาไปด้วย เธอรู้ว่าโนอาห์สามารถเข้าใจสิ่งที่เธอพูดได้เกือบทั้งหมด

‘ภาษาของโลกนี้ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่ เพราะส่วนมากก็คล้ายๆ กับภาษาอังกฤษที่ใช้บนโลกที่แล้ว ขอบคุณลิลลี่ที่ไม่ทิ้งฉันไปไหนและพูดกับฉันอยู่ตลอดเวลา’

เวลาในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมานั้น ถูกใช้ไปกับการที่แม่อุ้มเขาเดินไปทั่วคฤหาสน์บัลวัน พร้อมกับเจออะไรก็อธิบายให้เขาฟัง ขอบคุณที่ให้เขารู้ฐานะตัวเองในตระกูลรวมถึงโครงสร้างของคฤหาสน์หลังนี้ด้วย

คฤหาสน์แบ่งออกเป็นสองเขต คือเขตนอกและเขตใน เขตในประกอบไปด้วยสี่ตึกและเป็นที่อยู่ของตระกูลหลัก เขตนอกมีสองตึก และอีกสามตึกสำหรับผู้พิทักษ์ คนรับใช้ และแขก

ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ชั้นที่หนึ่งของตึกสำหรับแขก ซึ่งถูกสงวนไว้ให้กับพวกเขาเนื่องจากเขามีเลือดเนื้อจากตระกูลหลัก และเนื่องจากลิลลี่เป็นดอกไม้ริมทางของริส

ริส หรือพ่อของโนอาห์คือบุตรชายคนที่สามของโทมัส อัครบิดรของบัลวัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในส่วนของเขตใน แต่ก็ยังมีชีวิตที่สุขสบายได้ในบริเวณของเขตนอก

“เจ้าจงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ลูกรัก ผู้คนเขตในจะมองลูกเป็นคนนอกรีต พวกเขาจะทำร้ายและรังแกลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลานชายและหลานสาวของท่านอัครบิดร”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความรู้สึกของโนอาห์ก็หนักอึ้ง

‘ฉันใช้ชีวิตอย่างไร้ซึ่งความหมายในโลกที่เต็มไปด้วยความประนีประนอม และตอนนี้ฉันได้เกิดใหม่แต่กลับถูกขอให้อดทนจากการถูกรังแกเพียงเพราะสถานะในสังคมของฉันกลายเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่มีไว้ให้ตระกูลหลักใช้ นี่ฉันจะต้องใช้ชีวิตอย่างไร้ซึ่งความหมายอีกครั้งงั้นหรือ’

ลิลลี่ยังคงพูดต่อไป แต่จิตใจของโนอาห์ล่องลอยไปไกล ขณะกำลังคิดว่าอะไรจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต

‘หากฉันเลือกอยู่ที่นี่ต่อก็คงได้ประโยชน์มากมาย เพราะดูแล้วตระกูลนี้จะร่ำรวยมาก แต่ยังไม่รู้ว่าโลกข้างนอกนั่นเป็นยังไง จึงไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะมีอะไรที่กำลังรออยู่’

โนอาห์คิดจะหนีไปจากตระกูลนี้ เขาชื่นชมในความรักและความพยายามของแม่คนใหม่ แต่ความรู้สึกนี้มันเกินกว่าคำว่ารักที่คนเป็นพ่อแม่ควรจะมี

‘ฉันเคยมีครอบครัวและมันก็ไปได้ไม่สวยเท่าไหร่นัก ครั้งนี้ฉันไม่จำเป็นต้องหาคำตอบให้ยุ่งยากว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร ต่อจากนี้ไปก็จะขอทำตามใจตัวเองเท่านั้น ไหนๆ พวกที่อยู่เขตในก็มองฉันเป็นตัวประหลาดแล้ว คงไม่เป็นอะไรหากฉันจะไปจากที่นี่จริงๆ อีกอย่าง การมีประสบการณ์มาก่อนถึงยี่สิบห้าปี และรู้จักโลกที่กว้างกว่าคงอำนวยให้ฉันออกไปจากที่นี่ได้อย่างสบาย’

ดูจากเสื้อผ้าของผู้คน โครงสร้างของคฤหาสน์ และสภาพของเฟอร์นิเจอร์แล้ว เขาก็พอเดาได้ว่าโลกใบนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ เทคโนโลยีล้าหลังไปจากโลกก่อนหน้านี้มาก

‘นี่อาจจะเป็นข้อเสีย ภาพที่คุ้นชินสำหรับฉันคือสังคมอุตสาหกรรม และความคิดของฉันก็มาจากคนในยุคศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด คิดไม่ออกเลยว่าคนที่นี่จะคิดยังไงกับบางความคิดของฉัน ต้องระวังให้ดี’

บางครั้งเขาก็คิดถึงอนาคต บางครั้งก็ฟังแม่ของเขา กลางวันผ่านไปและกลางคืนก็เข้ามาแทนที่ ลิลลี่เดินไปยังระเบียงเพื่อมองดวงดาวที่ปรากฏอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า โนอาห์ถือโอกาสนี้เรียนรู้โลกภายนอกคฤหาสน์ เลยกำแพงที่กั้นบริเวณออกไป มีทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงแกะ ถนนหินขนาดใหญ่ที่ทอดยาวออกไปจากประตูหลักของคฤหาสน์ ตัดแบ่งทุ่งหญ้าสีเขียวออกเป็นครึ่งหนึ่ง ดูเหมือนจะมีการเพาะปลูกข้าวโพดบนทุ่งหญ้าทางด้านขวา และทางด้านซ้ายมีป่าทึบที่ทำให้เขาแทบจะมองไม่เห็นสิ่งอื่นเลย

มันช่างเป็นภาพที่สวยงาม เป็นภาพที่โนอาห์ก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นบ่อยๆ และนี่คือโลกใบใหม่ของเขา จากนั้นเขาก็ทอดสายตาขึ้นไปบนท้องฟ้า และเห็นความมืดมิดที่กำลังกลืนกินก้อนเมฆสีแดงจากแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน ตอนพระอาทิตย์ขึ้นก็เหมือนกับจุดเล็กๆ ในระยะที่ไกลออกไป และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามทิศทางที่มันเคลื่อนตัวไป จากนั้นเขาก็นึกขึ้นว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ เวลากลางคืนไม่ได้ทำให้เกิดความมืด แต่กลับเป็นเงาของบางสิ่งที่เคลื่อนผ่านกลุ่มก้อนเมฆ

มันเร็วมาก และมันก็เข้ามาใกล้มากขึ้นๆ

เกิดเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ เสียงนั่นมาจากบางสิ่งที่อยู่เหนือท้องฟ้า

ร่างที่มีปีกสีดำบินผ่านก้อนเมฆในแนวทแยงมุม พุ่งตรงไปยังฝูงแกะที่อยู่ด้านนอกกำแพงคฤหาสน์

ปีกของมันยาวเจ็ดถึงแปดเมตรและมีเกล็ดสีดำ ชัดเจนว่าเกล็ดขึ้นปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย

มันบินด้วยความเร็วสูงจนโนอาห์ไม่สามารถบอกเวลาที่แน่ชัดได้หลังจากตอนที่มันโผล่ออกมาจากก้อนเมฆไปยังบริเวณที่มีฝูงแกะอยู่

จู่ๆ กำแพงก็เปล่งแสงสีม่วงออกมาและมีอักษรรูนปรากฎ มันแผดเสียงครวญครางและสีม่วงก็แพร่กระจายออกไปยังบริเวณฝูงแกะ

ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตนั่นจะถูกรบกวนไม่ให้ลงมาได้และพยายามต่อต้านด้วยการสยายปีกออก

แต่ความเร็วของมันสูงเกินไป และตกลงมาสู่พื้นตรงจุดที่มีรัศมีสีม่วงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดเป็นหลุมขนาดมหึมา

ในขณะที่แสงสีม่วงสัมผัสกับมังกร ทำให้เกิดควันโพยพุ่งออกมาจากหลุมยักษ์และตามมาด้วยเสียงคำราม เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดในช่วงเวลาสนธยา

มังกรบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้งด้วยความรวดเร็วและจ้องมองกลับมายังคฤหาสน์ด้วยดวงตาอันดุร้าย ควันยังคงลอยออกมาจากหน้าท้องของมันคล้ายจะเป็นแผลขนาดใหญ่ ชัดเจนว่ารัศมีแสงสีม่วงสามารถทำอันตรายต่อมังกรได้

มังกรที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเกลียดชังสูดหายใจเข้าและพ่นไฟคล้ายรูปหอกใส่คฤหาสน์บริเวณเขตนอก

ลิลลี่ยืนแข็งทื่อเมื่อเห็นหอกไฟพุ่งตรงมา ส่วนโนอาห์ยังคงสับสนว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่นี้คืออะไรเพื่อที่จะได้รู้ว่ามันอันตรายถึงขั้นไหนกันแน่

แต่ก่อนที่เปลวไฟจะทะลุผ่านกำแพงเขตนอกเข้ามาได้ ก็มีบุคคลๆ หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางท้องฟ้า

เขายกมือขวาขึ้นมาและพึมพำบางอย่างกับหอกไฟที่พุ่งชนบางสิ่งคล้ายกับกำแพงในอากาศ

เปลวไฟปะทะเข้ากับโล่อย่างจัง และไม่นานเปลวไฟก็ดับลง เผยให้เห็นร่างของชายคนหนึ่งที่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้าอีกครั้งหนึ่ง

เขาเป็นชายแก่ที่มีเคราสีขาวยาวถึงเอว และผมยาวที่ไม่ได้ถูกมัดรวบสยายตามลมอยู่ด้านหลัง เขาสวมชุดกิโมโนแบบจีนที่มีแขนเสื้อกว้าง ข้างขวาถูกเผาจนเกรียม เผยให้เห็นแขนผอมๆ แต่ดูแข็งแรง

เขาจ้องมองมังกร และมังกรก็จ้องเขากลับเช่นกัน

ทั้งคู่ต่างหยุดนิ่งกลางคันราวสิบวินาที ก่อนที่มังกรจะคำรามอีกครั้งและหันหนีบินขึ้นไปยังบนท้องฟ้าในทิศที่เป็นป่าทึบ

ชายแก่นิ่งไปครู่หนึ่งขณะมองไปยังทิศทางที่มังกรบินไป หลังจากมั่นใจว่าสัตว์ร้ายได้จากไปแล้ว

ลิลลี่ที่ยืนตัวแข็งด้วยความกลัวและไม่รู้ตัวว่าโอบกอดโนอาห์แน่นเกินไป

ความเจ็บปวดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขากลับมาสู่ความเป็นจริง ขณะส่งเสียงครางออกมาเบาๆ เพื่อปลุกแม่ของเขาให้ตื่นจากภวังค์

ลิลลี่ได้สติอีกครั้ง และผ่อนแรงที่กอดลูกชายในอ้อมอก จากนั้นเธอก็กำลังจะพูดบางอย่างออกมาแต่กลับถูกขัดด้วยน้ำเสียงของชายแก่ที่ทุ้มลึก

“นี่คือหลานชายคนล่าสุดของข้างั้นรึ?”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด