ตอนที่แล้วWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 6
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 8

WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 7


จ้าวหยวนมองไปที่เซียวอวี๋และจมอยู่ในความคิด ตอนนี้เขาเหลือลูกสมุนอยู่ไม่ถึง 100 คน ส่วนอีกฝ่ายยังมีนักรบออร์คอีกหลายสิบ แต่เขาก็ไม่อาจตัดใจปล่อยมือจากทรัพย์สมบัติที่สะสมมานานไปง่ายๆ สมบัติพวกนี้คือความพยายามตลอดหลายสิบปีของพวกเขา

เซียวอวี๋เมื่อเห็นว่าหัวหน้าโจรไม่มีการตอบสนองใดๆ เขาจึงขี้เกียจทนรออีกต่อไป เขาโบกมือเป็นสัญญาณให้เข้าโจมตี กรอมและพวกนักรบออร์คต่างโถมออกไปข้างหน้าทันที

เซียวอวี๋พิจารณาแล้วว่าโจรพวกนี้ล้วนไม่ใช่คู่มือของเขา นอกจากนี้เขายังจะได้รับค่าประสบการณ์มหาศาลหากว่าเขาสังหารพวกมันทั้งหมด

เหล่าโจรนั้นหวาดกลัวพวกออร์คเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นพวกมันบางส่วนจึงอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปทีละคน

จ้าวหยุนกลายเป็นตกตะลึงเมื่อพบว่าเหล่าลูกสมุนของเขาพยายามหลบหนีโดยไม่มีการต่อสู้ขัดขืนใดๆ มันเป็นความจริงที่โหดร้ายยามเมื่อต้องเผชิญกับเหล่าออร์ค แม้แต่ตัวจ้าวหยุนเองก็ยังอยากที่จะหลบหนีไปให้ไกลที่สุด แต่ขณะที่เขาขยับตัวก็มีแสงสว่างวาบขึ้นเบื้องหน้า ร่างของเขาค่อยๆแยกออกเป็นสองส่วน

แน่นอนว่าจ้าวหยุนย่อมไม่ใช่คู่มือของกรอม เขาไม่มีแม้แต่โอกาศที่จะทันชักอาวุธคู่กายเสียด้วยซ้ำ

เดิมที เซียวอวี๋วางแผนที่จะชักนำพวกมันออกจากค่ายและรุมสับสังหารพวกมันภายในป่า

แต่ภายหลังเขาก็พบว่า มนุษย์นั้นหวาดกลัวพวกออร์คมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก พวกเขาตัวสั่นเทายามเมื่อเห็นพวกออร์ค ซึ่งนั่นทำให้กำลังรบของพวกเขาลดทอนลงไปกว่าครึ่ง เหล่าโจรที่ไม่ได้รับการฝึกทางทหารต่างตกตายราวกับใบไม้ร่วง ผลลัพธ์ก็คือ ฝ่ายของเขาถล่มค่ายนี้จนย่อยยับภายในเวลาอันสั้น

มันกลับกลายเป็นว่าการคาดการณ์ของเขานั้นถูกต้อง

พวกโจรกลับกระจัดกระจายหลบหนีอย่างแตกตื่นทันทียามเมื่อเห็นหัวหน้าของพวกมันตกตายภายในหนึ่งดาบ

เซียวอวี๋สั่งการเหล่าออร์คให้ออกตามล่าและเก็บกวาดพวกโจรที่หลบหนี เขาก้าวเดินเข้าไปตามกระโจมต่างๆเพื่อเก็บกวาดสมบัติ

"นายท่าน! โปรดเมตตาด้วย ละเว้นชีวิตข้าเถิด ข้ารู้ว่าหัวหน้าเก็บซ่อนสมบัติส่วนใหญ่ไว้ที่ไหน ข้าจะนำท่านไปที่นั่น ได้โปรดละเว้นข้าด้วย!" โจรอายุเยาว์คุกเข่าลงที่เบื้องหน้าของเซียวอวี๋และร้องขอความเมตตตายามเมื่อเห็นพรรคพวกของเขาต่างหลบหนีเอาตัวรอด

"เจ้ารู้ตำแหน่งจริงงั้นหรือ?" เซียวอวี๋ย่อมไม่มีความเมตตาแก่เหล่าโจร

"ข้ารู้! ข้ารู้ทุกสิ่งเลย! ข้าจะคอยนำทางให้กับนายท่าน" ชายหนุ่มแสดงออกอย่างกระตือรือร้น เขาต้องการจะพิสูจน์ตนเอง เขาหันหลังกลับและเดินนำทางไป

เซียวอวี๋ขบคิดเล็กน้อยขณะที่เขาเดินตามโจรหนุ่มไป เขาเชื่อว่าโจรคนนี้จะไม่เล่นลูกไม้ใดๆใส่เขา และหากว่ามี กรอมที่อยู่ด้านข้างของเขาจะผ่าร่างมันให้เป็นสองส่วน!

โจรหนุ่มขนเอาทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดออกมาจากกระโจม

มีอยู่หลายอย่างที่ไม่เป็นประโยชน์กับเซียวอวี๋

โจรพวกนี้ปล้นชิงแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆแม้ว่าบางชิ้นจะไม่มีราคาค่างวดใดๆ มีความสงสารฉายอยู่บนใบหน้าของเซียวอวี๋ยามเมื่อมองดูทรัพย์สินเหล่านี้

สิ่งที่ได้รับการยอมรับจากเกมมีเพียงทองคำหรือเหรียญทองเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องเปลี่ยนสิ่งของเหล่านี้ให้กลายเป็นเหรียญทอง จากนั้นจึงค่อยเก็บเหรียญทองเข้าคลังของเขา

นั่นเป็นผลให้เซียวอวี๋ไม่สนใจในสิ่งของที่เขาไม่สามารถนำไปขายได้

โจรหนุ่มยังขนเอาเงินทองออกมามากมายเพื่อหวังจะได้รับความเมตตาจากเซียวอวี๋

เซียวอวี๋มองไปยังถุงที่หนักอึ้งเหล่านั้น เมื่อลองคาดประมาณดูแล้ว เขาคิดว่ามันควรจะมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นเหรียญ

"หืม กลับมีถึงหมื่นเหรียญ" เซียวอวี๋กลายเป็นประหลาดใจ

แต่ในตอนนี้นั้น แม้แต่หนึ่งหมื่นเหรียญทองก็ยังคงไม่เพียงพอ หัวหน้าโจรนั้นมีทรัพย์สมบัติเพียงแค่นี้หรือ? หากจริงเช่นนั้นเขาก็ยากจนเกินไปแล้ว

"มีเพียงเท่านี้?" เซียวอวี๋เอ่ยปากถามขึ้น

"แน่นอนว่าไม่ใช่ขอรับ! ยังมีสถานที่ที่หัวหน้าได้ฝังสมบัติเอาไว้อีกหลายแห่งขอรับ คนอื่นๆนั้นไม่ทราบ แต่ข้าทราบขอรับ!" โจรหนุ่มลังเลเล็กน้อย แต่เขาก็หน้าซีดเผือดเมื่อชำเลืองมองกรอม เขารีบโพร่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารู้ออกมาทันที

เซียวอวี๋ยิ้ม "นำทางไป"

โจรหนุ่มผงกศีรษะและเดินนำขึ้นเนินเขาไป

โจรหนุ่มเริ่มลงมือขุดสถานที่ที่มีเครื่องหมายแปลกประหลาดปักอยู่ทันที หลังจากนั้นประมาณสิบนาทีเขาก็อุทานขึ้นด้วยความตื่นเต้น "เจอแล้ว!"

เมื่อเซียวอวี๋มองลงไปในหลุม เขาก็พบเห็นถุงใส่เหรียญทองจำนวนมาก

"ฮ่าฮ่าฮ่า....ดีมาก ราวๆสามถึงสี่หมื่นเหรียญ เงินพวกนี้จะช่วยฉันได้อีกเยอะ" เซียวอวี๋พึมพำ

พวกเขาใส่รวมเหรียญทองทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นเซียวอวี๋ก็ออกคำสั่งให้โจรหนุ่มลงมือนับ ซึ่งมันมีทั้งหมดกว่าห้าหมื่นเหรียญเลยทีเดียว

นอกเหนือจากเหรียญทองแล้ว ค่าประสบการณ์ของเซียวอวี๋และกรอมยังเพิ่มขึ้นอีกมาก

กรอมจำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์ 10000 หน่วยในการเพิ่มระดับ ดังนั้นยังคงห่างไกลจนกว่าจะถึงจุดนั้น

ในฐานะผู้บัญชาการเหล่านักรบออร์คแล้ว เซียวอวี๋ย่อมได้รับค่าประสบการณ์เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นระดับของเขายังเพิ่มขึ้นเป็น 2 แล้ว จากการบัญชาการพวกออร์คเข้ายึดค่าย อีกทั้งค่าคุณความดีของเขายังมีถึง 200 แต้มแล้ว

เขาได้รับมันมาเพียง 10 แต้มยามเมื่อสังหารพวกโทลล์

ค่าสถานะของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว

ชื่อ : เซียวอวี๋

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

ระดับ: 2

ค่าสถานะ

ความแข็งแกร่ง: 4

ความคล่องตัว: 5

ความอดทน: 6

จิตวิญญาณ: 6

แต้มค่าสถานะที่ยังไม่ได้ใช้: 10 จุด

ทักษะ(เรียนรู้แล้ว): วินด์วอร์ค(ระดับ 1), โจมตีจุดตาย(ระดับ 1)

แต้มทักษะที่มี: 2 แต้ม

เซียวอวี๋กลายเป็นตื่นเต้นและมีความสุขอย่างมาก เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับค่าสถานะที่สามารถเพิ่มได้เองถึง 10 จุด นอกจากนี้เขายังสามารถเรียนรู้ทักษะได้อีกด้วย

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจเพิ่มค่าความแข็งแกร่ง 3 จุด ความคล่องตัว 4 จุดและความอดทนอีก 3 จุด ดังนั้นค่าสถานะทั้งสามของเขาก็จะเป็น

ความแข็งแกร่ง: 7

ความคล่องตัว: 9

ความอดทน: 9

เขารู้สึกว่าสภาพร่างกายของเขาดีขึ้นทันตา ในขณะเดียวกันเซียวอวี๋ก็รู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังค่อยๆฟื้นฟูความเหนื่อยล้าอย่างช้าๆ

เขายังเหลือแต้มทักษะอีก 2 แต้ม ดังนั้นเขาจึงลงทั้ง 2 แต้มไปกับโจมตีจุดตาย และนั่นทำให้เขามีโอกาศโจมตีอย่างรุนแรงถึง 30%

"ฮีโร่จำเป็นจะต้องทรงพลัง แต่ฉันจะทรงพลังยิ่งกว่า! 10 แต้มสถานะและแต้มทักษะอีก 2 จุด เชื่อว่าอีกไม่นาน.....ฉันจะแข็งแกร่งยิ่งกว่ากรอม! ฮ่าฮ่าฮ่า"

เซียวอวี๋ยกคิ้วขึ้นขณะที่เขามองทรัพย์สมบัติที่ปล้นมา การออกปล้นชิงเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดี อีกทั้งยังมีอนาคต! เขากำลังวางแผนที่จะยังคงมีส่วนร่วมในธุรกิจที่ไร้ต้นทุนเช่นนี้ต่อไปอีกในอนาคต

พวกโจรส่วนใหญ่ต่างถูกฆ่าตาย แต่ยังมีบางส่วนที่หลบหนีไปได้ มนุษย์เพียงคนเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในค่ายนี้ก็คือโจรหนุ่มที่เบื้องหน้า ผู้ที่ให้ความร่วมมือแก่เซียวอวี๋ เขาไม่ได้นับรวมตัวเองเข้าไปด้วยเนื่องจากว่าเขาไม่ใช่คนนอก

เซียวอวี๋วางแผนที่จะเดินทางกลับ เขามองไปที่โจรหนุ่มคนนั้นและกล่าวว่า "เช่นนั้นเจ้าเป็นใคร? ทำไมเจ้าถึงรู้ที่ซ่อนสมบัติพวกนี้?"

โจรหนุ่มรีบเอ่ยตอบทันที "ข้าได้ติดตามจ้าวหยวนมานานหลายปีแล้วขอรับ ข้ายังเป็นผู้ช่วยของเขาด้วย ดังนั้นข้าจึงรู้มากกว่าคนอื่นๆขอรับ"

"โอ้ ผู้ช่วยอันเข้มแข็งสินะ เจ้าทำอะไรบ้างในฐานะที่ปรึกษาทางทหาร?" เซียวอวี๋เริมสนใจข้อมูลนี้ขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โจรหนุ่มรีบเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว "ข้าไม่มีพรสวรรค์อะไรมากนัก แต่ข้าเชี่ยวชาญในด้านการรวบรวมข่าวสารและพิจารณาสถานการณ์ขอรับ จ้าวหยวนนั้นพึ่งพาสติปัญญาของข้า ให้ข้าคอยกำหนดกลยุทธ์"

"ข่าวสาร....เจ้ารู้ตำแหน่งที่ตั้งรังโจรกลุ่มอื่นๆอีกหรือไม่?" เซียวอวี๋ถามด้วยความใคร่รู้

"แน่นอนขอรับ! ข้ารู้! ข้านั้นคุ้นเคยกับพื้นที่แถบนี้เป็นอย่างดี มิฉะนั้นเราอาจจะไปรุกรานพวกที่ไม่ควรรุกรานก็เป็นได้ มันอาจจะทำให้กลุ่มของพวกเราตองล่มสลาย" โจรหนุ่มพยักหน้า

"เยี่ยม! เจ้ามากับข้าและคอยช่วยข้ากวาดล้างกองโจรกลุ่มอื่นๆ" เซียวอวี๋กล่าวออกมาอย่างพึงพอใจ

เดิมทีเขาคิดที่จะปลดปล่อยโจรผู้นี้ไป เขาไม่ใช่นักฆ่า เขาไม่ค่อยชื่นชอบการฆ่าฟันโดยไม่จำเป็น มันตรงกันข้ามกับธรรมชาติของเขา

ยิ่งไปกว่านั้นโจรผู้นี้ก็ไม่ได้คุกคามมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เป็นกังวลอะไร

แต่ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะมีประโยชน์ให้ใช้สอยไม่น้อย ดังนั้นจึงมีเพียงทางเดียว นั่นคือเก็บเขาเอาไว้ก่อน 50000 เหรียญทองนั้นเพียงพอสำหรับเวลานี้ แต่เขายังต้องการพวกมันมากขึ้นยิ่งกว่านี้ในอนาคต

ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องดำเนินธุรกิจที่รุ่งโรจน์และทำกำไรได้มหาศาลนี้ต่อไป! และมันจะสะดวกกว่า หากว่ามีบางคนนั้นรู้ตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งโจรผู้นี้ก็เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ

"เจ้ามีนามว่าอะไร?" เซียวอวี๋ไปที่โจรหนุ่ม

"ข้าน้อยเรียกว่า ฟ็อกซ์ ขอรับ" โจรหนุ่มรีบเอ่ยตอบ ฟ็อกซ์คิดว่าเซียวอวี๋จะปลดปล่อยเขาไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้ว

"อืม...ฟ็อกซ์ ข้ากำลังมองหาสุนัขจิ้งจอกเช่นเจ้า อย่างไรก็ตาม อย่าได้ทำให้ข้ามีโทสะ มิฉะนั้นข้าจะนำเนื้อสุนัขจิ้งจอกมาทำเป็นเนื้อย่าง!" เซียวอวี๋ช่มขู่อย่างนุ่มนวล

"ข้าไม่กล้าทำเช่นนั้นแน่ขอรับ ข้าน้อยเป็นคนขี้ขลาด ข้าย่อมไม่กล้ามีความคิดนอกลู่นอกทางเป็นแน่" สุนัขจิ้งจอกรีบกล่าวขึ้นอย่างหนักแน่น

เซียวอวี๋ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขาไม่ได้วางแผนที่จะส่งชายคนนี้เข้าสู่สนามรบอยู่แล้ว

เซียวอวี๋ไม่ได้พาฟ็อกซ์กลับไปที่เมืองกับเขาด้วย เขาไม่ต้องการให้คนอื่นๆรู้ว่าเขามีกองทัพออร์คอยู่ เขาต้องการจะปกปิดมันไปก่อน

พื้นที่ภายในเทือกเขาอัลคาเกนฉายผ่านดวงตาของฟ็อกซ์อย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านพวกมันเป็นเวลานาน พวกเขามาถึงฐานทัพแล้ว ฟ็อกซ์ถูกโยนเข้าไปในโพรง จากนั้นคนงานก็ถูกส่งลงไปคอยจับตาดูเขา

คนงานนั้นไม่ใช่นักรบ หากแต่พวกเขาย่อมไม่มีปัญหาใดๆที่จะจัดการกับมนุษย์ธรรมดาผู้หนึ่ง

ฟ็อกซ์หน้าซีดเผือดเมื่อพบว่าเขากำลังอยู่ภายในถิ่นฐานของเผ่าพันธ์ุออร์ค

เซียวอวี๋เริ่มสั่งผลิตนักรบออร์คต่อทันที เขาออกคำสั่งสร้างนักรบออร์คอีก 400 นาย

เขากำลังวางแผนที่จะสร้างโรงตีเหล็ก สร้างอาวุธและเครื่องป้องกันสำหรับนักรบออร์ค อีกทั้งยังจะอัพเกรดอุปกรณ์ของกรอมด้วย

อย่างไรก็ตาม เซียวอวี๋กลายเป็นตกตะลึงยามเมื่อทราบว่า มันยังจำเป็นต้องใช้ค่าคุณความดีถึง 300 แต้มเพื่อสร้างโรงตีเหล็ก

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าค่าคุณความดีนั้นสำคัญอย่างไร แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดระบบจึงสร้างข้อกำหนดเช่นนี้ขึ้นมา เมื่อเขาสอบถามระบบ ระบบก็ตอบกลับมาว่า ฐานทัพนั้นจำเป็นจะต้องเหมาะสมกับผู้บัญชาการ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีเพียงทรัพยากร

เซียวอวี๋ได้เพิ่มออกไปอีก 10000 เหรียญและวางแผนที่จะสร้างนักรบออร์คอีก 100 นาย

แต่เซียวอวี๋ก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง ตอนนี้เขายังอยู่ในยศพลทหาร ดังนั้นเขาจะไม่สามารถควบคุมนักรบเกินกว่า 500 นายได้! ซึ่งหากว่าเขาต้องการจะเพิ่มละก็ เขาจำเป็นที่จะต้องเลื่อนยศเสียก่อน

"ให้ตายเถอะ มันมีข้อจำกัดไปซะทุกอย่างเลย! คนอื่นๆที่ได้ไปต่างโลกพวกนั้นได้ขึ้นเป็นราชาและควบคุมกองทหารนับล้าน แล้วนี่อะไร ฉันกลับมีออร์คแค่ 500 ตน...." เซียวอวี๋กล่าวอย่างโกรธแค้น เขาลำบากแทบตายเพื่อที่จะมีเงินพอที่จะสร้างนักรบออร์ค 500 นาย แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้กลับมีเพียงการสร้างนักรบออร์คได้อีกแค่ 460 นาย เนื่องจากเขามีนักรบออร์คอยู่แล้ว 40 นาย

"ฉันต้องรวบรวมค่าคุณความดีโดยเร็วที่สุดและลงมือสร้างโรงตีเหล็ก! ฉันไม่สามารถรับมือกับกองทัพของแครี่ได้ด้วยนักรบออร์คที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากขวานเก่าๆเล่มหนึ่ง! แม้ว่าจะดูแข็งแรงแต่มันก็ไม่ใช่ดาบ ยิ่งไปกว่านั้น กองทัพของแครี่คงไม่มีทางกระจอกเหมือนกับพวกโจรก่อนหน้านี้ด้วย...."

ค่ายทหารสามารถผลิตนักรบออร์คได้ 48 นายต่อวัน ดังนั้นมันจะใช้เวลาประมาณ 10 วันในการสร้างนักรบออร์ค 460 นาย เซียวอวี๋ทราบว่าหลังจากพ้น 10 วันนี้ไปแล้ว เขาจะมีเวลาเตรียมตัวอย่างมากที่สุดก็อีกครึ่งเดือนก่อนจะต้องเผชิญหน้ากับแครี่

"ถ้าฉันมีนักรบออร์คสัก 1000 นาย มันก็ยังพอจะเข้าปะทะกันตรงๆได้อยู่ นอกซะจากว่าพวกมันจะปิดล้อมเมือง.....วิธีป้องกันเมืองที่ดีที่สุดก็คือใช้ธนู....น่าเสียดาย หากว่าฉันมีพลธนูเผ่าเอลฟ์ล่ะก็.... ไม่รู้ว่าฉันจะสามารถสร้างฐานทัพที่สองได้อีกหรือเปล่า?"

เซียวอวี๋สอบถามระบบเกี่ยวกับการสร้างฐานทัพที่สอง

ซึ่งคำตอบของระบบก็ทำให้เขาตื่นเต้น มันบอกกับเขาว่า ตราบที่เขาสามารถเลื่อนยศขึ้นเป็นรองหัวหน้าหมู่ทหารได้ล่ะก็ ถึงตอนนั้นเขาก็จะสามารถก่อสร้างฐานทัพแห่งที่สองได้

นี่เป็นข่าวดีอย่างยิ่ง การก่อสร้างฐานทัพที่สองนั่นหมายความว่า เขาสามารถสร้างทาวน์ฮอลล์และแท่นบูชาได้อีก และเขาจะได้รับฮีโร่อีกตัวฟรีๆ! นอกจากนี้เขายังสามารถใช้เงินสร้างค่ายทหารและเก็บค่าคุณความดีได้ ด้วยวิธีนี้เขาก็จะสามารถรวบรวมพลธนูได้!

"ต้องมีค่าคุณความดีเท่าไหร่ถึงจะเลื่อนยศเป็นรองหัวหน้าหมู่?" เซียวอวี๋ถามขึ้นอย่างสงสัย

"ต้องการค่าคุณความดี 1000 แต้ม" ระบบตอบกลับมา

"1000 แต้มงั้นหรือ ฉันได้รับมา 200 แต้มโดยการกำจัดค่ายโจร ถ้าจะให้ถึง 1000 ฉันต้องไปเยือนค่ายโจรอีก 5 แห่ง...." เซียวอวี๋กำลังคำนวณวิธีที่จะทำให้เขาได้รับค่าคุณความดีโดยเร็วที่สุด

ไม่ช้าเขาก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้น หลังจากที่เขาค้นพบว่าเขาสามารถสร้างฐานทัพที่สองได้หลังเลื่อนยศเป็นรองหัวหน้าหมู่ทหาร ดังนั้นเขาจะให้ความสำคัญกับการสร้างฐานทัพแห่งที่สองมากกว่าโรงตีเหล็ก

ออร์คนั้นไม่ชำนาญในการสู้รบระยะไกลเฉกเช่นพลธนูจากเผ่าอื่นๆ และตอนนี้เขายังไม่สามารถผลิตโทลล์ได้อีก เพื่อการนั้นเขาจำเป็นที่จะต้องอัพเกรดค่ายทหารเสียก่อน นอกจากนี้พวกโทลล์ยังแพงมาก เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วพลธนูย่อมถูกกว่า

สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังสร้างฐานทัพเอลฟ์ได้ก็คือ เขาจะสามารถอัญเชิญเอลฟ์สาวสวย ทิรันด้า ออกมาได้! เซียวอวี๋แทบน้ำลายไหลยามเมื่อจินตนาการถึงเรื่องนั้น

"ฉันจะต้องออกปล้นต่อไป......เพื่อเงินทองและค่าคุณความดี!" เซียวอวี๋ตัดสินใจอย่างมุ่งมั่น

--------------------------------------------------------------

ติดตามนักแปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล