ตอนที่แล้วWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 60.2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 62

WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 61


"ทิวทัศน์ของทางสายนี้ช่างงดงาม บางทีเราน่าจะลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยว เปลี่ยนเมืองไลอ้อนเป็นเมืองท่องเที่ยว พัฒนาภูเขาอัลคาเกนสำหรับนักท่องเที่ยว หรือจะใช้พวกออร์คเป็นจุดขาย จ่าย 1 เหรียญเป็นค่าเข้าชม จ่าย 2 เหรียญสำหรับสัมผัสพวกมัน 10 เหรียญก็ถ่ายรูปกับพวกมัน....ฮ่าฮ่าฮ่า...โชคลาภรออยู่ไม่ไกลแล้ว" เซียวอวี๋หยีตาลงขณะจิบไวน์จากแก้วและชมทิวทัศน์โดยรอบ

"ผู้อาวุโส ทิรันด้า พวกเจ้าไม่เหนื่อยกับการขี่ม้าเป็นเวลานานบ้างรึ? มาสิ มาดื่มกับข้า พวกเรามาเดินหมากกัน" เซียวอวี๋มองไปยังแอนโทนีดาสและทิรันด้า

"ข้าแก่แล้วจริงๆ เมื่อนายท่านปรารถนาดี เช่นนั้นข้าควรฟังคำของเขาและพักเสียบ้างแล้ว" แอนโทนีดาสใช้เทเลพอร์ต เขาหายตัวจากหลังม้าก่อนปรากฏขึ้นที่ประตูรถม้า ประตูถูกเปิดออกก่อนเขาจะเข้าไปด้านใน

เซียวอวี๋มองไปยังชายชราด้วยความขุ่นเคือง เป้าหมายของเขาคือทิรันด้า ทว่าชายคนนี้กลับเสนอตัวเข้ามาเสียก่อน

"ทิรันด้า ข้ายังไม่เคยสอนวิธีเดินหมากให้แก่เจ้า เหตุใดไม่เข้ามาเล่นสักกระดานเล่า?" เซียวอวี๋ถามออกมาอีกครั้ง พวกเขาได้ผ่านการต่อสู้มามากมาย และค่าความภักดีของทิรันด้าก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30 แล้ว แม้ว่ากรอมและเหล่าออร์คจะยังอยู่ที่ 40 และ 50 ก็ตาม แต่มันก็ดีกว่าแต่ก่อนมาก

ทิรันด้าทำหูทวนลมและยังคงนั่งบนหลังพยัคฆ์ขาวต่อไป เซียวอวี๋ไม่กล้าเซ้าซี้อีกต่อไป เขาทราบดีว่าค่าความภักดีอาจจะลดลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าหากไม่ทำให้มันลดลง เขากำลังเฝ้ารอคอยวันที่ค่าความภักดีเลื่อนขึ้นไปถึง 100

"นายท่าน ชายชราผู้นี้ต้องการเดินหมากสักกระดาน" แอนโทนีดาสคว้าแก้วไวน์ขึ้นจิบ

เซียวอวี๋มองไปที่ชายชราด้วยความโกรธแค้น เขาอยากจะเตะอีกฝ่ายออกไปจากรถม้า "เอาสิ เจ้ายังคงไม่ทราบวิธีเดินหมาก"

ไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆเป็นสินค้าที่สำคัญของการซื้อขายระหว่างจักรวรรดิเมฆาตะวันตกและอาณาจักรนี้ เซียวอวี๋ได้รับพวกมันมาเป็นจำนวนมากจากการปล้นชิงพวกโจร ขุนนางของจักรวรรดิเมฆาตะวันตกนิยมดื่มไวน์ที่ผลิตในอาณาจักร ด้วยเหตุนี้เอง ไวน์คุณภาพต่ำที่สุดที่เซียวอวี๋มีอยู่ยังตีเป็นเงินได้ขวดละร้อยเหรียญ บางชนิดมีราคาราว 1,000 เหรียญ เซียวอวี๋นำพวกมันออกมาดื่มโดยไม่สนใจใดๆ อย่างไรเสียเขาก็ได้รับมาฟรีๆ เขาไม่ทราบว่าไวน์มันแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้นเขาจึงนำพวกมันมาดื่มอย่างสบายใจ

ทิรันด้าปฏิเสธที่จะขึ้นมา ดังนั้นเซียวอวี๋และแอนโทนีดาสจึงเริ่มเดินหมาก พวกเขาว่างเป็นอย่างมาก ดังนั้นเซียวอวี๋จึงไม่กังวลว่าจะหาทางพาทิรันด้าเข้ามาภายในไม่ได้

เฒ่าแอนโทนีดาสควบคุมเกมนี้ไว้ได้อย่างรวดเร็ว แรกเริ่มเซียวอวี๋ชนะอยู่หลายตาติดต่อกัน แต่ไม่นานนักแอนโทนีดาสก็เริ่มเล่นเป็น ยิ่งนานเข้าเซียวอวี๋ยิ่งต้องใช้ความพยายามในการเอาชนะมากขึ้น

และท้ายที่สุดแล้ว เซียวอวี๋ก็แพ้มากกว่าชนะ

"เจ้าเล่นเกมขนาดนี้ได้อย่างไร?" เซียวอวี๋ได้รับคำตอบที่เรียบง่ายกลับมา "ข้าเพียงแค่เล่นมัน"

เซียวอวี๋แทบกลายเป็นบ้า "เฒ่าที่ไร้ยางอาย เจ้าดื่มไวน์ของข้า กินของว่างและเอาชนะเจ้านายขณะที่นั่งอยู่บนรถม้าหรูหราของเขา"

"โอ๊ยย แพ้อีกแล้ว" เซียวอวี๋ไม่ต้องการเล่นต่ออีก เขารื้อตัวหมากออกจากกระดาน

ในเวลาเดียวกัน ทิรันด้าก็กระโดดออกจากหลังพยัคฆ์ขาวก่อนขึ้นไปบนรถม้า อัศวินของตระกูลหวังต่างหันมาจ้องมองนาง

อัศวินทั้งหมดทราบตัวตนของนางตั้งแต่ออกจากเมืองไลอ้อน พวกออร์คนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก พวกมันสามารถวิ่งเทียบเคียงกับม้าได้

พวกออร์คสร้างความรู้สึกกดดันแก่เหล่าอัศวิน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหารชั้นยอด ทว่าพวกเขากลับไม่มีความมั่นใจที่จะสามารถเอาชนะนักรบออร์คในการประลองกันได้ อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่ต้องการจะพิสูจน์ฝีมือกับพวกออร์ค การเอาชนะออร์คได้จะทำให้พวกเขาได้รับเกียรติยศ แม้กระนั้นสายตาของพวกเขาล้วนจับจ้องไปที่ทิรันด้า ทุกคนที่ได้เห็นทิรันด้าล้วนหันไปมองนาง ความงามของนางนั้นเหนือล้ำเกินคำบรรยาย

แม้กระทั่งผู้หญิงก็ยังมองดูนางด้วยความหลงใหล

เหล่าอัศวินกลายเป็นอิจฉาตาร้อนเมื่อมองเห็นนางเข้าไปในรถม้า พวกเขาต่างก่นด่าสาปแช่งอยู่ภายในใจที่ลอร์ดไร้ยางอายกลับมีเอลฟ์ผู้คุ้มกันสาวสวย อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่อาจทราบได้ว่าพวกเขาคิดฟุ้งซ่านเกินไป เซียวอวี๋สามารถจ้องมองดอกไม้ได้ ทว่าเขากลับไม่อาจสัมผัส

"ข้าจะเล่นด้วย" ทิรันด้าเข้ามาภายใน

เซียวอวี๋ส่งสัญญาณให้จ้าวมนตราเปลี่ยนที่นั่ง แต่เขากลับพบว่าทิรันด้ามาที่ด้านข้างของเขา

"นายท่าน ท่านสามารถถอยออกไปได้หรือไม่?"

เซียวอวี๋แทบจะพ่นไฟออกจากจมูกด้วยความโกรธ เขาย้ายไปอยู่ด้านข้างและมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อชมทิวทัศน์ขณะที่ทิรันด้าและแอนโทนีดาสกำลังเดินหมาก ฝึมือในการเดินหมากของทิรันด้าสามารถเทียบได้กับจ้าวมนตรา เซียวอวี๋ไม่ได้กล่าวอะไรแต่น้ำตาเริ่มคลอหน่วยขณะจิบไวน์และชมทิวทัศน์ด้านนอกอยู่เงียบๆ

"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้? ข้าเป็นเจ้านายแท้ๆ...." เซียวอวี๋คร่ำครวญ

"หรือบางที เราควรจะไปหาพี่สะใภ้ห้าดีนะ? ลืมมันเสียเถอะ นี่เป็นช่วงเวลาที่อ่อนไหว เราไม่จำเป็นต้องไปสร้างความบาดหมางกับคนตระกูลหวังตอนนี้"

ขบวนรถของพวกเขาออกจากดินแดนของเมืองไลอ้อนและเข้าสู่พื้นที่รกร้าง พื้นที่แถบนี้ยังแห้งแล้งเสียยิ่งกว่าดินแดนของเซียวอวี๋เสียอีก เซียวอวี๋คิดว่าดินแดนผืนนี้คงไม่มีลอร์ดปกครองเนื่องจากสภาพพื้นที่ที่เลวร้าย

เขาเริ่มที่จะมองหาสิ่งมีชีวิตในพื้นที่รกร้าง เขายังจำประสบการณ์บนรถไฟระหว่างเดินทางไปทิเบตได้ดี ตอนนั้นแม้ว่าจะเดินทางอยู่ครึ่งค่อนวัน ทว่าเขากลับไม่พบสิ่งมีชีวิตใดเลย ไม่นานพวกเขาก็ผ่านบึง เส้นทางนี้ถูกขนาบข้างไปด้วยบึงโคลน อย่างไรก็ตาม บางครั้งเขายังพบเห็นปลากระโดดขึ้นมาและดำหายไป ยังมีจระเข้ที่กำลังว่ายน้ำ เซียวอวี๋ต้องการพวกมันมาทำเป็นมื้อเย็น พวกเขาจะได้ลิ้มรสชาติอันโอชะของมัน

"อสูรหนึ่ง ไปจับจระเข้มา" เซียวอวี๋ชะโงกหน้าออกไปสั่งการ

เสียงอสูรหนึ่งคำรามดังขึ้นทันทีที่ได้ยินคำสั่งของเซียวอวี๋ เขาวิ่งลงไปในหนองน้ำนั้นทันที เซียวอวี๋ตะโกนออกมา "กลับมาา! ใครบอกให้เจ้าลงไปในบึงเพื่อจับจระเข้? เจ้าว่ายเป็นรึ? ล่อมันออกมา!" อสูรหนึ่งเกาศีรษะขณะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง วาจาของเซียวอวี๋ก็ดูจะสมเหตุสมผลดีอยู่

ผ่านไปครู่หนึ่ง อสูรหนึ่งคว้าก้อนหินขึ้นมาและขว้างไปยังจระเข้ที่ว่ายน้ำอยู่ในบึง จระเข้กลายเป็นดุร้ายและว่ายตรงมายังฝั่ง อสูรหนึ่งหัวเราะออกมาขณะรีบวิ่งไปจับจระเข้

"ดี คว้าที่ปากและทำให้มันงับไม่ได้ซะ" เซียวอวี๋คอยชี้แนะอยู่ด้านหลัง

อสูรหนึ่งและจระเข้พัวพันกันอยู่ริมน้ำ จระเข้พยายามใช้ปากงับเข้าใส่มัน อสูรหนึ่งเองก็หลบหลีก สุดท้ายอสูรหนึ่งก็คว้าจับไปที่ขากรรไกรของมันและออกแรงหัก

"เยี่ยมมาก! คืนนี้เราจะมีเนื้อจระเข้กินกันแล้ว!" เซียวอวี๋หัวเราะออกมา อสูรหนึ่งยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าการฆ่าจระเข้ช่างสนุกนัก เขาขว้างจระเข้ไปไว้บนรถม้าอีกคันก่อนออกล่าตัวอื่น ออร์คตัวอื่นๆเมื่อเห็นดังนั้นก็วิ่งไปไล่ฆ่าจระเข้เช่นกัน การเดินทางในครั้งนี้น่าเบื่อสำหรับพวกมัน และการสังหารจระเข้ก็ดูเหมือนจะสร้างความสนุกให้กับพวกมันได้ ขบวนรถไม่ได้เคลื่อนตัวด้วยความเร็วมากนักจากสภาพของถนน ดังนั้นพวกออร์คจึงสามารถฆ่าจระเข้และขนไปไว้บนรถม้าอีกคันได้

เล่าอัศวินของตระกูลหวังกลายเป็นตื่นตะลึงจนแข็งค้างยามเห็นพวกออร์คสังหารจระเข้ด้วยกำลังอันเหลือล้น พวกมันเองก็สามารถสังหารจระเข้ได้เช่นกัน ทว่าพวกมันยังต้องพึ่งพาอาวุธ อย่างไรก็ตาม พวกออร์คเพียงใช้มือเปล่าในการฉีกขากรรไกของจระเข้ซึ่งดูป่าเถื่อนอย่างมาก การงับของจระเข้นั้นสามารถงับจนเหล็กกล้าหักงอได้

พวกออร์คสังหารจระเข้ไปหลายสิบตัว และโยนพวกมันไปยังรถม้าที่ขนเสบียง

ในเวลาเดียวกันนั้นเองก็มีเสียงดังสะท้อนจากด้านหน้าขบวน เซียวอวี่ชะโงกหน้าออกมาดูและพบว่ามีแจ็คคัลตัวใหญ่กำลังวิ่งไล่ตามลูกสุนัขสีแดงอยู่ เห็นได้ชัดว่าลูกสุนัขได้รับบาดเจ็บขณะที่มันวิ่งกะโผลกกะเผลก แจ็คคัลตัวนั้นพบเห็นเหล่าทหารม้าจึงรีบหนีไปด้วยความกลัว อย่างไรก็ตามลูกสุนัขตัวนั้นยังคงวิ่งมาและสะดุดล้มลงที่เบื้องหน้าของทหารม้า เซียวอวี๋ไม่คุ้นเคยกับเส้นไปยังตระกูลหวัง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะให้กองทหารม้านำทางอยู่ที่หน้าขบวน

"บัดซบ! ลูกหมาตัวนี้กลับกล้าที่จะขวางทางเดินของตระกูลหวัง" อัศวินกล่าวออกมาขณะชักดาบออกจากฝักเพื่อจะสังหารลูกสุนัข

เซียวอวี๋ขมวดคิ้วก่อนจะตะโกน "หยุดมือ!"

อัศวินคนนั้นหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำสั่งของเซียวอวี๋ เซียวอวี๋ได้ผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเพาะสร้างรัศมีและกลิ่นอายฆ่าฟันขึ้นมา อัศวินรู้สึกตกตะลึงขณะสัมผัสจิตสังหารจากเซียวอวี๋ แม้ว่าจะขุ่นเคืองแต่ในขณะเดียวกันเขาก็อับอายเนื่องจากถูกหยุดยั้งจากเสียงตะโกนของเซียวอวี๋ เขาแค่นเสียงขณะยังคงเหวี่ยงดาบออกไป ทว่าลูกสุนัขตัวนั้นกลับมุดรอดท้องม้าด้วยความคล่องแคล่ว ดาบของอัศวินจึงสัมผัสได้เพียงอากาศธาตุ

"เจ้าไม่ได้ยินคำข้าสั่งหรือ?" เซียวอวี๋ตะโกนออกมาด้วยโทสะ เขาโบกมือขึ้น กรอมและเหล่าออร์คต่างเข้าไปรุมล้อมและคว้าจับอัศวินนายนั้นคุกเข่าลง

"เกิดอะไรขึ้น?" พ่อบ้านโม่ลงม้าจากรถม้าของเขา เขาขมวดคิ้วขณะจ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้าด้วยความโกรธ การกระทำของเซียวอวี๋เป็นการไม่ไว้หน้าตระกูลหวัง และเขาจำเป็นต้องกระทำบางอย่างบ้างแล้ว

เซียวอวี๋ก้าวออกมาจากรถม้าและจ้องมองไปยังพ่อบ้านโม่ "อัศวินของเจ้ากำลังจะฆ่าลูกหมาที่ไม่มีทางสู้ ช่างยอดเยี่ยมนัก!"

เซียวอวี๋อุ้มลูกสุนัขนั้นขึ้นมา มันตะเกียดตะกายมุดอ้อมอกของเซียวอวี๋และใช้ลิ้นเลียมือของเขา จากนั้นมันหันกลับไปมองอัศวินคนนั้นและหอนออกมา อย่างไรก็ตามเสียงของมันกลับไม่คล้ายสุนัขเลย

เซียวอวี๋ไม่ได้รอพ่อบ้านโม่ตอบกลับ เขาหันหลังและกลับเข้าไปในรถม้า

พวกออร์คปล่อยอัศวินคนนั้นไปขณะที่มองอย่างท้าทายไปยังอัศวินคนอื่นๆ พวกมันทำท่าหักคอจระเข้เพื่อล้อเลียน อัศวินคนนั้นพบว่าแผ่นหลังของเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็น เขารู้สึกกดดันอย่างมากยามถูกจับกุมจากพวกออร์คที่สูงราวกับขุนเขา....................

--------------------------------------------------------

ติดตามได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล