ตอนที่แล้วWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 47
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 49

WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 48


ผู้คนกระทำทุกสิ่งอย่างเมื่อตกอยู่ในความบ้าคลั่ง แคร์รี่เองก็อยู่ในสถานะนี้เช่นกัน

บิดาของเขามีบัตรชายอยู่สามคนและเขาคือคนสุดท้อง ทว่าเขากลับได้รับความเอ็นดูมากที่สุด ความเชื่อใจมากที่สุด และแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาบุตรทั้งสาม เขาอยู่ในตัวเลือกแรกที่จะเป็นผู้สืบทอดดินแดนต่อจากบิดา ทว่าจากความล้มเหลวครั้งล่าสุดของเขาแล้ว พี่ชายทั้งสองจึงใช้โอกาศนั้นกล่าวโจมตีชื่อเสียงของเขาต่อหน้าบิดา พวกเขาต่างต้องการแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอด

บิดาของแคร์รี่ก็โกรธกับการกระทำของเขาเช่นกัน เขาคิดว่าบุตรชายคนเล็กนั้นไร้ความสามารถที่ไม่อาจจัดการกับหัวเมืองที่อ่อนแอเช่นเมืองไลอ้อนด้วยทหารกว่า 5,000 นายได้ ซึ่งแคร์รี่ได้กล่าวอ้อนวอนบิดาอย่างสุดความสามารถ มิฉะนั้นเขาคงโดนลงโทษไปเนิ่นนานแล้ว นอกจากนั้นเขายังหยิบยกเรื่องการมีตัวตนของพวกออร์คมาบรรเทาโทสะของบิดา ด้วยเหตุนั้นเอง สุดท้ายบิดาก็ยอมมอบกำลังทหาร 20,000 นายให้เขานำมาโจมตีเมืองไลอ้อนอีกครา

ทว่าเป้าหมายในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงโจมตีเมืองไลอ้อน แต่ยังเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของไพร่พลอีกด้วย พวกเขากำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และบิดาของแคร์รี่ก็วางแผนที่จะขยับขยายดินแดนในช่วงเวลาที่วุ่นวายนี้เอง

บิดาของแคร์รี่ไม่เคยคิดฝันเอาไว้เลยว่า บุตรชายของเขาจะล้มเหลวในการยึดครองเมืองไลอ้อนด้วยทหารจำนวนมากขนาดนี้ได้

บางทีผลลัพธ์ก็อาจจะไม่เปลี่ยแปลง ต่อให้เป็นแม่ทัพที่มากประสบการณ์นำทัพมาด้วยตนเองก็ตาม ซึ่งในครั้งนี้ผู้นำทัพก็คือ แคร์รี่ ผู้ซึ่งแบกรับความกดดันของความรับผิดชอบเอาไว้บนบ่า

แต่แคร์รี่ไม่มีทางเลือกให้ถอยอีกแล้วจากการสูญเสียไพร่พลกว่า 6,000 นายจาก 20,000 นายทั้งทียังไม่แม้แต่จะสามารถยึดกำแพงของเมืองไลอ้อนได้ เขาทราบดีว่าจะไม่มีผู้ใดกล่าวว่าเซียวอวี๋นั้นแข็งแกร่ง แต่พวกเขาจะกล่าวว่าแคร์รี่นั้นเป็นผู้ที่ไร้ความสามารถ แคร์รี่จึงจำต้องพิสูจน์ให้ผู้คนประจักษ์ เขาต้องตีชิงเมืองไลอ้อน ยึดเครื่องจู่โจม และจับกุมเหล่าออร์คและเอลฟ์เป็นเชลย เช่นนัั้นบางทีโทสะของบิดาอาจจะบรรเทาลงได้บ้าง

ดังนั้นแคร์รี่จำเป็นต้องทุ่มแทงจนหมดหน้าตักเพื่อที่จะยึดเมืองไลอ้อนให้จงได้ เขายังคงมีไพร่พลเหลืออยู่ 15,000 นาย และหากว่าเขาไม่สามารถเอาชัยได้ด้วยกลยุทธ์แล้วล่ะก็ เช่นนั้นเขาก็จะใช้กำลังทหารที่เหนือกว่าอย่างมากเพื่อบุกทะลวงการป้องกันของเมืองไลอ้อน

เขาเห็นว่ากลยุทธ์ล้อมตีเมืองโดยใช้ทัพทหารเกราะหนักนั้นใช้การไม่ได้ สิ่งเดียวที่เขายังคงได้เปรียบอยู่ในตอนนี้ก็คือ จำนวน

"ข้าไม่เชื่อว่าพวกออร์คมันจะคงกระพัน! ข้าจะใช้กำลังพลที่มากกว่าถึง 10 เท่าในการบดขยี้เมืองไลอ้อน!"

แคร์รี่กวาดสายตาผ่านกองทัพของเขา

"จงเตรียมตัวให้พร้อม! หน่วยทหารเกราะหนัก หน่วยทหารเกราะเบา ผู้ใช้มนตรา พลหน้าไม้ ผู้ฝึกยุทธ์ และทุกๆคนที่เหลือจะต้องบุกโจมตีเมืองไลอ้อน! ผู้ใดที่ถอยหนีจะต้องตาย! หากตีชิงเมืองมาไม่ได้ พวกเราก็จะตกตายอยู่ที่นี่!" ผู็ใช้มนตราใช้เวทย์เพื่อถ่ายทอดเสียงของแคร์รี่ออกไปทั่วทั้งค่าย

"ข้าจะต้องเป็นผู้ชนะ! เข่นฆ่าพวกออร์คสวะเหล่านั้นซะ! จับกุมพวกเอลฟ์ลงมา ฉุดคร่าผู้หญิงมาเล่นสนุก! พวกเจ้ามีทางเลือกเดียวคือบุกไปข้างหน้า! สังหารทุกชีวิตที่ขัดขวางการเข้าสู่เมืองไลอ้อนของพวกเรา! ทุกคนจะมีอิสระในการปล้นฆ่าและกวาดต้อนผู้หญิงอย่างเต็มที่เป็นเวลาสามวันสามคืน! พวกเจ้าจะได้รับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดตราบใดที่พวกเราสามารถบุกทะลวงเข้าไปในเมืองไลอ้อนได้!"

แคร์รี่ยืนอยู่บนรถม้าขณะที่กล่าวถ้อยคำและชักดึงดาบออกมา

"ฆ่ามัน~!!!"

มีไพร่พลบางรายที่ยังติดใจเรื่องสถานการณ์อยู่ ทว่าพวกมันก็ทราบดีว่าข้อได้เปรียบของกองทัพฝ่ายมันก็คือ จำนวน พวกมันคิดว่าจะสามารถตีฝ่าแนวป้องกันเข้าไปได้ พวกมันจะฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางของพวกมัน!

ในการรบลักษณะนี้ เมื่อศัตรูปิดล้อมเมืองเอาไว้ ขวัญกำลังใจของฝั่งที่ป้องกันก็จะลดลงในทันทีที่ศัตรูสามารถบุกเข้าไปในเมือง

ดังนั้นเหล่าทหารของแคร์รี่จึงตระหนักดีว่าสิ่งที่พกมันต้องกระทำก็คือ การบุกเข้าเมือง หลังจากนั้นพวกมันก็จะได้รับทั้ง ชื่อเสียง ความมั่งคั่ง ทาส และทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ!

เซียวอวี๋หรี่ตาลงขณะที่เขายืนขึ้นพึมพำ "แคร์รี่ทุ่มกำลังออกมาแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีทางให้ถอยแล้วสินะ มันกลับไม่ใช้กลยุทธ์และหวังพึ่งพาเพียงจำนวนเพื่อเข้าโจมตี....อืม....นี่เป็นปัญหาทีเดียว"

ท้ายที่สุดแล้ว เซียวอวี๋ก็ไม่ได้มีกำลังคนจำนวนมากอยู่ในมือ ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังของหัวหน้าทหารฮุ่ยยังหวังพึ่งพาไม่ได้ เขาพบว่ามันยากอย่างมากที่จะใช้กำลังเพียง 1,000 ในการเอาชนะกองทัพของศัตรูที่มีมากกว่าถึง 10 เท่า

เซียวอวี๋ต้องการที่จะพึ่งพากลยุทธ์เพื่อเอาชนะศึกครั้งนี้ ทว่าด้วยความจนตรอกของแคร์รี่แล้ว เซียวอวี๋จึงจำต้องคิดให้รอบคอบ

"อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยังมีความตั้งใจ" เซียวอวี๋วางแก้วที่อยู่ในมือลง เขาทราบว่ามันถึงเวลาที่เหล่าออร์คจะได้ลงสนามรบแล้ว

"ฆ่ามัน~~~" กองทัพของแคร์รี่ตะโกนโห่ร้องขณะโถมเข้าหาตัวเมือง

"ข่มพวกมันหน่อยซิ" เซียวอวี๋ออกคำสั่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรบก็คือ สภาวะ เขาจำต้องเพิ่มความฮึกเหิมแก่ไพร่พลฝั่งตนเองบ้างแล้ว

ฮ๊ากกกกกกกกกก!

ออร์คทั้ง 500 ตนต่างแหกปากคำรามขึ้นในเวลาเดียวกัน ราวกับว่ามีหมาป่านับหมื่นตัวกำลังส่งเสียงหอนออกมา

ผู้คนที่อยู่ภายในเมืองไลอ้อนกลายเป็นหูเอื้อไปเสียเฉยๆจากเสียงคำรามอันทรงพลังของพวกออร์ค

"เครื่องยิงทำลาย โจมตีได้" เซียวอวี๋นับคำนวณระยะห่างภายในใจ เขาต้องจัดการกับเครื่องยิงหินของอีกฝ่าย

วูบบบบบบ~~

กลุ่มก้อนหินถูกส่งลอยออกไป กรีดฝ่าท้องฟ้า และล่วงหล่น

ปึงงงงง ปึงงงงงง

ผู้คนที่ตกอยู่ในการครอบคลุมของกลุ่มหินล้วนถูกฆ่าตายเกือบหมด มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่รอดมาได้

"เล็งไปที่เครื่องยิงหินที่อยู่ทางซ้าย เครื่องทำลายทั้ง 5 เล็งและยิงได้!" เซียวอวี๋มองเห็นศัตรูแบ่งเครื่องยิงหินออกเป็นสองทัพ ซึ่งระยะห่างระหว่างพวกมันก็มีมาก ดังนั้นเขาจึงสั่งให้เครื่องยิงทำลาย 5 เครื่องโจมตีไปที่จุดเดียว แม้ว่าจะมี 4 ที่พลาดไปอย่างน้อยอีกหนึ่งก็ต้องเข้าเป้า

ปุบบบบ

หินล่วงหล่นลงมาและบดขยี้ทั้งเครื่องยิงหินและพลทหารที่ประจำการอยู่

"กลุ่มที่สอง! เล็งและยิงไปที่เครื่องยิงหินฝั่งขวา! โจมตีได้!" เซียวอวี๋ออกคำสั่งขึ้นมาอีกครั้ง

ปึงงงงง

การโจมตีนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการทุบทำลายเครื่องยิงหินไปอีกเครื่อง อีกฝ่ายยังคงเหลืออยู่เกือบ 10 เครื่อง แม้ว่าเขาจะทำลายไป 2 แล้วก็ตาม เหล่าไพร่พลเร่งความเร็วในการผลักดันเครื่องยิงหินขึ้นทันที เซียวอวี๋ตระหนักดีว่า เมื่อพวกมันเข้าสู่ระยะที่สามารถโจมตีพวกเขาได้แล้วล่ะก็ เช่นนั้นมันจะก่อเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อพวกออร์ค หรือกระทั่งพลเดินเท้าก็ตาม

"สี่เครื่องจู่โจม! เล็งไปที่เครื่องยิงหิน 2 เครื่องทางด้านขวา! ยิงได้!" เซียวอวี๋สั่งการต่อทันที

เขามีเครื่องจู่โจมอยู่ 10 เครื่อง 6 เครื่องได้เฝ้าคุมเชิงอยู่ที่ประตูเมือง ขณะที่อีก 4 นั้นอยู่บนกำแพงเมืองกับเขา

ทั้งเครื่องยิงทำลายและเครื่องจู่โจมต่างสำแดงอานุภาพได้มากขึ้นยามเมื่อใช้โจมตีจากบนกำแพง

ชี่~ ชี่~

ใบมีดทั้งสี่ถูกยิงออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงแหวกฝ่าอากาศของพวกมันดังขึ้นตามมา

ปึงงงงง

หนึ่งนั้นเข้าปะทะกับตัวเครื่องยิงหินและตัดทำลายมันลง ส่วนอีก 3 นั้นพลาดเป้าไป

ความแม่นยำของเครื่องจู่โจมในการโจมตีระยะไกลนั้นไม่ค่อยแม่นยำมากนัก ทว่าเซียวอวี๋ได้ใช้พวกมันถึง 4 เครื่อง ดังนั้นจึงมีอยู่ 1 เครื่องที่บรรลุเป้าหมาย

ซึ่งหากว่าเขามีเครื่องจู่โจมอยู่เพียง 1 เครื่อง เช่นนั้นมันอาจต้องใช้เวลานานในการกวาดทำลายเครื่องยิงหินนั้น นอกจากนี้ใบมีดที่ถูกยิงออกไปยังไม่เพียงทำลายเครื่องยิงหิน ทว่าไพร่พลที่อยู่ใกล้ๆต่างพลอยโดนมันตัดผ่าร่างด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้ก็ส่งผลกระทบกับขวัญกำลังใจของศัตรูโดยตรง

ไพร่พลฝั่งศัตรูบางส่วนได้เข้าประชิดกำแพงเมืองและประตูเมืองแล้ว ขณะที่บางส่วนยังคงผลักดันเครื่องยิงหินไปข้างหน้า

พลธนูเริ่มระดมยิง ขณะที่พวกออร์คจัดเรียงเครื่องจู่โจมที่ประตูอีกครั้ง พวกมันเตรียมตัวสำหรับรอรับแขกเรียบร้อยแล้ว.......