ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0631 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0633 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0632 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 632 : แกะสลักโทเทม

ฉินหยุนได้รับโทเทมมังกรมาจากบิดาของตน ฉินหลง

เขายังได้แกะสลักโทเทมมังกรลงบนวิญญาณยุทธ์ตนเอง กระนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เรียนรู้วิชายุทธ์โทเทมมังกร

มีแต่โทเทมมังกรผสานรวมเข้ากับวิญญาณยุทธ์โดยธรรมชาติ มันจึงทำให้ผู้ถือครองสามารถรู้และเข้าใจวิชายุทธ์โทเทม

“เฉียวเฟิง เจ้ามีสายเลือดมังกรหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“มี!” หลงเฉียวเฟิงพยักหน้ารับ “ข้าคือบุตรหลานตระกูลหลง และข้ายังมีวิญญาณยุทธ์มังกร มรดกสายเลือดมังกรของข้า เป็นสิ่งที่ได้รับแต่กำเนิด!”

“เฉียวเฟิง เจ้ากล่าวก่อนหน้า ว่าระหว่างต่อสู้กับหลงควงหัง มันใช้วิชายุทธ์ที่แกร่งกล้า ที่เผยออกนั่นคือมังกร นั่นคือวิชายุทธ์โทเทมหรือไม่?” ฉินหยุนถามอีกครั้ง

“ไม่ใช่ นั่นเป็นเคล็ดวิชาลับมังกรสวรรค์ ตระกูลหลงของเราครอบครองเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ที่แกร่งกล้าไว้จำนวนมาก!”

ใบหน้าของหลงเฉียวเฟิงอดไม่ได้ที่จะเผยอาการโกรธเคืองยามพูดกล่าวถึงเรื่องนี้ “ข้าย่อมเป็นผู้ที่มีฝีมือและพรสวรรค์เหนือล้ำ กระนั้นพวกมันกลับไม่ส่งถ่ายอะไรแก่ข้า! เพราะกฎภายในของตระกูล วิชายุทธ์ที่ล้ำค่าไม่อาจส่งมอบให้แก่สตรี!”

“เฉียวเฟิง ในตระกูลหลงของเจ้า ศิษย์ที่ได้ครอบครองโทเทมมังกร วิญญาณยุทธ์มังกรบริสุทธิ์ รวมถึงสายเลือดมังกรมีมากหรือไม่?” ฉินหยุนมองที่หลงเฉียวเฟิง ทั้งยังเอ่ยถามอย่างจริงจัง

หลงเฉียวเฟิงคิดอย่างถี่ถ้วน นางส่ายศีรษะตอบ “น้อยมาก ในความทรงจำข้า ไม่คิดว่าจะมีอะไรเช่นนั้นผ่านตามาก่อน! นั่นก็เพราะศิษย์หลายคนของตระกูลหลง ครอบครองแต่วิญญาณยุทธ์มังกรลูกผสม เหมือนอย่างหลงควงหัง”

“โดยเฉพาะบรรดาศิษย์ที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมโทเทมมังกร แม้ยังพอมีบ้าง แต่ไม่นานพวกเขาก็ตายจาก” หลงเฉียวเฟิงขมวดคิ้ว “ในประวัติศาสตร์ตระกูลหลง ศิษย์ที่ถือกำเนิดพร้อมโทเทมมังกร มักมีชีวิตไม่ยืนยาว!”

“เพราะอะไรกัน?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวชวนแปลกประหลาด

“เพราะพวกนั้นอวดดีจนเกินไป ก่อร่างสร้างปัญหาไปทั่ว แส่หาความตายมาสู่ตนเอง ทั้งยังมีความเป็นไปได้มาก ที่พวกเขาจะถูกตำหนักโทเทมของแดนอสูรอ้างว้างจับตัวไป” หลงเฉียวเฟิงกล่าว

“เฉียวเฟิง ข้ามีโทเทมมังกร และข้าสามารถแกะสลักมันที่วิญญาณยุทธ์เจ้าได้ แต่เจ้าต้องให้สัญญาแก่ข้า หากเจ้ารู้และเข้าใจวิชายุทธ์โทเทมมังกร เจ้าต้องหาทางสอนมันให้แก่ข้า!” ฉินหยุนกล่าวออกอย่างจริงจัง

หลงเฉียวเฟิงเหม่อมองอย่างไม่อาจเชื่อ

“หากเป็นไปได้ ข้าคิดอยากเริ่มลงมือเสียเดี๋ยวนี้!” ฉินหยุนนำเอาปากกาลึกล้ำสะท้อนจิตออกมา “ข้าต้องการวิชายุทธ์โทเทมมังกรจากเจ้า!”

เมื่อหลงเฉียวเฟิงได้เห็นสีหน้าตั้งใจของฉินหยุน นางยิ่งตื่นตะลึงที่ภายใน กระนั้น นางก็เร่งรีบสงบใจและพยักหน้ารับ

“ได้ ข้าให้สัญญา!” หลงเฉียวเฟิงถอนหายใจ “ข้าย่อมต้องได้รู้และเข้าใจวิชายุทธ์โทเทม!”

ฉินหยุนถือปากกาลึกล้ำสะท้อนจิตในมือพร้อมกล่าว “นอนราบลงที่บนเตียง ผ่อนคลายทั้งร่าง!”

หลงเฉียวเฟิงนอนบนเตียงของฉินหยุน นางทำตามดังฉินหยุนกล่าว นี่ถือเป็นนางเผยความเชื่อใจต่อฉินหยุนอย่างถึงที่สุดแล้ว

ฉินหยุนเลิกชายเสื้อของนางขึ้น เผยซึ่งหน้าท้องนวลเนียนทว่าเจือจางด้วยกล้ามเนื้ออันงดงาม

เขากดลงที่หน้าท้องของหลงเฉียวเฟิง มันทั้งลื่นและละเอียดอ่อน “ข้าคิดเริ่มแล้ว ผ่อนคลายให้มากที่สุด!”

“ได้! ข้าจะให้ความร่วมมืออย่างดี!” หลงเฉียวเฟิงพยักหน้ารับ

ฉินหยุนใช้ปากกาลึกล้ำสะท้อนจิต ที่ซึ่งมีจารึกวิญญาณราชันสัตว์ เกิดขึ้นเป็นพลังอันมีเอกลักษณ์ ก่อนจะเริ่มแกะสลักโทเทม

เขาใช้หนึ่งในวิธีการที่มีของเคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณเพื่อแกะสลัก มันแตกต่างจากขั้นตอนการสร้างยันต์

แกะสลักอักขระและโทเทมที่วิญญาณยุทธ์ มันต้องการความเชี่ยวชาญหลายสิ่งอย่าง ไม่เช่นนั้น คิดสำเร็จกล่าวได้ว่ายากเย็นดังปีนป่ายขึ้นสวรรค์

อย่างแรก เขาต้องมั่นใจว่าสามารถสร้างความวิจิตรระดับสูงล้ำ มีแต่ความสามารถระดับนั้นจึงทำให้โทเทมและวิญญาณยุทธ์ผสานเข้าด้วยกันได้

ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องมีการควบคุมพลังอย่างดีเยี่ยม เพื่อคงสภาพการแกะสลักโทเทมลงบนวิญญาณยุทธ์

ฉินหยุนมีทั้งสอง ก่อนหน้า เขายังได้แกะสลักโทเทมราชสีห์สวรรค์ลงที่วิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคีของตนเอง

“อาจต้องใช้เวลาสองถึงสามวัน!” ฉินหยุนขมวดคิ้วกล่าว

“นั่นไม่นานนัก” หลงเฉียวเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ฉินหยุน เจ้ามีความสามารถเพียงนี้ เจ้าคืออาจารย์ขัดเกลาวิญญาณหรือ?”

“กล่าวเช่นนั้นก็ได้!” ฉินหยุนเพียงยิ้มตอบ

“เหมือนว่าเจ้ามีวิญญาณยุทธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งในครอบครอง!” หลงเฉียวเฟิงกล่าว ภายในของนางต้องลอบตื่นตระหนก

เดิม นางเพียงต้องการให้ฉินหยุนทดลองแกะสลักอักขระและโทเทมลงบนวิญญาณยุทธ์นางดูว่าได้หรือไม่ นั่นก็เพื่อนางจะได้แข็งแกร่งขึ้น

ผู้ใดกันจะทราบ ว่าฉินหยุนแท้จริงเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว?

สามวันผ่านไปเร็วราวพลิกหน้ากระดาษ ฉินหยุนได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของขั้นตอนแกะสลักอักขระโทเทมมังกร ลงบนวิญญาณยุทธ์มังกรของหลงเฉียวเฟิงแล้ว

ชั่วขณะเวลานี้ ประตูห้องของเขาพลันเปิดออกโดยคนผู้หนึ่ง!

บุคคลที่เข้ามาสวมใส่ชุดสีดำพร้อมหน้ากากขาว เป็นปิงชิง!

แม้หน้ากากปิงชิงไม่มีรูใดเผยซึ่งภายใต้ใบหน้า มันกลับพิเศษยิ่ง ราวกับนางสามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่างได้กระช่างชัด

นางได้เห็นหลงเฉียวเฟิงนอนบนเตียงฉินหยุน เสื้อผ้าเลิกขึ้นเผยหน้าท้อง

ทางด้านฉินหยุน เขาถือปากกาไว้มือหนึ่ง ขณะที่อีกมือหนึ่งวางลงที่หน้าท้องหลงเฉียวเฟิง เขากำลังวาดอะไรบางอย่างอยู่

ฉินหยุนไม่คาดคิด ว่าปิงชิงจะอุกอาจบุกเข้ามาพื้นที่ส่วนตัวเช่นนี้ เป็นนางตื่นเต้นยินดีจนลืมตัว

สาเหตุก็เพราะ เม็ดยาที่ฉินหยุนมอบให้แก่นางทำงานได้ด้วยดี นางจึงเร่งรีบมาพบฉินหยุน

“เฉียวเฟิง ผ่อนคลาย!” ฉินหยุนเร่งรีบตะโกน

ปิงชิงเดิมคิด ว่าฉินหยุนและหลงเฉียวเฟิงไม่ถูกกัน เป็นนางไม่คาดคิด ว่าพวกเขาทั้งสองจะคุ้นเคยกันเพียงนี้ นางที่ปรากฏตัวจึงคิดเห็นเป็นอื่นในคราแรก

หลงเฉียวเฟิงเคยพบกองกำลังชุดดำมาก่อน ย่อมทราบว่าบุคคลสวมใส่หน้ากากผู้นี้ คือหัวหน้ากองกำลังชุดดำ

“ท่านช่วยปิดประตู!” ฉินหยุนตะโกนบอกปิงชิง

ปิงชิงปิดประตู ก้าวเดินมาที่เตียงนอน

หลงเฉียวเฟิงที่สบายใจแล้ว นางค่อยผ่อนคลาย เป็นนางคิด ว่าฉินหยุนและบุคคลหน้ากากขาวมีความแค้นกันใหญ่หลวงในคราแรก

นางไม่คาดคิด ว่าบุคคลหน้ากากขาวจะถึงขั้นมาพบตัวฉินหยุน

ทราบกันว่าหัวหน้ากองกำลังชุดดำ บุคคลหน้ากากขาวได้สังหารฉินหยุนในเขตแดนจินตภาพหลายครั้งครา เป็นอีกฝ่ายสังหารฉินหยุนจนถึงขั้นเขาไม่กล้าออกไปเดินเล่นที่ภายนอก

เรื่องราวที่เห็น ทำให้ผู้คนคิดว่าฉินหยุนและหัวหน้ากองกำลังหน้ากากขาวมีความอาฆาตต่อกัน

กระนั้นตอนนี้ เรื่องราวกลับไม่คล้ายเป็นเช่นนั้น

“เจ้าทำอะไรอยู่? แกะสลักอักขระลงบนวิญญาณ?” นางไม่คิด ว่าฉินหยุนจะถึงขั้นทราบเคล็ดวิชาด้านนี้

“ใช่!” ฉินหยุนรับคำ

“อย่างนั้นข้าไม่รบกวนพวกเจ้าแล้ว ไว้ข้ามาใหม่!” จากนั้นนางจึงออกจากห้องไป

ฉินหยุนทราบ ว่าปิงชิงประสบความสำเร็จในเม็ดยา เพราะเหตุนั้นนางจึงเร่งรีบมา

ปิงชิงออกไปแล้ว หลงเฉียวเฟิงเผยเสียงตื่นตระหนก “ฉินหยุน เจ้าและหัวหน้ากองกำลังชุดดำคล้ายมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไม่น้อย!”

“ก็ไม่แย่ พวกเราสู้กันหลายครั้งครา ทำให้คุ้นเคยต่อกันผ่านการต่อสู้!” ฉินหยุนยิ้มตอบ

หลงเฉียวเฟิงหลับตา นางพยายามสัมผัสถึงโทเทมมังกรที่ฉินหยุนแกะสลัก

“เกือบจะเสร็จแล้ว!” เขาไม่ได้หลับตาพักเลยตลอดช่วงสามวันและคืนมานี้

เขาไม่คาดคิด ว่าแกะสลักโทเทมให้ผู้อื่นจะเหนื่อยล้ามากมายถึงเพียงนี้

ก่อนหน้า ครั้งที่เขาแกะสลักอักขระโทเทมราชสีห์สวรรค์แก่วิญญาณยุทธ์ตนเอง เขาไม่ได้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณด้วยซ้ำ ทว่าเรื่องราวกลับไม่ยากเย็นเช่นตอนนี้

เวลานี้เขาอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้น และพลังจิตยังเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล กระนั้นเมื่อแกะสลักอักขระโทเทมมังกรแก่ผู้อื่น มันราวกับเขาต้องจ่ายด้วยครึ่งชีวิตก็ไม่ปาน

โชคยังดี เป็นเขาครอบครองจารึกวิญญาณราชันสัตว์ หากไม่มีมัน เขาคงไม่ทราบแล้วว่าต้องใช้เวลาเพียงใดกว่าจะสำเร็จได้

“เรียบร้อยแล้ว!” ฉินหยุนในที่สุดค่อยทำเสร็จ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะนั่งนิ่งกับพื้น

“ลำบากเจ้าแล้ว!”

หลงเฉียวเฟิงกล่าวคำจบ นางพลันรู้สึกได้ถึงพลังงานรุนแรงอัดแน่นภายในกายอย่างกะทันหัน เป็นผลให้ร่างของนางเผยคลื่นพลังงานออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า

นางเร่งรีบลุกขึ้น พยุงฉินหยุนลงนอนที่เตียง เช่นนี้เขาจะได้พักผ่อน

นางนั่งที่ปลายเตียง คิดพยายามปรับสภาพพลังงานในกาย

ฉินหยุนหลับไปเรียบร้อยแล้ว

หลงเฉียวเฟิงมองที่อีกฝ่าย อดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกนับถือขึ้นมา นางทราบว่าฉินหยุนทุ่มเทพลังไปมาก

ฉินหยุนหลับตลอดทั้งวันก่อนจะตื่นขึ้น เขาได้เห็นหลงเฉียวเฟิงยังนั่งอยู่ในห้อง นางกำลังทำความคุ้นเคยกับอักขระโทเทม

“หลังจากได้รับอักขระโทเทมมังกร พละกำลังข้าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล กระทั่งผู้ฝึกตนระดับใกล้เคียงเช่นฮัวซือเยวี่ยและเทียนเหยาเหล่ย ยังไม่มีทางใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”

หลงเฉียวเฟิงทราบว่าฉินหยุนตื่นแล้ว นางจึงเร่งรีบยืนขึ้น

“เจ้าลองไปสู้กับเจี้ยนรั่วหยานดู!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว “เจี้ยนรั่วหยานผู้โหดเหี้ยมนั่น ถือว่าแกร่งกล้าที่สุดในเขตแดนจินตภาพแล้ว พลังจิตของนางก็แข็งแกร่งไม่แพ้ผู้ใด เจ้าเพียงระวังไม่กี่เรื่อง บางทีอาจเอาชนะนางได้!”

ภายในใจหลงเฉียวเฟิงค่อนข้างตื่นเต้นยินดี นางหัวเราะรับ “ได้ ข้าคิดไปหานางเสียเดี๋ยวนี้! เจี้ยนรั่วหยานมักเอาแต่เหยียดหยันต่อข้ามาโดยตลอด!”

“เฉียวเฟิง จุดอ่อนของเจ้าคือไม่อยากทานทนรับความยากลำบาก บางครั้ง เจ้าต้องทุกข์ทนยอมรับมันเพื่อแข็งแกร่งขึ้น! หากเจ้าคิดอยากประลองกับเจี้ยนรั่วหยาน อย่าได้หวาดกลัวความเจ็บปวด หากเจ้าสู้กับนางหลายครั้งเข้า เจ้าย่อมต้องชนะได้แน่!” ฉินหยุนยืดเอวพลางกล่าว “ข้าคิดไปเมืองซือหลงแล้ว!”

“ให้ข้าไปด้วยหรือไม่?” หลงเฉียวเฟิงเอ่ยถาม

“ไม่ต้อง ข้าชอบลงมือเพียงลำพัง!” ฉินหยุนหัวเราะกล่าว “เร่งรีบกลับเข้าเขตแดนจินตภาพ สังหารเจี้ยนรั่วหยาน เอาชนะนางให้ได้!”

หลงเฉียวเฟิงแทบอดใจรอไม่ไหว ที่จะไปท้าประลองต่อเจี้ยนรั่วหยาน ดังนั้นนางจึงเร่งรีบจากไป

หลงเฉียวเฟิงเพิ่งออกไป ปิงชิงจึงเข้ามา

“พี่สาวปิงชิง ท่านถึงกับมาดักรออยู่แต่แรก!” ฉินหยุนหัวเราะ

“เจ้าแกะสลักอักขระอันใดให้แก่นางกัน?” ปิงชิงถอดหน้ากากออก ด้วยใบหน้างดงามเย็นเยือกของนาง ยิ่งทำให้นางเป็นตัวตนโหดเหี้ยมไร้ปรานี ช่างขัดแย้งกับคำว่าเซียนสาวยิ่งนัก

“โทเทมมังกร!” ฉินหยุนกล่าว “นางมีวิญญาณยุทธ์และสายเลือดมังกร ที่นางขาดก็เพียงแต่โทเทมมังกร หากไม่มีอะไรผิดพลาด นางอาจถึงขั้นฝึกฝนร่างมังกรลึกล้ำได้!”

ปิงชิงครวญครางดัง “ข้าไม่คิดว่าในช่วงชีวิตนี้ เจ้าจะดูแลสตรีอื่นดีเพียงนี้ ไม่เพียงแต่ไม่คดโกงต่อนาง เจ้ายังช่วยเหลือนาง ทั้งยังไม่คิดฉวยโอกาสต่อเรือนร่าง!”

“ข้าได้ยินมา ว่าสาวงามมากมายต่างมีสัมพันธ์อันดีกับเจ้า!”

ฉินหยุนลอบตระหนก เพราะคำกล่าวของปิงชิง มันเจือปนด้วยความอิจฉา

“พี่สาวปิงชิง ข้ายอมรับ ว่าบางครั้งวิธีการของข้าออกจะโฉดชั่วไปบ้าง แต่หากผู้อื่นดีต่อข้า ข้าย่อมดีต่อพวกเขา! หลงเฉียวเฟิงช่วยเหลือข้า ดังนั้นข้าย่อมช่วยเหลือนาง!” ฉินหยุนกล่าว

“อย่างนั้นเทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลันเล่า?” ปิงชิงเอ่ยถาม

“พวกนางเป็นพี่สาวใหญ่และพี่สาวรองของข้า และพวกนางยังได้ร่วมแบ่งปันทุกข์กับข้า! ดังนั้นพวกนางจึงเป็นคนที่ข้าเชื่อใจ!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว “พี่สาวปิงชิง บอกต่อท่านตามตรง ยังมีสาวงามอีกมากที่มีสัมพันธ์อันดีกับข้า!”

“เหอะ!” ภายในใจปิงชิงบังเกิดอารมณ์ซับซ้อนขณะคร่ำครวญ

“เม็ดยานั่นเป็นอย่างไรบ้างขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ดีเยี่ยมนัก! หากข้าได้มันเดือนละหนึ่งเม็ด มันจะช่วยข้าได้อย่างมหาศาล” ปิงชิงกล่าว “ข้าย่อมไม่คิดรับเม็ดยานั่นจากเจ้าโดยเปล่า เจ้ามอบเงื่อนไขมา และนั่นต้องเป็นสิ่งที่ข้าทำได้!”

“ยังมีอีกเรื่อง ข้าไม่อาจออกจากพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ ดังนั้นอย่าได้ขอให้ข้าไปที่อื่นเพื่อช่วยเหลือเจ้า เรื่องนี้ไม่อาจทำได้!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด