ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0628 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0630 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0629 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 629 : ตัวตนของสตรีหน้ากากขาว

สตรีหน้ากากขาวมีโทสะ นางโบกสะบัดมือ ขณะที่เกือบจะตบถึงใบหน้า นางพลันเก็บมือลง

“พวกเราไม่มีอะไรให้พูดคุยกันแล้ว ข้าจะไปจากนครเซียนยุทธภัณฑ์เดี๋ยวนี้ ข้าจะไปยังเกาะจันทราปีศาจ ที่นั่นดีกว่าที่นี่เป็นไหน ไม่เพียงแต่จะมีปีศาจสาวงดงาม ยังจะมีแต่คนใจดีไม่ลวงหลอกต่อข้า!” ฉินหยุนยิ้มประชดตอบต่ออีกฝ่าย

“เจ้าจะไปไหนไม่ได้!” สตรีหน้ากากขาวตะโกนด้วยโทสะ

“มีอะไรจงพูดไป ข้าจะไป!” ฉินหยุนกล่าวจบ จึงเดินไปยังประตู

สตรีหน้ากากขาวคว้าชายเสื้อเขาเอาไว้ เสียงเย็นเยือกกล่าวออก “ข้าให้เจ้าเข้าถึงต้นกำเนิดเซียน อย่างนี้พอใจหรือยัง?”

“ข้าย่อมไม่เชื่อ!” ฉินหยุนกล่าว “ท่านโกหกต่อข้าหลายครั้งแล้ว!”

สตรีหน้ากากขาวไม่กล่าวคำใด นางคว้าฉินหยุนไว้ เปิดประตูห้องลับเดินออกมา พร้อมลากฉินหยุนมุ่งหน้าไปยังตำหนักที่ยอดเขา

แม้เปาเฉิงโฉ่วได้เห็นทุกสิ่งอย่าง กระนั้นเขาไม่อาจทำอะไรได้ เป็นเขาหวาดกลัวต่อสตรีชุดขาว

สตรีชุดขาวบินไปพร้อมฉินหยุน มุ่งหน้าสู่ส่วนลึกของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ มาถึงที่คฤหาสน์หินสีขาวหลังใหญ่มหึมา

“หากเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าก็จะพาเจ้าไปเดี๋ยวนี้!” สตรีหน้ากากขาวกล่าวคำ เปิดประตูคฤหาสน์หิน นำฉินหยุนสู่ภายใน

ที่นี่ไม่มีผู้คนอื่นใด หมายความถึงมีแต่สตรีหน้ากากขาวที่สามารถเข้าถึงที่นี่

ฉินหยุนที่มาถึงคฤหาสน์หินหลังใหญ่ เขาพบว่ามันคุ้นเคยยิ่ง มันมีสระน้ำสีขาว คล้ายคลึงกับที่เขาพบเจอในพื้นที่ต้องห้ามภายในเขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์

“นี่คือเขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์?”

ฉินหยุนได้เห็นต้นกำเนิดเซียน มันเป็นสระน้ำที่ทอประกายเอาพลังงานเซียนออกมาไม่หยุดหย่อน

“ไม่ใช่! ที่นี่คือโลกจริง! สระเซียนในเขตแดนจินตภาพเอาไว้ใช้เพียงแค่ฝึกฝนพลังจิต” สตรีหน้ากากขาวกล่าว “ทีนี้เจ้าจะเชื่อได้หรือยัง?”

“อย่างนั้นก่อนหน้านี้ทำไมจึงต้องโกหกต่อข้า?” ฉินหยุนสบถเบา “ท่านมันสตรีจิตผิดเพี้ยน!”

“แต่สุดท้ายข้าก็รักษาสัญญา!” สตรีหน้ากากขาวเอ่ยเสียงเย็น

“อย่างนั้นบรรทมเซียนตะวันจันทราเล่า?” ฉินหยุนถามขึ้น “ท่านบอกว่าจะให้ข้าได้ใช้มัน!”

สตรีหน้ากากขาวคว้าร่างฉินหยุนโยนไปที่สระน้ำ จากนั้นนางค่อยดำน้ำตามลงมา

หลังดำดิ่ง ฉินหยุนจึงได้เห็นกลุ่มก้อนพลังงานทรงกลมสีขาวขนาดใหญ่ยักษ์

“ต้นกำเนิดเซียนนี้ยอดเยี่ยมนัก ขนาดยังใหญ่มากด้วย!” หลิงหยุนเอ๋ออุทาน “กระทั่งเป็นแดนเซียนอ้างว้าง ต้นกำเนิดเซียนระดับนี้ ถือว่าเป็นระดับชั้นแนวหน้า!”

สตรีหน้ากากขาวนำฉินหยุนเข้าสู่ภายในบอลพลังงานสีขาว

ภายในเป็นห้องสีขาว กว้างใหญ่ และเงียบงัน มันอัดแน่นไปด้วยพลังงานเซียน

ที่ตรงกลางห้อง มันมีเตียงขนาดใหญ่กำลังทอประกายแสงสีเงินและสีทอง

ฉินหยุนก้าวเดินเข้าไป พบว่ามีโทเทมตะวันและจันทราระดับลึกล้ำแกะสลักเอาไว้ ทั้งยังมีอักขระตะวันและจันทราจำนวนนับไม่ถ้วน

ฉินหยุนจึงทราบ ว่านี่คือบรรทมเซียนตะวันจันทรา

ที่เขาไม่ทราบ คือสตรีหน้ากากขาวกำลังคิดอันใดอยู่ ก่อนหน้านี้ลวงหลอกต่อเขา กระนั้นครานี้กลับนำตัวเขามาที่นี่

หากได้พูดกล่าวถึงสตรีหน้ากากขาว เขาคงต้องบอกว่านางเป็นสตรีจิตผิดเพี้ยน ไม่เช่นนั้น นางคงไม่ก่อหลายเรื่องราวจนเรื่องบานปลายเพียงนี้

“ข้าให้เจ้าฝึกฝนที่นี่ได้ แต่มีข้อจำกัด ระหว่างที่ข้าฝึกฝนที่นี่ เจ้าจะเข้ามาไม่ได้!” สตรีหน้ากากขาวกล่าว

“หากท่านเก็บตัวฝึกฝนสักหลายร้อยปี ข้าจะได้สิทธิ์มาเพื่ออะไร?” ฉินหยุนมองที่นางด้วยสายตาคิดจับผิด

“กระทั่งว่าข้าให้เจ้าได้ฝึกฝนที่นี่ตลอด เจ้าก็ไม่อาจเพิ่มพูนอะไรได้มาก เพราะด้วยระดับการฝึกฝนของเจ้าตอนนี้ คิดเปลี่ยนแปลงพลังงานเซียนเป็นพลังงานที่ใช้ได้ถือเป็นเรื่องยาก”

“และการใช้บรรทมเซียนตะวันจันทรา เจ้าจำเป็นต้องปล่อยพลังงานเซียนออกจากร่างอย่างต่อเนื่อง!”

“เจ้าไม่อาจดูดกลืนพลังจากสระเซียน ดังนั้นจึงไม่อาจใช้บรรทมเซียนตะวันจันทรา!” สตรีหน้ากากขาวกล่าว

“ข้าใช้มันได้!” แม้ฉินหยุนไม่ทราบวิธีใช้ เขายังสามารถติดต่อหาเซี่ยฉีโหรว เพื่อขอทราบถึงวิธีใช้ต้นกำเนิดเซียนเพื่อฝึกฝนร่างเซียน

“เจ้าอยู่ที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน! ใช้สระเซียนนี้ดูดกลืนพลังจากต้นกำเนิดเซียนเสีย ข้าจะเข้าไปใช้บรรทมเซียนตะวันจันทรา!” สตรีหน้ากากขาวกล่าว

ฉินหยุนผ่านม่านแสง ก่อนจะแหวกว่ายไปยังด้านข้างของสระ

หลังยืนยันได้แล้วว่าสตรีหน้ากากขาวจะไม่กลับมา เขาจึงนำแผนที่หลุมฝังเซียนออกมา หยดเลือดลงไป

“เสี่ยวหยุน เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” น้ำเสียงอ่อนโยนของเซี่ยฉีโหรวดังขึ้น

“พี่สาว ข้ามีโอกาสได้ใช้ต้นกำเนิดเซียนแล้ว!” ฉินหยุนกล่าวด้วยความยินดี

“จริงหรือ? วิเศษนัก ทำตามคำแนะนำของข้า จดจำบทร่ายเอาไว้ ใช้พวกมันร่วมกับวิญญาณเทวะเก้าตะวันเพื่อดูดกลืนพลังงานเซียน เจ้าจะได้ควบแน่นพลังงานเซียนอันพิเศษขึ้นมา มันจะช่วยให้เจ้าฝึกฝนร่างเซียนได้!”

“แต่มันเพียงช่วยเจ้าฝึกฝนร่างเซียน อย่าได้คิดใช้ทำอื่นใด ไม่เช่นนั้นจะมีแต่อันตรายรอเจ้าอยู่!” เซี่ยฉีโหรวกล่าว

ถัดจากนั้น เซี่ยฉีโหรวจึงท่องบทร่ายให้ฉินหยุนได้รับฟัง

หลังจดจำได้ ฉินหยุนจึงฟังคำอธิบายจากเซี่ยฉีโหรว ทำให้เข้าใจภาพรวมโดยคร่าว

“ภายในระยะเวลาสิบปี เจ้าจะฝึกฝนร่างเซียนขึ้นมาได้! ข้าคิดว่าเจ้าสมควรต้องใช้เวลาร้อยปีเพื่อเข้าถึงต้นกำเนิดเซียนเสียอีก!”

“พี่สาว เมื่อใดเสี่ยวเม่ยเหลียนจะมาพบข้าได้? ข้าคิดถึงนางยิ่งนัก!” ฉินหยุนกล่าว

“นางกำลังยุ่งกับการฝึกฝนอยู่! เมื่อใดนางมีเวลา ย่อมไปพบเจ้าอย่างแน่นอน!” เซี่ยฉีโหรวหัวเราะรับ

ฉินหยุนและเซี่ยฉีโหรวยังได้พูดคุยกันอีกหลายเรื่องเป็นเวลานานไม่น้อย ก่อนจะค่อยตัดการติดต่อ หลังบอกลาเรียบร้อย เขาจึงเร่งรีบเก็บแผนที่หลุมฝังเซียน

“ลองดูเลยแล้วกัน!”

ฉินหยุนนั่งที่ข้างสระเซียน เขาหลับตาลงเพื่อดูดกลืนพลังงานเซียนอันมหาศาลเข้าสู่ร่างกาย โดยอาศัยวิญญาณเทวะเก้าตะวันผ่านบทร่ายที่เซี่ยฉีโหรวมอบให้ไว้

หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “พี่สาวของเจ้าผู้นี้ สมควรทราบเคล็ดวิชาลับพิเศษบางอย่างที่ใช้งานร่วมกับวิญญาณเทวะเก้าตะวัน นางคงเป็นกังวลว่าการฝึกฝนเจ้าจะเกิดแตกซ่าน ดังนั้นจึงไม่เคยบอกต่อเจ้า!”

ฉินหยุนเวลานี้กำลังใช้งานวิญญาณเทวะเก้าตะวัน โดยอาศัยผ่านบทร่ายอัศจรรย์ที่ได้รับมา

พลังงานเซียนถูกแปรเปลี่ยน สู่พลังงานอบอุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นจึงเริ่มถ่ายเทและโคจรสู่ภายในร่าง

เวลานี้เอง พลังงานสีทองอ่อนจางเริ่มหลุดลอยออกจากร่างของเขา

โดยไม่รู้ตัว เขาฝึกฝนผ่านไปแล้วหลายวัน

เมื่อตื่นขึ้น เขาจึงได้เห็นสตรีหน้ากากขาวยืนอยู่ตรงหน้า

“นี่เจ้าทำได้อย่างไร? เจ้าถึงขั้นสามารถขัดเกลาพลังเซียนเก้าวิวัฒน์!” สตรีหน้ากากขาวเผยเสียงที่อัดแน่นด้วยความตื่นเต้นและตื่นตะลึง

“เรื่องนี้... เป็นความลับ! ข้าไม่คิดพูด!” ฉินหยุนไม่สามารถบอกถึงเรื่องที่ครอบครองวิญญาณเทวะเก้าตะวันได้ และสตรีหน้ากากขาวย่อมไม่มีทางตระหนักรู้ด้วยตนเองได้อย่างแน่นอน

น้ำเสียงของสตรีหน้ากากขาวแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง “ฉินหยุน ความจริงที่เจ้าควบแน่นพลังเซียนเก้าวิวัฒน์ไม่อาจหลุดสู่ภายนอก นี่เจ้าคิดขัดเกลาร่างเซียนใช่หรือไม่?”

ฉินหยุนพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยถาม “ท่านบอกข้าเรื่องพลังเซียนเก้าวิวัฒน์ได้หรือไม่?”

“นี่เจ้าไม่ทราบ?” สตรีหน้ากากขาวเผยน้ำเสียงตื่นตะลึง

ฉินหยุนไม่ทราบควรตอบอะไร เซี่ยฉีโหรวไม่ได้บอกรายละเอียดใดแก่เขา

“อย่างนั้นเจ้าก็ไม่ต้องรู้ไปสักพัก!”

สตรีหน้ากากขาวครุ่นคิด และตัดสินใจไม่บอกต่อฉินหยุน

ฉินหยุนไม่ยินดี “ท่านถอดหน้ากากออกได้หรือไม่?”

“ไม่!” สตรีหน้ากากขาวปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

นางสวมใส่หน้ากาก ดังนั้นน้ำเสียงจึงแปรเปลี่ยน คิดได้ยินเสียงแท้จริงของนางย่อมเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้ฉินหยุนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก

นอกจากนี้ หน้ากากนั่นยังแปลกประหลาดยิ่ง กระทั่งว่าเป็นสีขาว มันกลับไม่มีรูใดปรากฏ ไม่มีทั้งดวงตา หรือริมฝีปาก ดูไปแล้วชวนอึดอัดยิ่ง

“พลังเซียนเก้าวิวัฒน์มีประโยชน์กับท่านหรือ?” ฉินหยุนพลันถามขึ้น

“มันมีประโยชน์แก่ข้าอย่างมหาศาล ทว่าข้าไม่อาจฝึกฝน และเจ้าคงไม่บอกต่อข้า!” สตรีหน้ากากขาวกล่าว

“ถอดหน้ากากท่านออก แล้วข้าจะช่วยหาทางทำให้ท่านได้รับพลังเซียนเก้าวิวัฒน์!” ฉินหยุนพลันตัดสินใจขึ้นมา

“เจ้าคิดหลอกข้าหรือ?” สตรีหน้ากากขาวเอ่ยถาม

“หากข้าหลอกท่าน เช่นนั้นท่านก็เพียงห้ามข้าเข้ามายังที่แห่งนี้!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว “เช่นกัน ข้าไม่ใช่คนไร้ยางอายเช่นท่าน!”

“เจ้าจึงเป็นคนไร้ยางอาย!” สตรีหน้ากากขาวถอนหายใจดัง “เจ้าจะทำอย่างไรให้ข้าได้รับพลังเซียนเก้าวิวัฒน์?”

ฉินหยุนคิดอยู่ครู่ก่อนจะกล่าว “ข้าไม่อาจสอนถึงเคล็ดวิชาต่อท่าน อันที่จริง กระทั่งส่งต่อให้ท่านไป ท่านก็ไม่อาจฝึกฝนมันได้ มันจำเป็นต้องใช้สิ่งของพิเศษ”

สตรีหน้ากากขาวไม่ถามลงลึก เพราะนางทราบว่าในโลกใบนี้มีหลายสิ่งอย่างที่ลึกลับคงอยู่

ฉินหยุนย่อมต้องได้พบสิ่งนั้นเข้า เพราะเหตุนั้นเขาจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็วมหาศาล

“ย่อมได้ หากเจ้าไม่อาจทำให้ข้าได้รับพลังเซียนเก้าวิวัฒน์ อย่าได้คิดว่าจะเข้าถึงสถานที่แห่งนี้อีก!” สตรีหน้ากากขาวกล่าวย้ำเตือน

“ข้าอาจต้องขอความร่วมมือด้วย หากท่านไม่ยอมรับ นั่นถือเป็นปัญหาของท่านเองแล้ว!” ฉินหยุนกล่าวตอบ

“อย่าได้ห่วง ข้าย่อมต้องร่วมมือแน่!” สตรีหน้ากากขาวกล่าวคำ

ฉินหยุนคิดอยากได้เห็นถึงความลับที่สตรีหน้ากากขาวซุกซ่อนเอาไว้ เขากล่าวเร่ง “เร่งรีบถอดหน้ากากท่านออก!”

สตรีหน้ากากขาวไม่ได้ถอดหน้ากากออกโดยทันที กลับกัน นางเริ่มไตร่ตรอง

“ฉินหยุน จากที่ข้าทราบ เจ้าย่อมต้องไม่ใช่บุคคลที่ยอมเสียเปรียบ นอกจากนี้ เจ้ายังเกลียดชังข้า เจ้าจะทำให้ข้าได้มีโอกาสฝึกฝนพลังเซียนเก้าวิวัฒน์จริงอย่างนั้นหรือ?” สตรีหน้ากากขาวเอ่ยถาม

“เป็นเพราะข้าอยู่ที่นี่มานานยิ่ง หากคืนดีกับท่านได้ นั่นก็มีแต่ช่วยให้พวกเราก้าวหน้าได้ด้วยดี!” ฉินหยุนยิ้มตอบ “แม้ท่านเป็นหญิงเถื่อน แต่เมื่อใดท่านไม่เกิดอาการ ก็ยังนับว่าเป็นคนที่พูดรู้เรื่อง!”

สตรีหน้ากากขาวคิดไปอีกพักหนึ่งจึงกล่าว “อย่าได้คิดหลอกลวงต่อข้า หากสำเร็จได้จริง ข้าจะยอมลืมข้อพิพาทก่อนหน้า และถือว่าชดใช้ต่อกันเรียบร้อยแล้ว!”

“ก่อนหน้านี้เจ้าเอาชนะศิษย์ของหยิงเฉิงอวี้ ปกป้องบรรทมเซียนตะวันจันทราเอาไว้ ข้าย่อมทราบคุณงามความดีที่เจ้าทำ ไม่เช่นนั้น จากที่เจ้าได้ทำกับข้า ข้าคงไม่มีทางปล่อยให้เจ้ารอดไปได้!”

“จริงหรือ?” ฉินหยุนรู้สึกหนาวเหน็บในใจ เขากล่าวถามพลางหัวเราะเฝื่อนรับ

“ข้าย่อมเป็นสตรีใจกว้าง พร้อมกันนี้ ข้ายังพร้อมโหดเหี้ยมและไร้เมตตา!” สตรีหน้ากากขาวหัวเราะเสียงเย็น

“รีบถอดหน้ากากท่านออกแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว “หากพวกเราต้องเชื่อใจต่อกัน อย่างนั้นก็ต้องได้เห็นหน้ากันก่อน!”

สตรีหน้ากากขาวเผยเสียงถอนหายใจยาว ก่อนจะเคลื่อนมือเชื่องช้าปลดหน้ากาก

ฉินหยุนเผยสีหน้าคาดหวัง

สตรีหน้ากากขาวถอดหน้ากากของนางออก รวมถึงชุดคลุมสีดำ เผยซึ่งชุดกระโปรงสีขาวงดงามดังหิมะ

ฉินหยุนพอได้เห็นใบหน้าของนาง เขาพลันอึ้ง น้ำเสียงกล่าวออกอย่างตื่นตะลึง “เซียน... พี่สาวปิงชิง เป็นท่าน!”

ใบหน้าภายใต้หน้ากากค่อนข้างกลม ผิวพรรณของนางขาวนวลมีน้ำนวลเปล่งประกาย สีหน้านั้นทั้งซับซ้อน วิจิตร และงดงาม ชุดขาวหิมะของนางเผยออร่าเซียนสีขาวอ่อนจางออกมา เสน่ห์ของนางเหนือล้ำเปรียบดังเซียนผู้สูงศักดิ์

ดวงตาหงส์อมตะน้ำแข็งเย็นเยือกจ้องมอง นางมองที่ฉินหยุนด้วยสีหน้าอันซับซ้อน

สตรีผู้นี้คือเซียนที่ฉินหยุนและอู่หมิงซวีได้ปลดปล่อยออกจากสุสานเซียน ปิงชิง!

ฉินหยุนไม่คาดคิด ว่าปิงชิงจะอยู่ที่นครเซียนยุทธภัณฑ์ เขานึกว่าปิงชิงสมควรกลับไปยังแดนเซียนอ้างว้างแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด