ตอนที่แล้วบทที่ 222 - โอเวอร์ลอร์ด (2) [23-08-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 224 - โอเวอร์ลอร์ด (4) [27-08-2020]

บทที่ 223 - โอเวอร์ลอร์ด (3) [25-08-2020]


บทที่ 223 - โอเวอร์ลอร์ด (3)

"ลาล๊า ลาล๊าล๊าาาา"

"สามีที่รัก ฉันคิดว่าพวกเราได้จัดการมอนสเตอร์ในพื้นที่นี้หมดแล้ว"

"มันมีไม่เยอะเลย... พลีนตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว"

"อื้อ"

พลีนผู้ที่ให้ความบันเทิงหูกับเราและพามอนสเตอร์มาสู่ความตายได้หยุดร้องเพลงในทันทีตามคำขอของฉัน ฉันได้ให้ภูติธาตุของฉันออกไปทำลานมอนสเตอร์ที่กลายเป็นหินในขณะที่ฉันก็มองไปรอบๆพื้นที่ ไกลออกไปฉันสามารถจะลาวาที่พุ่งสูงขึ้นมาบนท้องฟ้าได้ ตามที่ฉันคิดเอาไว้เลยภูเขาไฟบูรูซานมันพัฒนาขึ้นมามากกว่าจุดเดิมที่ฉันเคยเห็นมา

"สามีที่รัก คุณรู้สึกได้ไหมถึงลมหายใจของสัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวอยู่"

"แน่นอนสิ ตอนนี้เราได้เข้าใกล้มันแล้วฉันเลยรู้สึกได้อย่างชัดเจน"

"นี้มันอาจจะเป็น...."

ล็อทเต้ที่ฟังเราคุยกันอยู่ได้พูดออกมาอย่างลังเล ฉันได้หันไปถามเธอทันที

"เธอรู้อะไรไหมล็อทเต้"

"ฉันยังไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับพวกนั้นหรอฮีโร่"

"ไม่เลย"

"ฉันจะทำให้มันสั้นและง่ายๆนะ โลกที่ฉันมามันไม่มีมนุษย์อยู่เลย มีเพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่มนุษย์เรียกกันว่ามอนสเตอร์อาศัยอยู่ แบ่งกันออกเป็นห้าประเทศหลักๆ มีประเทศหนึ่งที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาไฟซึ่งมีราชาที่แข็งแกร่งบัญชาการอยู่

"แล้วนั่นมัน..."

ล็อทเต้ได้หยักหน้าอย่างช้าๆ

"ข้าไม่ได้สังเกตุเห็นลักษณะพิเศาอะไรของพวกมอนสเตอร์ดังนั้นข้าจึงพูดอะไรไม่ได้มาก แต่ว่าในตอนที่พวกเราได้เข้ามาใกล้นี้ ข้าสามารถจะรู้สึกได้ถึงออร่าของพวกนั้น แม้แต่ในหมู่พวกเรามอนสเตอร์ พวกเราก็ยังสงสัยในความแข็งแกร่งของกองทัพนั้นเช่นกัน วันนี้ข้าได้รู้สึกว่าจะได้พบมันแล้ว...เรื่องนี้มันทำให้ข้าค่อนข้างกังวล"

"อ่า ฉันก็เคยได้ยินเรื่องพวกนั้นเหมือนกัน ขาลาวาไม่มีวันตายใช่ไหม"

"เป็นกองทัพลาวาอมตะต่างหากเจ้าโง่"

"ฉันอยู่แต่ในเกาะนี่นาฉันเลยไม่ได้รู้จักพวกนี้"

ในตอนที่เธอพูดออกมามันได้แสดงให้เห็นว่าพลีนก็มาจากโลกเดียวกับล็อทเต้ เมื่อเห็นพลีนตะโกนใส่ล็อทเต้ ฉันก็ได้ลูบหัวให้เธอใจเย็นลง

"พลีนทำได้ดรแล้ว ไม่เป็นไรหรอก"

"เอะเฮะเฮะ...."

"นี้เป็นเหตุผลที่ทำไมคนที่โง่ถึงได้รับมือได้ง่าย...ยังไงก็ตามฮีโร่ถ้าหากราชาอยู่ที่นี่จริงๆ แม้แต่สสมาชิกกิลด์ของฮีโร่ก็อาจจะไม่ปลอดถัย มันจะดีที่สุดที่จะเลือกคนออกไปสู้กับราชานั่น"

"ถ้าเรากำจัดราชานี้ พวกเราก็จะเหลืออีก 4 ที่เหลืองั้นหรอ? มันฟังดูเหมือนกับเป็นข้อบังคังเลยนะ"

"มันจะดีถ้าหากเป็นแบบนั้น...."

ล็อทเต้กํยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ด้วยความมั่นใจตามปกติของเธอและการที่ได้เห็นอีกด้านของเธอมันทำให้ฉันต้องกังวล

"การสูญเสียพลังของโลกและการเชื่อมต่อของโลกนี้.... มันเป็นที่แน่นอนว่าเป็นราชาทั้งห้าที่ให้คำสั่งกับเรา แต่ว่าพวกเราก็คิดอยู่เสมอว่ายังมีคนที่เหนือกว่าพวกนั้น ฉันไม่รู้ว่าทำไมและฉันจำไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่ว่าฉันรู้ว่ามีใครสักคนอยู่ที่นั่น"

"มันไม่น่าแปลกใจเลย ในตอนที่มีช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้นในระดับของสิ่งมีชีวิต มันอาจจะเป็นไปได้ว่าในระดับที่ต่ำกว่าจะไม่สามารถตระหนักได้ถึงตัวตนของระดับที่สูงกว่าแม้ว่าจะเผชิญหน้ากันตรงๆก็ตาม แม้อย่างนั้นหากว่าระดับที่ตำกว่ารู้ได้ถึงระดับที่สูงกว่า เขาก็จะลืมมันไปเมื่อจากมา สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังสามารถจะสร้างแรงกดดันทางจิตใจได้แม้แต่การอยู่ในความทรงจำก็ตามที นี้คนเป็นเหตุผลที่ทำให้ระดับที่ต่ำกว่าลืมพวกนั้นเพื่อที่จะป้องกันจิตใจของตัวเอง"

"นี้มันเป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้ยินแบบนี้"

ฉันได้ขานรับคำอธิบายของลิโคไรท์ด้วยรอยยิ้มขมและคลายความเครียดของร่างกายด้วยการยืดกล้ามเนื้อ ผู้นำที่ไม่มีใครรู้จักนี้น่าจะเป็นศัตรูของโลก แต่ว่าคนที่ฉันจะต้องกังวลในตอนนี้คือคนที่กำลังรอเราอยู่ที่ภูเขาไฟ

"พวกเราได้จัดการพื้นที่อื่นๆไปแล้ว เมื่อพวกเราได้จัดการเคลียร์ภูเขาไฟบูรูซาน พวกเราก็จะเสร็จธุระทั้งหมดในฟิลิปปินส์"

"ระวังด้วยนะสามีที่รัก พลังของดันเจี้ยนอาจจะไม่ได้ผลกับเจ้านี่"

"ฉันได้เตรียมแผนเอาไว้เผื่อเกิดแบบนั้นแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเราไปกันเถอะ"

หลังจากได้ยืนยันแล้ว ฉันได้เปิดช่องสนทนากิลด์และรายงานสถานการณ์ออกไป

[พวกเราเคลียร์พื้นที่เสร็จแล้ว พวกเธอล่ะ]

[ใกล้เสร็จแล้ว]

[รออีกหน่อยนะพวก]

[เสร็จแล้วหรอ พลังดวงตามารของนายมันโกงไปแล้ว รอเดี๋ยวละกัน ฉันก็ใกล้จะจบแล้ว]

[เกือบจะจบแล้ว เมกิกำลังจัดการอยู่]

[พวกเราได้เจอกับมอนสเตอร์ยักษ์ระดับ SSS+ คังยงอูกำลังยื้อมันเอาไว้อยู่ ถ้าหากว่านายจบแล้วก็มาช่วยพวกเราทีคังชิน]

มันดูเหมือนว่าวอร์คเกอร์จะเจอกับปัญหาทำให้เขาได้ขอความช่วยเหลือออกมา ฉันได้มองไปที่ล็อทเต้ในทันที แม้ว่าเธอจะบ่นแต่เธอก็กลับไปอยู่ในร่างของไวเวิร์น พลีน ลิโคไรท์และฉันได้กระโดดขึ้นไปบนหลังของเธอทันที

"ก่อนอื่นไปจัดการระดับ SSS+ กันก่อน"

[ข้ารู้สึกถึงออร่าของมันได้ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนะล่ะ]

ล็อทเต้ได้กระพือปีกพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนมุมมองรอบๆได้บิดเบี้ยวไปในทันที ในเวลาเพียงแค่สองนาทีพวกเราก็ได้เห็นมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่วอร์คเกอร์กำลังพูดถึง

มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีความสูงกว่า 20 เมตรกำลังเหวี่ยงดาบใหญ่อยู่ ร่างกายของมันราวกับทำมาจากไฟ ไม่สิ นั่นมัน....ลาวาหรอ ในตอนนั้นเองล็อทเต้ก็ได้ส่งเสียงออกมา

[มันเป็นอย่างที่ฉันคิดเลย เป็นมันฮีโร่ ราชานั่นอยู่ที่ฟิลิปปินส์]

"นั่นคือกองทัพลาวาอมตะหรอ""

[ต้องเป็ฯมันแน่นอน ผู้ทำลายแห่งกองทัพลาวาอมตะ มันเป็นทหารจู่โจมแนวหน้าของพวกนัก]

"ทหารหรอ ไม่ใช่ผู้บัญชาการแต่เป็นแค่ทหารหรอ"

ล็อทเต้ได้เร่งความเร็วขึ้นราวกับจะบอกว่าใช่ เธอนี่เหี้ยมจริงๆเลย ฉันได้หยิบหอกโกลาหลออกมาในทันที แม้ว่าเพลิงโกลาหลจะเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันจะใช่ได่ แต่ว่ามันก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ได้ผลกับคนที่มีธาตุไฟเหมือนกัน ดังนั้นในตอนนี้....

"ทุกคนจับเอาไว้นะะ ล็อทเต้เร่งความเร็วขึ้น"

[ไว้ใจได้เลย]

"โอ้ มันก็ไม่ได้แย่นะสามีที่รัก"

"จับล็อทเต้สิไม่ใช่ฉัน"

เจ้าจอมทำลายที่กำลังสู้อยู่ได้รู้ตัวว่าฉันเข้ามาและมองมาที่ฉัน แม้อย่างนั้นจอมทำลายก็ยังเจอกับการโจมตีด้วยหอกที่สั่นสะเทือนของพ่อและทำให้ก้อนลาวาหลุดออกมาจากขาของมัน

[อ๊าาาาาาาาาา]

"ริยู ชาราน่า"

[อื้อ]

เหนือหอกฉันขึ้นไปได้มีวังวนน้ำแข็งขึ้น ภายในเวลาเพียงแค่ 0.5 วินาทีมันก็ได้ไปถึงศัตรู พลังน้ำแข็งที่ถูกเสริมพลังด้วยลมที่ล็อทเต้สร้างขึ้นหอกโกลาหลได้แทงผ่านเข้าไปในอากาศ ปลายหอกได้ส่องแสงสีขาวออกมา

"กินนี่ไปซะ"

[ติดคริติคอล]

ในตอนที่ล็อทเต้ได้พุ่งสวนกับร่างของมันหอกของฉันก็ได้แทงตรงเข้าไปไหล่ ลาวาและน้ำแข็งได้ปะทะกันทำให้กระจายออกมาเป็นไอไหล่ที่เผาไหม้ด้วยเพลิงสีส้มของมันได้ถูกแช่แข็ง ละลาย และจากนั้นก็หลุดออกมาจากร่างของมัน หรือก็คือฉันได้ตัดแขนมันไปแล้ว

[ก๊าซซซซซซ]

"ชิ ฉันสามารถจะเอาชนะมันได้น่า"

"หัดซื่อตรงแล้วขอบคุณฉันได้แล้วคังยงอู"

[พวกมันดูดเพลิงและเอามาฟื้นฟูตัวเอง อย่าให้มันใช้เพลิงอะไรได้เด็ดขาด เร็วเข้าทำลายแขนที่หลุดออกมาของมันซะ]

"ริยู"

หอกน้ำแข็งไปปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้าและตกลงมาที่แขนยักษ์ของมันบนพื้น แขนของมันได้ถูกละลายออกไปโดยสมบูรณ์ในทันที และยักษ์นั่นก็ได้ตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้วพร้อมเหวี่ยงดาบใหญ่เข้ามาหาฉันด้วยแขนที่เหลืออยู่ มันเป็นดาบที่ถูกเผาด้วยลาวา มันได้ตามความเร็วของล็อทเต้ทันและโจมตีมาที่ฉัน ยังไงก็ตาม.....

"ฉันบอกแล้วไงว่าศัตรูของแกคือฉัน"

คลื่นกระแทกแหลมคมได้ถูกยิงออกมาจากปลายหอกของพ่อและเจาะไปในร่างกายของยักษ์ ในขณะเดียวกันล็อทเต้ก็ได้หันไปหายักษ์นั้นและพุ่งเข้าไปอีกครั้ง เนื่องจากการโจมตีของพ่อทำให้ยักษ์นั่นผงะไปเป็นโอกาสให้หอกของฉันแทงเข้าไปที่อกของมัน

[ก๊าาาาา]

"ตอนนี้แหละทุกคนใช้เวทย์น้ำแข็ง"

ลิโคไรท์ได้จับพลีนเอาไว้และตะโกนออกมาในขณะที่บินออกมาจากหลังของล็อทเต้ ซัคคิวบิทั้งหมดได้สร้างน้ำแข็งึข้นมากลางอากาศในขณะที่ลิโคไรท์ได้สร้างก้อนน้ำแข็งที่ใหญ่อย่างมาก

"สามีที่รัก ไปก่อนเลย"

"เข้าใจแล้ว"

ฉันกำลังรออยู่เลย ฉันได้ดึงพลังของริยูจนถึงขีดสุดและพลังงานเยือกแข็งที่ดูเหมือนจะแช่แข็งได้แม้แต่ผู้สร้างก็เริ่มที่จะโผล่ออกมาจากหอกโกลาหล ยักษ์ได้คำรามและยกดาบยักษ์ลาวาขึ้น ในตอนนั้นพ่อและวอร์คเกอร์ก็ยังวิ่งเข้ามาเช่นกัน

"ฮ่าห์"

ฉันได้พุ่งออกไปพร้อมเสียงตะโกน ดาบยักษ์ของยักษ์ได้เหวี่ยงลงมาที่ฉันในทันที แต่ว่าฉันก็พุ่งไปข้างหน้าโดยที่ไม่สนมัน ความร้อนที่น่ากลัวได้โถมเข้ามาหาฉันในทันที

[คุก๊าก๊าก๊า]

"ไอลูกชาย"

"อย่ากลัวเกินไปสิตาแก่"

[คุก๊าก๊า....ก๊าา?]

ยักษ์นั่นได้หยุดหัวเราะออกมาและเอียงหัวงง มันเป็นตามที่ฉันคิดเอาไว้เลยมันน่าจะรู้สึกได้ว่าเพลิงของมันลดลงไป

ผ้าคลุมเฟลิกซ์แห่งความโกลาหลได้กระพรือขึ้นและปล่อยแสงออกมา เพลิงของยักษ์นั้นอยู่ในระดับที่เหนือกว่าระดับ SSS ทำให้ไม่สามารถจะดูดพวกมันได้ แต่ว่ามันยังเป็นไปได้ที่จะลบล้างมัน

ครู่หนึ่งฉันก็ได้โผล่ออกไปจากดาบยักษ์และแทงหอกที่คลุมด้วยออร่าน้ำแข็งใส่หน้าของมัน นี้คือฮีโรอิค สไตรค์

[ติดคริติคอล]

[ก๊าซซซซซซซ]

"ตายซะ"

"ตาย"

"เมื่อไหร่กันที่คำนี้เป็นคำพูดทางกายที่กิลด์รีไวเวิร์ลใช้กัน พวกเราช่วยเลิกใช้เสียงตะโกนแบบนี้ได้ไหมลล่ะ"

หลังจากที่ยักษ์นั้นได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เวทย์น้ำแข็งของซัคคิวบิก็มาถึง

"เจ้าชั่วที่พยายามจะทำร้ายสามีฉันจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต"

"โจมตี แช่แข็งมัน"

[อ๊าาาาาาา]

พื้นดินได้สั่นและยักษ์ลาวาก็ได้คุกเข่าลงเพราะร่างกายส่วนบนถูกแช่แข็ง ฉันได้ยิงคืล่นออร่าที่บีบอัดพลังเยือกแข็งออกไปโดยไม่ลังเลและระเบิดหัวของมัน

หลังจากเสียการควบคุมจากหัวแล้วลาวาที่สร้างเป็นตัวยักษ์ก็ได้ล้มลงและกระจายออก จากนั้นซัคคิวบิก็ได้ยิงศรน้ำแข็งไปและทำลายลาวานั้น หลังจากได้ยืนยันว่ามันหายไปแล้ว ฉันก็ดึงหอกที่เล็งเอาไว้กลับมา

"จบแล้ว"

[ตามที่หวังเอาไว้กับฮีโร่เลย....]

"ว้าว น่าทึ่งมากสามีที่รัก"

ฉันได้ถอนหายใจออกมากับเสียงพึมพัมอย่างประหลาดใจของล็อทเต้ ฉันรู้สึกว่าซัคคิวบิก็จะแสดงออกมาเหมือนล็อทเต้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเธอจะยิ่งกว่าซะอีก พวกเธอได้วิ่งเข้ามาหาฉัน ฉันได้มองไปที่ลิโคไรท์ในทันที

"ลิโคไรท์ทำอะไรกับพวกเธอหน่อยสิ"

"สามีที่รักเท่ไงล่ะ"

[เธอเป็นผู้นำของพวกเธอนะ]

"ใช่แล้ว พวกเธอได้แบ่งปันอารมณ์กัน"

ไม่มีใครจะมาหยุดเลยหรอ!?

หลังจากที่หยุดซัคคิวบิแล้วฉันได้เขกหัวลิโคไรท์และแบ่งปันข้อมูลที่ล็อทเต้บอกฉันให้พ่อกับวอร์คเกอร์ได้รู้ หลังจากที่ได้ยินเรื่องที่ล็อทเต้อธิบายแม้แต่พ่อก็ยังรู้สึกเหนือย

"นั่นมันหมายความว่ายังมีเจ้าพวกนี้อีกมากเลยหรอ"

"ใช่แล้ว ความจริงที่ว่าพวกนั้นอยู่ที่นี่มันหมายความว่าราชากองทัพก็ได้มาด้วย พวกนั้นจะเริ่มเดินทัพเร็วๆนี้แหละ"

"เดินทัพหรอ การรุกรานดินแดนศัตรูและรวบรวมกองทัพ มันควรจะเป็นวิธีของมนุษย์มากกว่านะ"

"อย่าได้ดูถูกพวกนั้นแค่เพราะพวกนั้นเป็นมอนสเตอร์"

ล็อทเต้ที่กลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ได้ตอกกลับวอร์คเกอร์อย่างเย้ยหยัน

"พวกนั้นเป็นเผ่าพันธ์ที่สามารถจะใช้สมองได้เหมือนมนุษย์ ถ้าหากนายดูถูกพวกนั้นนายจะต้องเสียใจเอง"

"เอาล่ะ ฉันรู้อยู่แล้ว ฉันได้เจอกับมอนสเตอร์ที่มีสมองในดันเจี้ยนมาแล้วเหมือนกัน"

ฉันได้ขอให้ล็อทเต้กลับไปในร่างมังกรทันที มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องไปพบกับคนอื่นๆ

"เรารู้ตัวจริงของพวกนั้นแล้ว ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องลังเลอีกแล้ว พวกเราจะต้องไปจัดการราชา พวกเราทุกคน"

"นายพูดแบบนั้น แต่ว่าฉันพนันได้เลยว่านายจะเป็นคนที่จัดการตอบจบอีกรอบ"

"มันจะมีอะไรอีกที่ฉันจะทำให้สมกับเป็นหัวหน้ากิลด์ล่ะ"

ฉันได้ตอบกลับวอร์คเกอร์ไปในขณะที่เขาและพ่อขึ้นไปบนหลังล็อทเต้ ซัคคิวบิก็ยังเปลื่ยนเป็นค้างคาวและบินขึ้นมา

"ไปกันเธอ ไปจุดนัดพบกัน"

[ชิน มอนสเตอร์ยักษ์ที่น่ากลัวปรากฏตัว ฮี้ เงาของฉันมันไม่ได้ผล]

"....ก่อนอื่นไปช่วยคนอื่นก่อน"

เพียงแค่ฉันกำลังจะทำเท่... เยอึนเธอก็มาขัดงี้หรอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด