ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0625 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0627 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0626 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 626 : ทราบถึงขีดจำกัด

เปาเฉิงโฉ่วนำฉินหยุนไปยังพื้นที่สำนักนอก ส่งเขากลับไปยังบ้านพักหลังเดิม

ฉินหยุนพอกลับมา จึงได้เห็นเจี้ยนหมางนั่งภายในสวน

“เจี้ยนหมาง ในเขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“พี่หยานอยู่อันดับหนึ่ง นางมีแต้มเกินกว่าหกพัน คนอื่นก็ขยับเลื่อนอันดับกันขึ้นมา อันดับสิบมีแต้มอยู่สามพันกว่าเล็กน้อย! ส่วนแต้มของเจ้ากลายเป็นศูนย์!” เจี้ยนหมางกล่าว

“เจี้ยนรั่วหยานช่างยอดเยี่ยมนัก นี่นางไปหาแต้มมากมายเพิ่มได้จากที่ใดกัน?” ฉินหยุนสบถเสียงเบา

“เป็นนางพบเจอกองกำลังชุดดำ” เจี้ยนหมางหัวเราะ “ฉินหยุน พี่หยานย่อมเก่งกาจ นางได้รับแต้มมาได้มากมายแม้เผชิญหน้ากองกำลังชุดดำ!”

ฉินหยุนนึกย้อนถึงตอนที่กองกำลังชุดดำดูแลเจี้ยนรั่วหยานเป็นอย่างดี เขายิ่งไม่ยินดี เพราะเขาหาได้รับการดูแลอันใดเป็นพิเศษไม่

“เจี้ยนหมาง ข้าขอตัวไปเข้าเขตแดนจินตภาพก่อนแล้ว!” ฉินหยุนกล่าว พร้อมเร่งรีบกลับห้องตนเอง

ฉินหยุนเข้าสู่เขตแดนจินตภาพ ปรากฏตัวในทะเลทราย

ที่นี่คืออาณาเขตของหลงเฉียวเฟิง

ฉินหยุนลอบยินดีก่อนจะหลับตาลง เขาสำรวจมองแผนที่ ตระเตรียมไปพบปะหลงเฉียวเฟิง

กระนั้น ขณะเขาคิดออกเดินทาง ฉับพลันกลับรู้สึกได้ถึงออร่าอันตรายที่ใกล้เข้ามา

“โชคร้ายนัก เพิ่งเข้าเขตแดนจินตภาพ กลับต้องพบเจอผู้แข็งแกร่งเข้าเสียได้!” ฉินหยุนเร่งรีบหนี

บินผ่านอากาศอยู่ไม่นาน เขาค่อยเห็นร่างเงาสีดำปรากฏตรงหน้า ขวางเส้นทางของเขาเอาไว้

บุคคลที่ขวางทางเขา สวมใส่ชุดดำและหน้ากากขาว เป็นหัวหน้ากองกำลังชุดดำ

“เจ้าอีกแล้ว!” ฉินหยุนกรีดร้องราวพบเจอภูตผี

ขณะกล่าวคำจบ ร่างของเขาจึงถูกเยือกแข็งด้วยพลังเย็นเยือกรุนแรง

“รับความตาย!”

สตรีหน้ากากขาวผลักฝ่ามือ ป่นสลายร่างฉินหยุนที่ถูกแช่แข็งออกเป็นชิ้น

ด้วยเหตุนี้ ฉินหยุนจึงถูกบังคับให้ออกจากเขตแดนจินตภาพทันทีที่เข้ามา

ฉินหยุนลุกขึ้นจากที่นอน ลมหายใจต้องหอบหนักขณะสบถด่าทอ “สตรีผู้นี้เกินไปแล้ว เพียงเพิ่งเข้าไปก็ตรงดิ่งมาสังหาร!”

ฉินหยุนเพียงเพิ่งเข้าสู่เขตแดนจินตภาพ เป็นเขาไม่มีอะไรในมือให้หยิบใช้ได้

ในเขตแดนจินตภาพย่อมไม่อาจใช้งานพลังของร่างลึกล้ำ ไม่เช่นนั้น เขาคงใช้พลังร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำต้านทานน้ำแข็งเมื่อครู่ได้ไปแล้ว

ฉินหยุนนอนลงที่เตียงอีกครั้ง เข้าสู่เขตแดนจินตภาพ

ครั้งนี้ เขาปรากฏตัวในเขตเมือง

เช่นนี้ เขาจะไม่ถูกสังหาร

หากถูกกองกำลังชุดดำสังหาร แต้มจะเลือนหายหนึ่งร้อย!

ฉินหยุนเพิ่งสูญเสียไปหนึ่งร้อยแต้ม!

บรรดาศิษย์ที่ให้ความสนใจตรวจสอบเทียบอันดับยุทธ์เต๋า ย่อมเห็นรายนามของฉินหยุน

เมื่อแต้มของฉินหยุนกลายเป็นศูนย์ ผู้คนพบว่าเรื่องราวแปลก กระนั้นครานี้กลับกลายเป็นติดลบ

“ฉินหยุนหรือ? เขากลับมาแล้ว!”

“น่าเสียดายนัก เขาต้องสูญเสียแต้มมากมาย ทั้งยังถูกกองกำลังชุดดำจับตาเพ่งเล็ง!”

“ก็นะ ใครใช้ให้ไปยั่วยุกองกำลังชุดดำเพียงนั้น? พวกนั้นไม่โกรธสิแปลก”

ทุกคนเริ่มพูดคุยถึงเรื่องนี้ทันทีเมื่อเห็นฉินหยุนปรากฏตัวในเขตเมือง

ฉินหยุนเกิดปวดหัวขึ้นมา ผู้อื่นทราบเพียงว่าเขาฝืนเข้าพื้นที่ต้องห้าม กระนั้นที่พวกเขาไม่ทราบ คือเขาได้กระตุ้นโทสะผู้นำกองกำลังชุดดำครั้งใหญ่

“หากเป็นแบบนี้ต่อไป เราขึ้นสู่สิบอันดับแรกไม่ได้แน่!” ฉินหยุนเดินวนรอบ ก่อนจะคิดซื้อหากระดูกสัตว์

ตราบเท่าที่มีกระดูกสัตว์ เขาสามารถสร้างยันต์ได้ ถึงตอนนั้นเขาจะกวาดล้างกองกำลังชุดดำได้อีกครั้งหนึ่ง

กระนั้น ที่ทำเอาเขาเกิดสิ้นหวัง คือกระดูกสัตว์ทั้งหมดในเขตแดนจินภาพกลับหายวับ ทั้งยังไม่มีสัตว์ใดหลงเหลือในพื้นที่ป่าภายนอก

นี่หมายความถึง ฉินหยุนจะไร้ซึ่งวัสดุใดให้ได้ใช้เพื่อสร้างยันต์

“ตัวบัดซบผู้นั้น ในที่สุดนางก็เริ่มตีกรอบจำกัด!” ฉินหยุนสบถก่นด่า “ก็เห็นกันชัดว่าเพ่งเล็งมาที่เรา!”

ฉินหยุนรู้สึกอับจน เขาได้แต่ต้องหาวิธีอื่น

ตัวเขาเวลานี้ไม่มีแต้ม ทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ ร่างลึกล้ำก็ใช้ไม่ได้ ดังนั้นหากต้องพบเจอบุคคลเช่นเจี้ยนรั่วหยาน เขาย่อมต้องตายแน่นอนแล้ว

“คงได้แต่ต้องออกจากเมืองไปรับชมดู บางทีคงเจออะไรน่าสนใจบ้าง!” ฉินหยุนกล่าวจบจึงเร่งรีบออกจากเขตเมือง

ไม่นานหลังออกจากเขตเมือง สตรีหน้ากากขาวจึงปรากฏตัวต่อหน้า

ครั้งนี้ เขาไม่ได้ถูกสังหารในพริบตา

เขาต้านรับได้หลายกระบวนท่า กระนั้นท้ายที่สุดก็ถูกสังหาร

ด้วยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและอาวุธเข้าสนับสนุน มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถสังหารสตรีหน้ากากขาวได้

“วิปริตยิ่งนัก!” ฉินหยุนถูกสตรีหน้ากากขาวสังหารอีกครั้ง เขายิ่งมายิ่งมีโทสะ

“เสี่ยวหยุน อย่าได้โกรธไป ตลอดมาก็เป็นเช่นนี้!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวปลอบ

ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกลับเข้าเขตแดนจินตภาพ

“เหมือนว่ามีแต่ต้องทุ่มสุดตัวจัดการมัน!” หลังเข้าสู่เขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์อีกครั้ง เขาจึงเร่งรีบควบม้าออกจากเขตเมือง

ทว่าก็เหมือนดังก่อนหน้า ออกพ้นจากเมืองไม่นาน สตรีหน้ากากขาวก็ปรากฏตัว

“ติดตามใกล้ชิดเกินไปแล้ว!” ฉินหยุนพบเห็นสตรีหน้ากากขาว เขาแค่นเสียงดัง

“ข้าย่อมไม่ปล่อยเจ้าไป เว้นแต่เจ้ามีกำลังพอเอาชนะข้าได้!” สตรีหน้ากากขาวเผยเสียงเย็น

“ข้าจะเอาชนะเจ้าได้แน่!” ฉินหยุนกล่าวตอบโต้ ใช้พลังเต๋าแรกเริ่มปลดปล่อยฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์

ฝ่ามือพาดผ่านอากาศราวเสียงคำรามร้องของมังกร มันแปรเปลี่ยนเป็นฝ่ามือสีทองอ่อนจางเข้าปกคลุมพื้นที่

สตรีหน้ากากขาวโบกมือไหววูบ สลายพลังโจมตีฝ่ามือของฉินหยุน พร้อมกันนี้ นางได้ปรากฏตัวด้านหลังฉินหยุน ต่อยใส่คราหนึ่งจนหมัดทะลวงผ่านร่าง

“ตาย!”

นางปลดปล่อยพลังเยือกแข็งอันเหนือล้ำออกมา แช่กายฉินหยุนเป็นก้อนน้ำแข็ง

ตู้ม!

นางเตะใส่ก้อนน้ำแข็งฉินหยุน ทำเอาร่างกายเขาแหลกสลายกลายเป็นชิ้น

ฉินหยุนที่ตายครั้งนี้ เขาเลือกพักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าสู่เขตแดนจินตภาพอีกครั้ง

ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วยาม เขาถูกสังหารไปแล้วสามครั้ง เท่ากับสูญเสียสามร้อยแต้ม!

“หากสังหารนางได้ครั้งหนึ่ง เราย่อมได้รับห้าพันแต้ม พอพิจารณาให้ดีแล้ว นี่มันก็ดูคุ้มค่าไม่ใช่น้อย!”

ฉินหยุนปลอบใจตนเอง แต่แล้ว เขายังได้ทราบว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ใช้เพื่อฝึกฝน

“ถูกต้องแล้ว หากเจ้าไม่พึ่งพาอื่นใดเพื่อสังหารอีกฝ่าย มันจะทำวิชายุทธ์ รวมถึงอำนาจการควบคุมพลังของเจ้าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

ฉินหยุนมีแต่ต้องคิดในทางที่ดี

“เราเพิ่งได้รับดัชนีทะลวงฟ้ามา! ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้!” ฉินหยุนตั้งกระโจมตนเอง เริ่มศึกษาเคล็ดวิชายุทธ์อย่างตั้งอกตั้งใจ

ผ่านไปสามชั่วยาม ฉับพลันเขาได้เห็นบุคคลชุดดำก้าวเดินเข้ามา

ฉินหยุนเกิดตระหนกยามได้เห็นบุคคลชุดดำ

เพราะเขาถูกสตรีหน้ากากขาวสังหารไปหลายครั้งครา ร่างเงาของนางยังประทับแน่นในใจ

บุคคลชุดดำที่เข้ามาสวมใส่หน้ากาก เสียงกระซิบเบาเอ่ยคำ “ข้าเอง!”

“เฉียวเฟิง?” ฉินหยุนเผยอาการตระหนกตกใจ เขายิ้มกล่าว “นึกว่าเจ้าไม่สนใจข้าแล้วเสียอีก!”

“จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร?” หลงเฉียวเฟิงแค่นเสียงเบา “คิดว่าข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ?”

“เหตุใดเจ้าไม่เป็นเช่นนั้นกันเล่า?” ฉินหยุนหัวเราะ

หลงเฉียวเฟิงแค่นเสียงไม่ยินดี “หากเจ้าต้องการแต้ม เจ้าไปสังหารกองกำลังข้าได้!”

กองกำลังของหลงเฉียวเฟิง ย่อมเทียบเท่ากับแต้มจำนวนหลายร้อย

“ข้าคิดอยากก็ใช่ แต่... เป็นข้าตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ดังนั้นคิดจัดการทั้งกองกำลังไม่ใช่เรื่องง่ายอีก” ฉินหยุนถอนหายใจ

หากเขาคิดอยากทำลายกองกำลังโดยรวดเร็ว เขาย่อมต้องพึ่งพามีดบิน หรือไม่ก็ต้องหาทางเสริมสร้างวิชายุทธ์ให้เพิ่มพูนขึ้น

“แล้วเจ้ามีแผนการใด? หากเป็นแบบนี้ต่อไป เจ้าคงไม่อาจเข้าสู่สิบอันดับแรกของเทียบอันดับยุทธ์เต๋าได้” ตัวนางขณะนี้อยู่อันดับที่สอง

“ข้ากำลังหาทางอยู่!” ฉินหยุนตอบกลับ “เฉียวเฟิง ช่วงนี้เจ้ามีอะไรล้วนไปทำก่อน ข้าคงต้องหาทางอื่น”

ฉินหยุนตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ว่าเขาจะใช้โอกาสนี้เพิ่มพูนเคล็ดวิชายุทธ์ของตนเองให้ก้าวหน้า มีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้นด้วยตนเอง จึงค่อยสามารถมีชัยชนะเหนือสตรีหน้ากากขาวได้

หลงเฉียวเฟิงพยักหน้ารับ “ตามนั้นก็แล้วกัน ข้าเชื่อว่าไม่ช้าเจ้าต้องหาทางก้าวขึ้นมาถึงสิบอันดับแรกแห่งเทียบอันดับยุทธ์เต๋าได้แน่!”

ฉินหยุนยังสามารถพัฒนาก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์ รวมถึงฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ได้ นอกจากนี้ ยังมีดัชนีทะลวงสวรรค์

เหล่านี้เป็นเคล็ดวิชาที่ไม่พึ่งพาอาวุธ

เวลานี้ เขาใช้ได้เพียงสองจากสามสิบหกฝ่ามือของวิชาฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ ถัดจากนี้ เขาต้องเรียนรู้สู่ฝ่ามือที่สาม

พลังแท้จริงของฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ คือการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

หากฝ่ามือแรกโจมตี ฝ่ามือที่สองตามติด เช่นนั้นฝ่ามือที่สองจะดูดกลืนพลังจากฝ่ามือแรก เมื่อฝ่ามือทั้งสองผสานพลังเข้าด้วยกัน พลังจะยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างเท่าทวี!

ส่วนที่ยากคือต้องทำอย่างคล่องแคล่ว และไม่มีอุปสรรคใดขัดขวางฝ่ามือ ด้วยสองฝ่ามือโจมตีออกพร้อมกัน มันจะไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้ฉกฉวย

การโจมตีทั้งสองครั้ง จำเป็นต้องสัมพันธ์กับพลังเต๋าแรกเริ่มเก้าสมบูรณ์ รวมถึงต้องใช้พลังฝ่ามือในปริมาณที่พอเหมาะ

หากเขาไม่อาจเชี่ยวชาญ อย่างนั้นพ้นการโจมตีแรกก็ผิดพลาดแล้ว

ฉินหยุนทำได้แต่ต้องใช้การโจมตีสองครั้งต่อเนื่อง หากเขาถูกขัดขวางโดยพลังเต๋าเยือกแข็งของสตรีหน้ากากขาว เท่ากับเขาลงมือพลาด นอกจากนี้ มันยังจะใช้พลังไปไม่ใช่น้อยด้วย

การโจมตีสำเร็จต่อเนื่องสองครั้งโดยแทบจะเป็นไปในเวลาเดียวกัน กล่าวได้ว่ายากเย็นยิ่งนักแล้ว นี่ยังไม่กล่าวถึงการโจมตีสามครั้งต่อเนื่อง!

หากเขาสามารถฉกชิงโอกาส เขาย่อมต้องสามารถสังหารสตรีหน้ากากขาวได้ด้วยสามฝ่ามือ

แน่นอนว่า หากเขาปลดปล่อยสามสิบหกฝ่ามือต่อเนื่อง พลังนั้นคงเกินจินตนาการที่ผู้ใดจะคาดคิดได้ถึง!

ถัดจากนั้นจึงเป็นก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์ มันค่อนข้างง่ายกว่าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ ฉินหยุนพบว่าเชี่ยวชาญมันไม่ใช่เรื่องยาก ทั้งยังใช้เวลาไม่นาน

หลังขลุกตัวอยู่แต่ในกระโจมหลายวัน ฉินหยุนค่อยรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นเขาจึงออกจากเมือง

ทว่าหลังออกพ้นจากเมืองไม่นาน สตรีหน้ากากขาวได้ปรากฏตัวขึ้น

“ตัวบัดซบนี่ดื้อรั้นยิ่งนัก ย่อมได้ ทำประหนึ่งนางเป็นเครื่องมือฝึกซ้อมสุดโหดก็แล้วกัน!”

ฉินหยุนเร่งรีบใช้ก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์ ร่างเงาประกายแสงสมบูรณ์ เคลื่อนที่รวดเร็ว หลบเลี่ยงการโจมตีของสตรีหน้ากากขาว

ขณะหลบเลี่ยง เขายังใช้พลังอัคคี เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองได้รับผลจากพลังเยือกแข็งของอีกฝ่าย

ไม่ว่าจะทั้งด้านความเร็วหรือกำลัง สตรีหน้ากากขาวแข็งแกร่งกว่าฉินหยุนทั้งสิ้น

ฉินหยุนทราบ ว่าไม่อาจต่อกรนางได้นาน ดังนั้นเขาจึงให้หลิงหยุนเอ๋อใช้พลังแรงโน้มถ่วงอันรุนแรงออกมา

ยิ่งหลิงหยุนเอ๋อใช้พลังแรงโน้มถ่วงเป็นวงกว้างเพียงใด มันจะยิ่งอ่อนแรงลงมากเท่านั้น แม้ว่าอ่อนแรงลง แต่ด้วยขนาดรัศมีที่ใหญ่ ย่อมทำให้ง่ายต่อการโจมตีใส่เป้าหมาย

หากพื้นที่ส่งผลหดแคบ แรงโน้มถ่วงจะยิ่งมหาศาล กระนั้น หากคู่ต่อสู้รวดเร็วมากพอ เช่นนั้นย่อมหลบเลี่ยงพ้นอันตรายได้รวดเร็ว

สตรีหน้ากากขาวคือผู้ที่เคลื่อนไหวได้ยอดเยี่ยมและรวดเร็ว ดังนั้นฉินหยุนจึงได้แต่ต้องใช้พลังออกเป็นวงกว้าง

แรงโน้มถ่วงรุนแรงเข้าปกคลุมใส่สตรีหน้ากากขาว เป็นผลให้นางเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าลง

ฉินหยุนเร่งรีบคว้าโอกาสนี้ ปลดปล่อยฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์!

ฮูม! ฮูม!

สองฝ่ามือโจมตีผ่านอากาศเป็นแสงสว่างวาบใส่สตรีหน้ากากขาว

เมื่อถูกโจมตี สตรีหน้ากากขาวเพียงส่งเสียงครวญครางออกมา จากนั้น ร่างของนางสั่น ก่อนจะเป็นอิสระพ้นจากอำนาจแรงโน้มถ่วง

นางพลันปรากฏกายต่อหน้าฉินหยุน ใช้ความเร็วสูงสุด กำลังหมัดอันมากล้ำ ต่อยออกทะลวงผ่านร่างฉินหยุนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่

“ฉินหยุน หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ข้าจะให้เจ้าได้เข้าสู่พื้นที่ต้องห้าม!” หลังสตรีหน้ากากขาวกล่าวคำจบ นางจึงบดขยี้ศีรษะฉินหยุนด้วยหมัดของนาง

“บัดซบ! ตายอีกแล้ว!” แม้ฉินหยุนพ่ายแพ้ กระนั้นเขาตื่นเต้นยินดี “เพียงเอาชนะนางได้ เราจะได้รับสิทธิ์เข้าใกล้ต้นกำเนิดเซียนอย่างนั้นสินะ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด