เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0623

ตอนที่ 623 : กระบี่ลึกล้ำราชสีห์สวรรค์

“จิงเหมิง นี่คือเคล็ดวิชาขัดเกลาสังเวยโลหิตลึกล้ำ ไว้ข้าสอนเจ้าภายหลัง!” ฉินหยุนยิ้มอย่างลึกลับ พร้อมนำเอาไหใหญ่อีกใบออกมา

ภายในไห มันคือของเหลวสีทองส่องสว่าง คล้ายกับก้อนโคลนสีทอง

“น้ำมันสัตว์! ทั้งยังเป็นน้ำมันที่ผ่านการขัดเกลาจนถึงระดับราชัน!”

ชายชราศีรษะล้านเลี่ยนเข้าถึงข้างกายเหลียวจิงเหมิง ในเมื่อเหลียวจิงเหมิงต้องการหลอมอุปกรณ์ ด้วยเป็นปู่ของนาง เขาย่อมต้องเข้ามารับชม

“จิงเหมิง ใช้น้ำมันสัตว์เหล่านี้ขัดเกลาวัสดุ!” ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงนำเอากระดูกสีทองม่วงอีกจำนวนหนึ่งออกมา

เหล่านี้คือกระดูกสัตว์สวรรค์คุณภาพสูง ที่หลิงหยุนเอ๋อบอกต่อเขาให้คัดเลือกเก็บเอามา ทั้งยังมีเขาสัตว์สวรรค์ พวกมันเหล่านี้แข็งแกร่ง

“ฉินหยุน เหมิงเหมิงขัดเกลาอุปกรณ์เหล่านี้ได้หรือ? ให้ข้าช่วยหรือไม่?” ชายชราศีรษะล้านเผยอาการตื่นตะลึงยามได้เห็นกองกระดูก

“ไม่จำเป็นขอรับ ให้จิงเหมิงจัดการ นางสามารถทำได้!” สาเหตุว่าทำไมฉินหยุนขอให้เหลียวจิงเหมิงสร้างอุปกรณ์ให้ เพราะนางครอบครองร่างเซียน

หลิงหยุนเอ๋อกล่าว ว่าพลังที่เหลียวจิงเหมิงปล่อยออกมามีพลังงานเซียนฝังอยู่ หากใช้เพื่อสร้างอุปกรณ์ มันจะยิ่งส่งเสริมคุณภาพ

ผู้คนจากหุบเขาเซียนโอสถและขุนเขาเซียนอัคคีครามต่างกัดฟันแน่น เพราะนั่นคือสิ่งที่ฉินหยุนได้รับจากเขตแดนอ้างว้างสัตว์สวรรค์

“ฉินหยุน เจ้าถึงกับมีกระดูกสัตว์สวรรค์มากมายเพียงนี้ทว่าไม่ส่งมอบออกมา!” ผู้อาวุโสจากฝ่ายตระกูลใหญ่ตะโกนกราดเกรี้ยว

“แล้วยังไง? มีกฎบอกหรือว่าต้องส่งมอบทั้งหมดให้? นอกจากนี้แล้ว ครั้งที่ข้าเข้าไปยังเขตแดนอ้างว้างสัตว์สวรรค์ ข้าหาได้พึ่งพาประตูพวกเจ้าไม่ เป็นข้าหาทางเข้าไปด้วยตนเอง!” ฉินหยุนเผยเสียงเย็นตอบโต้

เหลียวจิงเหมิงกำลังยุ่งกับงาน นางไม่มีเวลาพูดกล่าวอื่นใด เพียงแต่นำกระดูกสัตว์ใส่เข้าเตาหลอม

“น้ำมันสัตว์หนักยิ่งนัก!”

เหลียวจิงเหมิงใช้ด้ามจับพิเศษเพื่อเทวัสดุใส่เตาหลอม ก่อนจะเพิ่มความร้อนแรงของอัคคีเพลิง

เหลียวจิงเหมิงยังแทรกพลังส่วนตัวของนางลงในอัคคีเพลิงน้ำมันสัตว์ พวกมันผสานรวมเข้าด้วยกัน

“หนึ่งถังสมควรหนักหลายพันจิน!” ชายชราศีรษะล้านเลี่ยนลงมาทดสอบน้ำหนักพร้อมร้องอุทาน

“ฉินหยุน เจ้าไปเอาน้ำมันนั่นมาจากที่ใดกัน?” เจี้ยนสือเทียนเกิดความสงสัย เขาก้าวเดินเข้ามาพร้อมเอ่ยถาม

“ข้าได้รับมาจากเขตแดนอ้างว้างสัตว์สวรรค์ขอรับ!” ฉินหยุนกล่าวตอบ แท้จริงมันเป็นน้ำมันจากขวดลึกลับ กระนั้น ก็ผ่านการขัดเกลาให้คุณภาพสูงขึ้นโดยตัวเขา

คุณภาพของน้ำมันสัตว์นี้สูงล้ำ ย่อมต้องเป็นน้ำมันสัตว์สวรรค์แน่แล้ว!

“ฉินหยุน เจ้าถึงกับร่ำรวยเพียงนี้!” เจี้ยนรั่วหยานแค่นเสียง

เหลียวจิงเหมิงเผากระดูกสัตว์ด้วยน้ำมันสัตว์ต่อเนื่อง เวลาผ่านไป นางค่อยเทเลือดของฉินหยุนใส่เข้าไป

เมื่อนางเทเลือดจากไหใหญ่ นางยังใช้อุปกรณ์พิเศษที่ฉินหยุนส่งมอบให้

ที่ทำเหลียวจิงเหมิงตื่นตะลึง นั่นก็คือ เลือดของฉินหยุนไม่ระเหยไปแม้เข้าสู่เตาหลอม นางทราบว่านี่เป็นเพราะเลือดนี้มีความแข็งแกร่งและพิเศษยิ่ง

ฉินหยุนส่งเสียงสื่อสารต่อนาง ชี้แนะนางถึงวิธีการหลอม ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างละเอียดถี่ถ้วน

แม้เหลียวจิงเหมิงเสมือนเด็กใสซื่อ ทว่านางกลับเป็นผู้มีพรสวรรค์ทางการหลอมอุปกรณ์สูงล้ำ นางย่อมสำเร็จได้โดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งของผู้อื่น กระทั่งฉินหยุนยังแทบไม่เชื่อ

เหลียวจิงเหมิง ระหว่างขั้นตอนการหลอม นางเคร่งเครียดและจริงจัง

ยิ่งนางสร้างให้แก่ฉินหยุน นางยิ่งทุ่มเทกำลัง อัคคีเซียนที่แข็งแกร่ง รวมถึงน้ำมันสัตว์ระดับราชัน ทั้งหมดถูกใช้เพื่อเผาไหม้วัสดุ

นอกจากกระดูกสัตว์ ยังมีเหล็กกล้าหยวนลึกล้ำ และวัสดุอื่นอีกหลายอย่าง บ้างก็เป็นชายชราศีรษะล้านเลี่ยนส่งเสริมเพิ่มเติมให้

เพราะเปลวเพลิงร้อนแรง เหลียวจิงเหมิงจึงใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยามเพื่อขัดเกลาวัสดุจนสำเร็จ จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนการขึ้นรูป

ค้อนของนางย่อมเป็นอุปกรณ์เต๋าโบราณ กล่าวได้ว่าเป็นของวิเศษประการหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อทำการหลอม มันจะปลดปล่อยพลังงานเซียนออกมาเล็กน้อยเจือปน

เหลียวจิงเหมิงควบคุมพลังงานเซียนของนางได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ขณะนี้มันแข็งแกร่ง นางได้ผสานพลังงานเซียนเข้าสู่ตัววัสดุ

ผู้คนต่างอึ้งทึ่ง ว่าหญิงสาวน่ารักงดงามผู้นี้ ถึงขั้นกำลังสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำ

“ฉินหยุน เจ้าคิดสร้างอุปกรณ์เพื่อต่อกรกับพี่หู่ใช่หรือไม่?” เจี้ยนหมางเข้ามาถาม

“ใช่!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ “ข้าจะสู้กับเขาได้อย่างไรหากไม่มีอาวุธที่ดี?”

แม่เฒ่าหม่ากล่าวคำ “อุปกรณ์ลึกล้ำที่เพิ่งสร้าง นี่ไม่เป็นไรหรือ? ด้วยไม่มีการขัดเกลาสังเวยโลหิต มันคงไม่เหมาะสมกระมัง?”

“เพราะเหตุนั้นข้าจึงใช้แก่นเลือดใส่เข้าไป!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว “นี่คือวิธีการสร้างอุปกรณ์เต๋า มันมีใช้มาแต่ช้านานตั้งแต่โบราณแล้ว!”

ฉินหยุนมีอุปกรณ์เต๋าโบราณ เขาย่อมทราบเคล็ดวิชาการสร้างแต่โบราณ เรื่องนี้ทำเอาหลายคนต่างต้องทึ่ง

ด้วยรับชมดวงตาเบิกกว้าง เปาเฉิงโฉ่วเผยความยินดี นี่ก็เพราะพรสวรรค์ของเหลียวจิงเหมิงมีแต่จะสูงล้ำมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าเจี้ยนสือเทียนมีหลานชายอัจฉริยะเช่นเจี้ยนหนันหู่ เขาก็ยังมีผู้เยาว์อัจฉริยะทางวิถีจารึกที่ตำหนักเซียนดาบ

กระนั้นเขากลับได้พบ ว่าเหลียวจิงเหมิงและฉินหยุนกลับเหนือล้ำยิ่งกว่า

ฮูจิงเซียนรับชมพลางบุ้ยปาก นางสบถต่อฉินหยุนอย่างเงียบงันอยู่ภายใน เพราะนางคิดอยากดึงตัวฉินหยุนเข้าเกาะจันทราปีศาจ กระนั้นฉินหยุนกลับยืนกรานปฏิเสธไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตามแต่

เหลียวจิงเหมิงที่หลอมขึ้นรูปเรียบร้อย นางค่อยแกะสลักเส้นมืดจำนวนหนึ่ง ใช้พวกมันดูดกลืนเลือดฉินหยุน นี่คือพิธีการขัดเกลาแก่นเลือด

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม เหลียวจิงเหมิงค่อยใช้น้ำมันสัตว์ระดับราชันในไหใบใหญ่ รวมถึงเลือดของฉินหยุนในไหเทลงไปในกระบี่ลึกล้ำที่ขึ้นรูปเรียบร้อยแล้ว

“จิงเหมิง เจ้าพยายามหนักแล้ว ขอบคุณ!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

“ยินดีอย่างยิ่ง ข้าต้องขอบคุณพี่หยุน ที่ทำให้ข้าได้เรียนรู้หลายสิ่งอย่าง!” แม้เหลียวจิงเหมิงเหนื่อยล้า ทว่านางยินดี

ถัดจากนี้ จึงเป็นคราวฉินหยุนลงมือแกะสลักอักขระ

เขานำเอาปากกาลึกล้ำสะท้อนจิตออกมา เริ่มทำการแกะสลักอักขระ

เมื่อแกะสลักอักขระโทเทม ฉู่ปินอวี้ มู่เฟิง และชายชราศีรษะล้าน รวมถึงอาจารย์จารึกลึกล้ำผู้อื่นต่างต้องเผยดวงตาเบิกออกกว้าง เพราะที่พวกเขาเห็น นั่นคืออักขระโทเทม

เจี้ยนหนันหู่ยืนข้างกายเจี้ยนสือเทียนไม่ไกล เขายังรับชมฉินหยุนแกะสลักอักขระโทเทมด้วยคิ้วขมวด

เขาพลันนึกย้อนขึ้นได้ ว่าที่ป่าอสูรหญ้าภูตผี บุคคลที่เขาพบเจอ มีความรู้และเข้าใจต่ออักขระดีเยี่ยม

เขากลายเป็นเชื่อ ว่าฉินหยุนคือผู้ที่เอาชนะตนเองได้!

กระนั้น เขาก็ยังไม่มั่นใจมากนัก!

“อาหู่ คู่ต่อสู้ของเจ้าคืออาจารย์จารึกลึกล้ำ! หากเจ้าแพ้แก่เขา เจ้าคงเสียหน้าครั้งใหญ่แล้ว!” เจี้ยนสือเทียนวางมือที่ไหล่ของเจี้ยนหนันหู่และกล่าวคำ

เจี้ยนสือเทียนชราภาพมากแล้ว ทว่าหลานชายของเขายังหนุ่ม นี่ก็เพราะบุตรชายของเขาเหนือล้ำเกินผู้ใด

เพื่อให้ถือกำเนิดบุตรหลานที่เหนือล้ำ ยอดฝีมือบางคนต้องเฟ้นหาสตรีเพื่อให้กำเนิดเด็ก ถึงตรงนั้น พวกเขามีแต่ต้องหยุดเพื่อมอบการถือกำเนิดแก่ชีวิตใหม่ให้มาพร้อมกับพรสวรรค์

บรรดาผู้ไร้ซึ่งพรสวรรค์ ไม่ว่าจะเพศใด แต่งออกต่อผู้อื่น พวกเขาไม่คิดปวดใจอันใดแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเหตุผล ว่าทำไมบางครั้งยอดฝีมือที่ชราภาพ กลับมีบุตรที่ยังเยาว์ยิ่งนัก

“เจ้า... แกะสลักโทเทมงั้นหรือ?” ชายชราศีรษะล้านเผยอาการตื่นตะลึงเอ่ยถาม

“ขอรับ!” ฉินหยุนไม่กล่าวถึง ว่าโทเทมที่แกะสลักคืออะไร

แน่นอนว่าที่เขาแกะสลักอยู่ขณะนี้ ย่อมต้องเป็นอักขระโทเทมราชสีห์สวรรค์!

โทเทมราชสีห์สวรรค์ คือโทเทมสัตว์สังกัดธาตุไฟ!

ฉินหยุนครอบครองทั้งจารึกวิญญาณราชันสัตว์ และจารึกวิญญาณอัคคีคลั่ง ด้วยเขาแกะสลักอักขระโทเทมสัตว์ธาตุไฟ มันทั้งรวดเร็วและวิจิตรงดงามในระดับสูงล้ำยิ่ง

“ครอบครองสองจารึกวิญญาณนี่ถือว่าวิเศษนัก!” ฉินหยุนแกะสลักไปอย่างลื่นไหล อักขระโทเทมราชสีห์สวรรค์สำเร็จได้อย่างง่ายดาย

เช่นกัน น้อยครั้งนักที่เขาได้มีโอกาสแกะสลักอักขระโทเทมราชสีห์สวรรค์!

เดิมเขาคิดอยากแกะสลักอักขระจันทราและดวงดาว รวมถึงอักขระลึกล้ำ

ทว่าเวลามีไม่มากพอ

คิดแกะสลักอักขระดวงดาวและจันทราบนอุปกรณ์ลึกล้ำ มันต้องใช้เวลามหาศาล เว้นแต่เขามีสองจารึกวิญญาณในครอบครอง คือจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาว และจารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา

ฉินหยุนจับที่ปลายด้าม พร้อมแอบถ่ายเทพลังกระดูกวิญญาณราชสีห์สวรรค์เข้าสู่ตัวกระบี่ ขณะนี้ที่ตัวกระบี่ มันพลันสั่นไหวพร้อมคำรามร้องลุ่มลึกออกมา

ได้ยินเสียงคำราม สีหน้าเจี้ยนสือเทียนกลับกลายเป็นเคร่งเครียด

นั่นก็เพราะเขาได้ยินข่าวลือของฉินหยุนที่แดนยุทธ์อ้างว้าง ฉินหยุนคือผู้ครอบครองอักขระโทเทมราชสีห์สวรรค์!

ในความเป็นจริง เบื้องบนของตระกูลใหญ่ต่างได้รับรายงานกันถ้วนหน้า ทว่าพวกเขายังไม่มีเวลาได้ตรวจสอบยืนยัน

กระนั้นพวกเขาก็ได้ยืนยันแน่ชัดแล้ว ว่าฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์มีสัมพันธ์อันดีต่อกัน

มีแต่เบื้องบนของหลายกองกำลังที่ทราบ ว่าฉินหยุนเป็นผู้มีเบื้องหลังจากแดนยุทธ์อ้างว้าง

เจี้ยนหนันหู่กระชับด้ามดาบเอาไว้แน่น “ดาบของข้าคือดาบเต๋าโบราณ! ฉินหยุน หากเจ้ายังมีอุปกรณ์เต๋าโบราณในครอบครอง จงนำมันออกมาและใช้งาน เจ้าจะได้ไม่ต้องใช้กระบี่นั่น!”

“หาได้จำเป็นไม่” ฉินหยุนยิ้มรับพร้อมลุกขึ้นยืน

หลังถอดเสื้อออก ผู้คนย่อมได้เห็นว่าบาดแผลก่อนหน้าได้รับการรักษาเลือนหายจนหมดสิ้น ที่หลงเหลือมีเพียงแต่คราบเลือด

เจี้ยนหนันหู่ได้ทราบว่าฉินหยุนมีความสามารถไม่น้อย กระนั้นเขาก็ไม่คิดหวาดเกรง

“พี่หู่อย่าได้เกรงกลัวเขาไป ท่านอย่างไรก็ต้องชนะ! กระทั่งข้าเจี้ยนรั่วหยานยังไม่อาจเอาชนะท่าน เขายิ่งไม่มีทาง!” เจี้ยนรั่วหยานเผยความมั่นใจออกมา

ดาบของเจี้ยนหนันหู่เป็นอาวุธเต๋า นอกจากนี้ ยังมีวิญญาณยุทธ์สีดำและโทเทมดาบ ไม่ว่ามองที่ตรงใด ต่างก็แข็งแกร่งกว่าฉินหยุนทั้งสิ้น

ฉินหยุนมองที่กระบี่ในมือพลางคิดกับตนเอง “ขอตั้งชื่อมันว่า กระบี่ราชสีห์สวรรค์!”

เจี้ยนหนันหู่ก้าวเดินขึ้นลานประลองยุทธ์ สายตามองที่ฉินหยุนอย่างทระนงตน

ฉินหยุนก้าวเดินเข้ามาเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยสู้กับเจี้ยนหนันหู่ และเอาชัยจากอีกฝ่ายได้

และฉินหยุนในครั้งนั้น หาได้ใช้กำลังเต็มที่ไม่!

เจี้ยนหนันหู่ย่อมไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเกิดความมั่นใจ ว่าหากได้พบเจอบุคคลเดิมอีกครั้ง เขาย่อมต้องสามารถเอาชนะอีกฝ่าย

“ฉินหยุน เพื่อเอาชนะเจ้า ข้าอาจต้องทำเจ้าบาดเจ็บไปบ้าง ทว่าข้าจะพยายามยั้งมือให้ดีที่สุด!” เจี้ยนหนันหู่กล่าว

“ข้าทราบแล้ว!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ

ครั้งเจี้ยนหนันหู่ประลองกับเจี้ยนรั่วหยานก่อนหน้า เขาไม่ได้ยั้งมือ หากเจี้ยนรั่วหยานไม่ยอมแพ้ นางคงได้รับบาดเจ็บร้ายแรงไปแล้ว

“ไม่สำคัญว่าเจ้าคือผู้ที่เอาชนะข้าเมื่อครั้งก่อนหรือไม่ เจ้าเพียงแต่ต้องพ่ายแพ้ต่อข้าในวันนี้! เจ้าแข็งแกร่ง ถือว่ามีคุณสมบัติพอให้ต่อสู้กับข้า เช่นกัน เจ้ายังเป็นบุคคลสุดท้ายของนครเซียนยุทธภัณฑ์ที่มีกำลังพอให้ต่อสู้กับข้าได้!” เจี้ยนหนันหู่กล่าว

“นั่นไม่ถูกต้อง ในนครเซียนยุทธภัณฑ์ ยังมีอาจารย์ยุทธ์ที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ที่แข็งแกร่งพอเอาชนะเจ้าได้อยู่!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

“ผู้ใด? หรือจะเป็นชายที่เอาชนะข้าไปได้เมื่อครั้งนั้น?”

เจี้ยนรั่วหยาน แม่เฒ่าหม่า และเปาเฉิงโฉ่วต่างเกิดความสงสัยขณะมองที่ฉินหยุน พวกเขากำลังรอคอยคำตอบ

“จิงเหมิง!” ฉินหยุนกล่าวคำขึ้น

“ข้าย่อมไม่เชื่อ!” เจี้ยนหนันหู่มองที่เด็กสาวขี้อายพร้อมแค่นเสียง

“ถามปู่ของเจ้าดูก็รู้!” ฉินหยุนตอบคำ

เจี้ยนสือเทียนพยักหน้ารับ “อาหู่ หากเหลียวจิงเหมิงทุ่มสุดตัวประมือกับเจ้า เจ้าไม่อาจต้านรับนางได้เกินหนึ่งร้อยกระบวนท่า!”

แม่เฒ่าหม่าและเปาเฉิงโฉว่ย่อมทราบ ว่าเหลียวจิงเหมิงแกร่งกล้าเพียงใด นั่นก็เพราะเหลียวจิงเหมิงครอบครองร่างเซียน!

มันคือร่างกายภาพท้าทายอำนาจสวรรค์ กล่าวได้ว่ามันพร้อมบดขยี้ผู้ที่ขวางทางได้อย่างง่ายดาย

ทว่า ย่อมไม่มีผู้ใดเชื่อว่าเด็กสาวงดงามใสซื่อ จะเป็นผู้ครอบครองพลังชวนสะพรึงระดับนั้น

เหลียวจิงเหมิงพบเห็นหลายผู้คนมองมา นางยิ่งเขินหายก้มหน้างุด