ตอนที่แล้วบทที่ 206 - คุณสมบัติของนักสำรวจ (3) [22-07-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 208 - คุณสมบัติของนักสำรวจ (5) [26-07-2020]

บทที่ 207 - คุณสมบัติของนักสำรวจ (4) [24-07-2020]


บทที่ 207 - คุณสมบัติของนักสำรวจ (4)

จากนั้นฉันได้ออกมาจากดันเจี้ยนและไปหาฺวาหยาเพื่อไปพบกับอิเลด้า แวนด์และแรส มิเชล แม้ว่าพวกเราจะได้รับความสนใจอย่างมากแต่ฮวาหยากับฉันก็ไม่ได้สนใจสักนิด

"ฉันซื้อตึกในกรุงโซลเพื่อใช้เป็นบ้านกิลด์ของเรานะ"

"นั่นเป็นความคิดที่ดี เราจะได้ไม่ต้องไปเจอกันแค่ในพื้นที่พักเท่านั้นแล้วไอน่าไปไหนล่ะ"

"ในดันเจี้ยนนะ เด็กๆต้องออกไปวิ่งเล่นหลังกินอิ่มนะ"

"นั่นก็จริง"

ชั้นที่ 51 มอนสเตอร์ยักษ์จะปรากฏออกมาและพวกมันก็ไม่มีตัวใดเลยที่จะใกล้เคียงกับคำว่าคุมคามไอน่าได้ ฉันได้รู้สึกเศร้าเล็กน้อยเมื่อคิดว่าลูกสาวของฉันอาจจะก้าวข้ามฉันไป แต่ว่านั่นเป็นโชคชะตาของฉันในฐานะนักสำรวจบียอน ไม่สิบางทีไอน่าก็อาจจะเข้ามาในบียอนเหมือนกัน ด้วยทักษะของเธอเธอก็สามารถจะได้รับชื่อที่แท้จริงของเทพเจ้าและได้รับเงื่อนไขจนครบเหมือนกัน

"เราถึงแล้ว"

"...ที่นี่หรอ"

"ยังไงก็ตามพวกเราก็เต็มไปด้วยเงินอยู่แล้วนี่"

ด้านหน้าของเราเป็นคฤหาสน์ทรงโมเดิร์นที่มีขนาดใหญ่ซึ่งไม่เหมือนกับบ้านอื่นๆที่เราได้เห็นตามรายทางมาที่นี่ มันราวกับว่ามีใครซักคนมาซื้อที่ดินใกล้ๆที่นี่ รื้อถอนสิ่งของเก่าๆและสร้างสิ่งนี้ลงมาใหม่ แม้ว่าพวกเราจะอยู่ในย่านอาศัยที่เงียบสงบ แต่ว่ามันก็ห่างจากศูนย์กลางการจราจรเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่ดินนี้จะต้องมีราคาที่มหาศาลแน่ๆ... ไม่ มันยังไม่ใช่แค่นี้

คฤหาสน์นี้ยังดูเหมือนว่าถูกทำมาจากนำลายของผึ้งซาลิว่าและหินสีน้ำเงินซึ่งเป็นชิ้นส่วนของโกเลม ด้วยวัสดุนี้ไม่ว่าจะการระเบิดธรรมดาและการโจมตีของมอนสเตอร์ก็ไม่สามารถจะสั่นคฤหาสน์นี้ได้แม้แต่นิด นอกจากนี้ก็ยังสวนอยู่ข้างนอกแม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้กับขนาดของคฤหาสน์นี้แต่ว่ามันก็ใหญ่มากพอที่จะวิ่งไปรอบๆ

ในตอนที่ฉันได้มองไปที่ทางเข้าด้วยท่าทางมึนงง ฮวาหยาก็ได้พูดออกมาอย่างขึ้เล่น

"นี้เป็นสินสอดของฉัน"

"ห๊ะ?"

"ฉันแค่ล้อเล่นนะ ฮ่าๆ"

"ฉันไม่ขำเลยสักนิด"

"เข้าไปกันเถอะ"

มีแขกอยู่ข้างในคฤหาสน์อยู่แล้ว ลีออน สุมิเระ โซฟี เร็น เลอบิคและสมาชิกคนอื่นๆของรีไวเวิร์ลได้อยู่่ที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะว่าเราเพิ่งจะมีงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้และไม่มีใครที่จะต้องรีบออกไปจากเกาหลี หลังจากทักทายพวกเขาแล้วในที่สุดฉันก็รู้ตัว

"โอ้ฉันรู้แล้ว พวกเรามีปาร์ตี้ต้อนรับสมาชิกใหม่ใช่ไหม นั่นคือเหตุผลที่พวกนายทุกคนมาอยู่ที่นี่สินะ"

"ใช่แล้ว ฉันกำลังจะบอกนายเลย แต่ว่านายรีบวิ่งไปในดันเจี้ยน"

พวกเราสามารถจะทำมันได้ในบ้านกิลด์ในดันเจี้ยน แล้วทำไมต้องมาทำที่โลกล่ะ เมื่อเห็นสายตาสงสัยของฉัน ฮวาหยาได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม

"มันเป็นการแสดงนิดหน่อยนะ ในปัจจุบันนี้พวกเรากำลังตกอยู่ในศูนย์กลางของความนสนใจในโลก ดังนั้นการที่พวกเรามารวมกันในที่ๆเดียวกันจึงมีความสำคัญ สนมาเรียเน่เป็นที่ๆดี แต่ว่าคนอื่นๆจะไม่มีทางรู้ว่าเราทำอะไรหรืออยู่ที่ไหน"

"เธอพูดถูก วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองสำหรับการขยายของกิลด์ แต่ว่าการแสดงมันออกไปก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน"

มันดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ใช่แค่คนเดียวที่อยู่ที่นี่ เอลฟ่าได้กระโดดเข้ามาหาฉันในทันทีเพื่อยืนยันสิ่งนี้ จากนั้นยุยก็โผล่ออกมาจากด้านหลังและรีบลากเธอไปอย่างรวดเร็ว จากวิธีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของยุยฉันสามารถจะบอกได้เลยว่ายุยพัฒนามามาก น้องสาวของฉันกำลังโตขึ้นไปโดยที่ฉันไม่ได้รู้เลย..."

"แรส มิเชลกับอิเลด้า แวนด์ใกล้จะมาถึงแล้ว หยุดทำหน้าตางี่เง่าแล้วไปเตรียมต้อนรับแขกได้แล้ว"

"จริงสิ"

ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆกำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานปาร์ตี้ พ่อกับวอร์คเกอร์ได้นั่งดื่มกันโดยที่ไม่ช่วยอะไรเลย ฉันยังได้เห็นยุยที่จัดการลงโทษพวกเขาจากที่ๆฉันยืนอยู่ โอ้ดูเหมือนว่าลีออนก็จะมาเข้าร่วมกับพวกนั้นเหมือนกัน ใช่แล้วลีออนก็ชอบดื่มเหมือนกัน... ให้ตายสิที่นี่มีแต่เร็นที่ทำตัวเหมาะสมจริงๆ

"ฉันรู้ว่านายต้องการจะไปร่วมกันพวกนั้น แต่ว่าหยุดคิดเลยนะ"

"ขอโทษ...."

ฉันก็ไม่ใช่คนที่เหมาะสมแม้แต่นิด....

ในตอนที่พวกเราได้ทำทุกๆอย่างเสร็จสิ้นรวมไปถึงพันธะสัญญาวิญญาณทั้งสองและตรวจสอบทุกๆอย่างแล้ว พวกเราก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

"คุณชิน พี่ค่ะ พวกเขามาแล้ว"

"ให้พวกเขาเข้ามาเลย"

แม้ว่าพวกเราจะสั่งให้คนข้างนอกเข้ามีส่วนร่วมในเรื่องต่างประเทศ แต่ว่าเราก็ตัดสินใจที่จะให้บุคคลภายนอกจัดการเรื่องของภายใน ดังนั้นสุมิเระจึงทำงานในฐานะเลขาของฮวาหยา แม้ว่าในตอนนี้มันจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าจำนวนนักสำรวจของเราก็จะเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ เราจำเป็นต้องหาทางแก้ไข

ยังไงก็ตามที สุมิเระได้เปิดประตูให้ทั้งสองคนเข้ามาในห้องรับแขกแล้ว คนแรกที่เข้ามาเลยคือผู้ใช้พลังชาวตุรกีอิเลด้า แวนด์ เธอดูจะมีอายุที่พอๆกับฮวาหยา ในเวลาเดียวกันเธอก็มีส่วนสูงที่น้อยกว่าฮวาหยา หน้าอกเล็กกว่า และดวงตาเล็กกว่า แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเธอก็ดูดีและมีความสวยที่ดูไร้เดียงสา

คนที่สองคือแรส มิเชลที่ฉันชินกับการได้เห็นเข้าแล้ว ในตอนที่เขาเห็นฉัน เขาได้ยกมือขึ้นมาทักทายฉัน

"ยินดีที่ได้เจอกันอีกนะ"

"มันก็แค่วันเดียวเองนะ นายยังอยู่ที่กรุงโซลใช่ไหม?"

"ใช่แล้ว โรงแรมที่นี่ดีมากเลยล่ะ"

จากนั้นสุมิเระก็พาพวกเขามานั่ง นี้เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกัลอิเลด้า แวนด์ แม้ว่าฉันจะคิดที่จะทักทายเธอเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายลง แต่แล้วฉันก็ปล่อยให้ฮวาหยาที่นั่งอยู่ถัดไปจากฉันจัดการแทนเนื่องจากสายตาเธอที่จ้องมา

หลังจากทักทายแขกสำคัญทั้งสองคนแล้ว ฉันก็ยื่นสัญญาให้ทั้งคู่

"ฉันจะถือว่าคุณรู้ในวัตถุประสงค์ของรีไวเวิร์ลแล้วนะ การเข้าร่วมกับรีไวเวิร์ลมันหมายความว่าคุณจะต้องเข้าร่วมการต่อสู้กับศัตรูของโลกกับพวกเรา ทั้งสองคนจะโอเคกับมันนะ"

ความจริงแล้วในตอนแรกที่ฉันสร้างรีไวเวิร์ล ฉันก็คิดเพียงแค่ว่าฉันจะสู้กับพวกมันด้วยตัวเอง เหตุผลเดียวที่ฉันสร้างกิลด์นี้ขึ้นมาเพราะว่าฉันต้องการหาที่อยู่ให้กับรูเดียและชูนะ แต่ว่าหลังจากที่เราได้เคลียร์เหตุการดันเจี้ยนด้วยกัน ฉันก็คิดว่ามันจะดีที่สุดหากนักสำรวจของโลกมาร่วมมือกัน นั่นก็คือต้องที่รีไวเวิร์ลได้ถูกสร้างขึ้นจริงๆ

ในตอนนี้พวกเราได้อยู่ด้วยกันเพื่อเป้าหมายเดียวคือการต่อสู้กับศัตรูของโลก พวกเรารู้ในเหตุผลการมีอยู่ของดันเจี้ยนและเหตุผลที่มอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมา พวกเราจะต้องสู้ ไม่ใช่เพื่อคนอื่นๆแต่มันเป็นเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และเพื่อเพื่อนของเรา

สำหรับเดซี่ เร็น และเลอบิค พวกเขาให้ความร่วมมือกับเราเพื่อที่เราจะได้ไปช่วยโลกของพวกเขา

แรส มิเชลได้หยักหน้าอย่างหนักแน่น

"ฉันไม่ได้มาเพื่อเรื่องอื่นอยู่แล้ว ฉันตัดสินใจที่จะเชื่อในตัวนายดังนั้นฉันเลยขอมอบพลังของฉันให้กับนาย ศัตรูของโลก...มีสองตัวสินะ ถ้าพวกเราใกล้จะต้องต่อสู้กับศัตรูที่น่ากลัวแบบนี้ พวกเราก็จะต้องรีบแล้ว"

"ฉันก็เหมือนกัน รัฐบาลตุรกีก็ยังเห็นด้วยกับฉัน ถ้าพลังของฉันสามารถช่วยโลกของเราได้ ฉันก็ยินดีที่จะช่วย"

อิเลด้า แวนด์ได้พูดออกมาด้วยเสียงชัดเจนในขณะที่มองตรงมาที่ฉัน ฮวาหยาได้ยื่นหน้าของเธอมาข้างๆฉันและทำเสี่ยงข่มขู่ออกไป แต่ว่าฉันได้ผลักหน้าเธอออกไปเล็กน้อย เธอเป็นงูหรือยังไงเนี้ย

"เยี่ยม อ่านที่สัญญาและเซ็นมันสิ เมื่อพวกนายทำแล้ว นายจะกลายมาเป็นสมาชิกรีไวเวิร์ล"

เนื่องจากว่าไอน่าได้กลายมาเป็นนักสำรวจระดับทองแล้วเมื่อไม่นานมานี้ อิเลด้า แวนด์และแรส มิเชลเลยได้กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่งโดยใช้สิทธิ์ของไอน่า

ฉันได้ใช้สิทธิของฉันไปกับเยอึนและไอน่าแล้วดังนั้นฉันจึงไม่มีเหลืออยู่ ส่วนฮวาหยาเธอยังคงอยู่ในดันเจี้ยนที่สอง มันจะเป็นการเสียเปล่าหากทำให้นักสำรวจระดับ SS ไปอยู่ในดันเจี้ยนที่สอง

ในตอนที่สัญญาได้ถูกเซ็นและไอน่าได้ให้สิทธิการเป็นนักสำรวจกับพวกเขา ฉันก็ได้ยื่นมือออกไปให้กับแรส มิเชล

"ฉันำลังรอที่จะสู้ร่วมกับนายนะมิเชล ในตอนนี้นายไม่สามารถจะหนีไปได้อีกแล้ว"

"ฉันก็อยากจจะสู้กับนายเหมือนกันชิน นายจะไม่เสียใจแน่ที่รับฉันเข้ามา"

ในขณะเดียวกันพวกเขาทั้งสองคนก็คุยกันเอง

"ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ฉันจะต้องเห็นดันเจี้ยนด้วยตัวเอง"

"ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน ชินบอกว่าเราสามารถปีนด้วยกันได้ใช่ไหม?"

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปีนดันเจี้ยนด้วยเพียงแค่พลังในการรักษา ดังนั้นพวกเราเลยบอกให้เธอปีนดันเจี้ยนไปพร้อมๆกับมิเชล แน่นอนว่าพวกเราไม่ลืมที่จะบอกให้มิเชลสู้กับบอสประจำชั้นด้วยตัวเองก่อนที่จะไปท้าทายบอสด้วยกัน

ที่สำคัญไปกว่านั้น....

"อ่า เดี๋ยวก่อนนะ พวกนายได้ไปแน่แต่ว่าต้องรอหน่อยนะ พวกเรากำลังจะจัดปาตี้ต้อนรับสมาชิกใหม่กัน"

มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่พวกเขาต้องการจะเข้าไปในดันเจี้ยน แต่ว่างานปาร์ตี้ที่เราวางแผนกันมันจะพังแน่ๆหากพวกเขาไม่อยู่

"ฉันรักปาร์ตี้"

"หืม นายพูดถูก ฉันได้หลายคนเลยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันคิดว่าฉันควรจะไปทำความรู้จักกับพวกเขาสินะ"

พวกเขาก็ดูเหมือนจะสนใจงานนี้เหมือนกัน ฉันได้ยิ้มออกมาและลุกออกจากที่นั่ง แค่เพียงในตอนที่ฉันพยายามจะทำท่าเท่ๆไอน่าก็ได้กระโดดมาบนหลังของฉันและทำลายทุกๆอย่าง อิเลด้า แวนด์ได้ถามออกมาด้วยตาที่เบิกกว้าง

"คุณสองคนรู้จักกันมาก่อนหรอ?"

"เธอคนนี้เป็นลูกสาวของฉัน"

"ลูกสาว!?"

เมื่อเห็นฉันตอบออกไปโดยไม่ลังเล ฮวาหยาได้ยกนิ้วขึ้นมา ฉันเข้าใจได้เลยจากท่าทางของเธอ ในตอนที่ฉันพูดว่าฉันมีลูกสาว ฉันก็จะหหยุดผู้หญิงคนอื่นจากการเข้ามาหาฉันได้

"โอ้วว ทูน่าละลาย"

ใช่แล้ว อาหารจานหลักในวันนี้คือทูน่าละลาย ยุยได้เอาส่วนที่เหลือทั้งหมดของทูน่าละลายไปทำอาหารในตอนเช้านี้ ซาชิมิทูน่า สเต็คทูน่า สลัดทูน่า.... พ่อ วอร์คเกอร์และลีออนก็ดีดตัวกันขึ้นมาในทันที แต่ว่าก็ไม่มีอะไรที่น่าห่วงพวกเราได้เตรียมอาหารไว้พอสำหรับเติมเต็มท้องคนถึง 30 คนแล้ว

"เยี่ยม ฉันรักซาชิมิ"

"โอ้ นายกำลังพูดอะไรนะ นายอายุเท่าไหร่แล้ว"

พ่อผู้ที่พัฒนาความใกล้ชิดอย่างรวดเร็วจากการดื่มและกินอาหารได้เข้ามาหาแรส มิเชลด้วยรอยยิ้ม

"คุณลุง"

ทันใดนั้นฮวาหยาได้ตะโกนขึ้นและคว้าขวดโซจูออกไปจากมือของพ่อ

"คุณลุงจะดื่มเริ่มมันในตอนที่ทุกคุณอยู่ที่นี่ไม่ได้นะ ลูกชายของคุณลุงเป็นเจ้าภาพนะ"

"ธะ เธอเกือบทำให้หูฉันแตกแล้วนะลูกสาว"

"หนูไม่ได้บอกให้คุณลุงทำท่าทางให้เป็นทางการหรอ คุณลุงกำลังทำให้ภาพลักษณ์กิลด์เราแย่นะ"

"ฉันรู้ แต่ว่านี้มันก็สามาารถจะเรียกได้ว่าทางการ...."

"ถ้างั้นคุณลุงกำลังวางแผนที่จะทำลายภาพลักษณ์ของชินต่อหน้าสมาชิกใหม่หรอ ถ้าคุณลุงยังไม่ฟังอีก หนูจะบอกคุณนายคัง"

"อึก"

พ่อได้ผงะไปในทันที หลังจตากที่ปรามพ่อแล้ว ฮวาหยาได้จ้องไปที่วอร์คเกอร์กับลีออนอย่างน่ากลัว มันราวกับว่าพวกเขารู้สึกได้ถึงบางอย่างทำให้พวกเขาหดตัวลงไป หลังจากนั้นฮวาหยาก็กระแทกขวดโซจูลงกับโต๊ะและพูดออกมา

"ปาร์ตี้เริ่มแล้วในตอนนี้ ทุกคนปรบมือออ"

"พี่สาวยิ่งใหญ่จริงๆ...."

"ปะ เป็นผู้หญิงที่เท่อะไรแบบนี้...."

ฮวาหยาได้ควบคุมบรรยากาศที่ไม่เป็นระเบียบและจัดรูปร่างมันใหม่ในทันที ทุกคนได้เริ่มปรบมือออกมาราวกับว่าไม่ต้องการยั่วอารมณ์ของฮวาหยา จากนั้นเสียงปรบมือก็กลายเป็นธรรมชาติมายิ่งขึ้นและทุกๆคนก็ทักทายมิเชลกับแวนด์ ทั้งสองคนก็ได้ทักทายสมาชิกกิลด์รีไวเวิร์ลเช่นกัน

"ฉันไม่รู้เรื่องดันเจี้ยนเลยซักนิด ฝากตัวด้วยนะ"

"ฉันจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อช่วยทุกๆคน ฉันยินดีมากที่ได้ร่วมงานกับทุกคน"

"เอาล่ะชิน ถึงเวลาเปิดงานแล้ว"

ดูเหมือนว่าฮวาหยาจะทำงานหนักเล็กน้อย เธอได้เอาไอน่าที่เกาะคอของฉันอยู่ออกไป ฉันได้หยิบขวดโซจูขึ้นมาเหมือนกับไมค์และพูดออกมา

"อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ในวั้นนี้เราได้รับสมาชิกกิลด์ใหม่มาสองคน แรส มิเชลผู้ที่ใช้พลังเสริมร่างกายและฮีลเลอร์อิเลด้า แวนด์ผู้ที่พร้อมจะปกป้องทุกคนพร้อมๆกับรูเดียว"

"ฮีลเลอร์...."

รูเเดียได้มองไปที่แวนด์อย่างประหลาดใจเล็กน้อย

"ฉันมั่นใจว่าพวกเราก็มีเหตุผลที่จะเข้าร่วมรีไวเวิร์ลของตัว ยังไงก็ตามจุดประสงค์ของพวกเราเหมือนๆกัน นั้นก็คือการปกป้องที่ๆเราอยู่"

ฉันได้วางขวดโซจูลงไปบนโต๊ะเบาๆ

"นี่มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อว่านี้จะเปลื่ยนแปลงสิ่งที่กำลังจะมาถึงและพวกเราจะอยู่ในจุดศูนย์กลางนั้น ฉันมั่นใจได้เลยล่ะว่าพวกเราจะต้องยุ่งกันจนแทบจะตาได้เลย แต่ว่าเราก็จะได้อะไรบางอย่างจากมันเช่นกัน"

"พอแล้วน่าเจ้าชาย"

"ฉันชอบความซื่อตรงของแกไอลูกชาย"

"หนูมีความสุขที่ช่วยพี่ได้"

"....น่าเชื่อถือ หัวหน้ากิลด์ ผ่าน"

นี้เนเรื่องที่จริงจังพอสมควร ฉันได้ยิ้มและยกขวดโซจูขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของทุกๆคนได้จ้องลงมาที่ขวดนี้

"ถ้างั้นสำหรับวันนี้เรามาดื่มกันเถอะ ดื่มกันจนลืมทุกสิ่งไปเลย เชียร์"

"โว๊ววววววววววว"

"เชียร์"

"ชิน การเตรียมการจองฉันล่ะ"

"แม่หนูดื่มด้วยได้ไหมอะ"

"ไม่ได้ไอน่า"

ในวันนี้ไม่มีใครเลยที่สามารถไปเข้าดันเจี้ยนต่อได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด