ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0618 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0620 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0619 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 619 : พลังจิตจันทราสีม่วง

“แม่นางผู้กล้าหาญรั่วหยาน ขอให้ส่งมอบเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดสองเม็ดแก่ข้าแล้ว!” ฉินหยุนกระแอมไอเป็นการทำลายความเงียบ

เจี้ยนสือเทียนตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด หินทั้งสามก้อนนั้นสร้างขึ้นเป็นพิเศษ จุดประสงค์ของมันมีไว้เพื่อประลองทางพลังจิตอย่างแท้จริง

เขาทราบว่าพลังจิตของฉินหยุนไม่อ่อนด้อย อย่างไรแล้วเขาก็เป็นอาจารย์จารึกลึกล้ำเยาว์วัย

กระนั้นเขาไม่คาดคิด ว่ามันจะเหนือล้ำยิ่งกว่าเจี้ยนรั่วหยานและเจี้ยนหนันหู่มากมายได้เพียงนี้

“ข้า... ข้าไม่ยอมรับ!” เจี้ยนรั่วหยานตะโกนดังหลังดึงสติได้

“เจ้ายอมรับหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ นี่คือกฎที่ผู้อาวุโสตระกูลเจี้ยนของเจ้าเสนอขึ้นมา หินเหล่านั้นก็เป็นของเขา ข้าไม่มีทางคดโกงอันใดได้อยู่แล้ว!” ฉินหยุนถอนหายใจ “หากเจ้าไม่ต้องการมอบแก่ข้า อย่างนั้นก็ช่างมัน ข้าคงกล่าวเพียงแต่ตนเองโชคร้าย ไม่น่าลดตัวไปเล่นกับเจ้า!”

เจี้ยนรั่วหยานพอได้ยิน นางจึงพุ่งทะยานเข้ามาพร้อมส่งเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดสองเม็ดแก่ฉินหยุน นางตะโกนดังทิ้งท้าย “พวกมันเป็นของเจ้าแล้ว ข้าไม่ใช่ผู้ที่คิดกลับคืนคำพูด!”

บรรดาศิษย์หลักของสำนัก จะได้รับเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดในทุกปี กระนั้นพอได้มา พวกเขายังยากทำใจกลืนกินมันเข้าไป

บางครั้ง เม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดสามารถใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังจากที่ใช้พลังจิตไปอย่างมหาศาล ไม่เพียงแต่เม็ดยาช่วยฟื้นฟูพลังจิตที่เสียไปอย่างรวดเร็ว มันยังจะช่วยเพิ่มระดับการฝึกฝนพลังจิตให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ บรรดาศิษย์หลักของสำนักจึงหวงแหนพวกมันเผื่อสถานการณ์ไม่คาดฝัน

ฉินหยุนรับเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดมา พร้อมยิ้มตอบเจี้ยนรั่วหยาน

ตัวเขาตอนนี้มีหกเม็ดในครอบครอง นี่ถือเป็นผลการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ยิ่ง

“ข้ายังไม่ยอมรับ พวกเราประลองกันอีกครั้งเป็นอย่างไร?” ภายในใจเจี้ยนรั่วหยาน ยังคงอัดแน่นด้วยความมาดมั่นและทระนงตน นางไม่ยอมรับว่าพ่ายแพ้ต่อฉินหยุนเพียงเท่านี้ เพราะในสายตาของนาง ฉินหยุนไม่ใช่ผู้ที่สามารถทัดเทียมนางได้

“ข้าเองก็ไม่ยอมรับ!” เจี้ยนหนันหู่ตะโกนดัง

“อาหู่ เจ้าอย่าได้เข้าร่วมต่อแล้ว พลังจิตของอาจารย์จารึกลึกล้ำย่อมสูงกว่าเจ้า นี่เป็นเรื่องธรรมดา!” เจี้ยนสือเทียนกล่าวเตือน

เจี้ยนหนันหู่ได้แต่รับฟังผู้เป็นปู่ เขาจึงต้องถอยกลับ

ฉินหยุนมองที่เจี้ยนรั่วหยานพร้อมยิ้มกล่าว “ยังมีเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดอยู่อีกหรือไม่?”

“ข้า... ข้าไม่มีเหลือแล้ว ขอข้าติดค้างเอาไว้ก่อน!” เจี้ยนรั่วหยานกล่าวคำ “ด้วยความสามารถของข้า คิดหาสองเม็ดให้เจ้าไม่ใช่เรื่องยาก!”

“ข้าไม่รับหนี้ที่ติดค้าง” ฉินหยุนส่ายศีรษะ

“อย่างนั้นเจ้าต้องการอะไร?” เจี้ยนรั่วหยานฮึมฮัม “ข้าย่อมไม่พอใจต่อวิธีที่พวกเราประลองต่อกัน ข้ายังไม่ได้ใช้พลังจิตที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยซ้ำ!”

เจี้ยนสือเทียนพอได้ยิน เขาจึงยิ้มกล่าว “เสี่ยวหยาน เจ้าคิดกล่าวโทษข้าต่อเรื่องนี้หรือ?”

“ข้าไม่ได้กล่าวโทษท่าน ข้าเพียงกล่าวว่าวิธีนี้ไม่เหมาะสมทดสอบพลังแท้จริงของข้า!” เจี้ยนรั่วหยานตอบคำเบา

“ดี อย่างนั้นใช้วิธีของเจ้าประลองกับเขาอีกครั้ง ข้าจะจ่ายเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดให้เอง! ในเมื่อเจ้ามั่นใจ ข้าก็จะช่วยเหลือสักคราหนึ่ง!”

“ครั้งนี้ข้าต้องการสี่เม็ด!”

ฉินหยุนพบเห็นเจี้ยนสือเทียนยอมจ่ายเม็ดยาออก เขาจะปล่อยให้โอกาสเชือดนิ่มหลุดลอยไปได้อย่างไร?

เจี้ยนสือเทียนอึ้ง ผู้คนที่รับชมต่างอึ้ง ฉินหยุนผู้นี้หาญกล้าเกินไปแล้ว เขาถึงขั้นคิดบีบเค้นครึ่งเซียนเชียวหรือ?

“ฉินหยุน สมองเจ้ามีปัญหาหรือไร!” เจี้ยนรั่วหยานพลันสบถก่นด่า “เหตุใดไม่เรียกร้องสิบเม็ดไปเลยเล่า?”

“ย่อมได้ อย่างนั้นข้าต้องการสิบเม็ด!” ฉินหยุนเผยยิ้มกว้าง

“สี่ก็สี่!”

เจี้ยนสือเทียนถึงกับพูดไม่ออก ภายในก้นบึ้งหัวใจกำลังสบถก่นด่าต่อฉินหยุนไม่หยุด

เขาค่อยเข้าใจ ว่าเหตุใดฉินหยุนกวนเรื่องราวให้น้ำขุ่นจนภูเขาไฟปะทุได้

ฉินหยุนมองที่เจี้ยนรั่วหยานพร้อมถาม “เจ้าคิดประลองอย่างไร?”

“ฉินหยุน ข้าทราบว่าเจ้าใช้พลังจิตควบคุมมีดบิน!” เจี้ยนรั่วหยานกล่าว “ข้าจะปล่อยดาบเจตจิตออกมา เจ้าใช้มีดบิน พวกเราจะใช้พลังจิตควบคุมอาวุธตนเองประลองต่อกัน ผู้ใดทำลายอาวุธอีกฝ่ายได้ถือว่าชนะ!”

ฉินหยุนหยุดคิดไปครู่ก่อนพยักหน้า “ตกลง!”

เขานำเอามีดบินออกมา มีดบินเหล่านี้ได้รับการยกระดับขึ้นเรียบร้อยแล้ว ทั้งสิ้นเป็นอุปกรณ์ลึกล้ำ

เจี้ยนรั่วหยานเร่งรีบปลดปล่อยดาบยาวสีขาว นี่คือดาบเจตจิตของนาง

นางย่อมมีดาบต้นกำเนิด เป็นนางครอบครองสองดาบที่แกร่งกล้า

“เริ่มได้!”

เจี้ยนรั่วหยานควบคุมดาบของนางบินขึ้นกลางอากาศ

ฉินหยุนควบคุมมีดบินลอยขึ้นเช่นกัน จากนั้นจึงเข้าปะทะกับดาบเจตจิตของเจี้ยนรั่วหยาน

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

มีดบินและดาบยาวปะทะกัน เกิดขึ้นเป็นเสียงการปะทะดังต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าอาวุธทั้งสองทรงพลังอำนาจเพียงใด

“มีพลังจิตเหนือชั้นถือเป็นเรื่องดียิ่ง ควบคุมอาวุธรับศึกจากระยะไกลก็ได้ ใช้อาวุธลักลอบโจมตีก็ได้!”

“ในเขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์ ฉินหยุนใช้มีดบินเหล่านี้สังหารคนไปมาก”

“สงสัยนักว่าเขาจะเอาชัยจากเจี้ยนรั่วหยานได้อย่างไร”

“แม้เป็นที่เขตแดนจินตภาพ เจี้ยนรั่วหยานยังใช้ดาบเจตจิตของนางกวาดล้างกองกำลังที่แข็งแกร่งลงได้”

ศิษย์หลายคนของนครเซียนยุทธภัณฑ์เริ่มสนทนากันเอง

บรรดาศิษย์พี่ทั้งหลายต่างริษยาต่อเรื่องนี้ เพราะพวกเขากล้ากล่าว ว่าทั้งฉินหยุนและเจี้ยนรั่วหยานครอบครองพลังจิตอันแกร่งกล้า

ศิษย์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ในแต่ละกองกำลังมีกันอยู่เพียงน้อยนิด

ฮูจิงเซียนถอนหายใจ “เสี่ยวหยุน เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ปฏิเสธเข้าร่วมเกาะจันทราปีศาจไม่ว่าจะด้วยอะไร เขาช่างเป็นเด็กน้อยที่ดื้อรั้นและน่าชังนัก!”

สตรีจากเกาะจันทราปีศาจย่อมเกิดความเสียดายเช่นกัน พวกนางปรารถนาได้รับศิษย์ชายที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ให้เข้าร่วมเกาะจันทราปีศาจ

ฉินหยุนถือเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม เบื้องบนของเกาะจันทราปีศาจไม่คิดปฏิเสธการสร้างข้อยกเว้นให้แก่เขา

พวกนางตระหนักได้ ว่าฉินหยุนยืนกรานไม่คิดไปเกาะจันทราปีศาจ

ฮูจิงเซียนทราบเรื่องราวดีที่สุด เชี่ยวเย่ว์หลานเป็นภรรยาของฉินหยุน และนางอยู่ที่เกาะจันทราปีศาจ เขาปฏิเสธไม่ไปยังเกาะจันทราปีศาจ ก็เพราะไม่อยากให้นางต้องติดร่างแหความแค้น

เจี้ยนรั่วหยานควบคุมดาบเจตจิต นางเริ่มคิ้วขมวดขณะปะทะกับมีดบินของฉินหยุนต่อเนื่อง อย่างกะทันหัน นางได้ตระหนัก ว่าวิธีการประลองเช่นนี้ออกจะไม่เหมาะสมกับตัวนาง

นี่เป็นเพราะมีดบินของฉินหยุนมีขนาดเล็กยิ่ง คิดต่อกรด้วยไม่ใช่เรื่องง่าย

ฉินหยุนควบคุมมีดบินอย่างสบายอกสบายใจ หลบเลี่ยงดาบเจตจิตของเจี้ยนรั่วหยานง่ายดาย

“สตรีผู้นี้ครอบครองพลังจิตแกร่งกล้านัก กระนั้น นางไม่ได้แข็งแกร่งที่พลังจิตควบคุมเช่นนี้”

“เจ้าใช้งานในลักษณะนี้บ่อยครั้งกว่า นอกจากนี้พลังจิตของเจ้ายังแปรเปลี่ยนเป็นดวงดาว พลังจิตต้นกำเนิดที่เจ้าฝึกฝน ยังใช้พลังวิญญาณเก้าตะวัน นี่จึงยิ่งเหนือล้ำ” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

อีกเหตุผล ว่าทำไมพลังจิตของฉินหยุนแกร่งกล้า นั่นก็เพราะวิถีหัวใจตะวันดารา

“เจี้ยนรั่วหยาน เตรียมรับความพ่ายแพ้!”

ฉินหยุนคำรามดังในใจ พลังจิตรุนแรงถูกผลักออกถึงขีดสุด เขาได้เห็นมีดบินตนเองฉับพลันปกคลุมด้วยแสงสว่างสีม่วง

มีดบินสับฟันใส่ดาบสีขาวออกเป็นสองท่อน!

“อั่ก!” เจี้ยนรั่วหยานรู้สึกราวศีรษะถูกผ่าแยกออก จนต้องร้องอย่างเจ็บปวด

เจี้ยนสือเทียนเร่งรีบเข้ามา วางมือตนเองลงที่ศีรษะเจี้ยนรั่วหยานเพื่อประคองอาการ

“นางแพ้แล้ว!” ฉินหยุนเก็บมีดบิน

ขอบเขตครึ่งเซียน และจักรพรรดิยุทธ์ ต่างต้องสูดอากาศเย็นเยือกเข้าปอด

“พลังจิตสีม่วง ชายผู้นี้ฝึกฝนได้อย่างไรกัน? นี่มันไม่ใช่พลังจิตธรรมดา!” มู่เฟิงรับชมแต่ไกล ภายในต้องร้องออกอย่างอึ้งทึ่ง

พลังจิตสีม่วงที่ฉินหยุนปลดปล่อยออกมา มันคือตัวตนทรงพลังอย่างแท้จริง

เจี้ยนรั่วหยานที่ฟื้นคืนอาการ นางหอบหายใจเล็กน้อยก่อนเผยเสียงเย็น “ฉินหยุน พลังจิตสีม่วงนั่น เจ้าทราบหรือไม่ว่ามันหมายความถึงอะไร?”

“มันมีความหมายด้วย?” ฉินหยุนเผยชัดว่าไม่ทราบ หลิงหยุนเอ๋อไม่เคยบอกต่อเขา

“นั่นคือพลังจิตตะวันม่วง!” เจี้ยนสือเทียนกล่าวคำแทน “ท่ามกลางเก้าตะวัน ตะวันม่วงถือว่ามีจิตแกร่งกล้าเป็นที่สุด เจ้าสามารถปลดปล่อยพลังจิตสีม่วง อย่างนั้นหมายความถึงพลังจิตของเจ้าได้แปรเปลี่ยนเป็นดวงดาวสีม่วง!”

“หากเจ้าฝึกฝนต่อไป ก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลาง เจ้าจะสามารถแปรเปลี่ยนพลังจิตเป็นจันทราสีม่วง!”

หลายผู้คนย่อมเคยได้ยินถึงพลังจิตตะวันม่วง กระนั้นการฝึกฝนเป็นเรื่องยาก และยังไม่มีวิธีการฝึกฝนที่บ่งชี้แน่ชัด

ความจริงที่ฉินหยุนครอบครองพลังจิตระดับนี้ ทำเอาหลายคนต้องถอนหายใจด้วยอารมณ์แตกต่างกันไป

ฉินหยุนไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ ภายในต้องตระหนก

“โอ!” ฉินหยุนกล่าวรับอย่างเฉยชา

“ฉินหยุน แม้ข้าไม่ทราบว่าเจ้าฝึกฝนมันได้อย่างไร แต่มันอันตรายยิ่ง!” เจี้ยนรั่วหยานกล่าว “ดีที่สุดหากเจ้าทำลายพลังจิตในสภาพนี้ที่ควบแน่นแค่ดวงดาว ไม่เช่นนั้น เมื่อใดพลังจิตเจ้าแปรเปลี่ยนเป็นดวงจันทรา เจ้าจะตกอยู่ในอันตราย!”

“นี่หมายความว่าอะไร?” ฉินหยุนเบ้ปาก

“จันทราหมายถึงหยิน หากเจ้าแปรเปลี่ยนพลังจิตสู่จันทรา อย่างนั้นพลังจิตจันทราสีม่วง จะเข้าดูดกลืนพลังหยินปริมาณมหาศาล และแปรเปลี่ยนร่างลึกล้ำของเจ้า ให้กลายเป็นร่างหยินลึกล้ำ!”

“ถัดจากนั้น เจ้าจะไม่อาจดูดกลืนพลังวิญญาณเก้าตะวันได้อีก เจ้าจะทำได้แต่ดูดกลืนพลังงานหยิน และต้องกลายเป็นมารหยิน!”

สีหน้าของเจี้ยนสือเทียนจริงจัง เขาไม่เผยวี่แววของคำโกหกแม้แต่น้อย

ฉู่ปินอวี้ขมวดคิ้ว “เป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่? ข้านึกว่ามันเป็นเรื่องดี!”

“หากมีทางป้องกันพลังหยินไหลเข้าสู่ร่าง เขาย่อมต้องก้าวถึงการแปรเปลี่ยนพลังจิตสู่ดวงตะวัน นั่นถือเป็นเรื่องดี! ทว่าเรื่องราวยากเย็นราวปีนป่ายขึ้นสวรรค์!” เปาเฉิงโฉ่วกล่าวคำขึ้น “ฉินหยุน หากเจ้าต้องการทำลายสภาวะการฝึกฝนทางจิต พวกเราช่วยเจ้าได้ ด้วยพวกเราครึ่งเซียนช่วยเหลือ มันจะไม่เกิดอันตรายใดขึ้นกับเจ้า!”

เจี้ยนสือเทียนพยักหน้ารับ

“ผู้อาวุโส ขอเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดแก่ข้า เรื่องราวของข้าย่อมทราบดีว่าควรทำอย่างไรขอรับ”

ฉินหยุนไม่กังวลถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงเป็นมารดังที่เจี้ยนสือเทียนกล่าวถึง

เจี้ยนสือเทียนนำเอาเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดออกมา ส่งพวกมันให้แก่ฉินหยุน “เจ้าก็ดูแลตนเองให้ดี!”

หลิงหยุนเอ๋อกล่าวขึ้น “เสี่ยวหยุน นี่ไม่เป็นไร เจ้ามีวิญญาณเทวะเก้าตะวัน ดังนั้นจึงไม่มีแรงกดดันพลังหยินใดสะกดเจ้าไว้ได้!”

ฉินหยุนพอได้ฟังคำของหลิงหยุนเอ๋อ เขาค่อยโล่งใจ

เจี้ยนรั่วหยานแค่นเสียง “พวกเราจริงใจแนะนำแก่เจ้า ทว่าเจ้ากลับไม่รับความหวังดี! ภายหน้าเจ้าตาย อย่าได้กล่าวโทษว่าพวกเราไม่เตือน!”

“ข้าย่อมรับความหวังดีเอาไว้อยู่แล้ว!” ฉินหยุนยิ้มรับ “ด้วยพลังจิตของข้าที่แข็งแกร่ง หากข้าทำลายมัน ภายหน้าแล้วข้าจะสร้างอุปกรณ์และยันต์ได้อย่างไร?”

“ภายหน้าเจ้าต้องนึกเสียใจ!” เจี้ยนรั่วหยานแค่นเสียง

ทันใดนี้เอง แม่เฒ่าหม่าได้กลับออกมา นางนำบุคคลผู้หนึ่งที่สวมใส่ทั้งชุดและหน้ากากสีดำร่วมทางมาด้วย

เจี้ยนหนันหู่ที่เห็นหน้ากากอันคุ้นเคย เขาพลันตื่นเต้นยินดี “เป็นมันที่เอาชนะข้า!”

ฉินหยุนปรารถนาให้ชายหน้ากากโค่นล้มเจี้ยนหนันหู่ได้ เช่นนั้น เขาจะได้ไม่ต้องข้องเกี่ยวกับเรื่องราวที่นี่อีก

ศิษย์หลายคนของหอพิทักษ์กฎแข็งแกร่ง และไม่มีผู้ใดรู้จักตัวตนของพวกเขา

ครั้งล่าสุดที่ฉินหยุนเข้าสู่ป่าอสูรหญ้าภูตผีกับพวกเขา เขาได้ทราบแล้วว่าศิษย์เหล่านี้แข็งแกร่งเพียงใด

“ขออภัยที่ให้รอ!” แม่เฒ่าหม่ากล่าวคำ

“อย่างนั้นก็เร่งรีบเริ่มได้แล้ว!” เจี้ยนสือเทียนหัวเราะรับ

ฉินหยุนถอยกลับไปรับชมที่ด้านข้าง

เจี้ยนหนันหู่ที่เห็นผู้รับชมมากมาย เขายิ่งยินดีจนเนื้อเต้น คิดอยากปล่อยฝีมือมานานไม่น้อยแล้ว คราวนี้ถึงเวลา ค่อยสาแก่ใจเขาเสียที

เมื่อชายหน้ากากเข้าสู่สังเวียน เขายังคงมีอาการสงบ

“สามารถใช้อาวุธได้!” เจี้ยนสือเทียนกล่าวคำ

หากเจี้ยนหนันหู่ไม่ใช้ดาบ เขาคงไม่มีทางปล่อยพลังได้แม้ครึ่งหนึ่งที่ควรเป็น

ชายหน้ากากนำเอาขวานออกมาพร้อมพยักหน้ารับ

“ดี เริ่มได้!” เจี้ยนสือเทียนประกาศเริ่มศึก

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด