ตอนที่แล้วบทที่ 201 - ฤดูกาลที่สอง (4) [12-07-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 203 - ฤดูกาลที่สอง (6) [16-07-2020]

บทที่ 202 - ฤดูกาลที่สอง (5) [14-07-2020]


บทที่ 202 - ฤดูกาลที่สอง (5)

ฉันได้ซื้อโพชั่นระดับสูงจากโรเล็ตต้าและลูกศรหน้าไม้ที่บรรจุเวทย์มาและไปที่บ้านกิลด์ด้วยความไม่เต็มใจของโรเล็ตต้าที่จะปล่อยฉันไป แน่นอนว่าโรเล็ตต้าตั้งใจทำง้านเป็นอย่างดี

"ยังไงก็ตามในที่สุดฉันก็จะเป็นนายหญิงของบ้านนั้น"

"เธอไม่เบื่อเลยหรอ? แม้ว่าเธอจะมาดูผู้ชายที่ชุ่มเหงื่อสองคนสู้กัน"

"ฉันยิ่งอยากไปเลยล่ะ"

"ปล่อยฉันนะ"

ในท้ายที่สุดฉันก็ได้มาถึงสวนแฟรี่ ตรงพื้นที่ว่างใต้ร่มที่กว้างขวางในตอนนี้ได้มีฮวาหยานั่งอ่านรหนังสืออยู่

"โอ้ชิน ยินดีต้อนรับกลับ"

"ฮวาหยาทำไมเธอมาอยู่ในสวนหละ เธอไม่มีอะไรทำแล้วหรอ"

"ไอน่ากำลังจะกลับมาแล้วนะ ตอนนี้เธอกำลังล่าบอสชั้นที่ 45 อยู่"

"อ่า อืมม....โทษนนะ ฉันมาฝึกกับเร็นซักเดี๋ยวนะ ฉันรู้สึกละอายใจจังที่ปล่อยให้เธอดูแลไอน่า"

เมื่อได้ยินคำขอโ?ษของฉัน ฮวาหยาก็ยิ้มออกมาบางๆและตอบกลับมา

"ไม่มีปัญหา ยังไงฉันก็ได้คำนวนทุกๆอย่างเอาไว้แล้ว ฉันกำลังคิดถึงรางวัลที่ฉันจะได้รับจากแต้มที่ฉันสะสมมา กอด จูบ ดินเนอร์ เดท แล้วก็.... หุหุ"

"หุหุ? นั่นมันหมายความว่ายังไงนะ?"

"ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นนะ แค่ล้อเล่น"

"เธอคงไม่มีแผนที่จะปิดบังอะไรนะ!?"

คำถามของฉันทำให้ฮวาหยาหรี่ตาลงและยิ้มออกมา จากนั้นเธอก็แตะที่ที่นั่งข้างๆของเธอและเรียกให้ฉันไปนั่ง

"มาพักสักเดี๋ยวสิ ปล่อยคุณสิงโตไว้คนเดียวก่อน เราสามารถจะใช้เวลาของครอบครัวด้วยกันกับไอน่าได้นะ นายคิดยังไงล่ะคุณพ่อของไอน่า"

"จริงสิ...เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจนะ แต่ว่าฉันต้องขอผ่านไปก่อนนะ มันเป็นเรื่องสำคัญกับเร็นนะ... ฉันจะสอบเขาถึงวิธีใช้พลังของฮีโร่เหมือนกัน"

"หืม นายดูจะรู้สึกรับผิดชอบเขาในฐานะฮีโร่นะ อ่าฉันอยากจะเอาฐานะฮีโร่มาจากนายจริงๆ ยังไงก็เถอะฉันจะต้องแข็งแกร่งกว่านายยก่อนและฉันจะพยายามปกป้องนายให้ดีที่สุดเหมือนกัน"

"ฮึ่ม พลังนี้คือของฉัน ฉันจะไม่ยอมยกมันให้ใคร"

เมื่อเห็นฉันตอบกลับมาห้วนๆ ฮวาหยาได้ยิ้มออกมายกใหญ่

"ฉันล้อเล่นน่าหัวหน้ากิลด์ ฉันจะเป็นคนหนึ่งที่จะปกป้องนาย แม้ว่ามันจะดีที่สุดหากอยู่ในดำแตน่งฮีโร่ ฉันไม่ต้องการจะเป็นเจ้าหญิงที่ถูกปกป้องหรอกนะ"

"ฉันก็ไม่ชอบการถูกปกป้องเหมือนกัน โอ้จริงสิ เกือบลืมไปเลย..."

ในตอนที่กิลด์ได้มาถึงระดับ B มีฟังชั่นใหม่ที่ฉันได้รับมา มันทำให้สามารถตั้งรองหัวหน้ากิลด์ได้ รองหัวหน้ากิลด์สามารถจัดการกิลด์ได้ตัวอย่างเช่นรับสมาชิกใหม่หรือเตะคนในกิลด์ออกไป รองหัวหน้ากิลด์ในดันเจี้ยนที่หนึ่งทุกคนต่างก็มีอำนาจที่มาก แม้ว่าฉันจะไม่สามารถจะพูดได้ว่ากิลด์รีไวเวิร์ลจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ก็ตาม

"ฮวาหยา ถ้ามันไม่เป็นอะไร...เธอช่วยเป็นรองหัวหน้ากิลด์ได้ไหม เธอช่วยฉันมามากจนถึงตอนนี้และเธอก็เป็นเพียงคนเดียวที่ฉันคิดว่าสามารถมาเติมเต็มตำแหน่งนี้ได้ เธอมีทั้งความสามารถและความรับผิดชอบและเธอก็ยังใกล้ชิดกับทุกๆคนในกิลด์ คิดยังไงบ้างล่ะ"

"นี่เป็นข้อเสนอใช่ไหม"

"แน่นอนสิว่าไม่"

"ชิ"

ฮวาหยาบุ๊ยปากออกมา แม้ว่าเธอจะแก่กว่าฉันแต่เธอก็น่ารักมาเลย ในตอนที่ฉันลูบหัวของเธอ เธอก็พูดออกมาด้วยความนุ่มนวล

"...โอเค ตามตรงนะฉันก็คิดว่าฉันเป็นคนเดียวที่สามารถเป็นรองหัวหน้ากิลด์ได้"

"เยี่ยม แม้ว่ามันควรจะต้องทำเรื่องนี้ด้วยการโหวตก็ตาม แต่ฉันจะใช้อำนาจของฉันในฐานะหัวหน้ากิลด์เพื่อแต่งตั้งเธอให้เป็นหัวหน้ากิลด์"

"อืมม"

[ฮวาหยา เอเลนี่ มัสติฟอร์ดได้กลายเป็นรองหัวหน้ากิลด์รีไวเวิร์ล]

หลังจากที่ฮวาหยาได้กลายมาเป็นรองหัวหน้ากิลด์ ฉันก็ได้เอามือออกจากหัวของเธอและผายมือออกมา

"ทำงานให้สุดยอดแบบนี้ไปเรื่อยๆนะรองหัวหน้ากิลด์"

"ไว้ใจได้เลยหัวหน้ากิลด์"

[กิลด์รีไวเวิร์ล: กิลด์ระดับ B]

[สมาชิกกิลด์: คังชิน (หัวหน้ากิลด์ ดันเจี้ยนที่หนึ่งระดับทอง) ฮวาหยา มัสติฟอร์ด (รองหัวหน้ากิลด์ ดันเจี้ยนที่สองระดับทอง) เดซี่ แอคทราเดี่ยน (ดันเจี้ยนที่หนึ่งระดับแพลตตินัม) เลอบิค แวนดีโอ้ กานาริส,คัง ยงอู,ซู เยอึน,เร็น วีโรจูด โกลเด็นไลออน,เพลรูเดีย เกล็น อีเฮอร์,ชูนะ อเล็น ริฮิต้า (ดันเจี้ยนที่หนึ่งระดับทอง) ไอลิน่า อเล็กซานโดรวาน่า มิคาโลว่า,คังยุย (ดันเจี้ยนที่หนึ่งระดับเงิน) มินามิ ไวโอเล็ต สุมิเระ (ดันเจี้ยนที่สองระดับทอง) เอ็ดเวิร์ด วอร์คเกอร์ (ดันเจี้ยนที่สองระดับเงิน) โซฟี บริทแมน (ดันเจี้ยนที่สามระดับทอง) ทั้งหมด 14 คน]

"หืมมม"

หลังจากแยกกลับฮวาหยา ฉันก็ได้เข้ามาในคฤหาสน์และตรวจสอบข้อมูลของกิลด์ พูดตามจริงฉันค่อนข้างจะตกใจกับการที่รูเดียและชินะได้มาอยู่ในระดับทองก่อนที่ฉันจะรู้ตัวอีก แถมเดซี่ก็ยังทะลวงบียอนชั้นที่ 13 และเข้ามาในดันเจี้ยนที่หนึ่งชั้นที่ 81 จนกลายเป็นนักสำรวจระดับแพลตตินัมแล้ว

สำหรับฮวาหยาอีกไม่นานเธอก็คงไปถึงระดับแพลตตินัมและย้ายมาที่ดันเจี้ยนที่หนึ่ง แล้วก็สำหรับสุมิเระหากคิดจากพรสวรรค์ของเธออีกไม่นานเธอก็จากตามมาจนทัน สำหรับวอร์คเกอร์เขานั้นได้มาอยู่ดันเจี้ยนที่สองแล้วโดยที่ไม่พูดอะไรซักนิด มันดูเหมือนว่าพลังของซิน เสี่ยวเหม่ยจะช่วยเขาเป็นอย่างมาก อย่างที่พูดไปหลังจากเขาได้ถึงระดับแพลตตินัมในดันเจี้ยนที่สาม เขาก็ได้ลงมาที่ดันเจี้ยนระดับสองในทันทีแต่เขากลับลงมาอยู่ในระดับเงินแทนที่จะเป็นทอง ฉันรู้สึกสงสารเขานิดหน่อย แต่ว่ามันดูเหมือนว่าเขาจะยังขาดเงื่อนไขบางอย่าง

ส่วนไอน่าก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดถึงมากนัก แม้ว่าก่อนที่เธอจะมาเป็นนักสำรวจเธอก็แข็งแกร่งเทียบได้กับฉันและฮวาหยาอยู่แล้ว ดันเจี้ยนนี้ก็เหมือนกับสวนหลังบ้านของเธอ เธอได้เคลียร์ชั้นที่ 45 ในวันนี้และอีกไม่นานก็จะมาอยู่ในระดับทอง จากนั้นความเร็วก็คงจะลดลง ดีไม่ดีบางทีเธอก็อาจจะเข้ามาในบียอนก็ได้

คนที่ฉันเป็นห่วงจริงๆก็คือน้องสาวของฉันยุย และหญิงสาวชั้นสูง โซฟี แม้ว่าพวกเธอทั้งคือจะเป็นคนที่เก่งในด้านต่างๆ แต่ว่าพวกเธอทั้งสองคนก็เป็นคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายกันนัก

ยังไงก็ตามมันดูเหมือนว่าฉันคงไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ทั้งสองคนต่างก็ได้รับพลังระดับ SS มาจากศัตรูของฉัน และพลังนั้นก็ได้ส่องประกายมากยิ่งขึ้นเมื่อมาอยู่ในมือของสาวทั้งสองในตอนปีนดันเจี้ยน

ยุยได้รวบรวมตัวอ่อนของตั๊กแตนทั้ง 278 ตัวและในตอนนี้เธอก็ได้เรียนรู้ระบบของดันเจี้ยนไปในขณะที่ยกระดับทักษะใหม่ๆของเธอ เธออาจจะไม่ต้องการที่จะฝึกสัตว์อีกแล้ว ตั๊กแตนดังเดิมของเธอเมื่อโตเต็มไว้มันก็ยังสามารถจะบินได้ด้วยเลย บวกกับพลังของยุยที่ช่วยสนับสนุนพวกนั้น...ฉันแทบจะไม่สามารถหยุดอาการขนลุกบนแขนฉันได้เลย

ส่วนโซฟีเธอเป็นคนที่กระตือร้นร้นมาก ในตอนนี้เธอกำลังฝึกอยู่กับเยอึนในชั้นใต้หิน

"ฮ่าาาห์"

"อคก เข้ามาจากด้านหลังอีกแล้ว"

"ไม่ใช่ ทั้งสองด้านต่างหาก"

แม้ว่าเยอึนจะอยู่เบื้องหน้าสายตาของโซฟี แต่มีดสั้นของเยอึนก็พุ่งเข้าไปหาโซฟีจากด้านหลัง โซฟีได้รีบหมุนไปอย่างรวดเร็วและป้องกันมันด้วยสองนิ้วว แต่น่าทึ่งที่มันคือของปลอม เยอึนยังคงอยู่เบื้องหน้าของโซฟีและแทงศอกลงไปที่โซฟีทันที

"ของปลอม?"

"ฉันเพียงแค่ใส่มานาลงไปในเงาของฉันและทำให้มันมีรูปร่าง อาจารย์ได้บอกว่ามันเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ง่ายที่สุด"

"ไม่ อาจารร์ของเธอนั่นแหละที่แปลก รู้ตัวเองได้แล้ว"

ในขณะที่ฉันบอกความผิดพลาดของเยอึน โซฟีก็ลุกขึ้นจากพื้น การประลองนี้ข่อนข้างจะจริงจังมากถึงกับทำให้นักสำรวจระดับทองอย่างเธอต้องเต็มไปด้วยเหงงื่อ

"ฟู่ ฟู่...แข็งแกร่งมาก"

"หุหุ แน่นอนสิอีกไม่นานฉันก็จะกลายเป็นนักสำรวจบียอน"

"ฮึ่ม เมื่อไหร่ที่ฉันเป็นระดับแพลตตินัม ฉันก็จะไปที่ดันเจี้ยนที่สอง และเมื่อฉันได้ระดับแพลตินัมอีกรอบฉันก็จะกลายเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่ง"

ในตอนที่เธอพูดถึงวิธีนี้มันดูค่อนข้างจะน่ากลัวกับการพัฒนาที่รวดเร็วของเธอ เนื่องจากว่าในตอนนี้เธอได้อยู่ที่ชั้นที่ 75 แล้วด้วยการลุยเพียงลำพัง ดังนั้นไม่น่าสงสัยเลยว่าอีกไม่ถึงเดือนเธอก็คงจะมาอยู่ที่ดันเจี้ยนที่สอง

"ถ้าด้วยระดับความเร็วแบบนี้เธอก็น่าจะตามวอร์คเกอร์ทัน"

"ไม่ ฉันเพียงแต่จะต้องพยายามอย่างหนักถึงจะอยู่กับเอ็ดเวิร์ดได้"

"ฉะ ฉันเข้าใจแล้ว ถ้างั้นก็โชคดีนะคุณโซฟี"

"เอ็ดเวิร์ดก็กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนกัน ในตอนนี้เขาได้ไปอยู่ที่ดันเจี้ยนที่สองแล้ว อย่าได้ดูถูกความต้องการในการพัฒนาของเขา"

"บางทีเขาอาจจะสู้อย่างหนักเพื่อที่เขาจะไม่ต้องอยู่กับ.... อ๊า ไม่มีอะไรหรอก ลืมมันไปเถอะ แล้วนี่ทำไมเธอมาอยู่กับเยอึนล่ะ"

"สไตล์การต่อสู้ของเธอใกล้เคียงกับของวอร์คเกอร์ที่สุดในกิลด์ ฉันต้องการจะเรียนรู้การร่วมมือกับวอร์คเกอร์ด้วยการประลองกับเธอ ฉันได้เรียนรู้อะไรตั้งมากมายกับเธอจริงๆนะ"

"เอะเฮะเฮะ"

ใช่แล้วเพราะว่าเยอึนเป็นผู้เชี่ยวชาญการโจมตีจุดตาย โซฟีก็คงจะได้เรียนรู้อะไรที่มากมายจากการสู้กับเธอ ตัวอย่างเช่นการป้องกันส่วนสำคัญของร่างกาย ความรู้สึกถึงเจตนาฆ่าและหลบมัน แม้ว่าฉันจะไม่สามารถจะพูดออกไปได้ก็ตามที

"ทำไมชินถึงมาที่นี่ล่ะ? มาประลองกับคุณเร็นหรอ?"

"โอ้ ขอบคุณนะที่เตือน ฉันอยากจะถามตั้งแต่แล้วในตอนที่เจอเขานะ หูนั่น...เป็นของจริงหรอ?"

"ใช่แล้ว เขาเป็นมนุษย์สัตว์ ในทวีปอื่นๆต่างก็มีหลากหลายเผ่าพันธ์ เร็น พูดว่า...หืออ"

คำพูดของโซฟีได้เตือนให้ฉันแนะนำเขากับคนอื่นๆอย่างจริงจัง ในตอนที่ฉันหันกลับไป ยังไงก็ตามเร็นก็เดินเข้ามาแล้วเขาตัวแข็งทื่อไปอย่างสมบูรณ์จากการได้เจอผู้หญิงสองคนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันได้ตบหลังของเขาเพื่อให้เขารู้สึกตัว

"เร็น ตื่นสิ"

"ฉันทำไม่ได้เจ้าชาย พวกเธอทั้งคู่สวยเกินไป ฉันไม่สามารถมองพวกเธอได้ นอกจากนี้ชุดของพวกเธอก็ยังเปิดเผยมากเกินไป"

"มันไม่เป็นไรเร็น พวกเธอไม่ได้คิดมากแบบนายหรอกน่า เงยหน้าขึ้นสิ"

"นั่นมันเป็นเรื่องอันตรายเล็กน้อย มันมากเกินไปสำหรับฉัน"

แม้แต่เด็กวัยรุ่นยังไม่เป็นแบบเขาเลย ฉันได้ถอนหายใจออกมา จากนั้นคำถามหนึ่งก็เข้ามาในหัวของฉัน

"แล้วเลอบิคไม่ได้สวยเท่าๆสองคนนี้หรอกหรอ? ไม่ใช่ว่าเร็นนายก็ปกติดีเวลาอยู่กับเลอบิคหรอ ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ"

"นะ นั่นเพราะฉันรู้จักกับเลอบิคมาตั้งแต่เด็กๆ... เธอไม่ใช่คนที่ฉันสามารถมองในฐานะผู้หญิง"

เขาเพิ่งจะทิ้งระเบิดออกมาหรอ....

"แน่นอนว่าเลอบิคก็สวยมากๆ ความนิยมของเธอในหมู่อัศวินนั้นมีมากมายไม่สิ้นสุดทำให้คนหลั่งไหลเข้ามาในทวีปพาแนน เธอมีความสง่าและสวยความและเธอก็ยังมีแม้แต่บุคลิกที่ดี ในตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันก็มองเธอแบบนั้นเหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามเลอบิคคืออาจารย์ของฉันเป็นคนที่คล้ายกับแม่ของฉัน ฉันไม่ได้มองเธอเป็นผู้หญิง"

"อ่า...."

ถ้าเลอบิคมาได้ยินเรื่องนี้มันจบไม่สวยแน่ แม้ว่าฉันจะคิดว่ามันจะเป็นเรื่องตลกมากในตอนที่เลอบิคหดหู่ ยังไงก้ตามฉันก็ถอนหายใจออกมา โซฟีและเยอึนก็ยังเริ่มเกร็งขึ้นเมื่อรู้ถึงเหตุการณ์นี้ได้

"ละ เลอบิคใช่พี่สาวคนที่มีหูแมวใช่ไหม"

"ไม่เห็นเธอเป็นผู้หญิง ถ้างั้นเขาก็...."

"โว้ว ใจเย็นก่อน เธอไม่สามารถยัดความเชื่อของเธอให้คนอื่นได้นะ ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้เอง"

ในตอนนั้นฉันก็ได้ขัดพวกเธอเอาไว้ ตาของพวกเธอได้เบิกกว้างและมองมาที่ฉัน

"ไม่สามารถยัดเยียดความเชื่อของเรา?"

"นายจะทำอะไรหรอเพื่อน?"

"อืมม ฉันไม่สามารถจะบังคับเขาได้ แต่ว่าฉันสามารถจะช่วยเขาเปลื่ยนความคิดได้ ตามปกติแล้วก็ด้วยการอัดเขา"

"ไม่ใช่ว่านั่นมันก็เหมือนกันหรอ?"

ฉันจะต้องทำให้เขาคิดใหม่เกี่ยวกับเลอบิค ฉันเพียงแค่จะต้องอัดเขาจนกว่าเขาจะต้องการร้องไห้ในอ้อมกอดของเลอบิค ฉันได้มองกลับไปที่เร็นและยิ้มอกมา

"เอาล่ะ พวกเราจบการแนะนำตัวไว้เท่านี้ดีกว่า ถึงเวลาเริ่มแล้วเร็น"

"จะ เจ้าชาย ไม่ใช่ว่านายกำลังดูร่าเริงกว่าก่อนหน้านี้อีกหรอ ฉันทำอะไรผิดไปหรอ"

"ไม่ ไม่มีอะไรทั้งนั้น เร็นนายไม่ได้ผิด เมื่อขั้นตอนการทุบตีจบลงทุกคนก็จะมีความสุข"

"มันต้องมีอะไรแน่ๆ"

เยอึนและโวฟีที่ซ้อมกันเสร็จแล้วได้นั่งลงใกล้ๆเพื่อดูพวกเรา ดูเหมือนว่าขั้นตอนการทุบตีจะดึงดูดพวกเธอ เมื่อรู้ถึงเรื่องนี้หูของเร็นได้ตั้งขึ้นและเหงื่อเริ่มโผล่ออกมาบนหน้าเขา

"ฮ่าห์ ฮ่าๆๆๆ จริงๆแล้วเจ้าชายกำลงพยายามจะเอาอัดฉันให้เหมือนหมาต่อหน้าสาวๆเหล่านี้หรอ?"

"เร็นนายพูดแบบนั้นได้ยังไง? ฉันไม่อัดนายเหมือนหมาหรอกน่า ฉันเพียงแค่จะทุบตีนายเพื่อประโยชน์ของนายเองนะ"

"นั่นมันก็เหมือนกันแหละ"

"เอาล่ะๆ มาเริ่มกันเถอะ"

"ย๊ากกกกกกก"

สามสิบนาทีต่อมา เร็ฯและฉันได้เค้นพลังของฮีโร่ออกมาและปะทะกัน ในขณะที่เร็นสวมเกราะเต็มตัวและใช้ดาบไม้ ฉันมีเพียงแค่หอกไม้ธรรมดาและไม่ใส่เกราะ แม้ว่ามันจะดูเหมือนฉันขาดพลังในแง่การป้องกัน แต่ว่าเกราะของฉันยังคงอยู่ในรูปแบบกำไรข้อมือและหอกของฉันก็ยังอยู่ในรูปแบบสายรัดคอ แม้ว่าฉันจะไม่ได้รับการเสริมการโจมตีและป้องกันตรงๆ แต่ฉันยังคงได้รับผลเพิ่มเติมต่างๆ

สเตตัสของฉันนั้นห่างกับเร็นมากๆ ด้วยการเพิ่มนี้ก็ยิ่งเสริมพลังให้กับศิลปะการต่อสู้ของฉัน มันไม่มีทางเลยที่ฉันจะแพ้เร็น ไม่มีทางแม้เขาจะเป็นฮีโร่ก็ตาม

"เจ้าชายแข็งแกร่งไปแล้ว! นายแข็งแกร่งเกินไป"

"นายเพิ่งจะรู้หรอ? อย่าได้คิดที่จะหนีล่ะ เข้ามาสิ! เข้ามาเลย เร็วเข้า"

"อึก....ก๊าซซซซซซซ"

"สัญชาตญาณสัตว์ป่ามันไม่ได้แย่นะ แต่ว่าที่เราทำกันแบบนี้ก็เพื่อให้นายควบคุมตัวเอง"

"อึกก"

ฉันได้งัดเร็นด้วยหอกไม้ ในทันทีหลังจากนั้นก็แทงเขาสามครั้ง

"อู...."

"นายจะมัวแต่นอนทำอะไร? สวนกลับมาสิ"

"แม้ว่าเจ้าชายจะไม่บอก ฉันก็จะทำมันอยู่แล้ว ก๊าซ"

เมื่อได้ยินเสียงร้องที่เจ็บปวดของเร็น โซฟีและเยอึนก็ยังนั่งดูอยู่ข้างๆและพูดเสริมขึ้นมา

"ว้าว เขาอัดคนๆนั้นในเวลา 30 นาทีตรง"

"ชินเจ๋งที่สุด"

"เจ้าชายยยยย!"

"นายจะใส่พลังลงไปในดาบนายมาก แต่ว่านายก็ยังเปิดช่องว่างอยู่ นายไม่ได้เรียนอะไรจากเลอบิคเลยหรอ?"

"อึก"

30 นาทีมันไม่เพียงพอที่จะทำให้เร็นหมดแรง พวกเราในตอนนี้แตกต่างไปจากตอนที่เจอกันในชั้นที่ 20 อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นฉันได้อัดเขามากกว่า 2 ชม. ขึ้นไป เป้าหมายของฉันคือการช่วยเร็นฝึกฝนสัญชาติญาณดิบของเขาและรักษาสติเอาไว้ในตอนใช้มัน ถ้าหากเขาสามารถตอบสนองได้อย่างมีเหตุผลในตอนคลั่ง เร็นก็จะเป็นนักรบที่ทรงพลัง

"ก๊าซซซซซซซซซ อั๊ก"

"แค่เพราะนายปิดปากในตอนนายวิ่งมา ศัตรูก็ไม่ให้นายได้กัดง่ายๆหรอกนะ"

แน่นอนว่าตอนนี้เขายังห่างไกลจากจุดๆนั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด