ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0607 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0609 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0608 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 608 : บุคคลหน้ากากขาว

กองกำลังชุดดำตอบสนองรวดเร็ว พวกเขาเร่งรีบระดมยิงธนูและกระสุนปืนใหญ่ใส่ฉินหยุนอีกครั้งหนึ่ง

ฉินหยุนก็ปล่อยอาวุธยันต์มีดบินทั้งยี่สิบเล่มออกไปแล้วเช่นกัน!

ภายใต้การควบคุมทางพลังจิตอันแกร่งกล้าของฉินหยุน อาวุธยันต์มีดบินเคลื่อนที่รวดเร็วเปรียบดังสายฟ้า เพียงพริบตา มันแทงทะลวงผ่านร่างชายชุดดำไปได้กว่าสิบคน

แต้มของฉินหยุนพุ่งทะยานหนึ่งพันห้าร้อย!

ในที่สุดเขาก็ได้สังหารชายชุดดำจากกองกำลังชุดดำจนสำเร็จ

ความสำเร็จนี้ทำเขายินดีจนแทบคลั่ง!

ฉินหยุนถือโล่ในมือ บินทะยานผ่านอากาศ ดึงความสนใจจากกลุ่มชายชุดดำ ก่อนจะควบคุมมีดบินไปพร้อมระหว่างดึงความสนใจ

คนของกองกำลังชุดดำได้ตระหนักแล้ว ว่ามีดบินเหล่านี้อำนาจชวนสะพรึงเพียงใด พวกเขาเร่งรีบหยุดการโจมตี เข้าสกัดขวางมีดบินเหล่านี้เอาไว้

ชายชุดดำปลดปล่อยคลื่นพลังเต๋ารุนแรงออกมา เกิดขึ้นเป็นโล่เข้าสกัดมีดบินเอาไว้

แต่ขณะที่คิดว่าสกัดไว้ได้แล้ว มันกลับระเบิดออก!

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นบังเกิดขึ้นจากมีดบินขนาดเล็กอย่างแหลมคม ราวกับพวกมันพร้อมที่จะเสียดแทงจากผืนดินสู่ฟากฟ้า รวมถึงโสดประสาทผู้คน

ระยะระเบิดของอาวุธยันต์มีดบินค่อนข้างแคบ กระนั้นพลังอำนาจกลับชวนสะพรึง

แม้ว่าชายชุดดำสกัดมีดบินเอาไว้ได้ เขาก็ไม่อาจสกัดแรงระเบิดที่พุ่งเข้าปะทะโดยตรงได้แม้เพียงนิด

ถัดจากนั้น มีดบินหลายเล่มจึงระเบิดออกต่อเนื่อง เกิดขึ้นเป็นเสียงดังราวบทบรรเลง แรงระเบิดเกิดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า

ชายชุดดำกว่าห้าสิบคน ขณะนี้กว่าสี่สิบคนสิ้นชีพไปแล้ว!

ฉินหยุนยิ่งพึงพอใจต่อพลังอำนาจของอาวุธยันต์มีดบิน เขาได้ตระหนักแล้ว ว่าใช้พวกมันกับการสังหารชายชุดดำมีความคุ้มค่าอย่างยิ่ง

หากชายชุดดำไม่ขวางอาวุธยันต์ พวกมันก็พร้อมเผยอำนาจทะลุทะลวงผ่านศีรษะ

แต่หากป้องกัน อาวุธยันต์มีดบินก็พร้อมระเบิดออกเรียกความตายจากเป้าหมาย

ความเร็วของอาวุธยันต์มีดบินมากล้ำ กระทั่งว่าคิดหลบเลี่ยงหรือหนีให้ห่าง ก็ยังไม่อาจหลบได้พ้น

ฉินหยุนใช้งานมีดบินจนหมดสิ้น ตอนนี้เหลือคนในกองกำลังชุดดำจำนวนหนึ่ง

เขาตัดสินใจพุ่งทะยานพร้อมสับฟันกระบี่ยาวในมือ ปลดปล่อยวิชาวายุสังหารพร้อมเคล็ดวิชากระบี่พื้นฐาน

อีกมือหนึ่ง เขาปลดปล่อยกรงเล็บใหญ่ยักษ์ออกมา นี่คือกรงเล็บราชสีห์สวรรค์

คนของกองกำลังชุดดำไม่คาดคิด ว่าฉินหยุนมีพลังชวนสะพรึงระดับนี้ในครอบครอง เพียงระยะเวลาอันสั้น พวกเขาก็เหลือกันเพียงห้าชีวิตแล้ว

ขณะฉินหยุนเคลื่อนที่ไปรอบ เขาก็โจมตีออกอย่างคลุ้มคลั่งและสุดกำลัง

กระทั่งว่าร่างกายได้รับบาดเจ็บ เขาก็ยังอดทนต้านรับเอาไว้ โคจรพลังเต๋าในกายทั้งหมด พุ่งทะยานคำรามร้องโจมตีด้วยพลังเก้าสมบูรณ์อย่างสุดกำลัง

“กองกำลังชุดดำ สังหารข้าไปถึงสองครั้ง ครานี้เป็นคราวพวกเจ้าต้องตาย!”

ฉินหยุนหัวเราะโฉดชั่ว ยิ่งได้เห็นชายชุดดำตกตายเพราะฝีมือตนเอง เขายิ่งตื่นเต้นและยินดี

ชั่วขณะนี้เขาค่อยได้ทราบ ว่าชายชุดดำทั้งหมดเป็นอาจารย์ยุทธ์ระดับกลาง

กระนั้น ภายใต้การโจมตีคลุ้มคลั่งของเขา อีกฝ่ายย่อมยากต้านรับไว้ได้

กองกำลังชุดดำทั้งสิ้นห้าสิบชีวิต ทั้งห้าสิบคนถูกฉินหยุนสังหารในเวลาเพียงน้อยนิด!

เขาได้รับแต้มถึงห้าพัน!

เดิมเขามีแต้มเกินกว่าห้าพันอยู่แล้ว ครานี้ได้รับอีกห้าพัน รวมทั้งสิ้นหนึ่งหมื่น!

บรรดาศิษย์ในเขตเมืองที่ตั้งกระโจมพูดคุย พอได้เห็นแต้มของฉินหยุนพุ่งทะยาน พวกเขาเร่งรีบสะดุ้งลุกขึ้น เป็นพวกเขาทั้งตื่นตระหนกและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พบเห็น

พวกเขาทราบดี ว่ากลุ่มศิษย์ของหลายกองกำลังใหญ่ต่างกระจายตัวกันอยู่ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ฉินหยุนจะคว้าเอาแต้มจำนวนมหาศาลมาครองในเวลานี้

อย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว!

กองกำลังชุดดำถูกกวาดล้าง!

กองกำลังชุดดำอันลึกล้ำ ตราบเท่าที่ผู้ใดพบเจอ ความตายย่อมมาเยือนอย่างไม่อาจหลบหนี

ฉินหยุนเคยถูกพวกเขาลงมือสังหาร ทว่าครานี้ เขาได้ล้างแค้นสำเร็จ โดยการกวาดล้างกองกำลังชุดดำจนหมดสิ้น

ฉินหยุนไม่ได้ทำลายทั้งกองกำลังชุดดำ ยังเหลืออยู่คนหนึ่ง และอีกฝ่ายก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกองกำลัง

ผู้อื่นในกองกำลังชุดดำต่างสวมใส่หน้ากากสีดำ

ทว่าบุคคลสุดท้ายผู้นี้สวมใส่หน้ากากสีขาว ชัดเจนว่าต้องเป็นระดับหัวหน้าที่มีสถานะสูงส่ง

“พวกเจ้าสังหารข้าไปสองครั้ง ครานี้ข้าสังหารพวกเจ้าไปครั้งหนึ่ง รู้สึกอย่างไรกันบ้างเล่า?”

ฉินหยุนกวัดแกว่งกระบี่ยาวในมือ สับฟันอย่างคลุ้มคลั่งใส่ชายหน้ากากขาว

บุคคลในชุดดำไม่พูดกล่าวคำใด กลับกัน เขาเอาแต่หลบเลี่ยงการโจมตีของฉินหยุน

วิชาวายุสังหารของฉินหยุนรวดเร็ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายหากคิดหลบเลี่ยง

กระนั้น ชายหน้ากากขาวกลับหลบเลี่ยงได้ง่ายดาย

“เสี่ยวหยุน เคล็ดวิชาตัวเบาของอีกฝ่ายเหนือล้ำนัก เป็นเขาก้าวสู่อีกระดับหนึ่ง ร่างกายของเขาตอบสนองโดยธรรมชาติและหลบเลี่ยงการโจมตีของเจ้าได้!”

หลิงหยุนเอ๋อเผยความตื่นตะลึง “หรือก็คือ บุคคลผู้นี้ไม่จำเป็นต้องมีเจตนาหลบเลี่ยง กระทั่งว่าหลับอยู่ ร่างกายของเขาก็พร้อมตอบสนองโดยธรรมชาติ หลบพ้นการโจมตีนานาชนิดอย่างรวดเร็วได้!”

“เรื่องนี้เป็นไปได้? พลังระดับนั้นมีอยู่จริงงั้นหรือ?” ฉินหยุนตื่นตะลึง เขาแทบไม่อาจเชื่อในสิ่งที่ได้ฟัง

“คิดก้าวถึงระดับนี้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นครึ่งเซียน!” หลิงหยุนเอ๋อเผยเสียงเคร่งเครียด “ชายหน้ากากขาวผู้นี้อยู่ขอบเขตครึ่งเซียน ทว่า หลังจากที่เข้าสู่เขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์ ระดับการฝึกฝนของเขาจึงถูกสะกดเอาไว้ที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ!”

ฉินหยุนลอบตระหนก ผู้นำกองกำลังชุดดำเป็นถึงตัวตนขอบเขตครึ่งเซียน

นครเซียนยุทธภัณฑ์คือสำนักเซียน ย่อมต้องมียอดฝีมือครึ่งเซียนคงอยู่ กระนั้น เขากลับไม่คาดคิด ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเข้ามาละเล่นในเขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์

“ข้าต้องการสังหารมันผู้นี้!” ฉินหยุนบังเกิดความคิดอย่างแรงกล้า

ทางหนึ่ง เพราะเขาเคยถูกกองกำลังชุดดำสังหาร และอีกทางหนึ่ง เป็นโอกาสยากยิ่งนักที่เขาจะได้ประมือกับครึ่งเซียน

“มันไม่สำคัญแล้วว่ามันผู้นี้เล็งเป้ามาที่ข้าหรือไม่ ข้าถูกมันสังหารก่อน ดังนั้นจึงต้องทวงคืนหนี้แค้น!”

ฉินหยุนยิ่งยินดี แขนซ้ายของเขาเริ่มสั่นไหว กรงเล็บราชสีห์สวรรค์ปรากฏ

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!

กรงเล็บราชสีห์สวรรค์เกิดเป็นกรงเล็บมายาจำนวนหนึ่ง พวกมันเปรียบดังกระบี่ยาวที่แหลมคม เข้าร่วมมือกับกระบี่ลึกล้ำอีกมือหนึ่ง ปลดปล่อยวิชาวายุสังหารทั้งหกกระบวนท่าสับฟันใส่ชายตรงหน้าอย่างคลุ้มคลั่ง

ด้วยเพราะเสมือนการถือกระบี่สองมือพร้อมกัน ความเร็วของเขาพุ่งขึ้นจนถึงขีดจำกัดที่สามารถกระทำ

กระนั้น ชายหน้ากากก็ยังสามารถหลบเลี่ยง

“หยุนเอ๋อ!” ฉินหยุนตะโกนดัง

หลิงหยุนเอ๋อรวบรวมพลังแรงโน้มถ่วงมหาศาล ปลดปล่อยมันออกในคราวเดียว

ชายหน้ากากขาวไม่คาดคิด ว่าฉินหยุนยังมีไม้เด็ดเก็บงำเอาไว้ หลังถูกแรงกดดันเล่นงาน เขารู้สึกราวกับถูกสะกดเอาไว้โดยขุนเขาใหญ่ยักษ์จนบี้แบนกับพื้นดิน

ฉินหยุนลงมือโดยทันที กรงเล็บราชสีห์สวรรค์และกระบี่ลึกล้ำในมือใช้งานพร้อมกับ ปลดปล่อยเคล็ดวิชากระบี่พื้นฐาน สับฟันออกด้วยความเร็วสูงล้ำและดุดัน

ชายหน้ากากขาวแกร่งกล้า เพียงถูกแรงโน้มถ่วงสะกดเอาไว้ เขาดิ้นรนไม่กี่ครั้งก็เป็นอิสระพ้นจากอำนาจแรงโน้มถ่วงแล้ว

ครืน!

คลื่นพลังเย็นเยือกพลันทะลักล้นจากร่างชายหน้ากากขาว!

“คนผู้นี้ไม่เคยใช้พลังสังกัดธาตุมาก่อน ครานี้เขาใช้งานแล้ว เขาคิดแสดงพลังแท้จริงออกมาแล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวคำ “เสี่ยวหยุนระวังตัวด้วย อย่าได้ถูกสังหาร”

ชายหน้ากากขาวคือครึ่งเซียน กระทั่งว่าระดับการฝึกฝนถูกจำกัดเอาไว้ที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ศักยภาพในทุกสัดส่วนของเขาล้วนแกร่งกล้า รวมถึงยังมีประสบการณ์ต่อสู้อันมากล้ำ

ฉินหยุนและชายหน้ากากขาวเปิดศึกต่อกัน พวกเขายังไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ

ที่ทำฉินหยุนสิ้นหวัง คือกระบี่ในมือถูกแช่แข็งโดยพลังเยือกแข็งอันแกร่งกล้า จากนั้นเพียงโดนการโจมตีครั้งหนึ่ง มันจึงแตกกระจายออก

ฉินหยุนที่สูญเสียอาวุธ ยิ่งถูกสะกดข่มในทุกด้าน!

“ฟ้ายังมืด รีบหนี!”

หลิงหยุนเอ๋อตะโกนดังพร้อมปลดปล่อยพลังแรงโน้มถ่วง เข้าสะกดใส่ชายหน้ากากขาวเอาไว้

เสียงระเบิดดังสนั่น!

ชายหน้ากากขาวถูกสะกดเอาไว้รุนแรงจนพื้นดินยังต้องสั่นเทิ้ม

ฉินหยุนฉวยโอกาส เร่งรีบเข้าไปพักฟื้นตัวในป่า

ในเขตแดนจินตภาพ ต้นไม้ที่ถูกทำลายสามารถฟื้นกลับคืนอย่างรวดเร็ว

ในป่ารก ฉินหยุนใช้พลังเงาหลบซ่อนตัวตนในความมืด จากนั้นจึงเริ่มออกวิ่ง

หากเขาถูกสังหาร ผลลัพธ์คือสูญเสียหนึ่งร้อยแต้ม นั่นไม่นับเป็นอะไร

ทว่าเขาไม่ปรารถนาถูกสังหาร เขาไม่ยินดียอมรับจากใจ

ฉินหยุนคิดพลางหลบหนี แต่แล้วในฉับพลัน ชายหน้ากากขาวกลับไล่ตามอย่างไม่ลดละ

“มันผู้นั้นต้องใช้ยันต์ค้นหาบุคคลแล้ว!” ฉินหยุนสบถ

“พวกเราได้แต่ต้องหนีไปยังเขตเมือง!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

ฉินหยุนยังคงมีมีดบินอีกห้าเล่ม ทว่าเขาไม่กล้าใช้งานพวกมัน หากพวกมันถูกทำลาย เขาคงปวดใจไม่ใช่น้อยแล้ว

“หากรู้แต่แรก คงเก็บอาวุธยันต์มีดบินเอาไว้สักสองเล่ม!” ฉินหยุนถูกไล่ตามกระชั้นชิด เขานึกเสียดายที่ลงมืออย่างสุดตัวจนเกินไป

เคล็ดวิชาตัวเบาของชายหน้ากากขาวเหนือล้ำ ยิ่งมาระยะห่างยิ่งหดแคบ เจตนาอีกฝ่ายชัดเจนว่าต้องการสังหารฉินหยุน

ในการศึกก่อนหน้า ชายหน้ากากขาวคือหนึ่งในผู้เสียหายร้ายแรงจนเกือบถูกสังหาร นอกจากนี้ ทั้งกองกำลังของเขายังถูกกวาดล้าง เขาย่อมต้องมีโทสะอย่างไม่ต้องสงสัย

ฉินหยุนผู้ซึ่งหลบหนี ฉับพลันรับรู้ถึงความเย็นเยือกรอบกาย เขามองให้ดี พบว่าต้นไม้ทั้งหมดกลับกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว!

“ต้องหาทาง หากปล่อยแบบนี้ต่อไป เรามีแต่จะถูกฆ่า!”

ฉินหยุนยิ่งมายิ่งรับรู้ถึงชายหน้ากากขาวที่เข้ามาใกล้ เขาไม่หลงเหลืออาวุธอื่นใดอีก ดังนั้นหากคิดสู้เท่ากับเขาเสียเปรียบในทุกด้าน

“ให้ข้าลอง! ดูว่าข้าสามารถทำให้รากไม้ที่แก่นเต๋าตะวันทมิฬปลดปล่อยพลังที่นี่ได้หรือไม่!” หลิงหยุนเอ๋อเร่งร้อนกล่าว

ก่อนหน้านี้ฉินหยุนเคยใช้รากไม้เหล่านั้นพันธนาการผู้คน กระนั้น ที่นี่คือเขตแดนจินตภาพ เขาไม่เคยทดลองว่ามันสามารถทำได้หรือไม่

“คิดว่าได้!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวอย่างยินดี “เตรียมสู้กลับ!”

ชายหน้ากากขาวไล่ตามฉินหยุนอย่างคิดสังหารแน่ชัด อย่างกะทันหัน เขาพลันต้องโดนรากไม้สีดำเข้าพันธนาการร่างเอาไว้

ฉินหยุนหัวเราะดังก่อนเตะเท้าพุ่งกลับด้าน แขนของเขาแปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บราชสีห์สวรรค์พร้อมห้ำหั่น!

ชายหน้ากากเขาถูกรากไม้พันธนาการ ได้เห็นฉินหยุนคิดโจมตี เขาดิ้นรนอยู่ครู่ก่อนร่างจะเลือนหาย!

กรงเล็บราชสีห์สวรรค์ของฉินหยุนพลาดเป้า!

“บัดซบ ได้แต่อวดดีทว่าไม่หาญกล้า!”

ฉินหยุนสบถเสียงดัง “ไม่ชนะจึงออกจากเขตแดนจินตภาพ นี่ถือเป็นเรื่องอะไร? ตัวบัดซบผู้นี้ ข้าต้องสังหารมันให้จงได้!”

ฉินหยุนหันมองรอบ พบว่ายังคงมีน้ำแข็งคงอยู่ มันเป็นพลังที่ชายหน้ากากขาวปลดปล่อยไว้ก่อนหน้านี้

เขาเร่งรีบนำเอาหนังสัตว์ออกมา ก่อนจะดูดกลืนพลังน้ำแข็งรอบด้าน จากนั้นจึงสร้างยันต์สะกดรอยจิตวิญญาณขึ้นมา

ตราบเท่าที่มีออร่าของอีกฝ่ายหลงเหลือมากพอ เขาย่อมสามารถสร้างยันต์สะกดรอยจิตวิญญาณขึ้นมาได้

“สงสัยนักว่าใช้มันในเขตแดนจินตภาพได้หรือไม่ พวกมันสามารถพบตัวข้าผ่านยันต์วิญญาณค้นหาบุคคล ทางด้านเราก็ไม่น่ามีปัญหาหากคิดใช้ยันต์สะกดรอยจิตวิญญาณ!”

ฉินหยุนเร่งรีบสร้างยันต์สะกดรอยจิตวิญญาณ เขาปล่อยมันลอยขึ้นกลางอากาศ ทว่ากลับไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว

“ชายคนนั้นคงออกจากเขตแดนจินตภาพไปแล้ว! ไม่หลงเหลือร่องรอยใดเลย!” ฉินหยุนสบถออก

“เสี่ยวหยุน เจ้ามีอักขระใดที่ใช้เพื่อป้องกันการสะกดรอยทางจิตวิญญาณหรือไม่?”

“ทฤษฎีเบื้องหลังยันต์วิญญาณค้นหาบุคคล สมควรเป็นดังเช่นยันต์สะกดรอยจิตวิญญาณ เมื่อใดเจ้าเข้ามาที่นี่ จิตวิญญาณจะถูกเตียงนั่นลงทะเบียนเอาไว้ ดังนั้นพวกมันจึงพร้อมค้นหาจิตวิญญาณเจ้าได้ทุกเมื่อ” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

สาเหตุว่าทำไมนางบอกเรื่องนี้ออกมา ก็เพื่อให้ฉินหยุนสามารถหลบเลี่ยงการสะกดรอยของกองกำลังชุดดำ ภายหลัง เขาจะได้มีโอกาสโจมตีอีกฝ่ายได้อีกด้วย

“กองกำลังชุดดำคงไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปโดยง่าย พวกมันย่อมต้องกลับมา!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวย้ำ

“อืม หากหลบเลี่ยงการตามรอยได้ ข้าก็ใช้ยันต์สะกดรอยจิตวิญญาณไปตลบหลังพวกมันได้!”

ฉินหยุนยิ้มกล่าวด้วยความยินดี “สังหารกองกำลังชุดดำทำให้ได้รับห้าพันแต้ม ถือเป็นเป้าชั้นเลิศแก่การล่าแต้ม!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด