ตอนที่แล้วDTH ตอนที่ 7 มันคือเขา มันคือเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDTH ตอนที่ 9 นี่ดูถูกข้างั้นรึ

DTH ตอนที่ 8 ข้าเป็นคนดี


“ลูกพี่ลูกน้อง ท่านมีปัญหาอะไรรึไม่?”  โจว เชียงเหมาถาม

หลิน ฟานยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ข้าสบายดี”

ร่างกาย : 18

กำลังภายใน : 0

เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : ไม่มี

เทคนิคการเพาะปลูก : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (พื้นฐาน)

คะแนนความโกรธ : 655

สถานะร่างกายปัจจุบันของเขาก็ประมาณนี้

ตอนนี้ร่างกายของเขามันมาถึง18จุดแล้ว

เขาไม่ได้มีกำลังภายในเนื่องจากเขาไม่ได้ฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะจิตใจ

ถ้าจะพูดง่ายๆเลยก็คือ ตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่คนดุร้ายที่มีแต่พละกำลังเท่านั้น

แต่ตอนนี้มีหนึ่งคนที่กำลังเป็นกังวล คนๆนั่นคือผู้จัดการเฉิน

เขาตื่นตระหนก

ในใจของเขายังคงคิดถึงหญิงสาวคนก่อนหน้านี้

ถ้าเธอมาจากกระกูลซูจริงๆละก็ มันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่แน่

ในตอนนั้นเองที่พวกเขาได้มาถึงเส้นทางเกษตร

ความร้อนมันได้แผดเผาทำให้ทางเดินที่เป็นดินแตก

ในสายตาของเขา มีพลเรือนผู้น่าสงสารหลายคนกำลังมองมาทางผู้จัดการเฉิน

พวกเขาไม่ได้เดินเข้ามา แต่กลับวิ่งหนีไปแทน

“ทำไมข้ารู้สึกราวกับว่าพวกเราเป็นโรคระบาดกันละ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองมาที่พวกเรา ปัญหามันอยู่ตรงไหนกัน?”  หลิน ฟานถาม

ตอนนี้เขามีคะแนนความโกรธสะสมอยู่  และเขาก็วางแผนเอาไว้ว่าจะเพิ่มสถานะเมื่อกลับไปยังที่พักแล้ว

ผู้จัดการเฉินรู้สึกผิดหวังจริงๆ เขารู้สึกว่าเจ้าพลเรือนพวกนั้นตั้งใจทำให้เขาขายหน้าต่อหน้านายน้อย และเขาก็ต้องการให้บทเรียนพวกนั้น

“นายน้อยไม่ต้องกังวล ข้าจะให้ขยะพวกนั้นออกมาต้อนรับท่าน” ผู้จัดการเฉินกล่าว

หลิน ฟานโบกมือของเขา และพูดอย่างไม่มีความสุข “ขยะอะไร? อย่าเรียกพวกเขาแบบนั้น พวกเขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง”

ผู้จัดการเฉินมองไปที่นายน้อยของเขาด้วยสายตาแปลกๆ

เขารู้สึกว่าคำพูดของนายน้อยช่างแปลกจริงๆ

“ขอรับนายน้อย ขอบคุณท่านสำหรับการชี้แนะ ข้าจะเปลี่ยนมัน” ผู้จัดการเฉินกล่าว

แม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้น แต่ในใจของเขา เขาก็ยังคงรู้สึกว่าคนเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ขยะ และไม่มีค่าให้พูดถึง ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลหลิน พวกมันคงจะเป็นเหมือนผู้ลี้ภัยข้างนอกเมืองหยูฉางไปแล้ว

ความประทับใจของโกวชิที่มีต่อนายน้อยเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ตามที่เขาคาดหวัง นายน้อยของเขาแตกต่างจากนายน้อยที่หยิ่งยโสพวกนั้น

เพราะถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในฐานะข้ารับใช้ของตระกูลหลิน เขาก็ยังคงเป็นขยะครึ่งหนึ่ง

เมื่อพวกเขาเดินผ่านเส้นทางเกษตรมา พวกเขาก็พบเข้ากับหมู่บ้านที่มีบ้านอยู่หลายหลัง หลังคาบ้านถูกมุงด้วยจาก ส่วนตัวบ้านนั้นทำมาจากโคลน อย่างไรก็ตามพวกมันทั้งหมดดูค่อนข้างเก่า

มีรูมากมายอยู่บนบ้านที่ทำมาจากโคลนเหล่านี้

เขายังสงสัยอยู่เลยว่าบ้านพวกนี้มันจะไม่ถล่มรึไง ถ้ามีฝนตกหนักๆ

เขาเห็นกลุ่มคนยืนอยู่ตรงนั้นและกำลังรอพวกเขาอยู่

บางคนก้มหัวลงและไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

“ทำยังไงดี? พวกเราสามารถทำอะไรได้บ้าง? เพราะงวดนี้เราไม่สามารถจ่ายภาษีได้”

“ผู้จัดการเฉินกำลังมาที่นี่ ถ้าเราไม่สามารถจ่ายได้เราจะถูกตี”

เมื่อหลิน ฟานเดินเข้ามาในหมู่บ้าน เสียงทั้งหมดก็หายไป ราวกับว่าหมู่บ้านนี้ไม่เคยมีคนอยู่มาก่อน

แม้แต่เด็กที่ซุกซนก็กลัวจนต้องซ่อนตัวอยู่ที่มุมถนน

ผู้จัดการเฉินกระแอมและเอาแส้ออกมา จากนั้นเขาก็ฟาดมันลงกับพื้น ทิ้งรอยลึกเอาไว้

“พวกเจ้าทุกคนอยู่ที่นี่ใช่รึไม่? ท่านนี้คือนายน้อยของตระกูลหลิน ทำไมพวกเจ้าถึงยังไม่รีบทำความเคารพท่านอีก” ผู้จัดการเฉินตวาด

เพื่อที่จะสามารถควบคุมขยะพวกนี้ได้ เขาจะต้องทำให้พวกมันกลัว

พวกมันจะสามารถทำงานได้ดีก็เฉพาะเมื่อตอนที่พวกมันกลัวอยู่เท่านั้น

“นายน้อยหลิน”

“นายน้อยหลิน”

เสียงพูดดังไม่พร้อมกันและมันก็เบาลงเรื่อยๆ

ฟุบ!

ผู้จัดการเฉินฟาดแส้ของเขาลงบนพื้น  การแสดงออกของเขาน่าเกลียด ในขณะที่เขาตวาดพวกนั้นอีกครั้ง “ทำไมเสียงถึงเบาแบบนี้ พวกเจ้าไม่ได้กินอะไรมาเลยรึไง? ดังขึ้นอีก!”

“เดี๋ยวนั้นเจ้ากำลังพยายามจะทำอะไร? การที่เข้าใช้แส้พูดแทนปากแบบนั้น เพราะเจ้าต้องการให้พวกเขากลัว?” หลิน ฟานขมวดคิ้ว

เจ้าบ้านที่ชั่วร้าย

ผู้จัดการตัวเล็กๆที่ทำตัวหยิ่ง

แม้ว่าผู้จัดการเฉินจะทำตัวดุร้ายกับคนธรรมดา แต่ต่อหน้าหลิน ฟานเขากลับทำตัวอ่อนน้อม เขาเก็บแส้ของเขา “ข้าเข้าใจแล้ว”

ชาวบ้านทุกคนมองมาที่หลิน ฟาน

พวกเขาไม่เคยเจอนายน้อยของตระกูลหลินมาก่อน

พวกเขาไม่เข้าใจว่าคนสำคัญแบบนั้นมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร

โจว เชียงเหมานั้นไม่ได้สนใจเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

เขาแค่มาที่นี่เพื่อติดตามลูกพี่ลูกน้องของเขาเท่านั้น

ส่วนเรื่องอื่นเขาไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด

ตอนนี้โกวชิรู้สึกหมดหนทาง

พวกเขามาที่นี่เพื่อเก็บภาษี

อย่างไรก็ตามด้วยสภาพอากาศในปีนี้ พวกเขาอาจจะเก็บเกี่ยวได้น้อยลง พวกเขาไม่สามารถจ่ายภาษีได้แน่ นี่ยังไม่ได้พูดถึงส่วนที่ต้องเก็บเอาไว้เติมเต็มท้องของพวกเขาอีก

อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพียงแค่คนรับใช้เท่านั้น

เขารู้ว่าคำพูดของเขามันไร้ค่า และไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้

ตอนนี้ผู้จัดการเฉินเข้าใจแล้วว่านายน้อยของเขาไม่ต้องการให้เขาทำตัวชั่วร้าย ดังนั้นเขาจึงพูดให้นุ่มนวลมากขึ้น “ได้เตรียมภาษีเอาไว้แล้วใช่รึไม่?”

ไม่มีใครพูด

ชาวบ้านแลกเปลี่ยนสายตากัน  และแสดงออกอย่างข่มขื่น

ภาษีฟาร์ม?

มันมีทางอื่นอีกไหม?

เพราะถ้าหากพวกเขาไม่ได้ส่งมอบภาษี ผลที่ตามมาคือสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทนได้

“หืม?” ผู้จัดการเฉินขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้น ขยะพวกนี้ไม่คิดจะส่งมอบภาษีให้งั้นเหรอ?

วันนี้นายน้อยได้ตามเขามาด้วย และถ้าหากว่าเขาไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

“ผู้จัดการเฉิน” ในขณะนั้นเองก็ได้มีชายชราคนหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน

เขาแก่มาก รอยย่นบนใบหน้าของเขาไม่ต่างจากเปลือกไม้

“เราจะส่งมอบภาษีให้แน่นอน แต่ผลผลิตในปีนี้มันค่อนข้างแย่ เราสามารถจ่ายให้น้อยลงหรือติดเอาไว้ก่อนได้รึไม่” ชายชราพูด

เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน

ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้เกี่ยวกับสถานการณ์ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม เขารู้อยู่แล้วว่าเหตุผลของเขามันไม่สำคัญสำหรับตระกูลหลิน มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหากพวกเขาส่งให้ตามปกติ แต่มันจะกลายเป็นหายนะหากพวกเขาไม่ส่งภาษีไปให้

การแสดงออกของผู้จัดการเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย

สายตาที่เขามองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

“หัวหน้าหมู่บ้าน วันนี้นายน้อยตามข้ามา และเจ้าก็พูดแบบนี้กับข้าต่อหน้านายน้อยงั้นหรือ?” ใบหน้าของผู้จัดการเฉินมืดลง จากนั้นเขาก็มองไปที่หลิน ฟาน “นายน้อยข้าจะจัดการกับเรื่องนี้เอง ข้าจะไม่ยอมให้ตระกูลหลินเสียหน้าแน่”

หลิน ฟานเงยหน้ามองท้องฟ้า พร้อมกับพัดตัวเองไปด้วย

“อากาศมันร้อนจริงๆ”

“มันเป็นสัญญาณของความแห้งแล้ง”

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาเก็บภาษีกันยังไง

นอกจากนี้การสนับสนุนพวกเขาเล็กน้อยก็มีมนุษยธรรมจริงๆ

มันไม่ได้รังแกพลเรือน

เขาเห็นว่าพวกเกษตรกรที่นี่โกรธจริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้รับคะแนนความโกรธเลยสักนิด

“โกวชิ อัตราภาษีที่เราเก็บมันเท่าไหร่?” หลิน ฟานถาม

โกวชิตอบ “ขึ้นอยู่กับที่ดินที่พวกเขามี ขอรับนายน้อย เราจะเก็บ75กิโลกรัมต่อหนึ่งหมู่”

“อะไรนะ?” เมื่อหลิน ฟานได้ยินแบบนั้นเขาก็เกิดสับสนขึ้นมา เขาจึงถามกลับไปอีกครั้ง “มันคำนวณยังไงนะ?”

“มันขึ้นอยู่กับว่าที่ดินของพวกเขามีกี่หมู่” โกวชิตอบ

หลิน ฟานตกใจ

นี่มันสูงกว่าภาษีในช่วงราชวงศ์ฉินซะอีก

พวกเขาไม่ได้ให้โอกาสคนที่มีชีวิตอยู่เลย

“แล้วหนึ่งหมู่มันผลิตได้เท่าไหร่?” หลิน ฟานถาม

“หนึ่งหมู่มันผลิตได้100กิโลกรัม ขอรับนายน้อย” โกวชิพูด พวกเกษตรกรสามารถเก็บผลผลิตของพวกเขาเอาไว้ได้เพียงเล็กน้อย และส่วนที่เหลือมันจะถูกเก็บไว้สำหรับภาษี

“ไอเจ้าโง่คนไหนมันตั้งกฎนี้ขึ้นมากัน? มันต้องการให้พวกเขาตายรึไง” หลิน ฟานตำหนิ

ไม่ใช่แค่ผู้จัดการเฉินเท่านั้นที่ตกใจ เพราะแม้แต่ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็ตกตะลึงไปด้วย

โกวชิ เข้ามากระซิบอย่างรวดเร็ว “นายน้อยกฎนี้มันถูกตั้งโดยหัวหน้าตระกูล”

“เอาล่ะ ไม่ว่าใครจะตั้งก็ช่างมัน เพราะภาษีแบบนี้มันสูงเกินไปหน่อย เปลี่ยน เราจะต้องเปลี่ยนมัน ในฐานะที่ข้าเป็นนายน้อยข้าจะเปลี่ยนมันทันที”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะไม่เก็บตามหมู่ แต่จะเปลี่ยนมาเป็นเก็บ10%ต่อปีแทน”

หลิน ฟานพูด

เขาจะต้องหยุดการกระทำที่น่ากลัวเช่นนี้

ในฐานะลูกชายที่ร่ำรวย เขาจะต้องทำอะไรบางอย่าง

“นายน้อย ท่านไม่สามารถทำเช่นนั้นได้!” ผู้จัดการเฉินตะโกน และพยายามหยุดนายน้อยของเขาอย่างรวดเร็ว

นั่นจะนำไปสู่ความตาย

หากนายท่านพบมัน โลกจะต้องล่มสลายแน่

ชาวบ้านยังคงยืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น

ตาของพวกเขาเปิดกว้างในขณะที่มองไปที่หลิน ฟาน

นายน้อยหลินพูดว่าอะไรนะ?

หลิน ฟานไม่สนใจ เขามองไปที่ท้องฟ้าและพื้นดิน ก่อนที่จะพูดอีกครั้งว่า “อากาศมันร้อนมากจริงๆ และมันก็น่าจะเป็นฤดูแล้ง ดังนั้นปีนี้ข้าจะไม่เก็บภาษี”

“นายน้อย....” ผู้จัดการเฉินกำลังจะกระอักเลือดออกมา ท่านต้องห้ามทำแบบนั้นเด็จขาด

“เจ้าหรือว่าข้ากันแน่ที่เป็นนายน้อย? คำพูดของข้ามันไร้ประโยชน์งั้นรึ? ข้าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง เพียงแค่บอกว่ามันเป็นความคิดของข้า และถ้าท่านพ่อไม่เห็นด้วยกับความคิดของข้า ก็ให้ท่านมาหาข้าได้เลย” หลิน ฟานพูด

เพื่อแสวงหาความร่ำรวย เขาต้องเสี่ยง

เขาจะต้องรวบรวมความโกรธ เพราะเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยถ้าเขาอ่อนแอ

เขาจะต้องหามันเอาไว้ล่วงหน้า

เขาคงจะไม่ฆ่าลูกชายคนเดียวของเขาหรอกใช่ไหม?

ตุบ!

ในตอนนั้นเองที่ชาวบ้านทั้งหมดก็ได้คุกเข่าลง

หัวหน้าหมู่บ้านคุกเข่าต่อหน้าหลิน ฟานและร้องไห้ “ขอบคุณนายน้อย ขอบคุณท่านที่เมตตา!”

เขาไม่เคยศึกษามาก่อน และก็ไม่รู้จักคำอื่นนอกจากคำว่าขอบคุณ

อย่างไรก็ตามอารมณ์ที่เขาแสดงออกมามันเป็นของจริง

ไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกว่าเขาเสแสร้ง

หลิน ฟานเดินเข้าไปและช่วยเขายืนขึ้น “หัวหน้าหมู่บ้าน ในอนาคตเจ้าต้องทำผลงานออกมาให้ดีละ เพราะชีวิตของข้าขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว”

แม้ว่าคำพูดเหล่านั้นจะฟังดูแปลกๆ แต่สำหรับพวกเขามันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด

“นายน้อยไม่ต้องกังวล พวกเราจะพยายามให้ดีที่สุด และปีหน้าเราจะจ่ายภาษีแน่นอน”

หลิน ฟานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“เอาล่ะ เรากลับไปที่คฤหาสน์กันเถอะ”

ผู้จัดการเฉินมองไปที่นายน้อยของเขาด้วยความสิ้นหวัง

ปัญหาใหญ่มันกำลังจะเกิดขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด