ตอนที่แล้วบทที่ 170 - สิ่งที่เธอไม่ได้รับอนุญาต (1) [09-05-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 172 - สิ่งที่เธอไม่ได้รับอนุญาต (3) [13-05-2020]

บทที่ 171 - สิ่งที่เธอไม่ได้รับอนุญาต (2) [11-05-2020]


บทที่ 171 - สิ่งที่เธอไม่ได้รับอนุญาต (2)

ด้วยเกราะขาของมันที่พังไปแล้ว บาซิลิสได้คำรามออกมาอย่างโกรธแค้นซึ่งดังไปทั่วทั้งยอดเขา หลายคนที่เจอกับเสียงคำรามนี้ได้นิ่งและมีสัญญาณของการถูกแช่แข็งที่ร่างกายพูดเขา ฉันก็ยังหยุดได้ครู่หนึ่ง แต่ฉันก็รีบหลุดออกมาจากมันด้วยการช่วยเหลือจากป้องกันวิญญาณและความต้านทานทางมานาของฉัน จากนั้นฉันก็ช่วยสุมิเระที่แข็งทื่ออยู่ในทันที

[เธอสามารถจะใช้อาธีน่าได้นะถ้าต้องการ]

[จริงหรอคุณชิน?]

[ใช่แล้วแสดงพลังของพวกเรา เธอก็ยังไม่ต้องการที่จะถูกดูถูกใช่ไหมล่ะ?]

[ใช่ค่ะ เข้าใจแล้ว]

ฉันได้ให้กำลังใจสุมิเระผู้ที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยความเคารพและบินกลับไปบนท้องฟ้า หลังจากที่มันคำรามเกราะของบาซิลิสก็ได้เริ่มส่องแสวและยิงกระสุนที่เหมือนกับหินที่จะทำให้ใครก็ตามที่ถูกสัมผัสกลายเป็นหิน

[ก๊าซซซซซซซซซซซซซ]

เสียงคำรามของบาซิลิสก็ยังคงมีต่อไป มันเป็นการง่ายมากที่จะมีคนตายเป็นเสียแต่ว่าจะมีคนฮิวอย่างต่อเนื่อง ผู้โจมตีระยะไกลกำลังทุ่มการโจมตีไปที่ใบหน้าที่เปลื่ยนเปล่าของบาซิลิส แต่บาซิลิสก็ได้เหวี่ยงหางที่ใหญ่โตของมันและป้องกันการโจมตีนี้ก่อนที่จะถึงใบหน้าของมัน จากนั้นหางของมันก็ได้ยิงกระสุนออกมาใส่นักสำรวจทั้งหมด ฉันได้พุ่งเข้าไปหามันในขณะที่หลบกระสุนเหล่านั้นในทันที

"ใบมีดจู่โจม"

มอนสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่นั้นมีพลังชีวิตที่ไม่สิ้นสุดซึ่งทำให้ยากที่จะฆ่าได้ แต่ยังไงก็ตามมันก็ทำให้เล็งเป้าโจมตีได้ง่ายด้วยเช่นกัน ฉันได้หลบหางที่ฟาดมาและคลื่นฝนกระสุนหินของมัน จากนั้นก็แทงหอกเข้าไปที่ขาซ้ายอย่างเต็มแรง เพลิงโกลาหลได้ลุกขึ้นอีกครั้งที่เกราะของมัน และใบมีดจากใบมีดจู่โจมก็ยังกระทุ้งเกราะของมัน แน่นอนว่าแค่นี้ยังไม่พอที่จะทำความเสียหายต่อมัน

"ระเบิดสายฟ้าทมิฬ"

ร่างกายของบาซิริสได้กระตุกอยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่ไฟฟ้าสีดำถูกยิงออกมาจากร่างกายของฉันและกระหน่ำลงไปที่เกราะของมัน ช่องสนทนาได้กลายเป็นวุ่นวายในทันที

[นั่นอะไรนะ? ไม่ใช่ว่ามันเป็นทักษะของบอสชั้นที่ 15 หรอ?]

[ฉันไม่ได้เห็นมันมา 40 ปีแล้วนะ]

[มีใครจะอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไหม? ชายคนนั้นไม่ได้ใส่อะไรแบบชุดเกราะมนุษย์หนูทมิฬมาในการจู่โจมระดับ SS+ ใช่ไหม]

[โอ้ เมื่อทักษะนั้นมันโดนเป้าหมายมันจะทำให้เป้าหมายเป็นอัมพาตโดยไม่คำนึงความแข็งแกร่ง ตอนนี้โจมตีเลย]

น่าเสียดายที่ระยะเวลาของระเบิดสายฟ้าทมิฬนั้นไม่ได้นานนัก! ในช่วงเวลาที่ทักษะนี้สิ้นสุดลง ฉันก็โจมตีไปที่เกราะของมันอีกครั้ง จากนั้นก็ถอยไปทันที ซึ่งหางของมันก็ได้ฟาดไปที่ๆฉันพึ่งจะยืนอยู่เมื่อครู่นี้

การโจมตีของมันนี้ได้ทำให้นักสำรวจคนอื่นๆตายไปในทันที นักสำรวจระดับแพตตินัมพวกนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากนักเลย พวกเราไม่สามารถจะอ่านการเคลื่อนไหวของเจ้ามอนสเตอร์ยักษ์นี้ได้หรือยังไงกันนะ?

เมื่อคนได้เริ่มตายไปมากขึ้น นักสำรวจที่รอดอยู่ก็กลายเป็นแค้นมากขึ้นและโถมโจมตีไปที่บาซิลิส เกือบทุกคนได้โจมตีไปที่ขาซ้านแทนที่จะโจมตีขาขวาที่ถูกแช่แข็ง

"ฮ่าห์"

"ตาย"

[ก๊าซซซซซซ]

ในขณะนั้นเกราะของมันได้เปล่งแสงสว่างงออกมา ฉันได้บินขึ้นไปและหลบแสงนั้นในทันที นักสำรวจที่บินส่วนใหญ่ก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน ยังไงก็ตามนักสำรวจจำนวนมากที่อยู่บนพื้นไม่สามารถจะทำแบบนี้ได้

นักสำรวจเหล่านั้นได้กลายเป็นหินไปโดยสมบูรณ์

[เวรเอ้ย กราะของมันทำงานแล้ว! นักบวชเร็วเข้า]

[มัฟล์]

[ดวงตาของมันส่องแสงแล้ว โจมตี หยุดมันซะ]

[เวรเอ้ยนี่มันยากเกินไปสำหรับคน 100 คน...!?]

[หยุดถอดใจแล้วก็ใช้ทักษะของแกซะไอพวกเวร]

ต้องขอบคุณเสียงตะโกนของคนๆนี้ แสงได้เริ่มส่องจากพื้น ในหมู่พวกเขามีคนที่อยู่คนหญิงที่ใข้แสงกลับไปอย่างสมบูรณ์ เธอเป็นผู้หญิงสาวสวยที่กำลังถือโล่อันหรูหรากำลังทำให้บาซิลิสร้องออกมาอย่างเจ็บปวด... เดี๋ยวก่อนนะนั่นมันสุมิเระ

[ดูนั่นสิบาซิลิสกำลังเป็นหิน]

[อะไรนะ? ใครเป็นคนทำให้บาซิลิสเป็นหินงั้นหรอ?]

[พลังของเทพเจ้า! ผู้หญิงคนนั้นต้องมีชื่อของเทพเจ้าที่แท้จริง]

[นักสำรวจที่ไม่เป็นที่รู้จักมีชื่อที่แท้จริงของเทพเจ้า? เธอมาจากกิลด์ไหนกัน? เธอจะต้องเป็นหัวหน้ากิลด์ใช่ไหม?]

[เธอนั้นทั้งยังอายุน้อยและสวยงาม เธอเป็นสเปคของฉันเลย]

[เฮ้ ไอ้เวรเอ้ยมึงเป็นใครกันว๊ะ? ถ้าพวกเราล้มเหลวในการจู่โจม กูจะฆ่ามึงนี่แหละ มาจากกิลด์อะไรห๊ะ?]

เยี่ยม สุมิเระทำได้เยี่ยมมาก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสุมิเระได้สร้างโอกาสให้พวกเราได้พลิกสถานการณ์ แม้ว่าบาซิลิสจะมีความสามารถที่จะทำให้แข็งเป็นหิน แต่มันก็ถูกผลักดันกลับไปด้วยหัวเมดูซ่าบนโล่ของอาธีน่า เริ่มแรกจากดวงตาขงมันซึ่งกำลังจะทำอะไรบางอย่างได้กลายเป็นหินไปบางส่วน นักสำรวจที่มีประสบการณ์ไม่ยอมที่จะพลาดโอกาสนี้ได้ยิงการโจมตีที่ทรงพลังเข้าใส่บาซิลิส แน่นอนว่านั่นก็รวมถึงฉันและพ่อด้วย

พ่อได้ใช้คลื่นกระแทกที่ทรงพลังในหอกและประสบความสำเร็จในการสร้างความเสียหายที่บาซิลิสไม่สามารถจะเมินเฉยได้ พ่อได้เล็งไปใบหน้าที่กลายเป็นหินของมัน แม้ว่ามันจะกลายเป็นหินด้วยพลังของเทพเจ้า แต่ว่าด้วยพลังของตัวมันเองมันก็คงจะไม่เป็นแบบนี้นานนัก มันจะดีกว่าถ้าหากจะทำลายส่วนที่เป็นหินของมันไปก่อนที่จะได้ฟื้นตัวเอง

ยังไงก็ตามฉันได้เล็งไปที่ๆแตกต่างออกไป พวกโจมตีระยะไกลหลายคนได้เล็งไปที่ใบหน้าและในขณะนั้นดวงตาข้างหนึ่งที่ไม่เป็นหินก็ได้เริ่มส่องแสงแล้ว ฉันได้หลบใบหน้าของมัน

"ฮ่าห์"

ฉันได้ทิ้งตกลงมาจากท้องฟ้าเหมือนกับลูกธนูและเพิ่มพลังให้กับไต้ฝุ่นคลั่งวังวนของเพลิงโกลาหลได้ถูกบีบอัดและรวบกันไว้ที่ปลายหอกของฉัน ฉันได้แทงมันลงไปที่หางที่ใหญ่โตของบาซิลิสพร้อมเสียงตะโกนดังลั่น

[ติดคริติคอล]

[ก๊าซซซซซซซซซ]

เยี่ยม มันได้ผล! ด้วยรอยสักโอเกอร์สองหัวฉันได้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยแรงดิ่งที่รวดเร็วบวกเขาไปอีกก็ทำให้ฉันประสบความสำเร็จในการทำลายเกราะที่หางของบาซิลิส

[เกราะหางมันแตกแล้ว]

[มีรอยร้าวที่เกราะด้านหลังของมันด้วย โจมตีตรงนั้น]

[อ่า เดี๋ยวก่อน หยุด]

ได้มีคนที่บินได้สองคงพุ่งไปที่ด้านหลังของบาซิลิสแม้ว่าจะมีเสียงตะโกนออกมา พวกเขาทั้งสองคนเป็นนักรบที่ถือค้อนและก็ขวานศึก พวกเขาดูเหมือนจะอยู่ในกิลด์เดียวกัน ในขณะนั้นพวกเขาก็ได้พุ่งไปใส่หลั่งของบาซิลิสด้วยอาวุธที่เต็มไปด้วยออร่า ในทันทีหลังจากนั้นหลังของบาซิริสก็ได้เรืองแสงขึ้น จากนั้นข้อความก็ได้ดังขึ้นในหูของฉัน

[กิลด์เสก ทาร์มได้ถูกทำลายแล้ว]

"ทะ ทำลาย..."

ฉันได้หลังเหงื่อเย็นออกมาในขณะที่ตรวจสอบหลังของบาซิลิส สิ่งที่ฆ่าคนของกิลด์นั้นไปไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากกลุ่มงูบิน มีบาซิลิสตัวจิ๋วนับร้อยๆถูกยิงออกมาจากหลังของบาซิลิส

[ให้ตายเหอะ นี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยนะ]

[พวกมันกำลังจะแยกกันไปแล้ว รีบๆฆ่ามันเร็วเข้า]

ช่องสื่อสารได้กลายเป็นวุ่นวายด้วยเสียงที่ตกใจและสาปส่ง ผู้ที่ใช้เวทย์โจมตีได้เล็งไปที่บาซิลิสจิ๋ว แต่ว่าความต้านทานเวทย์ของพวกมันนั้นสูงมาก หรือก็คือนักรบจะต้องเข้าไปจัดการพวกมัน คนที่ก้าวไปคือชายผู้ที่แช่แข็งเท้าขวาของบาซิลิสในก่อนหน้านี้

[จอมเวทย์เล็งไปที่การหยุดการเคลื่อนไหวของบาซิลิส เน้นไปที่หัวของมัน! นักรบฆ่าเจ้าพวกตัวเล็กๆและทำลายเกราะที่หลังของมัน]

เขาดูเหมือนจะเป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์แมงป่องทะเลทราย หลังจากที่เขาออกคำสั่ง เขาก็พุ่งเข้าไปหาบาซิลิสจิ๋วซึ่งเหล่านักรบที่บินได้ก็ตามเขาไป ทั้งหมดต่างก็สวมใส่ผ้าคลุมของกิลด์แมงป่องทะเลทรายเหมือนๆกัน ในขณะนั้นฉันก็ยังไม่อยากที่จะพลาดโอกาสนี้ ฉันได้รีบพุ่งไปข้างหน้าทันที

"ชาราน่า พวกเราจะไปด้วยความเร็วเต็มกำลัง"

[ได้เลยนายท่าน]

"เส้นทางวายุ"

ในที่สุดก็มีตัวที่จะมาเพิ่มพลังโจมตีของฉันแล้ว ฉันไม่ปล่อยให้คนอื่นจัดการพวกมันไปก่อนแน่ ฉันได้เร่งความเร็วขึ้นและแซงคนอื่นๆ

'ไม่ว่าเลเวลของนายจะสูงแค่ไหน นายก็ไม่มีทางตามความเร็วฉันทันหรอก! ฉันเป็นผู้เป็นเจ้าของของชื่อที่แท้จริงของเฮอร์มีสและมีภูติธาตุลมชาราน่าน่ะ'

[นั่นใครนะ!?]

[เขาเป็นระดับทอง]

[ระดับทอง? กับความเร็วนั่นนะน่ะ? นายกำลังล้อเล่นใช่ไหม?]

ร่องรอยของเพลิงโกลาหลได้ถูกทิ้งเอาไว้ในทางที่ฉันผ่านไป ฉันได้พุ่งเข้าไปหาบาซิลิสเหมือนกับดาวหาง บาซิลิสตัวแรกที่ฉันปะทะได้ถูกโจมตีด้วยหอกของฉัน เยี่ยม ด้วยสิ่งนี้...

"เข้ามา!"

[คุณได้ใช้ทักษะยั่วยุ! ศัตรูทั้งหมดในพื้นที่จะโจมตีคุณด้วยความเกลียดชัง]

บาซิลิสได้มารอบฉันในทันทีหลังจากนั้น มันดูเหมือนกับจะทำให้คนกลายเป็นหินได้ด้วยการจ้องมองแต่แน่นอนว่าพวกมันไม่แข็งแกร่งพอที่จะทะลวงทักษะป้องกันวิญญาณของฉัน ฉันได้ยิ้มและส่งพวกมันลอยออกไป พวกมันส่วนใหญ่ได้ถูกฆ่าในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

"ย๊าาาาาาา!"

[มันดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่จำเป็นแล้ว กลับ! พวกเราจะไปโจมตีที่หลังของมัน]

[หืม....]

แสงของเวทย์ได้กระพริบอยู่ในทุกๆทิศทาง ในขณะเดียวกันการโจมตีของบาซิลิสสั่นพื้น แน่นอนว่าเกราะของมันได้ถูกทำลายไปโดยนักสำรวจในตอนนี้ ทุกๆคนในปัจจุบันนั้นต่างก็มีความแข็งแกร่งพอที่จะคุกคามชีวิตของบาซิลิส บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้การต่อสู้นี้ดูจะร่าเริงเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ต่อสู้ร่วมกับนักสำรวจที่แข็งแกร่งกว่าฉัน

ยังไงก็ตามฉันก็ยังต้องการที่จะเอาชนะกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์นี้

[นายท่าน พลังงานลมแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆแล้ว]

"รวบรวมมันเอาไว้เท่าที่เธอจะทำได้ พวกเราจะทำการโจมตีที่ยิ่งใหญ่กัน"

แม้ว่าในขณะที่ฉันสั่งชาราน่า ฉันก็ได้เปลื่ยนทิศทางอย่างมั่นคงและแทงไปที่บาซิลิสจิ๋วด้วยหอกของฉัน สิบ สิบสอง สิบห้า ยี่สิบ...!

"อีกนิดนึง...!"

"พลังของพระเจ้า"

"ให้ตายสิ เจ้านั่นเป็นปีศาจหรือไง?"

จากนั้นพร้อมกันกับเสียงตกใจของนักสำรวจ บาซิลิสมันได้เคลื่อนที่ลง เกราะยาวกว่า 300 เมตรของมันได้ถูกแช่แข็งด้วยน้ำแข็งสีขาวอย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นการโจมตีของกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์แมงป่องทะเลทราย.... นายแน่ใจนะว่าต้องการจะใช้การโจมตีแบบแช่แข็ง

[โจมตีมันในขณะที่พลังของซิสอานัทยังคงอยู่! มันใช้แรงจนเกือบจะหมด ถ้าพวกเราสามารถที่จะทำลายเกราะได้ ชัยชนะก็จะเป็นของเรา]

เสียงที่มั่นใจของนักสำรวจได้ดังขึ้นในช่องสื่อสาร จากนั้นนักสำรวจก็ได้ใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาเพื่อที่จะทำลายเกราะของบาซิลิสที่ละนิด ชุดเกราะที่ปกคลุมร่างกายยักษ์แบบสมบูรณ์ฬนตอนนี้ได้อยู่ในสภาพที่น่าอนาถ

จากนั้นเองฉันก็ได้เสร็จสิ้นการจัดการการบาซิลิสจิ๋วตัวที่สามสิบแล้วและเตรียมตัวที่จะใช้การโจมตีอันสุดท้ายของเส้นทางวายุ ฉันสามารถจะรู้สึกได้ถึงพลังลมที่รวมกันอยู่รอบๆตัวฉันจากพลังการหมุนวงของวงจรเพรูต้าที่ทรงพลังได้สร้างวังวนที่เหมือนกับพายุขึ้น ฉันได้ยิงมันออกไปด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าฉันจะไม่ได้ใช้พลังของโอเกอร์ แต่แค่รอยสักของโอเกอร์สองหัวก็ทำให้พลังมันเพียงพอแล้ว

[วังวนวายุนั่นมันอะไรนะ!? มันกำลังบินมา!]

[มันเป็นชายคนนั้น]

[ไม่ใช่ว่าเขาก็เป็นอีกคนที่มีชื่อที่แท้จริงของเทพหรอ?]

[ไม่มีทาง มันน่าแปลกใจพออยู่แล้วที่มีผู้ถือครองชื่อที่แท้จริงของเทพเจ้าคนใหม่ในวันนี้ ตลอดทั้งดันเจี้ยนที่หนึ่งนี้มีผู้ที่มีชื่อของเทพเจ้าที่แท้จริงน้อยกว่า 20 คนเสียอีก]

'ใช่แล้ว พูดต่อไปสิ'

ในตอนนี้ฉันอยู่บนท้องกว่าสูงกว่าร้อยเมตร วังวนวายุขนาดมหาศาลได้หมุนวนอยู่รอบๆหอกของฉันและร่างกายของฉันดังนั้นมันจึงทรงพลังจนยากที่เห็นด้วยตาเปล่า ยังไงก็ตามฉันก็ยังไม่จบ

"ขยายยักษ์"

แรงกดดันบนแขนของฉันได้หนักขึ้นในทันที แม้ว่าด้วยสเตตัส ชื่อที่แท้จริงของเทพเจ้า รอยสัก และพลังจากหอกโกลาหล มันก็ยังยากที่จะใช้ทักษะไจแอน ฉันสามารถจะใช้มันได้เพียงแค่ 2 นาทีกับหอกที่ขยายยักษ์นี้

โชคดีที่แค่นั้นก็พอที่จะเผด็จศึกบาซิลิสแล้ว

"ความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้า"

ตูมมมมม

สายฟ้าสีทองได้ลงมาครอบคลุมทั้งความยาวและความหนาของหอกโกลาหล พลังงานที่รวบรวมจากเส้นทางวายุก็ได้ถูกเพิ่มพลังด้วยชาราน่าและเริ่มเพิ่มพลังให้กับความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้าต่อ พลังงานสายฟ้าได้ถูกเสริมพลังขึ้นในทันที ท้องฟ้าที่ชัดเจนได้ถูกย้อมจนเป็นสีทอง หอกสายฟ้าอันนี้ได้ดึงความสนใจจากทุกคนในทันที

[ฉันรู้แล้ว เขาเป็นผู้ถือครองชื่อที่แท้จริงของเทพเจ้า!]

[ไอเวรนั้นมันเป็ฯใคร? ไม่สิกิลด์อะไร?]

[อะ เอ๊ะ...? เดี๋ยวก่อนนะ... อันดับที่ 1 สำหรับกิลด์อาจจะกำลังถูกขโมย!]

[เฮ้หยุดนะ! อันดับที่หนึ่งเป็นของเจ้าของไม่ใช่หรอ?]

[ไม่มีใครบอกพวกเขาหรอ?]

[พวกเขาบอกว่าพวกเขาเป็นระดับทองทั้งหมด! แล้วนายจะไปบอกพวกเขาหรอ?]

[เร็วเข้ารีบฆ่าบาซิลิสก่อนที่เขาจะโจมตี!]

[ได้โปรดเถอะทำให้มันเป็นเรื่องง่าย พลังของพระเจ้ามันไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่]

มันยากอยู่แล้วที่จะฆ่ามันด้วยกัน แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะมีกฏบางอย่างอยู่ นักสำรวจชอบที่จะทำให้มันเป็นเรื่องยากสินะ... แต่แน่นอนนั่นมันไม่ใช่ธุระของฉัน

"ไพก้าเข้ามาในหอก"

[กรี๊ด มันเต็มไปด้วยพลังเลยล่ะนายท่าน]

พลังสายฟ้าได้ถูกเสริมพลังขึ้นไปอีกครั้ง ฉันได้พบว่ามันยากที่ฉันจะเปิดตาเอาไว้ ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถจะหยุดมันได้แล้วในตอนนี้ ฉันได้บังคับเปิดตาออกมาและจับหอกของฉันที่ถูกเสริมด้วยความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้าเอาไว้ จากนั้นก็ทิ้งดิ้งลงไปหาบาซิลิส

"ฉันจะเป็นคนเอาหัวของแกไปเอง"

[คุณได้ใช้วอคลาย! สมาชิกในปาตี้ทุกคนได้รับการเคลียสถานะด้านลบ ทุกคนในปาตี้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 50% ในระยะเวลาหนึ่ง และได้เข้าสู่สถานะสุดยอดเกราะไม่สกสะท้านกับการโจมตีของศัตรู]

จากนั้นฉันก็ได้ใช้ทักษะของรอยสักโอเกอร์สองหัวซึ่งเพิ่มพลังของทักษะระยะประชิด 50% แม้ว่าฉันจะใส่เกราะไว้อยู่ แต่รอยสักโอเกอร์สองหัวก็ปรากฏออกมาด้านบนและเรืองแสงสีชาดออกมา จากนั้นเองบาซิลิสก็ได้พ่นลมหายใจเปลื่ยนเป็นหินใส่ฉันซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกถึงภัยคุมคามที่เข้ามา แต่ว่ามันก็ถูกป้องกันด้วยพลังของความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้า

ฉันได้กลายเป็นริ้วแสงสีแดงและตกลงไปทางบาซิลิส

เนื่องจากว่าทักษะเสริมพลังต่างๆที่ฉันมีอยู่นี้ทำให้การโจมตีอันนี้ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ว่าฉันก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ฉันได้ใช้ฮีโรอิคสไตรค์ลงไปซึ่งจะรวมเอาทุกๆอย่างในร่างกายของฉันไปใส่ไว้ในนอก ในขณะนั้นฉันก็ได้หยิบเอามานาโพชั่นมาเตรียมไว้ในปากในขณะที่ตะโกนออกไป

"ความเร็วศักดิ์สิทธิ์"

ความเร็วที่ไม่มีใครตามทันอยู่แล้วของฉันได้เพิ่มขึ้นไปอีกอีก 10 เท่า มันไม่มีโอกาสเลยที่บาซิลิสจะหลบการโจมตีนี้ได้ ฉันได้จ้องไปที่บาซิลิสด้วยสายตาที่ไร้ปราณีและแทงหอกลงไปบนหน้าผากของมัน

[ติดคริติคอล]

มันเป็นโชคดรมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบาซิลิสนี้มันมีกระดูก ด้วยทักษะนักทำลายกระดูกมันทำให้ความเสียหายคริติคอลเพิ่มขึ้นอีก 50%

[ก๊าซซซซซซซ]

เมื่อหอกของฉันได้เจาะเข้าไปในหน้าผากของมันพลังสายฟ้าก็ได้ระเบิดออกมาเต็มกำลังและเจาะทะลวงไปในหัวของมัน หอกซึ่งยาวหลายสิบเมตรก็ได้แยกหัวของบาซิลิสเป็นสองส่วน บาซิลิสแทบจะตายไปในทันทีก่อนที่จะกลายเป็นเงียบไป จากการแยกหัวของมันนี้ทำให้มันไม่มีโอกาสปล่อยลมหายใจหรือได้จ้องใครอีก

ในทันทีหลังจากนั้นเกราะที่เหลืออยู่ของมันก็ได้ระเบิดออกมา ร่างกายของมันได้การเป็นผงและหายไป

บอสการจู่โจมระดับ SS+ สำหรับ 500 คนได้จบลงไปแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด