ตอนที่แล้วตอนที่ 10 : ทีมขน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 : โรงอุปกรณ์

ตอนที่ 11 : ความแข็งแกร่งของอีไลน์


เพียงชั่วครู่ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้เมฆบนฟ้ามันเป็นสีดำสนิท แต่เวลาถัดมาหมอกเมฆบนท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะถูกย้อมด้วยสีคริสตัลสีฟ้า

ไม่ มันไม่ได้ถูกย้อม…

เฉินไฮปิงรู้สึกถึงลมที่หนาวเหน็บผ่านใบหน้าของเขา เขาเห็นหนามสีฟ้าขนาดเล็กๆปรากฏขึ้นตรงกลางของฝูงปิศาจนกกระจอก เห็นได้ชัดเจนว่ามันกำลังขยายวงกว้างขึ้นเหมือนกับว่ากำลังละเลงสีฟ้าอยู่บนก้อนเมฆ เพียงครู่เดียวปิศาจนกกระจอกนับสิบตัวก็ถูกแช่กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง ส่วนพวกที่เหลือก็ร่วงลงจากท้องฟ้าจากความหนาวเหน็บ

ไม่ไกลนัก อีไลน์แสดงออกถึงความเคร่งเครียด ด้วยมือที่ชูสูงขึ้น น้ำแข็งสีฟ้า ห่าฝนคริสตัลขนาดเท่าแขนกำลังถูกควบแน่น มันถูกยิงออกมาทันที เหมือนเป็นระลอกคลื่นที่วิ่งผ่านอากาศ

ห่าฝนคริสตัลพุ่งเข้าไปฝูงปิศาจนกกระจอก และเมื่อพลังของชนกับฝูงปิศาจ อากาศที่เย็นเฉียบก็ทะลักออกมา…

นี่คือพลังของเวทย์น้ำแข็ง!

เฉินไฮปิงไม่ได้คาดหวังว่าเด็กสาวที่ดูเปราะบางและอ่อนแอจะเป็นผู้ปลุกพลังที่มีพลังพิเศษ ซึ่งหาได้ยากมาก!

ในกลุ่มของผู้ปลุกพลังหนึ่งร้อยคน กว่าจะหาได้หนึ่งคนยังยากเลย!

พลังพิเศษนี้เกิดตั้งแต่กำเนิด เฉินไฮปิงจึงไม่คิดอิจฉาใดๆ แต่พลังของอีไลน์ก็ยังมากเกินกว่าที่เขาได้คาดหวังเอาไว้

จากที่เฉินไฮปิงเคยคิดเอาไว้ เขาคิดว่าอีไลน์เป็นเพียงผู้ปลุกพลังที่อ่อนแอคนหนึ่ง แต่ในตอนนี้การที่ได้เห็นเธอควบแน่นพลังของหอกน้ำแข็งอย่างต่อเนื่องกำจัดฝูงของปิศาจนกกระจอกอย่างสิ้นซาก มันไม่เพียงแต่ทำให้เขาตื่นเต้นจนแทบลืมหายใจ มันยังทำให้เขาช็อคอย่างมากอยู่ในใจ

ถ้านี่เป็นเพียงผู้ที่พึ่งจะถูกปลุกพลัง มันไม่สำคัญเลยว่าความสามารถจะเป็นอะไร การใช้พลังขนาดนั้นคงทำได้เพียงแค่หนึ่งถึงสองครั้งก็ถึงขีดจำกัดแล้ว เขาเคยเห็นคนหนึ่งที่เป็นแบบนี้จากฐานที่มั่นที่แล้ว คนๆนั้นสามารถเรียกพลังแห่งไฟได้ ทันทีที่เขาใช้ความสามารถนั้น มันอาจจะทรงพลังแต่ก็ไม่สามารถควบคุมพลังได้นาน

ตรงกันข้าม อีไลน์ดูเฉิดฉายเหมือนก้อนเมฆและอ่อนโยนเหมือนกับลม ไม่ว่าเธอจะกำลังควบแน่นหมอกที่หนาวเย็นจนกลายเป็นหอกน้ำแข็งหรือกำลังควบคุมทิศทางการยิง ทั้งหมดมันบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเด็กสาวคนนี้ยังมีความสามารถมากกว่าที่เห็น!

มันอาจจะยากสำหรับเฉินไฮปิงที่จะอธิบายเกี่ยวกับระบบคลาสหรือการร่ายเวทย์มนต์ แต่นี่มันคือสิ่งที่เธอได้ทำได้ จริงๆแล้วแม้แต่ถังหยูเองก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ เขาแค่รู้จักมันในความรู้สึกเท่านั้น

……

อีไลน์ยกมือขึ้นเบาๆ ค่อยๆรวมรวบพลังเวทย์ที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างช้าๆ เปรียบเทียบกับเฉินไฮปิงที่กำลังช็อคอย่างหนัก เธอในตอนนี้...ดูมีความสุขมาก

ทุกคนให้คำนิยามกับความสุขแตกต่างกันไป บางคนมีความสุขกับการได้กินอาหารที่แสนอร่อย บางคนมีความสุขกับการที่ได้สังหารสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง สำหรับอีไลน์ การที่ได้รู้คุณค่าของตัวเธอและได้คอยช่วยเหลือลอร์ดมันทำให้เธอมีความสุขมาก

หลังจากการตายของปิศาจนกกระจอก คลื่นที่มองไม่เห็นนับร้อยดั่งสายที่กำลังไหลลงสู่ทะเล มันไหลอย่างต่อเนื่องมารวมเข้ากับร่างกายของเธอ

ทันใดนั้น ดวงตาที่ใสเหมือนคริสตัลของอีไลน์ก็เปิดกว้าง

นี่คือ…

เธอปลุกพลังเมื่อสามปีก่อน แต่ตั้งแต่เธอค้นพบหนังสือเวทย์ที่ไม่สมบูรณ์ อีไลน์ไม่พบวิธีที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของเธอได้เลย แม้ว่าเธอจะสามารถสัมผัสการไหลเวียนของพลังรอบๆตัวเธอได้ การจัดการกับพลังน้ำแข็งของเธอก็ยังคงอ่อนแอมาก

หลังจากได้พบกับหนังสือเวทย์มนต์ เธอเรียนรู้ทักษะพื้นฐานของนักเวทย์ การทำสมาธิ

การทำสมาธิเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเพิ่มความแข็งแกร่ง อีไลน์เคยได้ยินว่าคลาสอื่นๆก็มีวิธีที่คล้ายๆกันในการเพิ่มความแข็งแกร่ง แต่หลังจากที่กำจัดฝูงปิศาจนกกระจอกแล้ว พลังงานบริสุทธิ์ก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง มันคือสิ่งที่เธอเคยคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

พลังงานเหล่านี้มันบริสุทธิ์มาก!

เพียงแค่มีการบ่มเพาะพลังเพียงนิดเดียว เธอก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงพลังงานเหล่านี้เป็นพลังของเธอได้ เธอไม่รู้ว่าการบ่มเพาะพลังด้วยวิธีนี้มันรวดเร็วกว่าการทำสมาธิมากแค่ไหน และมันยังไม่มีผลข้างเคียงใดๆอีกด้วย

สามปีแห่งการทำสมาธิ ความแข็งแกร่งของเธอได้พัฒนาจนถึงจุดสูงสุดของผู้ปลุกพลังระดับสอง ถ้าเธอทำแบบที่เธอเคยทำมาก่อนหน้า เธออาจจะก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่การปลุกพลังขั้นสามได้สำเร็จในอีกหกเดือน แต่ตอนนี้อีไลน์เชื่อว่าถ้าหากมีพลังงานมากกว่านี้ เธอจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดกลายเป็นผู้ปลุกพลังขั้นสามได้ในทันที

ความเร็วขนาดนี้มันเหมือนเป็นความฝัน

อีไลน์จำสิ่งที่ลอร์ดได้บอกกับเธอเมื่อวานได้ เขาพูดว่ามันจะมีสิ่งที่น่าแปลกใจหลังจากสังหารเหล่าปิศาจเรียกว่าพลังแห่งจิตวิญญาณ

มันกลายเป็นว่านี่แหละ..คือพลังแห่งจิตวิญญาณ

…..

ถังหยูก็มีความสุขมากเช่นกันที่แก้ปัญหาเหล่านี้ได้และมีปิศาจนกกระจอกจำนวนมากส่งตรงถึงบ้านเขา

ปิศาจประเภทนี้นั้นอ่อนแอ ความเป็นไปได้ที่จะหลงเหลือคริสตัลต้นกำเนิดเอาไว้จึงเป็นไปได้ยาก แต่ปิศาจพวกนี้มันมีจำนวนมาก ปัญหานี้จึงคลี่คลาย ถังหยูรู้สึกมีความสุขมากกับการค้นหาคริสตัลต้นกำเนิด

ในอีกความคิดหนึ่ง เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป เขาพึ่งจะสร้างที่แรกได้ ตอนนี้ถังหยูสามารถเรียกพวกเขามาช่วยเก็บคริสตัลได้ นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นการใช้คนงานได้ดีที่สุด

เมื่อวานนี้อีไลน์ยังดูเป็นคนขี้ขลาด ตอนที่เธอมาที่นี่แรกๆ เธอทั้งกลัวและว่างเปล่าขณะที่ได้พบกับพื้นที่ดูเรียบและหรูหราของปราสาท เธอต้องพยายามลุกขึ้นก่อนที่เธอจะตัดสินใจก้าวเข้าไปข้างใน… ในตอนนี้การเผชิญหน้ากับฝูงปิศาจนกกระจอก อีไลน์ไม่มีความรู้สึกกลัวแสดงออกมาให้เห็นแม้แต่เสี้ยวเดียว

คิดถึงเรื่องนี้ ถังหยูค่อนข้างที่จะเข้าใจอยู่ แม้ว่าอีไลน์จะยังมีอายุไม่มากและมีประสบการณ์การต่อสู้แค่น้อยนิด หลังจากเมื่อวานนี้ เธอได้รับประสบการณ์ในการต่อสู้ที่ยากลำบากตอนที่อยู่กำแพงเมืองส่วนนอก ในทางกลับกันการต่อสู้กับฝูงปิศาจนกกระจอกก็ใช้เวลาเพียงสั้นๆ

หลังที่การเริ่มต้นที่ดีแล้ว ถังหยูยังคงนำหน้าตามแผนเดิมเพื่อเก็บกวาดพวกเหล่าปิศาจที่ยังหลงเหลืออยู่ในรีสอร์ททีละจุด ในขณะเดียวกัน เขาก็ค้นหาของที่ถูกทิ้งไว้จากผู้อยู่อาศัยเดิม สิ่งเหล่านี้มันยังใช้งานได้

ยังไม่ทันเย็นถังหยูก็กลับมาที่วิลล่า

ค่อยๆนับคริสตัลต้นกำเนิดในกระเป๋าของเขา ถังหยูยิ้มเล็กน้อย จากนั้นความช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็มาถึง ได้เวลาที่จะสร้างตึกใหม่แล้ว

อย่างที่รู้กันดีว่านี่เป็นการใช้สอยคริสตัล

เขามองเห็นผู้รอดชีวิตจากระยะไกล หลายคนกำลังช่วยกันเข็นรถขนของ

ส่วนกลางของวิลล่าถูกเติมเต็มไปด้วยเศษหินเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มันดูเหมือนกับกองขยะ กองขยะเหล่านี้ส่วนมากมันมาจากซากหักพังของตึกที่ถล่มลงมา เช่นแผ่นหินคอนกรีตและท่อนเหล็ก ในกองขยะยังปนไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่เสียหาย สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเป็นที่ต้องการของใครๆก่อนที่จะเกิดวันโลกาวินาศ แต่สำหรับถังหยูของพวกนี้เป็นสิ่งที่เค้าต้องการอย่างมาก

“ย้ายทุกอย่างไปที่วิลล่าที่สาม”

ถังหยูเรียกพื้นที่ส่วนในของวิลล่าว่าวิลล่าที่สามและพื้นที่ส่วนกลางด้านในว่าวิลล่าที่สองแล้วก็ส่วนของปราสาท มันมีเส้นทางยาวระหว่างปราสาทกับผาสูงที่อยู่ด้านหลังของบริเวณนับตั้งแต่พื้นที่นี้ถูกละทิ้ง แต่พื้นที่นี้ได้ถูกครอบครองโดยถังหยู มันเป็นที่ๆปลอดภัยที่สุดที่เขาสามารถตั้งเป็นจุดศูนย์กลางได้

ถังหยูกำลังจะใช้พื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่ต้องห้าม ตราบใดที่เขาปิดกั้นช่องว่างด้านหน้า เขาก็สามารถตัดขาดจากพื้นที่บริเวณนี้ได้ ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะเข้ามาในบริเวณนี้ไม่ได้ถ้าถังหยูไม่อนุญาต เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ถังหยูยังคงอนุญาตให้คนอื่นๆสามารถเข้ามาที่จุดศูนย์กลางของพื้นที่ได้

เป็นเวลาไม่นาน ผู้รอดชีวิตต่างช่วยกันลากกองขยะขนาดใหญ่พร้อมทั้งวัสดุต่างๆมาที่ด้านหน้าของวิลล่าที่สาม

วิลล่าที่สามดูทรุดโทรมมาก เต็มไปด้วยรูกระสุน กรงเล็บและแม้กระทั่งรอยไหม้เกรียมสีดำที่เกิดขึ้นจากการระเบิด เมื่อกองขยะถูกนำเข้าไปในบริเวณด้านในของวิลล่า มันดูเหมือนทำให้ขยะเหล่านั้นค่อยๆก่อรูปชัดเจนขึ้น

ภาพที่เห็นมันไม่ได้ดูดีสักเท่าไหร่ ถังหยู่ส่ายหัว หลังจากที่ตึกศูนย์กลางถูกสร้างขึ้น อาณาเขตจะต้องได้รับการดูแลอย่างดี ถ้าเขาต้องการที่จะพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นฐานที่มั่น รูปร่างภายนอกของฐานที่มั่นนี้จะต้องไม่ดูแย่แบบนี้ เขาไม่อยากเดินออกจากปราสาททุกวันแล้วมาเห็นภาพแบบนั้น มันทำให้เขาอารมณ์เสีย

หลังจากที่บอกให้ผู้รอดชีวิตกลับไป ถังหยูเรียกหมายเลขหนึ่งและสองมานำกองขยะ “ที่มีค่า” เหล่านี้ไปที่บริเวณด้านหลังของปราสาท

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด