ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAtW ตอนที่ 2 ฮอร์ราดริกคิวบ์

AtW ตอนที่ 1 เด็กชายภายใต้ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงดาว


AtW ตอนที่ 1 เด็กชายภายใต้ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงดาว

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

ภายใต้แสงดาวยามค่ำคืนคืนหนึ่ง ปราสาทเบ็นเน็ตต์อันยิ่งใหญ่ถูกสร้างขึ้นในดินแดนแห่งนี้ ทุกสิ่งบริเวณปราสาทล้วนเป็นของอัศวินแห่งเบ็นเน็ตต์ กษัตริย์ทรงมอบให้กับเขานั่นเอง

ดินแดนแห่งนี้เองอยู่ทางตอนใต้ภายใต้การปกครองของดยุคคาร์เมล ทางขวาของดินแดนแห่งนี้ถูกกั้นด้วยเทือกเขาขนาดใหญ่ ดินแดนแห่งนี้จึงห่างไกลจากความขัดแย้งต่างๆ และดินแดนแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นยุ้งฉางอันสำคัญของดยุคคาร์เมล

ในช่วงฤดูร้อนนั้นมีพืชออกดอกออกผลอยู่มากมาย  ทุกครั้งในยามค่ำคืนจะมีลมหนาวพัดผ่านทุ่งอยู่เสมอ ทุกอย่างนี้บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรื่องของดินแดนแห่งนี้

มีเด็กชายคนหนึ่งอายุราวสิบสองปีกำลังกวัดแกว่งดาบที่มีขนาดเท่าร่างกายของเขาอยู่ เด็กชายคนนี้ยังสวมชุดเกราะที่ทำมาจากเหล็กทั้งตัวราวกับว่ามันไม่หนักเลย เขามีความสูงเพียง 150 เซนติเมตร ชุดเกราะเพียงส่วนบนก็คลุมตัวของเด็กคนนี้ไปกว่าครึ่งแล้ว

เด็กหนุ่มคนนี้จริงจังกับการฝึกดาบเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาในตอนฝึกแฝงไปด้วยความจริงจัง ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงดาบเด็กหนุ่มคนนี้จะตะโกนด้วยความกระตือรือร้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การที่เขาทำแบบนั้นเพราะว่าเขาจะสามารถสูดอากาศเข้าให้ได้มากที่สุดในระหว่างการเหวี่ยงดาบ อากาศที่มากขึ้นจะทำให้เขาได้ใช้กล้ามเนื้อและพละกำลังได้อย่างเต็มที่

เด็กชายคนนี้มุ่งมั่นในการฝึกอย่างเต็มที่ ผมสีดำของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ดวงตาสีม่วงของเขาเปล่งประกายไปด้วยความหวังและความตั้งใจ

เขายังคงเหวี่ยงดาบต่อไปจนกะทั่งมีเสียงฝีเท้าม้าขยับเข้ามาใกล้กับเขา

''ดูนี่สิ ฉันเอาอะไรมาฝากนายด้วยนะอาเบล'' ชายหนุ่มอายุ 18 ปีเรียกชื่อเด็กหนุ่มพร้อมกับกระโดดลงมาจากม้า ชายหนุ่มผู้นี้มีผมสีบลอนด์ คิ้วหนา จมูกโด่ง ดวงตาของเขามีสีฟ้าราวกับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยชุดเกราะหนัง รองเท้าที่เขาใส่อยู่นั้นเป็นรองเท้าบูทที่ทำขึ้นเพื่อการขี่ม้าโดยเฉพาะ

''กลับมาแล้วหรอพี่ใหญ่'' อาเบลแสดงความยินดีเมื่อพี่ชายของเขากลับมาถึง อาเบลแตกต่างกับเด็กส่วนใหญ่ เขาไม่อยากรู้อยากเห็นของขวัญที่พี่ของเขาพกกลับมาด้วยเท่าไรนัก เขาถือมารยาทนั้นสำคัญกว่าความอยากรู้อยากเห็นของตนเอง

ในฐานะที่เป็นพี่ชายของอาเบล ซัคคุ้นเคยกับการกระทำเช่นนี้ของอาเบล อาเบลเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการที่เขาตกจากหลังม้า จากนั้นอาเบลกลายเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ในตอนแรกนั้นซัคไม่คุ้นเคยกับบุคลิกของน้องที่เปลี่ยนไป แต่หลังจากหนึ่งปีผ่านไปทำให้เขาคุ้นชินกับการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของน้องอย่างฉับพลัน

เด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้เป็นลูกของอัศวินเบ็นเน็ตต์ พี่ชายของเด็กหนุ่มมีนามว่าซัค ซัคเป็นอัศวินฝึกหัดที่พึ่งกลับมาจากเมืองฟอร์ตลี ส่วนน้องชายที่ยุ่งอยู่กับการฝึกฝนมีชื่อว่าอาเบล อาเบลเริ่มฝึกฝนเพื่อที่จะเป็นอัศวินฝึกหัดมานานกว่าสองเดือนแล้ว

ในฐานะที่เป็นทายาทที่สืบเชื้อสายโดยตรงมากจากอัศวินเบ็นเน็ตต์ ทุกสิ่งทุกอย่างของพ่อทั้งสองคนในฐานะที่เป็นอัศวินจะต้องถูกส่งต่อให้กับพวกเขาทั้งสองคน พวกเขาทั้งสองคนจะได้เป็นเจ้าของปราสาทเบ็นเน็ตต์ และที่ดินของปราสาท อาเบลไม่ได้ดีใจเป็นพิเศษกับสิทธิ์เหล่านี้ เขาเพียงแต่หวังพึ่งพาตนเองในการหาเลี้ยงชีพอย่างเดียวเท่านั้น

แม้ว่ามันจะไม่เป็นธรรมมากนักแต่เขาก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัคพี่ชายของเขา ทุกครั้งที่ซัคเข้าเมือง เขามักจะใช้เงินเพื่อซื้อของขวัญเล็กน้อยให้กับน้องชายของเขาอย่างอาเบล เขาเป็นพี่ชายที่ดีเสมอมา นั่นทำให้อาเบลมีความสุขเช่นกัน

ในทางตรงกันข้ามอาเบลนั้นไม่เคยขออุปกรณ์ในการฝึกฝนใหม่ๆ จากพ่อของเขาเลย อาเบลมีความเกรงใจต่อพ่อของเขาเป็นอย่างมาก แม้ว่าที่ดินของครอบครัวอาเบลจะมีที่กว่า 50 กิโลเมตร แต่พวกเขาก็มีรายได้ไม่มากนัก รายได้ส่วนใหญ่ของครอบครัวถูกเก็บไว้ใช้ซื้ออาหาร ที่แย่ไปกว่านั้นพวกเขามีเงินเหลือเพียง 500 เหรียญทอง พวกเขาต้องจ่ายค่ากินอยู่และภาษีในวันต่อวัน เงินจำนวนนี้ยังคงเพียงพอที่จะใช้จ่ายเพื่อรักษาปราสาทแห่งนี้ต่อไป หากอาเบลไปฝึกเป็นอัศวินฝึกหัดแบบพี่ของเขา ครอบครัวของพวกเขาจะไม่เหลือเงินออมเลย

ของขวัญที่ซัคพกกลับมาให้กับอาเบลนั้นเป็นกล่องยาว มันถูกห่อด้วยกระดาษหลายสีที่แสดงถึงความรักของพี่ชาย

''กริชเล่มนี้สวมงามมาก'' อาเบลอุทานในขณะที่เขาแกะกล่องของขวัญ กริชเล่มนี้ทำมาจากเหล็กคุณภาพดี น้ำหนักของมันมากกว่ากริชทั่วๆ ไป โดยทั่วไปแล้วกริชแบบนี้จะมีราคาที่สูงกว่ากริชธรรมดา

''ฉันดีใจนะที่เห็นนายชอบ โชคดีสำหรับฉัน คนขายไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับราคามันเท่าไร เขาขายให้ฉันต่ำกว่าราคากริชธรรมดากว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ฉันเลยซื้อมาฝากนาย''

''ดีใจนะที่เห็นนายชอบ'' ซัคนั้นดีใจจริงๆ นานมาแล้วที่เขาเห็นน้องชายยิ้มเหมือนกับเด็กทั่วไป ไม่มีอะไรจะมีค่าไปกว่ารอยยิ้มของอาเบล

''นายจะฝึกต่อสินะ ฉันจะกลับบ้านเลย'' ซัคพูดในขณะที่ขึ้นหลังม้า เขาไม่ได้ต้องการที่จะขัดขวางการฝึกของน้องชาย แม้ว่าชุดเกราะที่อาเบลสวมใส่ตอนฝึกจะต้องแบ่งกันใช้ก็ตาม ซัคจะเป็นคนที่ใช้ชุดเกราะในตอนกลางวันส่วนอาเบลนั้นจะใช้ชุดเกราะในการฝึกตอนกลางคืน นั่นเป็นข้อตกลงสำหรับพวกเขาสองคน

การฝึกเป็นอัศวินฝึกหัดนั้นประกอบไปด้วยการฝึกพื้นฐานเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาจะต้องฝึกฝนเทคนิคการใช้ดาบอย่างเชี่ยวชาญและต้องฝึกการรีดเร้นพละกำลังที่มีอยู่ให้ออกมาใช้การให้ได้มากที่สุด การฝึกฝนนี้เองจะค่อยๆ พัฒนา 'พลังลมปราณ' ภายในร่างกายของเขา พลังลมปราณจะค่อยๆ ถูกสร้างและรวมตัวเป็นเมริเดียน จำนวนเมริเดียนนั้นจะบอกถึงระดับของอัศวิน (หากมีเมริเดียน 1 อันเท่ากับว่าเป็นอัศวินฝึกหัด) หากสะสมเมริเดียนครบห้าอันพวกมันจะรวมตัวกันเป็นคอร์

อัศวินที่มีคอร์นั้นจะหมายความว่าอัศวินคนนั้นสามารถพิสูจน์ตัวได้แล้ว พวกเขาจะสามารถใช้พลังลมปราณในการต่อสู้ได้ และใช้พลังลมปราณนั้นเองพัฒนาเป็นทักษะการต่อสู้ใหม่ๆ หรือในอีกนัยหนึ่งพลังลมปราณนั้นจะเป็นพลังที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของคนคนหนึ่งได้

มีการวิจัยออกมาเมื่อหลายพันปีก่อน งานวิจัยนี้พบว่าการใส่ชุดเกราะหนักในการฝึกฝนนั้นจะทำให้เกิดพลังลมปราณแก่ผู้ฝึกได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้เองทุกครอบครัวอัศวินจะต้องมีชุดเกราะเหล็กเป็นอย่างน้อยหนึ่งชุดในบ้าน ผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นอัศวินนั้นจะต้องสวมใส่เกราะเหล็กในการฝึกอยู่เสมอ

ชุดเกราะนั้นจะสามารถเพิ่มหรือลดน้ำหนักของชุดได้ขึ้นอยู่กับผู้ที่ฝึกฝนต้องการใช้ นี้จึงทำให้อัศวินหลายคนนั้นใช้ชุดเกราะตัวเดียวกันในการฝึกฝนได้ ถึงแม้ว่าจะมีอัศวินสวมชุดเกราะที่ไม่ใช่ของเขาเองนั่งบนหลังม้า เขาก็จะถูกยอมรับว่าเป็นอัศวินอยู่ดีไม่ว่าระดับของเขาจะต่ำเพียงใด

''97…98…99...100'' อาเบลออกเสียงอย่างมีพลังในขณะแกว่งดาบ เขาแกว่งดาบครั้งสุดท้ายจากนั้นเขาจึงทรุดตัวลงบนสนามหญ้าในทันที ดวงตาสีม่วงของเขากำลังจ้องมองไปที่ดวงดาวจากฟากฟ้าเหนือหัวของเขาเอง ''ดาวดวงไหนคือบ้านของฉันกัน?'' อาเบลถามกับตัวเอง

อาเบลคนเดิมนั้นได้ตายไปตั้งแต่ที่เขาตกม้าเมื่อหนึ่งปีก่อนแล้ว ในตอนนั้นศพของเขาถูกวิญญาณจากดาวดวงอื่นสิงแทน วิญญาณตนนั้นไม่เหมือนกับอาเบลคนเดิม อาเบลคนเดิมนั้นมีอายุเพียงสิบขวบ แต่วิญญาณตนใหม่นั้นมีอายุเดิมที่สามสิบปีก่อนที่เขาจะตาย

แม้ว่าเขาจะพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด แต่สำหรับอาเบลคนใหม่ก็ยังคงถูกคนอื่นสงสัยอยู่ดี เขาเปลี่ยนบุคลิกไปมากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามทุกคนคิดว่านั่นเป็นผลพวงจากการตกม้าของเขา

ความจริงแล้วอาเบลคนใหม่นี้มีชื่อดั้งเดิมของเขาอยู่ ชื่อของเขาคือลียาโบ้ ในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่เขาเป็นครูฝึกนักเพาะกายมากประสบการณ์ เขามักจะยุ่งอยู่กับการทำงานเสมอ ในคืนคืนหนึ่ง เขากลับมาที่อพาร์ตเมนต์ของเขาในเวลาเที่ยงคืน ในตอนนั้นเองเขารู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก ในตอนนั้นเองเขาตัดสินใจเปิดแล็ปท็อปของเขาเพื่อจะเล่นเกม Diablo 2 ซึ่งเป็นเกมเพียงไม่กี่เกมที่อยู่ในแล็ปท็อปของเขา

ในขณะที่เขาเล่นเกม Diablo 2 อยู่นั้นเอง ในตอนนั้นเขาไม่มีใบวาร์ปกลับเมืองอยู่เลย เขาลืมที่จะซื้อใบวาร์ปกลับเมือง ดังนั้นเขาจึงเปิดซอฟต์แวร์เพื่อแฮ็คและแก้ไขไอเท็มของเขา เขาให้ซอฟต์แวร์เพิ่มใบวาร์ปในช่องเก็บของเขาในทุกๆ 2-3 นาที

ในตอนที่ลียาโบ้กำลังมีความสุขอยู่นั่นเอง มีสายฟ้าผ่าเขาในบ้าน สายล่อฟ้านั้นไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย สายฟ้าพุ่งชนใส่เขาในทันที

เรื่องทั้งหมดมีเพียงเท่านี้ เขาตื่นขึ้นอีกทีเขาก็พบว่าตนเองนั้นเป็นบุตรคนที่สองของอัศวินเบ็นเน็ตต์ไปแล้ว และชื่อที่ถูกเรียกแทนชื่อเดิมของเขาคือชื่ออาเบลนั่นเอง

ก่อนที่อาเบลจะคิดถึงอดีตไปมากกว่านี้ เขาลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้ากลับปราสาทเบ็นเน็ตต์ในทันที เขารู้สึกดีกับตัวเองในค่ำคืนนี้มาก หากทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิด เขาจะมีโอกาสที่จะเป็นอัศวินฝึกหัดระดับหนึ่งในค่ำคืนนี้

หลังจากกลับมาถึงบ้าน อาเบลตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างก่อนที่จะกินอาหารเย็น ยังมีเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนมื้อเย็นจะเริ่ม ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะใช้เวลาที่เหลือนี้ดูแลทำความสะอาดชุดเกราะเหล็กของเขา

อาเบลทำความสะอาดชุดเกราะอย่างจริงจัง เขาไม่เคยพลาดที่จะทำความสะอาดแม้แต่จุดเล็กๆ ที่เปียกเหงื่อของเขาในชุดเกราะ จากนั้นเขาจึงทาชุดเกราะด้วยน้ำมันเพื่อให้มันดูมันวาวอยู่เสมอ การดูแลชุดเกราะเช่นนี้เป็นเหมือนกับประเพณีของเหล่าอัศวิน  ไม่ว่าจะเป็นอาเบล ซัค หรือแม้กะทั่งอัศวินเบ็นเน็ตต์เองก็ยังคงดูแลรักษาชุดเกราะเช่นนี้จากรุ่นสู่รุ่น

หลังอาเบลทำความสะอาดชุดเกราะเสร็จเขาจึงทำความสะอาดดาบยักษ์ต่อ การทำความสะอาดดาบเล่มนี้ค่อนข้างง่ายกว่าชุดเกราะมาก มันถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายจึงทำให้การทำความสะอาดไม่ยาก นอกเหนือจากส่วนที่เป็นด้ามดาบและตัวดาบนั้นไม่มีการตกแต่เครื่องประดับใดเป็นพิเศษ อาวุธส่วนมากจะถูกสร้างขึ้นโดยมีแค่องค์ประกอบสองส่วนที่สำคัญ นั่นคือความเรียบง่ายและการนำไปใช้งานจริง

หลังจากเสร็จสิ้นงานซ่อมบำรุง อาเบลจึงไปอาบน้ำและเข้าร่วมมืออาหารค่ำกับครอบครัวในที่สุด เมื่อเข้ามาที่ห้องอาหาร พ่อและแม่ของอาเบลก็ได้นั่งอยู่บนที่นั่งของพวกเขาแล้ว

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด