เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0585 [อ่านฟรี]
ตอนที่ 585 : กระดูกวิญญาณราชสีห์สวรรค์
ฉินหยุนลอบยินดีอยู่ภายใน หากฝึกฝนจนเบิกวิญญาณได้สำเร็จ เท่ากับเขาสามารถก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณได้!
“ฝ่ายตระกูลใหญ่งั้นหรือ จงรอข้าก่อนเถอะ!”
หมอกพลังงานสีดำเริ่มหลุดลอยจากผิวหนังของฉินหยุน อักขระชีวิตที่วิญญาณยุทธ์เริ่มเคลื่อนไหว มันกำลังวิวัฒนาการตนเองขึ้น
สองแก่นเต๋าของฉินหยุนได้ผสานรวมเข้ากับร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำ อักขระชีวิตทั้งสิบแปดตัวของสองแก่นเต๋าจึงกระจายอยู่ทั่วทั้งร่างกายของเขา
สภาพเวลานี้ คืออักขระชีวิตกำลังวิวัฒนาการและขยายตัวออก
เมื่อใดที่วิญญาณกำเนิดอักขระชีวิตวิวัฒนาการได้สำเร็จ เมื่อนั้นจะทำให้สามารถปลดปล่อยพลังมหาวิถีแห่งเต๋าได้รุนแรงมากขึ้น
เมื่อถึงเวลาดังกล่าว อักขระชีวิตจะอัดแน่นด้วยพลังเต๋าที่เหนือล้ำ มันจะไหลเวียนสู่ทั่วทั้งร่างกาย ปลดปล่อยเป็นพลังเต๋าแรกเริ่มที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้า
“หุบเขาเซียนโอสถ พวกตระกูลใหญ่ ฮัวซือเยวี่ย ข้าจะไปทวงหนี้แค้นพวกเจ้าในอีกไม่ช้า!”
ฉินหยุนสัมผัสได้ ว่าอักขระชีวิตเก้าตัวทั้งสามชุด พวกมันกำลังคลุ้มคลั่งอยู่ในกาย
แม้ต้องแบกรับความเจ็บปวดทั่วทั้งร่าง กระนั้นเขาก็ยังได้รับรู้ ว่าอักขระชีวิตกำลังเติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
วิญญาณเทวะเก้าตะวัน ยังคงทำหน้าที่ชักนำพลังวิญญาณเก้าตะวัน รวมถึงร่องรอยพลังงานเซียนอย่างต่อเนื่อง
อักขระชีวิตกำลังดูดกลืนพลังวิญญาณเก้าตะวันอย่างคลุ้มคลั่ง!
สีผิวของฉินหยุนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเก้าสีสลับกันไป
ระหว่างขั้นตอนการแปรสภาพ สีที่แตกต่างซึ่งปรากฏผ่านหมอกพลังงานจะยิ่งเรืองรองเป็นประกาย
เพียงอึดใจ ทั้งห้องจึงอัดแน่นด้วยหมอกพลังงานเก้าสี
ฉินหยุนหลับตาลงแน่น เขากำลังสัมผัสถึงพลังวิญญาณเก้าตะวันที่ไหลเวียนในกาย พวกมันกำลังโคจรด้วยความเร็วสูงล้ำ
อีกทั้ง อักขระชีวิตยังคงดิ้นรนต่อเนื่อง พวกมันยิ่งมายิ่งเปล่งรัศมีพลังเต๋าอันเหนือล้ำออกมา
พลังเต๋าที่โคจรผ่านร่างกายของฉินหยุน ราวกับพวกมันคิดฉีกกระชากทั้งร่างของเขาออกเป็นเสี่ยง ความรู้สึกเจ็บปวดเหลือแสนกำลังเข้าเล่นงาน
“หยุนเอ๋อ เหตุใดข้ารู้สึกเจ็บเพียงนี้?” ฉินหยุนอดไม่ได้จนต้องร้องถามออก
“เสี่ยวหยุน อักขระชีวิตของเจ้ากำลังวิวัฒนาการ ทว่าพวกมันก็มีการกลืนกินซึ่งกันและกันด้วย!”
“เจ้าครอบครองสามแก่นเต๋า ดังนั้นจึงมีเก้าอักขระชีวิตทั้งสิ้นสามชุด รวมแล้วเป็นอักขระชีวิตมหาวิถีแห่งเต๋าถึงยี่สิบเจ็ดตัว สภาพตอนนี้ พวกมันกำลังต่อสู้กันเพื่อกลืนกินซึ่งกันและกัน”
“ระหว่างขั้นตอนการกลืนกิน พลังปะทะรุนแรงจะเกิดขึ้น เป็นผลให้เจ้ารู้สึกเจ็บปวดในเวลานี้!”
หลิงหยุนเอ๋อก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน นางเร่งรีบวิเคราะห์ถึงสาเหตุความเป็นไปได้พร้อมบอกต่อฉินหยุน
“นี่ถือเป็นเรื่องปกติหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามขณะอดทนต่อความเจ็บปวด
“เจ้าครอบครองแก่นเต๋าตะวันทมิฬ นั่นจึงเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องราวนี้ขึ้น ข้าไม่อาจคาดการณ์สถานการณ์ได้ล่วงหน้า ภายใต้สถานการณ์ปกติ หลังจากที่อักขระชีวิตทั้งเก้าวิวัฒนาการแล้ว พวกมันจะเกิดการแปรสภาพเป็นวิญญาณเต๋าพร้อมทำให้ร่างกายเจ้าแข็งแกร่งขึ้น” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
สภาพการฝึกฝนของฉินหยุนค่อนข้างแตกต่างจากผู้คนทั่วไป ดังนั้นแล้วหากเกิดปัญหาที่ไม่เคยมีการอ้างอิงใดขึ้นมา ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก
“อย่างนั้นแล้วตอนนี้คืออะไร?” ฉินหยุนยิ่งมายิ่งรู้สึกเจ็บปวด
“ข้าไม่ทราบแน่ชัด แต่โดยรวมไม่น่าเป็นไร เจ้าเพียงอดทนต่อไป!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “เสี่ยวหยุน เจ้าต้องอดทนไว้!”
ฉินหยุนหลั่งเหงื่อเพราะความเจ็บปวด อดไม่ได้ที่จะต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนคำรามร้องออกมา
ทั้งร่างกายมีแต่ความเจ็บปวดเข้าเล่นงานจนคล้ายมันพร้อมระเบิดออกทุกเมื่อ เป็นเรื่องยากยิ่งที่เขาจะสะกดข่มต่อความเจ็บปวดระดับนี้เอาไว้
ครึก! ครึก! ครึก!
ผ่านการอดทนกว่าหลายชั่วโมง ร่างกายของเขากลับกลายปรากฏเป็นคลื่นพลังงานสีดำส่งเสียงร้องออก
ชั่วขณะนี้ เขายังสัมผัสได้ ว่าอักขระชีวิตในร่างกำลังเลือนหายไปทีละน้อย
เดิมในกายของเขาประกอบด้วยอักขระชีวิตทั้งสิบแปด เวลานี้พวกมันกำลังเลือนหายไป
อักขระชีวิตทั้งหมดเลือนหาย เป็นเพราะการดูดกลืนของเก้าอักขระชีวิตแก่นเต๋าตะวันทมิฬ
ที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้น คือเก้าอักขระชีวิตของแก่นเต๋าตะวันทมิฬ พวกมันยิ่งมายิ่งหนาใหญ่
พวกมันเปรียบดังมังกรทั้งเก้ากำลังบิดตัวไปมารอบแก่นเต๋าสีดำ พร้อมปลดปล่อยพลังงานสีดำออกเป็นระลอกคลื่นไม่หยุดยั้ง
เมื่อพิจารณามองให้ใกล้ จะได้พบว่าอักขระชีวิตของแก่นเต๋าตะวันทมิฬ พวกมันมีสภาพคล้ายรากไม้!
แก่นเต๋าตะวันทมิฬถูกปกคลุมด้วยรากไม้จำนวนมาก พวกมันแต่ละรากประหนึ่งมังกรคราม ที่อัดแน่นด้วยพลังกว้างใหญ่ไพศาลไม่รู้จบ
ที่ใจกลางของกลุ่มรากไม้ มันคือแก่นเต๋าตะวันทมิฬที่เต้นราวกับหัวใจ
เวลานี้ ความเจ็บปวดตามร่างของฉินหยุนค่อยเลือนหาย
“หยุนเอ๋อ เจ้าเห็นหรือไม่?” ฉินหยุนรับรู้ได้ถึงพลังงานให้ความสดชื่นกำลังทะลักล้นออกจากแก่นเต๋าตะวันทมิฬ
พลังงานนี้ ไม่ใช่อะไรที่แก่นเต๋าตะวันทมิฬเคยมีในครอบครอง!
“ข้าย่อมเห็น! โทเทมต้นไม้กำลังทำงาน! อักขระชีวิตของเจ้าผสานรวมเข้ากับโทเทมต้นไม้อย่างสมบูรณ์ และโทเทมนี้ได้มีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับแก่นเต๋าตะวันทมิฬ รวมถึงวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬด้วย นี่ถือเป็นสถานการณ์ซับซ้อนยิ่ง!” กระทั่งหลิงหยุนเอ๋อยังรู้สึกตื่นตระหนก
“เดิม วิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬสมควรเหมาะสมเพียงแต่โทเทมตะวัน! ทว่าเจ้าครอบครองโทเทมต้นไม้ที่ตรงนั้น โทเทมต้นไม้ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พวกมันหยั่งรากลึกลงที่วิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬ เวลานี้จึงกลายเป็นยากแยกจากกันได้อีก!”
หลังจากที่ฉินหยุนได้ยินคำกล่าวของหลิงหยุนเอ๋อ เขาเกิดความกังวลขึ้น “พลังของแก่นเต๋าตะวันทมิฬ รวมถึงโทเทมต้นไม้ ตลอดมาข้าแทบไม่สามารถใช้งานพวกมัน!”
“เพราะเจ้าอยู่ที่นี่ ตัวข้าจึงสามารถใช้งานพลังแก่นเต๋าตะวันทมิฬที่ยากควบคุมได้ เวลานี้ อักขระชีวิตทั้งหมดได้ถูกโทเทมต้นไม้กลืนกิน นี่ไม่กลายเป็นเรื่องยากหากข้าคิดใช้พลังของอักขระชีวิตหรือ?”
เมื่อก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ พลังของอักขระชีวิตคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
เมื่อครั้งอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า อักขระชีวิตจะเพียงปลดปล่อยพลังเต๋า
ทว่าเมื่อใดก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ อักขระชีวิตที่วิวัฒนาการขึ้น พลังเต๋าที่สามารถปลดปล่อยออกจะยิ่งรุนแรง ไม่เพียงเท่านั้น มันยังสามารถปลดปล่อยอักขระชีวิตออกสู่ภายนอก กระทั่งเป็นพลังจิตที่แข็งแกร่งก็สามารถปลดปล่อยออกได้
“วางใจเถอะ! โทเทมต้นไม้ผสานรวมกับตัวเจ้า มันย่อมทราบว่าเจ้าคือนาย!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “ดังนั้นมันย่อมไม่มีทางทำร้ายตัวเจ้า มีแต่จะส่งเสริมพลังมหาศาลช่วยเหลือเจ้า”
“เข้าใจแล้ว”
ฉินหยุนค่อยสงบใจลงได้
อักขระชีวิตเดิมเพียงเจือจางและปรากฏบนแก่นเต๋า ทว่าตอนนี้ พวกมันแปรสภาพเป็นมังกรที่เสมือนรากไม้รัดพันเอาไว้รอบแก่นเต๋า มองเพียงครั้งเดียว ย่อมกล้าบอกกล่าวว่ามันพร้อมปลดปล่อยพลังเต๋าอันมหาศาลเพียงใดออกมา
อักขระชีวิตที่หนาใหญ่ มันยิ่งปลดปล่อยพลังเต๋าได้รุนแรง
อักขระชีวิตได้ดูดกลืนพลังจากแก่นเต๋าตะวันทมิฬ ร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำยังคงปลดปล่อยพลังงานสีดำต่อเนื่อง ราวกับพายุร้ายที่กำลังพัดพาเข้าสู่กระดูกในร่างกาย
กระดูกเต๋าของฉินหยุนเริ่มแปรเปลี่ยน พวกมันกลับกลายเป็นสีดำทีละน้อย
“กระดูกวิญญาณพร้อมแล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อเผยความยินดี “จากที่เห็น สมควรแข็งแกร่งไม่น้อย!”
ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยาม ร่างกายฉินหยุนสั่นรุนแรง ทั้งร่างเกิดขึ้นเป็นเสียงปริแตกดังต่อเนื่อง
“นี่คือการเบิกวิญญาณ!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวขึ้น
ฉินหยุนรับรู้ได้ ว่ากระดูกในกายกำลังอยู่ในสภาพการเปลี่ยนแปลง
ราวกับมันเกิดช่องว่างมหาศาลภายในตัวกระดูก มันสามารถครอบครองเลือดไว้ภายในได้มากขึ้น รวมถึงพลังงานด้วย
ครึก! ครึก!
ราวกับได้ยินเสียงพลังภายในแปรสภาพเป็นของเหลว พวกมันเริ่มไหลเวียนเข้าสู่ตัวกระดูก เหล่านี้เป็นเลือดราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำที่เดือดพล่าน
เลือดทั้งหมดในกายของเขา กำลังไหลหลั่งสู่กระดูกทั้งร่าง!
พลังโทเทมต้นไม้ของแก่นเต๋าตะวันทมิฬพลันปลดปล่อย อย่างไม่คาดคิด มันทำเอาฉินหยุนรู้สึกราวกับได้เชื่อมโยงกับต้นไม้ในพื้นที่
ผ่านทางต้นไม้เหล่านั้น เขายิ่งสามารถดูดกลืนพลังงานเซียน รวมถึงพลังวิญญาณเก้าตะวันสู่ร่างกายได้มากขึ้น พวกมันควบแน่นด้วยอัตราความเร็วมหาศาลเป็นเลือดราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำ
กระดูกวิญญาณถือกำเนิดขึ้นใหม่ พวกมันหิวกระหายอย่างรุนแรง พวกมันต้องการเลือดปริมาณมหาศาล รวมถึงพลังภายในด้วย
เพราะการเบิกวิญญาณกระดูกเต๋า ทำให้ช่องว่างในตัวกระดูกปรากฏเพิ่มมากขึ้น ทำให้กระดูกชิ้นเล็กยิ่งอัดแน่นด้วยไขกระดูกได้มากขึ้น รวมถึงเลือดและพลังภายในที่มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ พลังภายในส่วนใหญ่จะอัดแน่นอยู่เพียงแต่ที่แก่นเต๋า และจะมีส่วนน้อยเท่านั้นที่กระจายอยู่ภายในร่าง
ทว่าเวลานี้เมื่อเบิกวิญญาณสำเร็จ กระดูกจะทำหน้าที่รองรับกักเก็บพลังภายใน พลังงานที่เหนือล้ำเทียบเท่าสามแก่นเต๋าของฉินหยุน พวกมันกำลังกระจายไปกักเก็บทั่วทั้งร่างให้เพิ่มพูนขึ้น กล่าวได้เพียงว่าเป็นปรากฏการที่ชวนสะพรึงไม่น้อย!
“กระดูกวิญญาณของเจ้าน่ากลัวเกินไปแล้ว!” หลิงหยุนเอ๋ออุทานร้องชื่นชม “เร่งรีบผสานจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์สู่ตัวกระดูก เมื่อกระดูกวิญญาณเลื่อนระดับครั้งใหญ่ได้สำเร็จ เจ้าจะได้กลายเป็นอาจารย์ยุทธ์ เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ!”
จิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์ มันคือของขวัญที่บรรพบุรุษราชสีห์สวรรค์มอบไว้ให้ กระทั่งว่าเป็นเศษเสี้ยวจิตวิญญาณ มันก็ยังล้ำค่าทรงพลังมากล้ำ มันมีศักยภาพให้เติบโตด้วยตัวของมันเองได้
ตั้งแต่ที่ฉินหยุนครอบครองร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำ จิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์ที่เขาครอบครองไว้ยิ่งมายิ่งเติบโตรวดเร็ว
การผสานรวม ไม่ได้ทำให้จิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์เข้าสู่ตัวกระดูก ทว่าเป็นการทำให้จิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์เกิดการเชื่อมต่อกับกระดูกวิญญาณ ด้วยฐานะจิตวิญญาณแห่งกระดูกวิญญาณ มันจะชี้นำให้กระดูกวิญญาณครอบครองพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้น
ฉินหยุนนำเอาจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์ออกมา
เพียงกระดูกวิญญาณสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์ พวกมันเริ่มผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างเชื่องช้า
โฮก!
ร่างกายฉินหยุนกระตุกพร้อมระเบิดพลังงานรุนแรงออกเป็นระลอกคลื่น มันถึงขั้นปัดเป่าเอาทุกสิ่งในห้องกลายเป็นสภาพความยุ่งเหยิง
“วิเศษนัก! พลังที่เจ้าปลดปล่อยนี้เทียบเท่าราชสีห์สวรรค์แล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะดัง “เสี่ยวหยุน ตอนนี้เจ้าได้กลายเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณแล้ว!”
ฉินหยุนกำหมัดแน่น เขารับรู้ได้ ว่าพลังราชสีห์สวรรค์ที่ดุดันในร่างกำลังปรากฏเด่นชัดผ่านโครงกระดูกทั้งร่างกาย
ชั่วขณะนี้ เขารู้สึกได้ ว่าร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำสมบูรณ์แล้ว
“ในที่สุดก็เลื่อนระดับได้!” ฉินหยุนบังเกิดความยินดี เป็นเขาตื่นเต้นยินดีอย่างถึงที่สุด
เมื่อก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ เขาก็ไม่จำเป็นต้องหลบหนียามเผชิญหน้ากับศิษย์อื่นที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณอีกต่อไป
โดยเฉพาะกับบรรดาศิษย์สิบลำดับแรกของเทียบอันดับยุทธ์เต๋า พวกเขาเหล่านั้นเป็นศิษย์ที่เหนือล้ำ เป็นเขาได้ประสบพบเจอบุคคลเหล่านั้นด้วยตนเองมาแล้ว
และตอนนี้ การฝึกฝนของเขาก็ทัดเทียบกับบรรดาศิษย์หลักของสำนักเหล่านั้น!
เมื่อผสานรวมเข้ากับจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์ เขาจึงได้ทราบและเข้าใจถึงวิชายุทธ์โทเทมราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำมากขึ้น
“ความสามารถเทวะไม่เลื่อนระดับพลัง! ทว่ามันก็ทรงพลังมากขึ้น!” ฉินหยุนเดิมคิด ว่าเลื่อนระดับพลังได้สมควรได้รับความสามารถเทวะใหม่บ้าง
“เร่งรีบทดลองกันได้แล้ว ดูกันว่าไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน แท้จริงภายในมันซุกซ่อนอันใดเอาไว้!” หลิงหยุนเอ๋อที่เกิดความอยากรู้กล่าวเร่ง
ฉินหยุนย่อมทดลองโดยทันที
“ข้ายังเปิดมันไม่ได้ พลังจิตยังแข็งแกร่งไม่พอ!” ฉินหยุนคิ้วขมวด “แม้ก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณแล้ว พลังจิตได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล กระนั้นก็ยังไม่พออย่างนั้นหรือ?”
“เฮ้อ... เจ้าคงต้องฝึกฝนวิญญาณต้นกำเนิดเสียก่อน วิญญาณแรกเริ่มจะแปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณต้นกำเนิด มันถือเป็นขั้นตอนการเพิ่มพูนพลังจิตอย่างมหาศาล นั่นถือเป็นช่วงกลางของขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณแล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “อย่าได้เร่งรีบไป ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า สมควรเลื่อนระดับได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่าผู้อื่นมากนัก!”
ฉินหยุนกล่าวตอบ “ตอนนี้ข้าค่อยสามารถเข้าเขตแดนจินตภาพ แสวงการล้างแค้นแก่ตัวบัดซบเหล่านั้นได้!”
“อืม... แต่อย่างไรพวกเราก็ยังต้องระมัดระวังให้ดี” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “เพิ่มแต้มของเจ้าโดยเร็วที่สุดคือสิ่งสำคัญ เจ้าต้องเข้าสู่สิบอันดับแรกให้ได้เสียก่อน!”
หลายวันให้หลัง ฉินหยุนค่อยนอนบนที่นอนอีกครั้ง เพื่อส่งจิตสำนึกเข้าสู่เขตแดนจินตภาพ
เมื่อเข้าสู่เขตแดนจินตภาพ ก็เป็นช่วงเวลากลางคืนแล้ว
ป่านอกเมืองที่ปลอดภัย การออกล่าได้เริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง
ล่าสุด เป็นยอดฝีมือห้าคนปิดล้อมฉินหยุนเปิดศึกจนทำลายป่าราบเตียน กระนั้น ในเขตแดนจินตภาพ ป่าสามารถฟื้นฟูตนเองได้ในเวลาอันสั้น
ผู้คนต่างทราบ ว่าหลายคนมักออกมาซุ่มโจมตีผู้อื่นในป่านอกเมืองกันเป็นประจำ
บรรดาผู้ที่เข้าสู่ป่า ย่อมคาดหวังจะพบพานโชค สามารถสังหารผู้อื่นที่ซุ่มโจมตีผู้อื่นอีกทีได้
หลังการเลื่อนระดับ ฉินหยุนสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งของกระดูกวิญญาณ แม้เข้าสู่เขตแดนจินตภาพ มันก็ยังติดตัวเขาตามมา เรื่องนี้ยิ่งส่งเสริมให้เขามั่นใจต่อพละกำลังตนเอง
ภายในป่าอันเงียบงัน ศิษย์หลายคนไม่ทราบ ว่าฉินหยุน ผู้ที่เพิ่งก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ จะหวนคืนกลับเป็นมัจจุราชเงียบงันในป่าอย่างหิวกระหาย