ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0586 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0588 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0587 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 587 : กำราบมังกรหงส์อมตะ

พละกำลังของฉินหยุนที่เผยให้เห็นครั้งนี้ มันสร้างความรู้สึกถูกข่มขวัญต่อผู้คน

ทุกคนต่างทราบ ว่าฮัวซือเยวี่ยลงมือสังหารฉินหยุนไปครั้งหนึ่ง ทั้งยังกล่าวเตือนเขาให้อยู่ห่างจากเหลียวจิงเหมิง

ครานี้ ฉินหยุนลงมือสังหารรองผู้นำกองกำลังของฮัวซือเยวี่ย ชัดเจนว่าเป็นการยั่วยุและท้าทายต่อฮัวซือเยวี่ย

ฉินหยุนยังคงลอยร่างกลางอากาศ มองไปยังทิศทางห่างไกลออกไป

คนกลุ่มใหญ่ กำลังเร่งรีบมาทางนี้จากภาคพื้นดิน

นี่คือกองกำลัง!

ฉินหยุนมองที่ธงนำทัพแถวหน้า พบว่าเป็นกองกำลังปาหลง เห็นเช่นนี้เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มออก

กลุ่มคนนับร้อยที่กำลังเข้ามาใกล้ คือกองกำลังปาหลง!

หลงซือหมิงเร่งรีบมาทันทีเมื่อได้รับข่าวคราวจากหลงควงหัง

“เน้นตั้งป้องกัน ที่เหลือให้โจมตี!” หลงซือหมิงรับรู้ถึงคลื่นพลังชวนสะพรึงที่โถมเข้าใส่ตนเอง ขณะนี้เขาเร่งร้อนตะโกนสั่งการ

หลงซือหมิงแข็งแกร่ง ครั้งก่อนหน้าฉินหยุนต้องลงแรงไม่น้อยกว่าจะสังหารอีกฝ่ายได้

ช่วงเวลานี้ ผู้ที่ลงมือรวดเร็วที่สุดคือหลงซือหมิง

ทันทีที่ฉินหยุนพบเห็นกองกำลังปาหลง เขาจึงใช้ก้าวเท้าร่างเงาประกายแสงบินทะยาน ขณะอยู่บนอากาศ เขาได้ปล่อยหมัดเข้าใส่กองกำลังปาหลงที่อยู่บนภาคพื้นดินไปคราหนึ่ง

นี่คือเคล็ดวิชาคลื่นยักษ์ระดับสมบูรณ์!

คลื่นอัคคีเพลิงมาพร้อมพลังสั่นไหว คลื่นระลอกแล้วระลอกเล่าโหมซัดเข้าใส่เป้าหมายอย่างไร้ซึ่งปรานี

อัคคีเพลิงร้อนแรงและสั่นไหว เกิดเป็นคลื่นต่อเนื่องเก้าระลอกผลักดันมวลอัคคี พวกมันเปรียบดังสัตว์ร้ายอัคคีพร้อมเข้าขย้ำเหยื่อ

กลุ่มคนในกองกำลังปาหลงที่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า พวกเขาไม่มีเวลาพอให้ตั้งป้องกันตนเอง ขณะนี้ร่างกลายเป็นเถ้าธุลีปลิวหายเพราะคลื่นกระแทก

ทางด้านผู้ที่สกัดการโจมตีไว้ได้ ต่างได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย พวกเขาคิดอยากหลบหนี ทว่าเพียงพริบตามีดบินก็เข้าถึงตัวพร้อมปลิดชีพพวกเขากันจนสิ้นแล้ว

ที่หลบหนีเร็วกว่าใครย่อมเป็นหลงซือหมิง!

หลงซือหมิงกำลังบินเผ่นหนีกลางอากาศ

ฉินหยุนแค่นเสียงพร้อมไล่ตามอีกฝ่าย

กล่าวได้ว่าเขาคือบุคคลที่รวดเร็วที่สุดท่ามกลางบุคคลระดับพลังเดียวกัน ทั้งหมดนี่ก็เพราะก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์

แม้หลงซือหมิงรวดเร็ว กระนั้นฉินหยุนรวดเร็วกว่าจนไล่ตามทันเพียงอึดใจ

“เจ้าคือฉินหยุน?”

แม้หลงซือหมิงตระหนักรู้ถึงออร่าของผู้คน ทว่าก็ยังคิด ว่าเรื่องราวยากเกินจะเชื่อ

ทั้งหมดก็เพราะ ฉินหยุนในเวลานี้มีพลังแข็งแกร่งชวนสะพรึงยิ่งกว่าก่อนหน้าจนเกินไป

“หลงซือหมิงเอ๋ย สาเหตุว่าทำไมสวะเช่นเจ้ายังเสนอหน้าอยู่ในเขตแดนจินตภาพ ก็เพื่อส่งมอบแต้มให้กับข้าอย่างนั้นหรือ?” ฉินหยุนเผยยิ้มแสยะขณะคว้าร่างอีกฝ่ายไว้

พลังตะวันทมิฬที่ปลดปล่อยออก มันมาพร้อมพลังอำนาจแรงโน้มถ่วงชักจูงหลงซือหมิง ผู้ซึ่งอยู่ห่างกว่านับสิบเมตรให้เข้ามาใกล้ตรงหน้าโดยไม่อาจถอยหนี

พลังน้ำวนของหลงซือหมิง ก็เป็นพลังดึงดูดที่ไม่ต่างกันนัก

เป็นเขาไม่คาดคิด ว่าฉินหยุนจะครอบครองพลังที่คล้ายคลึงตนเอง

หลงซือหมิงที่คิดหลบหนี กลับถูกคว้าจับเอาไว้โดยพลังแรงโน้มถ่วง ร่างกายกำลังเคลื่อนคล้อยถอยหลัง

ฉินหยุนเร่งรีบทะยานเข้าใส่ พร้อมผลักฝ่ามือโจมตีใส่ร่างหลงซือหมิงอย่างไร้ปรานี

พลังสายฟ้าอสนีบาตอัคคีรุนแรงแทงทะลุผ่านร่างหลงซือหมิง

ผู้คนในเมืองต่างพบเห็นกันชัดเจน สายฟ้าสีดำที่ดุดันได้ทะลวงผ่านร่างหลงซือหมิง ร่างอีกฝ่ายถึงกับกระเด็นออกไปหลายร้อยเมตร!

นี่หมายความเพียงหนึ่ง นั่นก็คือสายฟ้าอสนีบาตเมื่อครู่นี้เหนือล้ำเกินคาดคิด!

หลังผ่านการเบิกวิญญาณ กระดูกของฉินหยุนสามารถกักเก็บพลังภายในได้มากขึ้น

นี่สมควรเป็นเพราะร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำของฉินหยุนมีขีดจำกัดที่ตรงนี้ ไม่เช่นนั้นพละกำลังของเขาจะยิ่งชวนสะพรึงกว่านี้

ภายในใจของหลงซือหมิง เวลานี้อัดแน่นด้วยความหวาดกลัวเปี่ยมล้น!

ล่าสุดที่ประมือกับฉินหยุน เขายังสามารถประลองกับอีกฝ่ายได้อย่างเท่าเทียม

แต่ครานี้ ตัวเขากลับถูกทะลวงร่างโดยที่ฉินหยุนลงมือเพียงหนึ่งครั้ง

“ฉินหยุน นี่เจ้า... แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?” หลงซือหมิงมองที่ฉินหยุน น้ำเสียงนี้สั่นเครืออัดแน่นด้วยความหวาดกลัว

“ต้องขอบคุณพวกเจ้า! เพราะแรงกดดันต่อข้าอย่างมหาศาลจนถึงการหมายเอาชีวิตข้า! เพราะตัวตนสวะเช่นเจ้าจึงทำให้ข้าได้แข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นข้าจึงไม่ต้องก้มหัวจำยอมแก่สวะเช่นเจ้าอีก!”

คำกล่าวของฉินหยุนราวกับมีดทิ่มแทง มันทำเอาหลงซือหมิงต้องตัวสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า

ครืน! ครืน!

พื้นดินที่อยู่ไกลออกไปเริ่มสั่นไหว

อีกหนึ่งกองกำลังใกล้เข้ามาแล้ว!

กองกำลังนี้ มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่ากองกำลังปาหลง

“พี่สาวเฉียวเฟิง เร่งรีบช่วยเหลือข้าด้วย!” หลงซือหมิงไม่คิดยอมสูญเสียแต้ม จึงร้องตะโกนดังขอความช่วยเหลือด้วยสภาพชวนสังเวช

“หาได้มีผู้ใดช่วยเหลือเจ้าได้ไม่ ลงนรกไปเสีย! ครั้งหน้าจงเสนอหน้าเข้ามามอบแต้มแก่ข้าอีก จดจำเอาไว้ว่าต้องมาอย่างมีมารยาท!” คำฉินหยุนกล่าวจบ เขาจึงลงมือสังหารหลงซือหมิงด้วยหนึ่งกระบวนท่าฝ่ามือ

ฉินหยุนตอนนี้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ สังหารขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าจึงได้รับเพียงหนึ่งแต้ม และสังหารขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณจึงได้รับสองแต้ม

เวลานี้ แต้มของเขากำลังเพิ่มขึ้นทีละน้อย

ได้เห็นกองกำลังหลายร้อยคนใกล้เข้ามา ฉินหยุนยิ่งยินดี

เขาจดจำหลงเฉียวเฟิงได้ อีกฝ่ายเป็นสตรีที่จับตัวเขาเอาไว้คราก่อน และยังคิดอยากบีบบังคับให้เขาส่งมอบโทเทมวานรทองคำ

หลงเฉียวเฟิงมักอยู่ในเขตแดนจินตภาพ ทั้งยังอยู่ใกล้เขตเมือง ดังนั้นนางจึงมาถึงที่นี่ได้รวดเร็ว

ทันทีเมื่อนางได้เห็นฉินหยุนแต่ไกล ร่างนั้นพลันทะยานใกล้เข้ามา

เพียงพริบตา หลงเฉียวเฟิงก็ปรากฏตัวตรงหน้าฉินหยุนแล้ว

หลงเฉียวเฟิงมีเส้นผมยาวฟูพาดจนถึงหน้าอก ด้วยใบหน้ารูปไข่ราวรูปปั้นหยกแก้วที่งดงาม นางเผยรอยยิ้มสงบใจ สายตานี้หรี่ลงเล็กน้อย แม้นางเผยรอยยิ้มกระชากวิญญาณ ทว่าท่าทีของนางยังอาจหาญหาได้อ่อนโยนไม่

“ฉินหยุน เจ้าสังหารกองกำลังปาหลงไป ทว่าแต้มกลับเพิ่มขึ้นไม่มาก เห็นได้ชัดว่าเจ้าก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณแล้วอย่างนั้นสิ?”

“ถูกต้องแล้ว!” ฉินหยุนเผยเสียงเย็นตอบกลับ “ต้องขอบคุณพวกเจ้าที่เป็นธุระนำแต้มมาส่งข้าถึงตรงนี้ด้วยหรือไม่?”

ผู้คนที่อยู่ในเมือง ต่างได้เข้าใจว่าเหตุใดฉินหยุนน่าสะพรึงกลัวเพียงนี้

อีกฝ่ายก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณแล้ว!

ฉินหยุนครอบครองพลังชวนสะพรึงครั้งอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า เขาถึงขั้นสามารถสังหารเหลียวฉงเจิ้งจากหุบเขาเซียนโอสถได้ด้วยซ้ำ!

เป็นที่ทราบกันถ้วนหน้า ว่าเหลียวฉงเจิ้งคือผู้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ทั้งยังครอบครองร่างอัคคีลึกล้ำและโทเทมอัคคี!

และตอนนี้ พวกเขาค่อยจินตนาการว่าฉินหยุนแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น!

สิบลำดับแรกของเทียบอันดับยุทธ์เต๋า ฉินหยุนอาจต่อกรอย่างทัดเทียมอีกฝ่ายได้

“ฉินหยุน ก่อนอื่นให้ข้าแสดงความยินดีต่อเจ้าก่อนแล้วกัน การก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณได้ หมายความถึงเจ้าได้เป็นศิษย์หลักของสำนักในภายหน้า!” หลงเฉียวเฟิงสะบัดผมยาวของนาง ก่อนจะมัดรวบเอาไว้ที่ด้านหลัง

นางเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่ใบหน้า ทว่าดวงตากลับอัดแน่นด้วยความเย็นเยือก

“หลงเฉียวเฟิงใช่หรือไม่? อย่างนั้นให้ข้าเรียกหาเป็นศิษย์พี่แล้วกัน!” ฉินหยุนหัวเราะคิกคักเย็นชา “ด้วยเพราะแสดงความยินดีต่อข้าที่เป็นอาจารย์ยุทธ์ ข้าจะให้ศิษย์พี่ได้ตายอย่างสบายเป็นการตอบแทน!”

“โห? เจ้าคิดให้ข้าตายสบายอย่างไรกันเล่า?” หลงเฉียวเฟิงแค่นเสียงตอบโต้

“ข้าจะเหลือศพสภาพสมบูรณ์ไว้ให้ศิษย์พี่ดูต่างหน้า!” ฉินหยุนกล่าวโต้ตอบ

“พูดจาได้ดี หากเป็นผู้อื่น เมื่อใดเอาชนะข้าได้ ย่อมก่อเรื่องทำให้ข้าเสื่อมเสียอย่างไม่คิดแน่!” หลงเฉียวเฟิงหัวเราะดัง จิตสังหารของนางปลดปล่อยออก “หวังว่าเจ้าคงไม่มีความคิดเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว ในโลกภายนอกเจ้าก็ต้องตายด้วยสภาพน่าสังเวช!”

“วางใจเถอะ ข้าเป็นมนุษย์หาได้ใช่เดรัจฉาน! นอกจากนี้แล้ว กระทั่งว่าข้าเป็นเดรัจฉาน ก็ไม่คิดเลือกกินคนเช่นศิษย์พี่!”

ฉินหยุนเผยสายตาเฉียบคมตอบโต้เผ็ดร้อน เป้าสายตาคือหลงเฉียวเฟิงที่ยังยืนหยัดอย่างทระนงตน

“จะบอกว่าข้าไม่ใช่อย่างที่เจ้าชอบพอ? บุรุษที่ไม่คิดต้องการยื่นมือแตะต้องข้ากล่าวได้ว่าหายากนัก!” หลงเฉียวเฟิงหัวเราะอีกหลายครั้ง “ทว่า ในความเห็นข้า นี่ถือเป็นการดูหมิ่นต่อข้า!”

ฉินหยุนหันมองรอบก่อนกล่าวคำ “ดูเหมือนมิตรสหายชายของศิษย์พี่ที่คิดขึ้นควบขี่ร่างศิษย์พี่จะยังมาไม่ถึง! นี่เป็นข้ายอมให้ความร่วมมือต่อศิษย์พี่ไปไม่น้อยแล้ว กระนั้นพวกมันเหล่านั้นเหตุใดยังไม่ปรากฏตัวกันเล่า?”

“สวะเหล่านั้นหาได้ใช่มิตรสหายข้า!” สีหน้าของหลงเฉียวเฟิงยิ่งเย็นเยือก นางเผยเสียงที่กราดเกรี้ยวกล่าวคำออก “หากเจ้าอาจหาญเรียกพวกมันเป็นมิตรสหายข้าอีก ข้าจะลงมือสังหารเจ้าเสียที่นี่!”

“เหอะ ก็เห็นกันชัดเจนว่าอยู่ศิษย์พี่รอสวะพวกนั้นมาถึง!” ฉินหยุนเหยียดยิ้ม

“กล่าวไปก็ถูก เป็นข้ารอคอยพวกมันมาเพื่อรับช่วงเจ้าต่อ! ตัวข้านั้นค่อนข้างเกียจคร้านนัก จึงไม่คิดประมือกับเจ้า เพียงถ่วงเวลาก็เท่านั้น!” หลงเฉียวเฟิงแค่นเสียง “หากเจ้าชาญฉลาด เช่นนั้นสมควรหลบหนีไปทันที อย่าได้คิดอวดดีหาญกล้าอยู่ที่นี่แล้ว! พวกผู้ชายเช่นเจ้าก็มักจะเอาแต่ทระนงตน!”

ฉินหยุนมองทางกองกำลังเบื้องล่างพลางกล่าว “กองกำลังของศิษย์พี่มีขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณกี่คนกัน?”

“ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าสามร้อยคน และอีกหนึ่งร้อยคนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ! หากเจ้าสามารถสังหารพวกมัน เช่นนั้นก็คงได้รับแต้มสักห้าร้อย!” หลงเฉียวเฟิงตอบกลับ “ด้วยแต้มเจ้าตอนนี้ที่สองร้อย หากได้รับอีกห้าร้อย นี่ถือว่าเป็นแต้มมหาศาลไม่ใช่น้อย!”

“อย่างนั้นแล้ว ข้าก็ขอยินดีรับห้าร้อยแต้มที่นำมามอบให้!” ฉินหยุนหัวเราะพร้อมพุ่งทะยานร่างเป็นแสงวูบผ่านหลงเฉียวเฟิง เป้าหมายคือกองกำลังเฉียวเฟิง

“อวดดีนัก!”

หลงเฉียวเฟิงเดิมไม่คิดอยากลงมือ เป็นนางไม่คิดประมือกับฉินหยุน

ทว่าตอนนี้ ฉินหยุนมอบเพียงแต่ทางเลือกที่นางต้องลงมือ

หลงเฉียวเฟิงยกมือขาวนวลขึ้น เสียงมังกรและหงส์อมตะคำรามร้องดังสนั่น ภาพมายาของมังกรและหงส์อมตะบังเกิดพร้อมพุ่งทะยานเข้าปะทะใส่ฉินหยุน

“สตรีผู้นี้ครอบครองวิญญาณยุทธ์มังกรและวิญญาณยุทธ์หงส์อมตะ!” หลิงหยุนเอ๋อเผยอาการตระหนก “อย่างน้อยก็ต้องเป็นระดับทองม่วง!”

ฉินหยุนตระหนักได้เช่นกัน เขาปล่อยหมัดตอบโต้ในทันที เผยออกซึ่งเคล็ดวิชามังกรหลอมหกกระบวน

“ฟ้าคำราม!”

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ฟ้าคำรามระเบิดออกเป็นเปลวเพลิงร้อนแรงลุกโชน มันเข้าปะทะอย่างสุดแรงกับมังกรและหงส์อมตะ

ภาพจำแลงมังกรและหงส์อมตะถูกฉินหยุนทำลายด้วยหมัดเดียว!

หลงเฉียวเฟิงกัดฟันแน่นขณะนำเอากระบี่ยาวออก อย่างกะทันหัน ปีกเปลวเพลิงคู่ได้ปรากฏที่แผ่นหลังของนาง

นางมาถึงตรงหน้าฉินหยุนในอึดใจ พร้อมสับฟันกระบี่ยาวในมือออก พริบตาที่กระบี่ฟาดฟัน ปีกหงส์อมตะขนาดใหญ่จะโบกสะบัดเกิดเป็นเปลวเพลิงร้อนแรงปะทุออก

เปลวเพลิงทองม่วงมาพร้อมเสียงร้องหงส์อมตะ กระบี่รุนแรงอัดแน่นด้วยพลังงานเกิดขึ้นเป็นลำแสงทองม่วงเข้าปกคลุมร่างฉินหยุนไว้

ฉินหยุนนำเอาอาวุธของตนออกมา พร้อมใช้งานวิชาวายุสังหาร!

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

วิชาวายุสังหารสำแดงอำนาจเปรียบดังมังกรพยัคฆ์ที่ดุร้าย สายฟ้าและเสียงฟ้าคำรามดังสนั่นเข้าปัดป้องลำแสงอัคคีร้อนแรงไว้

หลงเฉียวเฟิงได้เห็นฉินหยุนใช้งานกระบี่พร้อมเข้ามาใกล้ ออร่าของอีกฝ่ายที่นางสัมผัสได้ กล่าวได้ว่ามันแทบพร้อมกลืนกินขุนเขาทะเลพร้อมแดนสวรรค์ นางหวาดกลัวถึงขั้นต้องเร่งรีบหลบเลี่ยง

ฉินหยุนสับฟันกระบี่ในมือ เกิดขึ้นเป็นอัคคีเพลิงสีดำหมุนวนกลางฟากฟ้ากินพื้นที่วงกว้าง นี่ราวกับมวลเมฆกำลังเดือดพล่านอยู่กลางท้องนภา

พื้นดินเริ่มสั่นไหวก่อนจะยุบตัวลง มันสั่นไหวต่อเนื่องไม่คล้ายมีทีท่าจะหยุด!

ผู้คนเมื่อได้พบเห็นกำลังฉินหยุนทัดเทียมสิบลำดับแรกของเทียบอันดับยุทธ์เต๋า พวกเขาต่างได้ข้อสรุปเดียวกัน คือฉินหยุนย่อมต้องมีโอกาสก้าวเข้าสู่สิบลำดับแรกได้เป็นแน่

เป็นเพียงแต่เรื่องของเวลา ว่าฉินหยุนจะก้าวถึงจุดนั้นได้เมื่อใด

หลงเฉียวเฟิงสัมผัสถึงกำลังมหาศาลจากฉินหยุน นางค่อยตระหนักได้ว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อ นางมีแต่จะพ่ายแพ้

ขณะนางคิดสั่งการกองกำลังถอยหนี ฉินหยุนพลันใช้งานก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์เคลื่อนที่ในพริบตา พร้อมเผยเคล็ดวิชาวายุสังหาร!

อำนาจกระบี่รุนแรงเผยเสียงฟ้าคำรามกึกก้อง ราวกับมันพร้อมแยกขุนเขาและผืนแผ่นดินให้ขาดออกจากกัน สายฟ้าอสนีบาตสีดำรุนแรงนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกเข้าปกคลุมร่างหลงเฉียวเฟิง

ฉินหยุนมีเปรียบเหนือหลงเฉียวเฟิงแล้ว!

“อั่ก!”

น้ำเสียงงดงามของหลงเฉียวเฟิงคำรามออก เป็นนางรู้สึกเจ็บปวดขนาดที่ร่างกายแทบถูกฉีกกระชาก

ตู้ม!

ฉินหยุนหาได้ปรานีไม่ หมัดต่อยตามในฉับพลัน

หลงเฉียวเฟิงดิ้นรน เสียงคำรามร้องมังกรและหงส์อมตะดังกึกก้องเผยซึ่งอำนาจของสัตว์ร้ายโบราณ ทำเอาหมัดของฉินหยุนต้องแฉลบไป

พลังสั่นไหวที่ปะทุออกทั้งกลางอากาศและพื้นดิน เกิดขึ้นเป็นคลื่นสายฟ้าม้วนตัวกลางอากาศ พื้นแผ่นดินที่เพิ่งฟื้นตัวกลับต้องปริแตกเกิดรอยแยกอีกครั้งหนึ่ง

หลงเฉียวเฟิงค่อนข้างมีกำลังด้อยกว่าฉินหยุน ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวนี้ มันเพียงพอให้ส่งร่างของนางกระเด็นไกล โลหิตจากมุมปากของนางต้องหลั่งออก เส้นผมยาวงดงามกลายเป็นยุ่งเหยิงสภาพดูไม่ได้

ฉินหยุนทะยานร่างตามติด นำเชือกเส้นหนึ่งที่ขัดเกลาสร้างขึ้นก่อนหน้านี้ออกจากมิติเก็บของ พร้อมเข้าพันธนาการร่างของหลงเฉียวเฟิงเอาไว้!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด