ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0581 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0583 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0582 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 582 : พลังกระแสน้ำวน

อาคารตรงหน้า มีสำหรับจำหน่ายแผ่นยันต์

ฉินหยุนพอเข้าไป เขาจึงสอบถาม จากนั้นค่อยใช้สองร้อยแต้มที่มี แลกเปลี่ยนเป็นยันต์วิญญาณล่อสัตว์ โดยรวมแล้ว เขาสามารถใช้งานมันได้นับร้อยครั้ง หากโชคดีพอ จะสามารถดึงดูดความสนใจสัตว์ป่าได้นับหลายสิบตัว

ตัวเขาต้องการร่างสัตว์จำนวนมหาศาลเพื่อใช้สำหรับการขัดเกลา

ฉินหยุนประลองกับหลงซือหมิง หลายคนของกองกำลังอื่นคิดอยากมารับชม

ครั้งที่กองกำลังของหลงซือหมิงพ่ายแพ้ ผู้คนต่างสงสัยว่ามันเกิดเรื่องอันใดขึ้น

คราวนี้ พวกเขากำลังจะได้เห็นกับตนเอง ว่าหลงซือหมิงและฉินหยุนประลองกันอย่างไร

ฉินหยุนพอออกจากอาคาร เขาได้เห็นหลงซือหมิงพร้อมคนกลุ่มใหญ่รอคอยที่ด้านนอก

“ไป ออกไปที่นอกเมือง!”

หลงซือหมิงกราดเกรี้ยว ตัวเขาขณะนี้ไม่อาจพลาด หากไม่อาจสังหารฉินหยุนได้สักครั้ง ตัวเขาจะกลายเป็นที่ขบขันของผู้คนไปอีกนาน

ฉินหยุนกล่าวคำ “หลงซือหมิง ทั้งกองกำลังเจ้าอยู่ที่นี่ คิดจัดการข้าร่วมกันอย่างนั้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็คงต้องเตรียมรับมืออะไรบ้างแล้ว!”

“ข้าสู้เพียงลำพัง!” หลงซือหมิงเผยเสียงเกรี้ยวกราด “ข้าเป็นคนรักษาคำพูด!”

“ข้าหรือจะเชื่อเจ้า! ล่าสุดเป็นเจ้าต่อสู้กับข้า บอกว่าสู้เพียงลำพัง แต่แล้วอย่างกะทันหันกลับให้คนหลายสิบเข้าปิดล้อมข้าเอาไว้ เป็นคนของกองกำลังเจ้าทั้งสิ้น หากข้าไม่ตอบสนองได้ทันท่วงที ก็คงเป็นข้าที่ถูกสังหารไปแล้ว!” ฉินหยุนหัวเราะดัง “แม้ครั้งนี้เจ้าคิดปิดล้อมข้าอีกครั้ง ก็อย่าได้คิดว่าข้าจะหวั่นเกรง!”

กองกำลังปาหลงถูกทำลายโดยฉินหยุนไปครั้งหนึ่ง เรื่องนี้กล่าวได้ว่าเกินกว่าจะเชื่อ

ครานี้ ฉินหยุนถึงขั้นประกาศว่าพร้อมทำลายกองกำลังปาหลงเป็นครั้งที่สองอย่างไม่ยี่หระ!

“ฉินหยุน เป็นพวกเราไม่คาดคิดว่าเจ้าครอบครองอาวุธมากมาย ดังนั้นเจ้าจึงสังหารพวกเราได้เพราะการลอบโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว ด้วยกำลังของเจ้าที่ดาษอื่น ก็ได้แต่ต้องอาศัยเล่ห์เหลี่ยม!” หลงซือหมิงไม่คิดยอมรับ ว่าพละกำลังของตนเองไม่อาจดีเทียบเท่าฉินหยุน

“เหอะ พวกเจ้าเป็นฝูงหมูโง่เขลาหรือไร? ด้วยคนมากมายเพียงนั้น ยังถูกข้าใช้เล่ห์เหลี่ยมสังหารตายจนสิ้น” ฉินหยุนหัวเราะดัง “พวกเจ้าเกือบยี่สิบคนปิดล้อมข้า เล่ห์กลอันใดที่ข้าใช้สังหารพวกเจ้า? จงบอกให้ผู้คนได้รับฟังกันเสียสิ!”

“เป็นข้าสะกดเจ้าเอาไว้เพียงลำพัง แต่พอเห็นท่าไม่ดี ก็เป็นเจ้าร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ครานี้กล่าวว่าข้าให้เล่ห์เหลี่ยม ช่างไร้ยางอายนัก!”

หลงซือหมิงคำรามดัง “ฉินหยุน อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระ! จงเร่งรีบสู้กับข้าเสียเดี๋ยวนี้ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นเองว่ากำลังแท้จริงข้าเป็นเช่นไร!”

ผู้คนเมื่อได้เห็นว่าหลงซือหมิงกราดเกรี้ยวเพียงใด ขณะนี้ต่างถอยห่าง

หลงซือหมิงเป็นผู้บังคับบัญชากองกำลัง ทั้งยังเป็นบุตรหลานตระกูลหลง ด้วยเขาเป็นอาจารย์ยุทธ์แล้ว จึงกลายเป็นศิษย์หลักของสำนัก แน่นอนว่าต้องครอบครองศักยภาพเหนือล้ำ

พละกำลังของเขา ไม่มีทางอ่อนด้อยไปกว่าฉินหยุน!

ด้วยเพราะเป็นเขตแดนจินตภาพ อุปกรณ์เต๋าของฉินหยุน รวมถึงพละกำลังภายนอกอย่างอื่นจึงถูกจำกัดลงอย่างมหาศาล

กระทั่งว่าเป็นผู้มีร่างลึกล้ำ เมื่อใดเข้าสู่เขตแดนจินตภาพ ก็ยังต้องร่วงหล่นสู่ร่างกายธรรมดา

กล่าวได้ว่าผู้คนที่เข้ามาที่นี่ ต่างต้องเริ่มต้นในจุดเดียวกัน

เว้นแต่เชี่ยวชาญวิชายุทธ์โทเทม หรือครอบครองสองแก่นเต๋า พวกเขาจึงค่อยมีพลังแกร่งกล้าแต่แรกเริ่ม

ฉินหยุนผ่านการทดสอบแก่นเต๋ามาก่อนแล้ว ตัวเขาครอบครองเพียงหนึ่งแก่นเต๋า

สิ่งเดียวที่กล่าวได้ว่าดีกว่าผู้อื่น คือเขาเป็นผู้ฝึกตนโทเทม

กระนั้นด้วยไร้ซึ่งพลังโทเทม ผู้ฝึกตนโทเทมจึงไม่อาจแข็งแกร่ง หาได้ดีไปกว่าผู้ฝึกตนธรรมดาอื่นใดไม่

และก็เช่นกัน ในสถานที่แห่งนี้ วิชาลึกลับของวิญญาณยุทธ์ไม่อาจใช้งานได้ดีนัก

ฉินหยุนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า หลงซือหมิงอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ แม้ว่าเป็นอาจารย์ยุทธ์ระดับต้น แต่ประสบการณ์ของเขา รวมถึงพลังสั่งสมจะไม่มีทางอ่อนด้อยไปกว่าขอบเขตวรยุทธ์เต๋า

ดังนั้นผู้คนจึงคิด ว่ากองกำลังปาหลงที่ล่มสลายไปคราหนึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาดเกินไป

หลงซือหมิงกราดเกรี้ยว ร่างทะยานเร่งรีบพุ่งออกไปนอกประตูเมือง

เขายืนหยัดตรงหน้านอกประตูเมือง ในมือถือดาบหนักเอาไว้พร้อมตะโกนใส่ฉินหยุนที่กำลังก้าวเดินเนิบนาบ “เจ้าคนขลาดเขลา จงเร่งรีบออกมา!”

ฉินหยุนที่ยังอยู่ในเมือง เขาสัมผัสได้ถึงออร่าของผู้แข็งแกร่งคนอื่น

ที่แห่งนี้ มีศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณอยู่กันหลายคน

หากฉินหยุนเอาชนะหลงซือหมิง บางทีผู้อื่นอาจลงมือก่อการแทน

ในเขตแดนอ้างว้าง จุดประสงค์มีเพียงได้รับแต้มเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้รับแต้ม พวกเขาหาได้สนใจอื่นใดไม่ว่าวิธีการเป็นเช่นไร กระทั่งการลอบโจมตีอย่างไร้ซึ่งยางอายก็ไม่เว้น

นอกจากนี้ ฝ่ายตระกูลใหญ่ยังมองฉินหยุนเป็นศัตรู

ท่ามกลางสิบสุดยอดเทียบอันดับยุทธ์เต๋า มีศิษย์ห้าคนที่เป็นคนของฝ่ายตระกูลใหญ่

“ฉินหยุน จงเร่งรีบออกมาได้แล้ว!” หลงซือหมิงหัวเราะดัง “พวกเจ้าล้วนได้เห็นชัดกันแล้ว ว่าฉินหยุนมันหวาดกลัวขลาดเขลาเพียงใด!”

ฉินหยุนเลียริมฝีปาก เร่งรีบก้าวเดินพ้นออกจากประตูเมือง

ทุกคนต่างได้เห็น ว่าฉินหยุนก้าวพ้นออกจากประตูเมือง จิตวิญญาณพวกเขาต่างลุกโชน

“ฉินหยุนเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า ถึงกับกล้าต่อกรกับหลงซือหมิง หาญกล้านัก!”

“กระทั่งว่าพ่ายแพ้ก็ไม่มีอันใดให้อับอายแล้ว ก็แค่พ่ายแพ้ไปครั้งหนึ่ง!”

“ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณหยิ่งผยองอวดดีต่อหน้าขอบเขตวรยุทธ์เต๋า นี่มีอันใดให้ภาคภูมิใจกัน?”

“นับว่าแปลก ฉินหยุนทำลายทั้งกองกำลังไปได้อย่างไร? ด้วยกำลังของเขา ทั้งยังเป็นในเขตแดนจินตภาพแห่งนี้ เอาชนะหลงซือหมิงได้ก็กล่าวว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว!”

ฉินหยุนนำเอากระบี่ออกมา!

บรรดาศิษย์ที่นี้ต่างนำเอาอาวุธพกพาบนหลังไปไหนมาไหน นั่นก็เพราะพวกเขาไม่มีอุปกรณ์มิติเก็บของ

ฉินหยุนหาได้พกพาอาวุธใด แต่มันกลับปรากฏอย่างกะทันหัน ชัดเจนว่าต้องเป็นอุปกรณ์มิติเก็บของแล้ว

อุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของมีมูลค่าสูงล้ำที่ภายในนี้ หากคิดครอบครอง ก็ต้องใช้แต้มหลายร้อยเพื่อแลกเปลี่ยน

กระทั่งผู้ที่มีแต้มระดับนั้น ก็ไม่ยินดีที่จะใช้เพื่อแลกเปลี่ยนมาครอบครอง

แต่แล้วฉินหยุนที่เข้ามาเพียงไม่กี่วัน กลับครอบครองทั้งอาวุธและอุปกรณ์มิติเก็บของ อีกทั้งยังมีแต้มอีกหลายร้อย เรื่องนี้ทำเอาหลายผู้คนพบว่าเป็นเรื่องยากเข้าใจ

“ฉินหยุน นี่เจ้าได้รับอุปกรณ์มิติเก็บของและอาวุธจากที่ใด? มีคนของหอพิทักษ์กฎแอบช่วยเจ้าอย่างนั้นหรือ?” ท่ามกลางฝูงชนบนกำแพงเมือง คนหนึ่งได้เอ่ยเสียงถามดังขึ้น

“หอพิทักษ์กฎทำเช่นนี้ถือเป็นการทำลายสมดุล! เรื่องนี้ยอมรับไม่ได้!”

“ใช่ พวกเราต้องได้รับคำอธิบาย!”

หลายคนต่างเริ่มส่งเสียงดัง

ฉินหยุนย่อมได้ยินเสียงฝูงชนร่ำร้อง

“ฉินหยุน ย่อมต้องใช่แน่แล้ว เป็นหอพิทักษ์กฎที่ช่วยเหลือเจ้าในเงามืด ไม่แปลกที่จะสังหารกองกำลังปาหลงของข้าจนหมดสิ้น!” หลงซือหมิงแค่นเสียงดัง “เจ้ามันเป็นไก่น้อยอ่อนแอผู้หนึ่งที่พึ่งพากำลังผู้อื่น ให้ข้าได้สังหารเจ้าแล้ว!”

“ของของข้าย่อมขัดเกลาขึ้นมาเอง! เป็นข้าสังหารสัตว์ป่าไปหลายสิบ!” ฉินหยุนเผยเสียงดังก้อง “หากเจ้าไม่เชื่อ เช่นนั้นจงไปสร้างพวกมันขึ้นด้วยตนเอง! ในเขตแดนจินตภาพ สิ่งของล้วนสามารถสร้างขึ้นเองได้!”

ผู้คนที่ได้ยิน ต่างครวญครางในลำคอก่อนจะกรีดร้องออก

เป็นพวกเขาไม่มีอุปกรณ์ขัดเกลาในครอบครอง ทว่าฉินหยุนมี!

ผู้คนต่างคิด ว่าบุคคลที่มีความสามารถขัดเกลาไม่เคยเข้ามาในที่แห่งนี้เป็นเวลานานนับแล้ว

หอพิทักษ์กฎมักจะดูแลอาจารย์จารึกของนครเซียนยุทธภัณฑ์เป็นพิเศษ ดังนั้นพวกเขาจึงแทบไม่เคยเข้ามายังเขตแดนจินตภาพ

ด้วยพรสวรรค์เลิศล้ำของฉินหยุน ที่หอพิทักษ์กฎไม่ยอมรับ ดังนั้นเขาจึงได้เข้ามายังที่แห่งนี้

“เจ้าไม่อาจสร้างของเองได้ เช่นนั้นยังกล่าวโทษผู้อื่นงั้นหรือ?” ฉินหยุนแค่นเสียง หลายคนต่างโกรธแค้นทั้งยังอับอาย

“ฉินหยุน นี่เจ้ากำลังโกงผู้อื่นอยู่รู้ตัวหรือไม่!”

หลงซือหมิงยิ่งริษยา พวกเขาต้องต่อสู้กันเพื่อหาแต้มแทบเลือดตากระเด็น ทั้งหมดเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของอำนวยความสะดวกและอาวุธ

แต่ฉินหยุนเพียงสังหารสัตว์ป่าสักหลายตัว ก็สร้างพวกมันขึ้นมาได้แล้ว!

“หากรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม จงไปยังหอพิทักษ์กฎ บอกกล่าวพวกเขาให้ปรับเปลี่ยนเขตแดนจินตภาพ ห้ามการขัดเกลาอุปกรณ์และยันต์เสียสิ!” ฉินหยุนหัวเราะดัง “หลงซือหมิง พวกเราควรเริ่มสู้กันได้แล้ว!”

“ทุกคนจงวางใจ ข้าจะลงโทษสารเลวที่คดโกงผู้นี้ให้เผชิญหน้ากับกำลังที่แท้จริง ให้ได้เห็นกันว่ามันก็แค่สวะตัวหนึ่ง!”

หลงซือหมิงยกดาบหนักในมือขึ้น ปลายดาบชี้ที่ฉินหยุน เขากล่าวด้วยเสียงอันดัง “ฉินหยุน เจ้าสารเลวที่คดโกง เจ้าก็ได้แต่อาศัยกลโกง หาได้คู่ควรเป็นผู้ฝึกตนไม่!”

“ข้า หลงซือหมิงผู้นี้ ขอเป็นตัวแทนแห่งสวรรค์ เพื่อสั่งสอนบทเรียนแก่วายร้ายเช่นเจ้าในวันนี้!”

บรรดาศิษย์อื่นในกองกำลังปาหลงต่างปรบมือดัง

“มีชัยเหนือข้าแล้วจึงค่อยอวดอ้าง!” ฉินหยุนถือกระบี่ในมือเผยอาการสงบ

“เริ่มได้!” หลงซือหมิงรวบรวมกำลังไว้อยู่ก่อนแล้ว เป็นเขาพร้อมจ้วงแทงปลดปล่อยพลังออกทุกเมื่อ

จากนั้นดาบจึงจ้วงแทงออก พลังดึงดูดเริ่มไหลหลั่งออกมา!

ฉินหยุนที่โดนผลของพลังดึงดูด กลายเป็นคล้ายร่วงหล่นสู่ห้วงน้ำ การตอบสนองเป็นไปอย่างติดขัด กระนั้นก็ยังสามารถหลบเลี่ยงดาบที่อันตรายก่อนจะเข้าถึงตัวได้

พลังของหลงซือหมิงไม่อาจควบแน่นเพื่อโจมตีต่อเนื่องได้ ไม่เช่นนั้น ดาบนับร้อยคงจ้วงแทงไปพร้อมกันจนไม่อาจมีผู้ใดหลบเลี่ยง

แม้ไม่อาจควบแน่นพลังต่อเนื่อง ทว่าหลงซือหมิงก็ยังโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ฉินหยุนต้องหลบหลีก พลังดึงดูดประหลาดที่ปลดปล่อยออก เป็นการดึงอีกฝ่ายเข้าหาตัวดาบ

“หลงซือหมิงครอบครองวิญญาณยุทธ์น้ำวน พลังของน้ำวนช่างน่าทึ่งนัก!”

“ฉินหยุนก็แข็งแกร่งไม่น้อย ด้วยพลังน้ำวนนั่น ยังสามารถหลบเลี่ยงได้รวดเร็วปานนั้น”

“แต่ฉินหยุนไม่น่าจะทนได้นานเท่าใดนัก”

“ข้าเคยสู้กับหลงซือหมิงมาหลายครั้ง ทุกครั้งเป็นข้าถูกสังหาร เมื่อใดถูกพลังน้ำวนนั่นดูดเข้าหา แรงของมันยิ่งมายิ่งมาก ท้ายที่สุดไม่อาจทนไหวจึงต้องพ่ายแพ้!”

“คล้ายหลงซือหมิงจะมีชัยเหนือกว่า”

“เมื่อใดฉินหยุนหลบเลี่ยง เขาจะใช้พลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเพื่อทำลายอำนาจน้ำวน อัตราการสูญเสียพลังถือว่ามหาศาล”

เวลานี้ หลิงหยุนเอ๋อกำลังหาโอกาสเพื่อปลดปล่อยพลังแรงโน้มถ่วง

หลงซือหมิงเคยถูกพลังแรงโน้มถ่วงสะกดเอาไว้ ดังนั้นเขาย่อมระมัดระวังแต่แรกเริ่ม

“ชายคนนี้เป็นผู้บังคับบัญชาของกองกำลังได้ ย่อมไม่ได้มีดีเพียงฝีปาก!” ฉินหยุนเองก็ลอบตระหนก “หลังถูกข้าสังหารไปครั้งก่อน มันย่อมได้รับข้อมูลไปไม่น้อย ตอนนี้จึงมีแต่ยิ่งระแวดระวัง!”

“คิดใช้แรงโน้มถ่วงตอนนี้ไม่ดีเท่าใดนัก” หลิงหยุนเอ๋อถอนหายใจ “เสี่ยวหยุน ใช้วิธีอื่นแล้วกัน ต้องเร่งรีบแก้ไขเรื่องนี้!”

“มีแต่ต้องใช้เคล็ดวิชากระบี่แล้ว!” ฉินหยุนกล่าวคำขึ้น

เคล็ดวิชากระบี่พื้นฐานถือว่ามีความพิเศษ รวดเร็ว เรียบง่าย ไร้ปรานี กระบี่ที่โจมตีรวดเร็วย่อมสร้างความตื่นตะลึง

ทุกครั้งที่หลงซือหมิงโจมตีด้วยดาบใหญ่ พลังของน้ำวนจะหยุดไปครู่หนึ่ง!

ฉินหยุนอาศัยจังหวะหลบเลี่ยง เป็นอิสระพ้นจากพลังน้ำวน เกาะกุมจังหวะชั่วพริบตาเอาไว้พร้อมใช้กระบี่โจมตีออก

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด