ตอนที่แล้วตอนที่ 8 : กินแล้วไม่จ่าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 Thank you นะ ฟู่เหวินตั๋ว~!

ตอนที่ 9 ผมมีมิติวิเศษที่ห่วยกว่าของตัวเอก!


อากาศช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนค่อนข้างหนาวถังโม่เลยสวมเสื้อกันหนาวขนสัตว์ทับด้วยเสื้อโค้ท แต่วัตถุแหลมเย็นก็แนบเข้ากับหลังส่วนล่าง ทะลุเสื้อหนาๆ ของเขาจนเป็นรู

ถังโม่ค้างตัวอยู่ที่ท่านั้น รู้ตัวแล้วว่าโดนมีดจี้อยู่

อีกฝ่ายไม่ชักช้า “ไอ้เวรนี่ ส่งกระเป๋าเงินมาสิวะ! เร็ว! ไม่งั้นฉันจะหั่นแกเป็นชิ้นๆ ให้ดู!”

ถังโม่กระซิบเบาๆ “คุณขยับมีดออกไปสักหน่อยให้ผมยืนตรงๆ ได้สิ ผมจะได้หยิบกระเป๋าตังค์ให้คุณ”

“พูดอะไรนักหนาวะ” อีกฝ่ายยอมยกมีดขึ้นเล็กน้อย

ถังโม่ยืนขึ้นตรงๆ รู้ตัวว่าไม่ควรหมุนตัวไปตอนที่ยื่นกระเป๋าให้อีกฝ่าย ผู้ชายคนนั้นกระชากกระเป๋าจากมือ แล้วเริ่มโวยวาย “เฮงซวย! มีแค่นี้เองเหรอ? แล้วรถนั่นของแกรึเปล่า มีกุญแจอยู่ข้างในใช่ไหม?”

“อยู่สิ”

“อย่าขยับล่ะ ไม่งั้นฉันสับแกจนตายแน่”

ถังโม่ไม่ได้หมุนตัวไปไหนตอนที่มีดห่างไปแล้ว เขาได้ยินอีกฝ่ายเปิดประตูแล้วสตาร์ทรถ พอมั่นใจว่าสตาร์ทได้ ประตูก็กระแทกปิด

ถังโม่ตะโกนถาม “ผมมีสัมภาระอยู่ที่กระโปรงรถ ขอหยิบหน่อยได้ไหม?”

รถขับไปได้แค่เล็กน้อยก็จอดอีกรอบ “แกกล้าพูดเรื่องบี้ประติ๋วแบบนั้นด้วยรึยังไง? ของของแกก็คือของของฉัน ไอ้โง่เอ๊ย”

“ตอนนี้มันหนาวมาก ขอผมหยิบเสื้อผ้าสักหน่อยได้ไหม พี่ชาย อากาศเย็นแบบนี้ผมจะต้องหนาวตายแน่ๆ ขอแค่เสื้อตัวเดียวก็ได้”

ผู้ชายคนนั้นสบถสาบานอยู่หลายคำ แล้วเปิดประตูรถออกมา ใช้มีดจี้เอวถังโม่อีกรอบ “รีบหยิบเสื้อขึ้นมาสักตัว ไม่อย่างนั้นฉันจะถือว่าแกบังคับให้ฉันฆ่าแก”

ถังโม่หันไปมองอีกฝ่ายเต็มตา

ผู้ชายคนนั้นมีผมมันเยิ้ม จุดสีเทาๆ และรอยเปื้อนเต็มเสื้อผ้า พออีกฝ่ายเห็นว่าถังโม่กำลังมองอยู่ เขาก็หวาดหลัวเหมือนสัตว์เล็กที่ไม่อยากถูกใครจ้อง “รีบไปหยิบเสื้อของแกเร็วๆ”

ถังโม่พยักหน้า

ผู้ชายคนนี้เป็นโจร

ถังโม่เปิดกระโปรงรถขึ้น

“นั่นอะไรน่ะ ไม้ขีดไฟเรอะ?” อีกฝ่ายถามเสียงแปลกๆ

ถังโม่เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋า แล้วแอบลองกระแทกมือเข้ากับที่ล็อค ส่วนคมของตัวล็อคกระแทกลงมาฝ่ามือที่บอบบาง แต่กลับทิ้งไว้แค่รอยตื้นๆ ถังโม่หรี่ตา ใช้มือซ้ายเอื้อมมือไปหยิบไม้ขีด แล้วเหวี่ยงใส่ผู้ชายที่อยู่ข้างหลัง

“ไอ้ไม้ขีดนี่มันอะไร? แก...อึ่ก!”

ไม้ขีดไฟยักษ์กระแทกเข้ากลางศีรษะของผู้ชายคนนั้น เหลือดไหลอาบร่างอีกฝ่ายทันที

ถังโม่ไม่ได้คิดว่าไม้ขีดไฟนี่จะมีพลังมากขนาดนั้น ไม้ขีดนั้นเบา ให้ความรู้สึกเหมือนไม้ขีดไม้ธรรมดา เพิ่งจะตอนนี้เองที่มีเสียงดังเหมือนวัตถุที่ทำจากเหล็กในมือเขา ฟังจากเสียงของฝ่ายแล้วดูท่าจะเจ็บเอามากๆ

เหมือนจะทุบหัวของคนปกติให้แหลกได้ด้วยไม้ขีดไฟอันนี้เลยด้วยซ้ำ ผู้ชายคนนั้นเดินโงนเงนถอยหลังไป เงยใบหน้าเปื้อนเลือดที่ฉายความกรุ่นโกรธขึ้นมองถังโม่ “แก ฉันจะหั่นแกเป็นชิ้นๆ!”

เขาชูมีดขึ้นสูงแล้วพุ่งเข้ามา

ถังโม่แน่นหน้าอกไปหมดตอนที่เขาหลบไปทางขวา แล้วยกขาซ้ายขึ้นถีบที่ช่วงท้องของอีกฝ่ายที่ร้องโหยหวนทันใด แล้วตวัดมีดใส่ช่วงขาของถังโม่ กางเกงเขาขาดทันที แต่มีดทิ้งไว้แค่รอยจางๆ เหมือนเล็ดขูด แถมยังส่งเสียงกรีดแหลม เหมือนกระทบกับวัตถุที่แข็งมากๆ เข้า

ชายคนนั้นกุมท้องตัวเอง แล้วพุ่งเข้ามาอีกรอบ

ถังโม่รีบยกไม้ขีดไฟขึ้นกัน

มีดคมๆ กระแทกกับไม้ขีดไฟ แล้วก็เกิดเสียงดังขึ้น

มีดแตกเป็นสองส่วน

ถังโม่ “…”

ผู้ชายคนนั้น “…”

ถังโม่ไม่คิดเลยจริงๆ ว่ามันจะทรงพลังขนาดนี้ แต่เขาก็รีบดึงสติ แล้วเหวี่ยงไม้ขีดไฟใส่อีกฝ่ายอีกหน ผู้ชายคนนั้นอยู่ใกล้ถังโม่มากเพราะเขาพุ่งมาหมายจะฟันถังโม่ก่อนหน้านี้ เขาเลยไม่มีโอกาสหลบไม้ขีดไฟ แต่ตอนที่ไม้ขีดไฟจะกระแทกหัวเขาอีกรอบ ก็มีแบงค์สีแดงนับไม่ถ้วนร่วงลงมาจากอากาศ

ถังโม่ไม่เคยเห็นแบงค์ 100 หยวนมากขนาดนี้มาก่อน มันเยอะจนดูเหมือนภูเขาย่อมๆ แบงค์ร้อยหยวนหล่นลงมาจากฟ้า เป็นกำแพงกั้นระหว่างไม้ขีดไฟกับผู้ชายคนนั้น ลดแรงกระแทกลงจนอีกฝ่ายแค่กระเด็นออกไปเท่านั้น

“อย่าฆ่าฉัน อย่าฆ่าฉันเลย...”

เขาตัวสั่น เริ่มร้องขอความเมตตา

ถังโม่หยุดไม้ขีดไฟแล้วก้มลงจับเงินพวกนั้น

“คุณไปเอาเงินมากขนาดนี้มาจากไหน? แล้วมันออกมาจากที่ไหนเนี่ย?”

พวกนี้เป็นแบงค์ร้อยของจริงหมดเลย!

ผู้ชายคนนั้นมองไม้ขีดไฟยักษ์ด้วยความหวาดกลัว “ฉันเป็นโจร เมื่อเช้านี้พอคนบนถนนหายไปฉันก็เลยขโมยพวกมันมา ตอนเที่ยงฉันเข้าไปที่ธนาคาร...แล้วก็กวาดเงินทั้งหมดที่หาได้มา”

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ถังโม่อยากรู้ “คุณซ่อนเงินนี่ไว้ที่ไหน”

อีกฝ่ายชูมือขวา โชว์รอยสักสีฟ้าจางๆ ที่ข้อมือ “ฉันเอามันออกมาจากตรงนี้ ฉัน...ตอนฉันขโมยเงินมา ฉันก็รู้ว่าตัวเองจะเอาเงินใส่รอยสักนี่ได้ ฉันมีรอยสักนี้มานานแล้ว มันใส่ได้แต่เงินเท่านั้น แล้วพอกำลังจะโดนนายฆ่าเมื่อกี้จิตใต้สำนึกของฉันก็ดึงเงินออกมา...”

ถังโม่พยักหน้าแล้วก้มมองรอบสักที่ข้อมืออีกฝ่าย

มีแสงวูบหนึ่ง แล้วมียาวครึ่งฟุตก็พุ่งเข้าใส่ตาของถังโม่

“ตายซะเถอะแก!”

อีกฝ่ายพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ถังโม่ไม่ได้บล็อกมีดนั้น แต่เลือกใช้ไม้ขีดไฟกระแทกมันพัง แล้วก็ส่งแรงไปในทางเดิม กระแทกเขากับศีรษะผู้ชายคนนั้น มีเสียงเหมือนอะไรบางอย่างแตกหัก อีกฝ่ายเบิกตากว้าง เหมือนไม่อยากจะเชื่อทั้งถังโม่ทั้งไม้ขีดไฟในมือเขา แล้วร่างหนาก็ล้มลงกระแทกพื้น

สีหน้าถังโม่เปลี่ยนตอนแตะร่างของอีกฝ่าย

“…เขาตายแล้ว”

ถังโม่มองศพชายคนนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย จ้องอยู่สักพักก็ยกแขนขวาของศพขึ้นมาสำรวจลายบนข้อมือ

กลางคืนมืดเกินไป ถังโม่เลยเพิ่งรู้ว่าสัญลักษณ์นั้นเป็นรูป ¥ พอดูมือซ้ายของเขาก็เห็นรูปมีด

ถังโม่มองอยู่พักหนึ่ง แล้วจู่ๆ รอยสักก็หายไป พร้อมกับมีดสองอันที่หล่นอยู่ที่พื้น ใจถังโม่หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม มองที่ข้อมือขวาที่ว่างเปล่า แทนที่ด้วยกองแบงค์100หยวนอีกกองใหญ่

ถังโม่เดินกลับไปหยิบหนังสือที่รถ

เขาพลิกไปที่หน้าสอง อย่างที่คาด มีตัวอักษรเพิ่มขึ้นมา

[ความสามารถ: ผมมีมิติวิเศษที่ห่วยกว่าของตัวเอก]

[เจ้าของ: เฉียนซานคุน (ผู้ลักลอบ)]

[ประเภท: พิเศษ]

[ฟังก์ชั่น: ปิดผนึกวัตถุเข้ากับร่างกาย โดยแสดงออกในรูปของรอยสัก]

[ระดับ: เลเวล 2 สามารถเก็บวัตถุไม่มีชีวิตได้ 2 ประเภท]

[ข้อจำกัด: เก็บได้แค่ของประเภทเดียวกันเท่านั้น และไม่สามารถเก็บสิ่งมีชีวิตได้]

[เพิ่มเติม: เฉียนซานคุนไม่เคยคิดเลย ว่านอกจากมิติวิเศษของเขาจะห่วยกว่าของตัวเอกแล้ว เขายังต้องมาตายเพราะไม้ขีดไฟอีก!]

ตัวอักษรทั้งหมดเป็นสีดำ มีแค่ช่วงท้ายของหน้าที่เป็นสีแดง

[คู่มือการใช้เวอร์ชั่นถังโม่: ไอเทมใช้แล้วทิ้ง เก็บของได้แค่แบบเดียวกัน แถมยังถอดเปลี่ยนไม่ได้ เพื่อนเอ๋ย คิดให้ดีก่อนนะว่าจะเก็บอะไร]

“ผู้ลักลอบ?”

ถังโม่จ้องคำนั้นอยู่นานแต่ก็ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร เขาเลยตัดสินใจยอมแพ้ชั่วคราว

เขาอยากจะตบไอ้หนังสือนี่นะ แต่มันก็เป็นความสามารถของเขา ที่ช่วยให้ถังโม่เข้าใจพลังของผู้ชายคนนั้นและวิธีใช้งานทันที

เฉียนซานคุนเป็นโจรที่ความสามารถถูกปลุกแล้ว ความสามารถของเขาคือการเก็บวัตถุไม่มีชีวิตไว้ในร่างกายและสามารถเรียกใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ตราบใดก็ตามที่เป็นของอย่างเดียวกัน ปริมาณที่เก็บได้ก็จะไร้ขีดจำกัด ถังโม่ไม่รู้ว่าระดับพลังคืออะไร เลยอนุมานเอาว่าความสามารถนั้นสามารถอัพเกรดได้ อย่างที่เลเวล 2 ก็เฉียนซานคุนก็สามารถเลือกเก็บของได้สองอย่าง

เขาเลือกเงินและมีด

เลือกแบบไม่มองการณ์ไกลอย่างแท้จริง ในสถานการณ์แบบนี้เงินก็เป็นแค่เศษกระดาษที่เสียเปล่าเท่านั้น แต่เฉียนซานคุนก็ไม่เต็มใจที่จะเสียมันไป

เฉียนซานคุนยังฉลาดอยู่นิดหน่อย เขาหลอกถังโม่ด้วยการบอกว่าเงินของเขาถูกเก็บอยู่ในรอยสักที่เขามีอยู่แล้ว ซ่อนเร้นพลังของตนไว้ ทำให้เขามีโอกาสโจมตีถังโม่ด้วยรอยสักรูปมีด โชคดีที่ถังโม่ไม่เคยลดความระแวดระวังลง

น่าเสียดาย ถ้าวัตถุอีกชิ้นที่เฉียนซานคุนเลือกจะเก็บเป็นอาวุธอีกแบบแทนเงิน เขาคงจะมีโอกาสรอดอยู่บ้าง

ถังโม่มองศพที่เริ่มเย็นของเฉียนซานคุนบนพื้นและมีดกับเงินพวกนั้น แล้วไม่ลังเลที่จะยัดไม้ขีดไฟเข้าไปในข้อมือ มีแสงสีแดงสาดออกมาแล้วไม้ขีดไฟยักษ์ก็หายไป แทนที่ด้วยรอยสักรูปไม้ขีดไฟจิ๋วบนข้อมือซ้ายของถังโม่

ความแข็งแกร่งของไม้ขีดไฟอันนี้เกินที่ถังโม่คาดไว้ไปมาก ถ้าเก็บไว้แบบนี้ก็หมายความจะสามารถใช้มันเป็นอาวุธลับได้ คงทำให้รู้สึกถูกคุกคามน้อยลงเวลาเจอคนอย่างเฉียนซานคุนอีก

ถังโม่ก้มมองหนังสือ

ชื่อพลังของเฉียนซานคุนเปลี่ยนไปเป็น---

[ความสามารถ: ผมมีมิติวิเศษที่ห่วยกว่าของตัวเอก(ใช้งานแล้ว)]

เขาพลิกกลับไปหน้าแรก หน้าแรกเขียนพลังของเขาไว้และไม่มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ถังโม่ไม่ยอมแพ้ เขาจ้องหนังสือนั่นต่อ จนผ่านไปห้านาทีก็มีข้อความโผล่ขึ้นมาช้าๆ

[เพิ่มเติม: ถังโม่รู้ดีเลยล่ะว่าพอเขาฆ่าผู้ชายคนนั้น เขาก็กินทุกอย่างของอีกฝ่ายแล้วก็ไม่ได้จ่ายเงิน]

ถังโม่หรี่ตา แล้วนิ้วมือที่ถือหนังสือไว้ก็เริ่มสั่น

“จะได้มาก็ต้องฆ่าเท่านั้นเหรอ…”

นาทีต่อมา ก็มีตัวอักษรอีกบรรทัดโผล่มาบ้าง

[โน้ต: แต่ฉันจะบอกถังโม่ได้ยังไงกันล่ะว่ามีวิธีอื่นที่จะได้พลังมาโดยไม่ต้องฆ่าน่ะ?]

ถังโม่ “…”

โครม!

หนังสือถูกเจ้าของทุ่มใส่กองเงินแบบไร้เมตตา

สามนาทีต่อมา ถังโม่ก็เดินมาหยิบหนังสือคืน เขาโกยแบงค์ขึ้นมา จัดการฝังเฉียนซานคุนในสิ่งที่เขาชอบที่สุด  พอเสร็จแล้วก็คว้าหนังสือ เริ่มต้นขับรถไปเซี่ยงไฮ้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด