ตอนที่แล้วตอนที่ 7 ถังโม่ ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 ผมมีมิติวิเศษที่ห่วยกว่าของตัวเอก!

ตอนที่ 8 : กินแล้วไม่จ่าย


ถังโม่ไม่ได้มีเวลามานั่งเสียใจหรือหวาดกลัว

ร่างทรงกับเสี่ยวจ้าวหายไปแล้ว ไม่มีเสื้อผ้าหรือข้าวของอะไรเหลือไว้ เขาเลยไม่ต้องเก็บกวาดอะไร

ถังโม่ปิดประตู ทิ้งห้องสมุดไว้ข้างหลัง

มีคนเจ็ดหรือแปดคนรวมตัวกันอยู่ใต้หอคอย บางคนนั่งอยู่ที่พื้นไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ คนที่มาร่วมขบวนและร้องตะโกนอยู่ข้างกันก็หายไปในเวลาไม่กี่นาที?

นอกจากคนพวกนั้นแล้วก็ยังมีชายวันกลางคนสองคนที่ดูภูมิฐานอยู่ที่กำแพงสีขาว

กำแพงนี้ถูกตั้งขึ้นโดยพวกตำรวจเมื่อสามวันก่อนเพื่อปิดล้อมหอคอย หยุดชาวเมืองธรรมดาๆ ไม่ให้เข้าไปดูข้างในได้

พอไม่มีตำรวจและนักวิทยาศาสตร์แล้ว ผู้ชายสองคนนั้นก็เจาะรูขนาดใหญ่บนกำแพงแล้วเดินไปที่หอคอย ถังโม่ไม่คิดจะตามเข้าไป แค่มองอยู่ห่างๆ แล้วเดินจากไป

นักวทิยาศาสตร์ศึกษาเรื่องหอคอยดำมาครึ่งปีแล้วแต่ยังไม่ได้อะไรเลย ถังโม่ไม่คิดว่าตัวเองจะมีปัญญารู้ว่าหอคอยดำมันคืออะไรกันแน่

ปัญหาแรกที่ถังโม่พบก็คือเขาไม่มีรถ

ตอนนี้แปดโมงสิบห้านาที ตอนแปดโมงตรงร่างทรงและเสี่ยวจ้าวหายตัวไป คนส่วนใหญ่ในเมืองก็หายไปเหมือนพวกเขา พอคนขับหายไปรถบัสกับรถไฟฟ้าใต้ดินก็หยุดนิ่ง ที่แย่กว่านั้นคือพวกคนที่ขับรถอยู่บนถนนเองก็หายไปด้วย รถเลยชนกันเละเทะ ปิดทางถนนเสียหมด

ถังโม่เดินเท้าอยู่ครึ่งกิโลมาเจอจักรยานสีเหลือคันหนึ่ง

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแสกน QR โค้ด

“ไร้ประโยชน์สิ้นดี”

ถังโม่หน้าบึ้ง เขาก้มมองจักรยานนั่นอยู่ราวสองนาทีได้ ถึงได้หยิบก้อนหินขึ้นมาทุบตัวล็อค

แรงสะท้อนทำเอาข้อมือเขาเจ็บ แต่ความแข็งแรงเขาเพิ่มขึ้นมากโข ทุบแค่สองทีตัวล็อคก็พัง

ถังโม่คิดมองตัวล็อคที่เขาทำพังอย่างครุ่นคิด ก่อนจะคว้าจักรยานมาขี่กลับบ้าน

สี่สิบนาทีผ่านไปเขาก็มาถึงชุมชนของตัวเอง จอดพิงจักรยานไว้ข้างบันได

ชุมชนเงียบสนิท พอไม่มีใครอยู่รอบๆ แล้ว กระทั่งเสียงลมยังได้ยินชัด ถังโม่เข้าบ้านไปเก็บเสื้อผ้า เขาเป็นลูกคนเดียว ปู่ย่าตายายเสียไปหมดตั้งแต่เขายังเด็ก พอพ่อกับแม่เสีย เขาก็ขาดการติดต่อกับญาติที่เหลือทั้งหมดไปเลย

ถังโม่มีเพื่อนดีๆ อยู่นิดหน่อย แต่พอเรียนจบพวกเขาก็ย้ายออกจากเมืองซูโจวไปหมดแล้ว คนหนึ่งไปปักกิ่ง อีกคนไปเซี่ยงไฮ้

ลูกสาวของร่างทรงอยู่ที่เซี่ยงไฮ้เหมือนกัน ดังนั้นเขาจะลองไปตามหาเพื่อนดูด้วย

ถังโม่ถูกขังอยู่ในห้องสมุดตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ พอถึงบ้านเขาก็ยัดอาหารลงท้องแล้วเก็บเสื้อผ้าอีกนิดหน่อย แต่ถึงจะเก็บของเสร็จแล้วก็ยังมีปัญหาใหญ่อยู่

เขาไม่มีรถ

จากเมืองซูโจวไปเซี่ยงไฮ้ถ้าใช้รถไฟความเร็วสูงจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ถ้าขับรถจะอยู่ที่หนึ่งชั่วโมง

เวลาแบบนี้ตัดเรื่องรถไฟความเร็วสูงไปได้เลย ถังโม่ไม่ค่อยอยากจินตนาการสภาพบนรางรถไฟเท่าไหร่ ถ้าเป็นเหมือนบนถนนที่คนขับหายไปเลยเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว บนทางรถไฟ รถไฟที่ไร้คนขับก็คงพุ่งเข้าชนกันแน่ๆ

เขาต้องการรถยนต์

ถังโม่ขึ้นชั้นสองไปเคาะประตูของเจ้าของห้องเช่า แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ สามนาทีผ่านไปถังโม่ก็ตัดสินใจงัดประตู

กลิ่นแก๊สฉุนกึกทันทีที่เข้าก้าวพ้นประตู

ถังโม่รีบวิ่งเข้าครัวไปปิดเตาแก๊ส แล้วเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ

ยังมีผักที่ถูกหั่นทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะในห้องครัว เจ้าของบ้านคงกำลังเตรียมทำอาหารเช้าแสนอร่อยอยู่ก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไป ถังโม่ออกจากหอพักนักศึกษาเมื่อปีก่อนมาเช่าบ้านหลังนี้ เจ้าของเป็นคู่สามีภรรยานิสัยน่ารักที่อาศัยอยู่ชั้นบน ทั้งคู่เกษียณแล้วและไม่มีอะไรต้องทำมากนัก เลยชิบมาเชิญถังโม่ให้ขึ้นชั้นสองไปร่วมโต๊ะกับพวกเขาอยู่บ่อยๆ

ถังโม่ไม่มีรถ แต่เขาเคยยืมของเจ้าของบ้านเช่ามาใช้อยู่

เขาหยิบกุญแจรถจากลิ้นชักใต้ทีวี ดูจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านแล้ว และจากไป

เซี่ยงไฮ้อยู่ไม่ไกลมากนักและคงไม่ได้ใช้น้ำมันมากอะไร แต่รถของสองสามีภรรยาแทบจะไม่มีน้ำมันเหลือแล้ว หน้าปัดบอกปริมาตรน้ำมันชี้ไปที่เส้นสีแดง ถ้าเขาใช้น้ำมันเท่านี้ขับออกไป รถคงจะดับกลางทาง

เขาต้องไปเติมน้ำมันก่อน

ถังโม่เสียบกุญแจแล้วบิดไปทางขวา ทันทีที่เขาสตาร์ทรถ ความเจ็บปวดมหาศาลก็พุ่งเข้ามาที่หน้าอก เหมือนมีมือขนาดใหญ่กดทับหัวใจ ถังโม่หน้าซีดและหัวใจก็เต้นตุบๆ เลือดในกายไหลเร็วจนน่าเป็นห่วง

อุณหภูมิร่างกายเขาพุ่งสูงขึ้นด้วยอัตราที่ไม่น่าเชื่อ

ขึ้นมาถึง40องศาในนาทีเดียว!

แต่อุณหภูมิ40องศาก็ไม่ได้เผาสมองของถังโม่แต่อย่างใด เขายังมีสติครบถ้วน และรู้สึกเหมือนมีมีดแหลมกรีดหัวใจ อุณหภูมิร่างกายเอาแต่ไต่ขึ้นสูง ความเจ็บปวดเองก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ถังโม่ทับเบาะที่นั่งข้างคนขับอย่างแรงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น

ความเจ็บปวดที่เข้มข้นขนาดนั้นทำให้เขาหมดสติไป

สิบชั่วโมงถัดมาถังโม่ก็ลืมตา รอบข้างมืดแล้ว เสื้อของเขาเปียกเหงื่อตอนที่เขาหมดสติไป แล้วก็แห้ง แล้วก็เปียกอีกวนอยู่อย่างนั้น เขาไม่รู้ว่ามันแห้งแล้วก็เปียกซ้ำอยู่กี่ครั้งกว่าชีพจรเขาจะกลับมาเป็นปกติและความเจ็บปวดมหาศาลนั่นจะหายไป

สีหน้าถังโม่ยังย่ำแย่อยู่ แต่ตาเขาสว่างและเฉียบแหลม

พอลองนับชีพจรดูก็รู้ว่าตัวเองกลับมาเป็นปกติแล้ว พอลองสำรวจส่วนอื่นๆ ก็ไม่พบความผิดปกติอะไรอีก

แล้วจากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไป และหยิบหนังสือออกมาจากกลางอากาศ

เขาดึงหนังสือออกมาจากอากาศว่างเปล่าจริงๆ แต่สีหน้าถังโม่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแต่อย่างใด หนังสือนั้นหหน้าตาเหมือนสมุดโน๊ต ปกเป็นกระดาษแข็งสีน้ำตาลเหลือง ข้างในเป็นกระดาษเปล่า แต่พอถังโม่จ้องหน้ากระดาษนั้นนานเข้าตัวอักษรก็เริ่มผุดขึ้นมาจากกระดาษขาว

[ความสามารถ: กินแล้วไม่จ่าย]

[เจ้าของ: ถังโม่]

[ประเภท: พิเศษ]

[ฟังก์ชัน: เก็บรวมรวมความสามารถ]

[Note: ทุกๆ คนก็มีความฝันในหัวใจ กินแล้วไม่จ่าย! อย่าเอาถังโม่เป็นแบบอย่างนะ ในหัวใจของเขา เขาอยากได้อะไรแบบนี้มาตลอดเลย ตอน 7 ขวบ ถังโม่ขโมยช็อคโกแลตของเด็กข้างบ้านมาแล้วไม่ได้ให้เงิน พอ 10 ขวบเขาก็ลอกการบ้านของคนอื่นที่วางไว้บนโต๊ะโดยไม่ได้วางเงินไว้ พออายุ 15 เขาก็ไปจิ๊กเอาแคลเซียมจากโต๊ะยาสมุนไพรมาแล้วไม่จ่ายเหมือนกัน!

เห็นไหมล่ะ เขาก็แค่อยากจะกินทุกอย่างแล้วไม่จ่ายเงินก็เท่านั้นแหล่ะ!]

ถังโม่ “...”

นี่มันบ้าอะไรเนี่ย! ถังโม่อยากจะเขวี้ยงหนังสือใส่กำแพง แต่เขาระงับอารมณ์ไว้ได้ก่อน นี่คือความสามารถของเขานะ

พอถังโม่ลืมตาขึ้นมาเขาก็รู้ว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษ ความสามารถนี้ไม่ใช่การใช้ลมหรือสายฟ้าหรือพลังจากต้นตระกูลอะไรทำนองนั้นหรอก พลังของเขาคือหนังสือที่ทำให้คนอยากตบมันต่างหาก

ถังโม่จ้องหนังสืออยู่อย่างนั้น แต่มันก็ไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นมา เขาจ้องมันอยู่ครึ่งชั่วโมงโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรอยู่ พอเวลาผ่านไปนานเข้า ก็มีตัวอักษรเพิ่มขึ้นมา

[Note: ยังคิดว่าถังโม่จะให้เงินอยู่อีกเหรอ? เพื่อนรัก เขากำลังคิดจะไปปั๊มน้ำมัน คิดว่าเขาจะจ่ายเงินไหม?]

ถังโม่ “...”

ปัง!

หนังสือโดนโยนออกนอกหน้าต่าง

นาทีถัดมาเด็กหนุ่มหน้าตาดีก็ลงจากรถมาเก็บมันขึ้นไปใหม่

หนังสือโดนวางไว้บนที่นั่งข้างคนขับ ถังโม่ไม่ชายตามองมันแล้ว เขาขับรถไปปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ไม่มีใครอยู่ที่นั่น มีหัวจ่ายน้ำมันหลายอันหล่นอยู่ที่พื้น กลิ่นฉุนของน้ำมันดีเซลลอยคลุ้งในอากาศ พนักงานปั๊มคงจะหายไประหว่างที่กำลังเติมน้ำมันอยู่

ถังโม่ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะลงจากรถโดยที่หยิบกระเป๋าเงินไปด้วย

ไม่มีใครอยู่ที่นี่แน่ๆ แต่เขาก็ยังตะโกนออกไป “มีใครอยู่ไหมครับ?”

พอไม่ได้คำตอบ ถังโม่ก็เดินไปที่ตู้จ่ายน้ำมัน มันมีบัตรเติมน้ำมันของพนักงานเสียบอยู่ ตามปกติแล้วสตาฟแต่ละคนในปั๊มจะได้การ์ดที่มีโควต้าค่อนข้างสูง เวลาจะเติมน้ำมันพวกเขาก็จะดึงโควต้าจากตรงนั้นไปใช้

ถังโม่ไม่ใช่เจ้าของรถและไม่มีบัตรเติมน้ำมันส่วนตัว เขาก็เลยเติมน้ำมันด้วยบัตรของพนักงาน

ในความเงียบและว่างเปล่าในปั๊ม เด็กหนุ่มผมดำตัวผอมรีบเติมน้ำมัน ยามค่ำคืนยังคงทำให้ผู้คนหวาดกลัว จริงๆ แล้วย่านนี้เป็นย่านที่คนขวักไขว่สำหรับเมืองซูโจว แต่ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว ถังโม่ยืนอยู่ใต้แสงไฟที่ส่องสว่าง เติมน้ำมันรถต่อไป

ความมืดเหมือนจะซ่อนเร้นอะไรสักอย่างไว้ตอนที่สายลมพัดพัดผ่าน

ถังโม่ดึงหัวจ่ายน้ำมันออก ตอนที่เขากำลังจะจากไปก็คิดถึงอะไรขึ้นมาได้ แล้วหยิบเงิน200หยวน วางไว้ใต้ก้อนหินใกล้ๆ

เขากำลังจะลุกขึ้นและกลับขึ้นรถแล้วตอนที่อะไรบางอย่างเย็นๆ กดแนบกับหลังส่วนล่าง ถังโม่คาอยู่ท่านั้น ไม่ได้ขยับตัว

“อย่าขยับ! ส่งกระเป๋าเงินของแกมาเดี๋ยวนี้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด