ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0570
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0572

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0571


ตอนที่ 571 : แม่เฒ่าหม่า

หยิงเฉิงอวี้นำเอาวัสดุออกมาจำนวนหนึ่งพร้อมกล่าว “ศึกครั้งแรก เป็นการทำยันต์!”

“ยันต์จะต้องขัดเกลาขึ้นโดยแผ่นหนังสัตว์ และต้องเป็นยันต์ลึกล้ำอสนีบาต”

“เมื่อใดทำเสร็จ ให้ใช้ไข่มุกอสนีบาต เพื่อดูดกลืนพลังงานอสนีบาตจากตัวยันต์ จากนั้นค่อยชั่งน้ำหนัก แล้วจึงตัดสินกันว่ายันต์อสนีบาตของผู้ใดมีคุณภาพมากล้ำกว่ากัน”

“การแข่งขันมีสามรอบ ชนะสองในสามถือว่าชนะการแข่งขัน!” หยิงเฉิงอวี้เผยรอยยิ้มมาดมั่น “ครั้งนี้พวกเราจะต้องชนะ!”

บรรดาลูกศิษย์เบื้องหลังของเขา ไม่เพียงแต่มั่นใจ แต่ยังเผยสีหน้าเย็นเยือกอหังการอวดดีออกมา

อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขันทั้งหมดจะต้องทัดเทียมกัน

เมื่อได้เห็นอุปกรณ์ เหลียวจิงเหมิงค่อยคลายความกังวลไปได้บ้าง

“เวลาหนึ่งชั่วยาม!” หยิงเฉิงอวี้ตะโกนดัง

ทางด้านนครเซียนยุทธภัณฑ์หาได้มีข้อโต้แย้งใด พวกเขาเพียงร่วมกันตรวจสอบวัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการแข่งขัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ใดได้คดโกง

การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว!

ทันทีที่เหลียวจิงเหมิงเข้าสภาวะการหลอม นางกลับกลายเป็นจริงจัง หาได้เผยความอ่อนต่อโลกภายนอกอีกต่อไปไม่

สภาวะที่เผยออก ทำให้หลายคนต่างพยักหน้ารับพร้อมชื่นชม

“อดีตจ้าวสำนักสิ้นชีพ เหตุใดเรื่องนี้จึงถูกเก็บเงียบงันได้เพียงนี้กัน? หรือเพราะพลังอำนาจของจ้าวสำนักใหม่อ่อนแอ? กังวลว่าจะถูกผู้อื่นกระทำการหยามเหยียดงั้นหรือ?” หยิงเฉิงอวี้มองทางกลุ่มคนชุดดำพร้อมเอ่ยถาม

“ย่อมไม่ใช่!” หญิงชราชุดดำโต้กลับ

“หากจ้าวสำนักคนใหม่ไม่ดีพอ ภายหน้าไว้ข้าค่อยกลับมาทวงตำแหน่งคืน!” หยิงเฉิงอวี้หัวเราะ “ด้วยกำลังของข้าตอนนี้ แม้เป็นในห้าสำนักเซียน ข้าย่อมต้องเป็นหนึ่งในสามจุดสูงสุด!”

“นี่ไม่ใช่ปัญหาของท่าน!” ชายชราชุดดำเผยเสียงต่ำ

“เอาเถอะ อย่างไรก็ดี ขณะนี้นครเซียนยุทธภัณฑ์ก็อ่อนแรงลงไปมากนี่นะ!” หยิงเฉิงอวี้เผยยิ้ม “เจ้าเพียงส่งศิษย์ออกมาคนเดียว เป็นแม่สาวน้อยผู้นี้ หากเป็นก่อนหน้า คงส่งออกมาหลายคนไปแล้ว!”

“ลำพังเหมิงเหมิงคนเดียว ก็จัดการศิษย์ท่านทั้งสามคนได้!” หญิงชราเผยน้ำเสียงมาดมั่น

“อย่าได้มั่นใจเกินไปนัก!” หยิงเฉิงอวี้หัวเราะ “ศิษย์ทั้งสามคนของข้าอายุเพียงราวสามสิบ พวกเขาต่างอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ทั้งยังเป็นอาจารย์จารึกลึกล้ำ”

จำนวนคนนับหมื่นภายในลานกว้างเผยเสียงอึกทึกตื่นตะลึงดังขึ้น

ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณที่อายุสามสิบปี และยังเป็นอาจารย์จารึกลึกล้ำ! นี่ถือเป็นพรสวรรค์หาได้ยากยิ่ง

ไม่แปลกใจที่พวกเขาจะมั่นใจมากมายเพียงนั้น

เพียงไม่นาน หนึ่งชั่วยามผ่านพ้น

เหลียวจิงเหมิงเสร็จสิ้นงานก่อน ยันต์ลึกล้ำอสนีบาตอันรุนแรงที่นางขัดเกลาขึ้นกล่าวได้ว่าเหนือล้ำ ผู้คนล้วนได้เป็นประจักษ์พยานเมื่อนางปลดปล่อยพลังงานอสนีบาตเข้าสู่ไข่มุก

ศิษย์ของหยิงเฉิงอวี้ทำยันต์เสร็จแล้วเช่นกัน แม้ให้ความรู้สึกว่าแข็งแกร่ง กระนั้นกลับหาได้ดูดีเทียบเท่าเหลียวจิงเหมิง

ท้ายที่สุด ไข่มุกทั้งสองถูกนำไปชั่งน้ำหนัก

ไข่มุกอสนีบาตของเหลียวจิงเหมิง หนักมากกว่าของอีกฝ่ายครึ่งจิน กล่าวได้ว่าเป็นนางชนะอย่างขาดลอย

หยิงเฉิงอวี้พ่ายแพ้ ใบหน้าเผยความไม่สู้ดีออกมา กระนั้นก็ยังเอ่ยปากเพื่อความยุติธรรม เป็นเขาให้เหลียวจิงเหมิงได้มีเวลาพักผ่อนก่อนการแข่งขันในรอบที่สอง

“ต้องกล่าวเลยว่าแม่เด็กสาวนี่ยอดเยี่ยมนัก เป็นเรื่องยากที่จะสำเร็จถึงขั้นนี้ด้วยอายุเพียงยี่สิบปี อาจารย์จารึกเฒ่าชราหลายคนอาจเลวร้ายกว่านางด้วยซ้ำ พอคิดถึงตรงนี้ถือว่าช่างเป็นเรื่องน่าละอายนัก!” หยิงเฉิงอวี้ถอนหายใจ

มู่เฟิง ชายชราศีรษะล้านเลี่ยนตำหนักตะวันตก รวมถึงฉู่ปินอวี้ ต่างมารับชมกันอยู่ที่นี่ พวกเขาล้นรู้สึกว่าตนเองไม่อาจทำได้ดีเทียบเท่าเหลียวจิงเหมิง

“ไม่เลวเลย เมื่อพรสวรรค์ถูกเผยออกเช่นนี้ ยิ่งเป็นเรื่องดีต่อตำหนักจารึกเทวะของพวกเรา!” มู่เฟิงหาได้สนใจอันใดมากไม่ เขาเพียงยิ้ม “ผู้เยาว์ที่มีจิตใจเช่นนี้ และยังเป็นอาจารย์จารึกลึกล้ำที่ยอดเยี่ยม ถือเป็นธิดาแห่งเต๋าจารึก!”

อาจารย์จารึกเฒ่าชราหลายคนที่นี้ ต่างยอมรับในสิ่งที่เขากล่าวออก

หยิงเฉิงอวี้ถอนหายใจ

เหลียวจิงเหมิงที่พักเรียบร้อย นางพร้อมเริ่มการแข่งขันรอบที่สอง

การแข่งรอบที่สอง คือการสร้างอุปกรณ์

พวกเขาจะต้องสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำ

คนทั้งสองต่างต้องสร้างกระบี่เช่นเดียวกัน จากนั้นจึงเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของตัวกระบี่ ผู้ใดแข็งแกร่งยิ่งกว่า ถือว่าเป็นผู้ชนะ

สร้างอุปกรณ์ลึกล้ำจำเป็นต้องใช้เวลายาวนาน ปกติต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งวัน!

อาจารย์จารึกลึกล้ำส่วนใหญ่ สามารถสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำได้ภายในครึ่งวัน กระนั้นส่วนใหญ่ก็หาได้มีเสถียรภาพการใช้งานไม่ กระทั่งเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันที่สร้างขึ้นในระยะเวลาเทียบเท่ากัน ก็ยังกล่าวได้ว่าด้อยคุณภาพ

ต้องทราบว่าการสร้างอุปกรณ์ไม่อาจเป็นไปอย่างเร่งด่วนได้

กระนั้น อาจารย์จารึกอัจฉริยะบางคน สามารถสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำที่คุณภาพดีขึ้นมาได้ในระยะเวลาอันสั้น

การแข่งขันนี้จัดขึ้นแม้เป็นช่วงกลางดึก และขณะนี้ก็ใกล้หมดเวลาแล้ว

ภายใต้บรรดาผู้อาวุโสควบคุมดูแล หินเรืองแสงขนาดใหญ่จำนวนมาก ต่างลอยค้างกลางอากาศในลานกว้าง

บรรดาผู้ชมต่างรอคอยอย่างอดทน

พวกเขาคิดอยากเห็น ว่านครเซียนยุทธภัณฑ์จะพ่ายแพ้จนต้องสูญเสียอุปกรณ์เซียนอันล้ำค่าไปหรือไม่

เมื่อถึงเวลา เหลียวจิงเหมิง และศิษย์ของหยิงเฉิงอวี้ ต่างเสร็จงานในมืออย่างลื่นไหลดังสายน้ำ

จากนั้นจึงค่อยเป็นการทดสอบความแข็งแกร่ง

หลังนำใส่อุปกรณ์ทดสอบ กระบี่ของเหลียวจิงเหมิงได้คะแนนที่สิบแปด

ขณะที่ศิษย์ของหยิงเฉิงอวี้ได้มากถึงสิบเก้าคะแนน

“ฮ่าฮ่า พวกเราชนะครั้งหนึ่งแล้ว! ตราบเท่าที่รอบหน้าชนะ นครเซียนยุทธภัณฑ์เท่ากับพ่ายแพ้ต่อข้า!”

หยิงเฉิงอวี้หัวเราะสุขใจ ราวกับชัยชนะสุดท้ายปรากฏในมือของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เหลียวจิงเหมิงพ่ายแพ้การแข่งขัน ด้วยความแตกต่างเพียงเล็กน้อย ขณะนี้นางก้มหน้างุดสำนึกผิด เป็นนางไม่กล้ามองหญิงชราชุดดำที่เบื้องหลัง

“เหมิงเหมิงอย่าได้กังวลไป รอบหน้าชนะก็ไม่เป็นไรแล้ว! ฝีมือแกะสลักโทเทมของเจ้าเองก็ยอดเยี่ยม ชัยชนะต้องไม่หลุดลอย!” แม้หญิงชรากล่าวเช่นนั้น ทว่าภายในว้าวุ่นแทบแย่แล้ว

หากเหลียวจิงเหมิงยังพ่ายแพ้ เช่นนั้น ก็หมายความถึงอุปกรณ์เซียนที่ทรงอำนาจของพวกเขา จะต้องถูกส่งมอบให้แก่หยิงเฉิงอวี้

“ท่านยายหม่า ศึกครั้งสุดท้ายนี้ให้นายน้อยฉินออกมาแข่งขันแทนได้หรือไม่? อักขระโทเทมที่เขาแกะสลักกล่าวได้ว่ายอดเยี่ยม เขาต้องชนะ!” เหลียวจิงเหมิงกล่าวกระซิบ

ฉู่ปินอวี้ที่อยู่ข้างกายนาง พลันพบเห็นโอกาสจึงเร่งรีบเดินเข้ามา “แม่เฒ่าหม่า ฉินหยุนเอาชนะหลงเยวี่ยเถาในการแกะสลักโทเทม นี่คือข้อเท็จจริงที่พิสูจน์แล้ว ว่าระดับความวิจิตรอักขระโทเทมของเขาสูงล้ำเพียงใด!”

หยิงเฉิงอวี้เร่งรีบกล่าว “พวกเราย่อมไม่ทดสอบความวิจิตรของอักขระโทเทม แต่เป็นการแกะสลักอักขระโทเทมบนหุ่นเชิด จากนั้นจึงค่อยให้หุ่นเชิดทั้งสองประลอง! แล้วค่อยดูผลลัพธ์ว่าผู้ใดชนะ!”

“แม่เฒ่าหม่า ฉินหยุนเชี่ยวชาญโทเทมวานรทองคำ นั่นเหมาะสำหรับหุ่นเชิดยิ่งนัก!” ฉู่ปินอวี้กล่าวย้ำ

ถึงตอนนี้ ชายชราศีรษะล้านได้เดินเข้ามาพร้อมกล่าว “แม่เฒ่าหม่า เหมิงเหมิงเป็นหลานสาวของข้า บ่อยครั้งข้าได้ชี้แนะเคล็ดวิชาจารึกแก่นาง ข้าย่อมทราบดี ศักยภาพต่ออักขระโทเทมของนางยังห่างไกลจากฉินหยุน! เรื่องนี้บ่งชี้อย่างเห็นได้ชัด ว่าพวกนั้นตระเตรียมมาเป็นอย่างดี เพราะพวกเขาทราบถึงระดับในด้านนี้ของเหมิงเหมิง”

ชายชราศีรษะล้านได้ฉินหยุนช่วยเหลือเอาไว้ ทำให้เขาสามารถเปิดสาขาที่เขตทิศเหนือ ทำให้ได้รับผลประโยชน์เป็นกอบกำ ทั้งหมดก็เพราะฉินหยุน ดังนั้นเขาย่อมคิดอยากช่วยเหลือฉินหยุน

“ได้ ข้าจะไปพบเขาเอง!” เพื่อชัยชนะ แม่เฒ่าหม่าได้แต่ยกเว้นให้ฉินหยุนออกจากคุกใต้ดิน

ฉินหยุนที่อยู่ในคุกใต้ดิน กำลังฝึกฝนกระบวนท่ากระบี่อย่างตั้งอกตั้งใจ

“ฉินหยุน นี่เจ้าเลอะเลือนแล้วหรือไร? เอาแต่ฝึกกระบวนท่ากระบี่ทุกวี่วัน!”

“ใช่ กระบวนท่ากระบี่พวกนั้นฝึกฝนไปทำอะไรได้? สุดท้ายก็ถูกขังอยู่ที่นี่!”

“จงหยุดได้แล้ว! นี่ทำข้ารำคาญแทบตาย!”

บรรดาศิษย์ฝ่ายตระกูลใหญ่ต่างตะโกนกันเสียงดัง

ฉินหยุนเพียงเมินเฉย และฝึกฝนกระบวนท่ากระบี่นานาชนิดของตนต่อไป

แต่แล้ว แม่เฒ่าหม่ากลับเดินเข้ามาพร้อมคนจำนวนหนึ่ง

เมื่อได้เห็นแม่เฒ่าหม่า ผู้คนต่างลุกยืนขึ้นโค้งให้ด้วยความนบนอบ

“ท่านยายหม่ามาเยือน ผู้นี้คือหนึ่งในห้าสุดยอดผู้พิทักษ์กฎ ถูกขนานนามเป็นผู้พิทักษ์กฎหงส์อมตะ!” ชายชรากล่าวกระซิบบอกต่อฉินหยุน

ฉินหยุนเร่งรีบเก็บกระบี่ พร้อมมองไปทางแม่เฒ่าหม่า

แม่เฒ่าหม่าเดินมาพบฉินหยุนด้วยสีหน้าเย็นเยือกพร้อมกล่าวคำ “ฉินหยุน มีเรื่องหนึ่งที่เจ้าต้องทำให้สำเร็จ หากทำได้ พวกเราจะลดโทษลงให้แก่เจ้าหนึ่งปี!”

“ว่าอะไร?” ฉินหยุนยินดีพร้อมเร่งรีบเอ่ยถาม “อย่างนั้นรบกวนท่านกล่าวแล้ว!”

ผู้คนพอได้ยิน พวกเขาแทบไม่เชื่อหู

การลดโทษ ในประวัติศาสตร์ของหอพิทักษ์กฎไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

บทลงโทษของหอพิทักษ์กฎ ไม่เคยมีการประนีประนอม

กล่าวได้ว่าระยะเวลาคุมขังสามปี เมื่อตัดสินแล้ว โทษทัณฑ์จะไม่มีทางลดทอน

แต่ครานี้ ฉินหยุนมีคำสั่งให้ไปทำ และนางยินดีที่จะลดโทษคุมขังให้หนึ่งปี!

บรรดาศิษย์ตระกูลใหญ่ แต่ละคนต่างมองทางแม่เฒ่าหม่าด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“นครเซียนยุทธภัณฑ์ของพวกเรากำลังเผชิญปัญหา และต้องการมือดีที่จะแกะสลักอักขระโทเทม หากเจ้าสามารถชนะ พวกเราจะลดโทษให้แก่เจ้าเป็นเวลาหนึ่งปี!” น้ำเสียงของแม่เฒ่าหม่าทั้งเย็นเยือกและไร้ซึ่งปรานีใด

“โอ้!” ฉินหยุนเผยเสียงอึ้งทึ่งออกมา

“คำกล่าวนั้นหมายความถึงอะไร? เจ้าจะรับหรือไม่รับ?” แม่เฒ่าหม่าเผยความเกรี้ยวกราด

“หากข้าชนะ ท่านต้องปล่อยตัวข้า อย่างนั้นข้าจึงให้สัญญาได้!” ฉินหยุนกล่าวตอบ

บรรดาศิษย์ตระกูลหลงในห้องขังเผยเสียงดัง “ฉินหยุน เจ้าควรแสดงความนบนอบแก่ผู้พิทักษ์หงส์อมตะ! ลดโทษแก่เจ้าถือเป็นเมตตาล้นพ้นแล้ว!”

ฉินหยุนเผยยิ้ม “ยกเว้นโดยลดโทษแก่ข้างั้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้น ให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อสักสามปี จะได้ไม่เป็นการทำให้หอพิทักษ์กฎเสื่อมเสียใด!”

หอพิทักษ์กฎไม่เคยไร้เหตุผล เพื่อให้ฉินหยุนออกไปและลงมือเพื่อความสำเร็จ พิจารณาจากการยอมผ่อนปรน ชัดเจนว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

ฉินหยุนคิดเองได้ ว่าหากพ่ายแพ้ นั่นหมายความถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ของนครเซียนยุทธภัณฑ์

กระนั้นอีกฝ่ายกลับตระหนี่ โดยจะลดโทษให้แก่เขาเพียงหนึ่งปีเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ของตนเอง

“หากเจ้าชนะ พวกเราจะลดโทษให้สองปี!” แม่เฒ่าหม่ากำลังพยายามควบคุมโทสะพร้อมกล่าวคำอีกครั้งหนึ่ง

ฉินหยุนนั่งกับพื้นไม่พูดกล่าวคำใด เขาเผยยิ้ม “แม้กรงขังนี้เล็กไปบ้าง กระนั้นข้าก็พบว่าค่อนข้างสบายไม่น้อย! ภายนอกข้ามีศัตรูมากมาย ซ่อนตัวกบดานที่นี่สักสามปีหาได้ใช่เรื่องเลวร้ายอันใดไม่!”

“ฉินหยุน เจ้าก่อเรื่องขึ้น พวกเราต้องตัดสินโทษเจ้าเพื่อดำรงความยุติธรรมของหอพิทักษ์กฎ หากไม่แล้ว ค่าของหอพิทักษ์กฎของพวกเราจะอยู่ที่ใดกัน?” แม่เฒ่าหม่ากัดฟันเผยเสียงที่พยายามสะกดข่ม

บรรดาศิษย์ตระกูลใหญ่ ผู้ซึ่งเดิมทีคิดอยากกล่าวคำแทรก เมื่อได้เห็นโทสะของแม่เฒ่าหม่า พวกเขาหาได้กล้ากล่าวคำใดอีก พวกเขาเพียงแต่มองฉินหยุนราวพบเห็นภูตผีร้ายตนหนึ่ง

ผู้คนในคุกใต้ดินแห่งนี้ ต่างคิดว่าฉินหยุนกระทำเกินไป เขาถึงขั้นกล้ายั่วโทสะแม่เฒ่าหม่า

“ถูกต้องตามนั้น! ไม่มีผู้ใดควรได้รับการยกเว้น ดังนั้นข้าจะอยู่ในคุกแห่งนี้เป็นเวลาสามปี!” ฉินหยุนเผยยิ้ม “ท่านยายหม่า ท่านควรไปหาผู้ที่มีคุณสมบัติดีพร้อมกว่าข้า!”

แม่เฒ่าหม่าไม่คาดคิด ว่าฉินหยุนจะถึงขั้นกล้าต่อรองกับนางถึงเพียงนี้

สิ่งหนึ่งที่ควรตระหนักได้ คือหอพิทักษ์กฎยินยอมผ่อนปรนลดโทษให้ถึงสองปี นี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“เจ้าต้องการอะไร? ผ่อนปรนโทษสามปีงั้นหรือ?” แม่เฒ่าหม่าเผยเสียงเย็น

“ข้าหาได้กล่าวว่าต้องการผ่อนปรนโทษสามปีไม่!” ฉินหยุนเหยียดขาตนเองออก “ข้าไม่คิดอยากทำลายกฎอันศักดิ์สิทธิ์ของหอพิทักษ์กฎ ดังนั้นอย่าได้สร้างข้อละเว้นใดแก่ข้าแล้ว!”

บรรดาศิษย์ตระกูลใหญ่ต่างร้องตะโกนใส่ฉินหยุน “ฉินหยุน เจ้าปฏิเสธขนมปังร้อน แต่กลับคิดดื่มน้ำโคลนอย่างนั้นหรือ! ท่านยายหม่า เด็กน้อยผู้นี้อหังการอวดดีจนเกินไปแล้ว ขอท่านเร่งรีบสั่งสอนบทเรียนแก่มัน ส่งมันไปทรมานเสียให้หลาบจำขอรับ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด